xs
xsm
sm
md
lg

"บิ๊กตู่"เผยพระราโชบายในหลวง ให้ครม.นึกถึงประชาชน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

วานนี้ (12ก.พ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. กล่าวถึงการเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ในบัญชีของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่าไม่ได้รู้สึกกดดันอะไร เพราะทุกวันนี้ทำงานอย่างเต็มที่ โดยวันนี้ทำงานในหน้าที่นายกฯ และหัวหน้าคสช. อยากเต็มที่ ส่วนเรื่องการเมืองเป็นเรื่องของพรรคการเมืองที่จะดำเนินการไป ซึ่งการวางตัวนับจากนี้ จะระมัดระวังให้มากที่สุด โดยจะปฏิบัติทุกอย่างให้เป็นไปตามกฎหมาย ที่กกต.และกฎหมายอื่นๆ กำหนด สำหรับกิจกรรมต่างๆของรัฐบาล ก็จะดำเนินการต่อไป
ส่วนเรื่องที่พรรคพปชร. จะชูตนในการหาเสียงเลือกตั้ง และประชาชนอยากเห็นตนร่วมหาเสียงด้วยนั้น ต้องตอบว่าวันนี้สามารถพบตนได้ทุกช่องทางอยู่แล้ว เพราะมาทำงานทุกวัน แต่ขอร้องอย่าทำให้ทุกอย่างเป็นประเด็น ซึ่งตนก็พบปะประชาชนในหลายโอกาส ที่สามารถทำได้โดยไม่ผิดกฎหมาย ซึ่งได้สอบถามและหารือฝ่ายกฎหมายมาโดยตลอด
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีเสียงเรียกร้องอยากเห็นพล.อ.ประยุทธ์ ร่วมดีเบตกับแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคอื่นๆ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การร่วมดีเบตนั้น เป็นเรื่องของพรรคการเมือง ซึ่งกฎหมายเขียนอย่างชัดเจนว่าสามารถทำได้หรือไม่ ควรหรือไม่ควร ตนต้องพิจารณาให้รอบคอบ
"วันนี้ผมอยากฝากข้อคิดในการดีเบต อย่าเชื่อหรือฟังคนที่พูดเก่งอย่างเดียว แต่ความจริงกลับปฏิบัติไม่ได้หลายอย่าง เพราะกระทบต่อการใช้จ่ายงบประมาณ วิธีการทำงานก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีสภา กฎหมายการเงินการคลัง กฎหมายงบประมาณ การพูดว่าจะให้นั่น ให้นี่ ข้อเท็จจริงแล้วตัวเลขนั้นทำไม่ได้ จะใช้งบจำนวนมากได้อย่างไร เพราะภาษีต่างๆ มาจากคนทุกกลุ่ม แต่อยากให้มองผลสัมฤทธิ์ที่เกิดขึ้นจริง จึงขอฝากข้อคิดกับประชาชน ผมไม่ได้เข้าข้างใคร"
เมื่อถามว่าหลังเหตุการณ์วันที่ 8 ก.พ. ที่ผ่านมา ควรมีผู้รับผิดชอบหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่มีความคิดเห็น เพราะเป็นเรื่องของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่จะดำเนินการ
ทั้งนี้ สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ คนไทยทุกคนต้องระลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ท่านทรงให้แนวทางลงมายังรัฐบาล โดยทรงพระราชทาน พระราโชบาย มาถึงรัฐบาลว่า รัฐบาลมีหน้าที่ทำให้ประชาชนมีความสุข มีทางออก ทางเลือกในการทำสิ่งต่างๆ ให้ดีขึ้น และการแก้ปัญหาสังคม ต้องสร้างระเบียบวินัยของคนในชาติ ซึ่งตนตีความถึงการเคารพกฎหมายด้วย ต้องทำให้ทุกคนไม่มีผลกระทบต่อกันและกัน อีกเรื่อง คือ การทำให้ทุกคนมีความภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ ชาติพันธุ์ โดยนำวัฒนธรรม และความเป็นมาของชาติไปเพิ่มมูลค่า โดยมอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รับไปดำเนินการ
สำหรับโครงการจิตอาสา ทำความดีด้วยหัวใจ ถือเป็นเรื่องสำคัญโดยได้มอบแนวนโยบายในที่ประชุมครม. ว่าให้นำโครงการนี้ ไปขับเคลื่อนให้ได้มากที่สุด โดยขอให้เชิญชวนภาคธุรกิจ เอกชน มาช่วยกันดูแลเกษตรกร ทั้งด้านความรู้ และเครื่องจักร
"ขอฝากถึงพี่น้องประชาชนอีกครั้ง อะไรที่จบแล้ว ก็ขอให้จบกันไป อย่าให้มีปัญหาต่อไปอีกเลย แต่วันนี้ ก็ยังไม่พ้น เพราะยังมีคนโพสต์เรื่องต่างๆ ในโซเชียลฯ เราต้องลดความขัดแย้งให้ได้มากที่สุด ฝากขอบคุณสื่อมวลชนทุกสำนักด้วย ขอให้มีการปรับตัว ผมเองก็ปรับตัวด้วย นักการเมืองและพรรคการเมืองทุกพรรค ก็ต้องปรับตัว ผมไม่ได้บอกว่าใครทำดี ทำเลว แต่เราต้องปรับตัวเพื่อให้ประเทศเดินหน้า ด้วยความมั่นคง มั่งคั่ง ยังยืน ซึ่งถือเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องขอร้องทุกคน"
ส่วนเรื่องที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ(ทษช.) ร้องต่อกกต.ให้ตรวจสอบคุณสมบัติของตนในการเป็นแคนดิเตนายกฯพรรคพปชร.นั้น "ไม่มีสาระ"
กำลังโหลดความคิดเห็น