xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวปนคน คนปนข่าว

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ข่าวปนคน คนปนข่าว

**ฟีเวอร์กับกระแส แก่-หล่อ-รวย "ฟ้ารักพ่อ -พ่อรักฟ้า" ฟ้าจ๋าฟ้า อย่าลืมว่ายังมี "ฟ้าเดียวกัน" ที่บอกตัวตน "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" นั่นเป็นใคร

#ฟ้ารักพ่อ #ฟ้าเดียวกัน #พ่อธนาธร...
เป็นกระแสฟีเวอร์ไปทั่วเครือข่ายสังคมยอดฮิตอย่างทวิตเตอร์รวดเร็ว ตามหลังงานฟุตบอลประเพณีธรรมศาสตร์-จุฬาฯ ครั้งที่ 73 เมื่อ "พ่อเอก" ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ จับมือกับลูกพรรคหนุ่มอย่างเช่น ปิยบุตร แสงกนกกุล, พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ไปเดินเรียกคะแนนจากวัยรุ่นในงาน เนื่องจากทั้งหมดล้วนแต่เป็นศิษย์เก่า มธ. ด้วยกันทั้งสิ้น ... การเดินเรียกคะแนนก็ถือว่ายิงตรงเป้าเป๊ะๆ เพราะ สาวๆ นักศึกษา ทั้งสาวแท้สาวเทียม ต่างกรี๊ดกันลั่น พร้อมด้วยวลีเด็ดคือ "ฟ้ารักพ่อค่ะ" ซึ่งเป็น copy ของละครดังในอดีตคือ "ดอกส้มสีทอง" ที่ออกอากาศทางช่อง 3 เมื่อปี 2554 ... ทีแรก ธนาธร ก็ยังงงงง กับคำว่า "ฟ้ารักพ่อ" แต่พอตั้งหลักได้ก็กระโดดงับด้วยการเข้าไปตอบกลับ พร้อมกับสอดแทรกยิงเป็นชุดหาเสียงกับ แฮชแท็ก #พ่อรักฟ้า กระพือกระแสขึ้นไปอีก... ธนาธร และ พรรคอนาคตใหม่ได้ชื่อว่าทำการตลาดกับสื่อโซเชียลได้ดี ลีลาและการพรีเซนต์โดนใจวัยรุ่น #ฟ้ารักพ่อ จึงถือว่ามาเข้าทางตีนพอดิบพอดี
สำหรับ วลี #ฟ้ารักพ่อ" นั้นก็มีที่มาจาก "เรยา" ตัวเอกในเรื่อง นำแสดงโดย "ชมพู่" อารยา เอ ฮาร์เก็ต ซึ่งมีความหมายถึงการเรียกสามีที่เป็นผู้ใหญ่กว่า เป็นนักธุรกิจใหญ่ หน้าตาดี ในกรณีนี้ชาวเน็ตหมายถึงหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่อย่าง "เอก ธนาธร" ที่แม้ดูมีอายุ มีครอบครัว มีภรรยา และมีลูกแล้ว 4 คน แต่ก็ยังแฝงไปด้วยเสน่ห์ดึงดูดสาวเล็ก สาวใหญ่ หรือแม้กระทั่งสาวประเภทสองได้ชะงัด...
เมื่อเอ่ยถึงแฮชแท็ก #ฟ้ารักพ่อ แล้วก็อดคิดถึง" #ฟ้าเดียวกัน" ไม่ได้ ... ฟ้าเดียวกัน เป็นชื่อนิตยสารรายสะดวก โดยเป็นที่ทราบกันมานานว่า "เอก ธนาธร" นั้นเป็น "แอ็กติวิสต์ซ้ายจัด" มาตั้งแต่สมัยเป็นนักศึกษามธ.แล้ว ทั้งยังเป็นนายทุนผู้อยู่เบื้องหลังการดำเนินการของนิตยสารฟ้าเดียวกัน ... ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ฟ้าเดียวกัน เน้นการเผยแพร่เนื้อหาที่โจมตี และลดความน่าเชื่อถือของสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างต่อเนื่อง จัดอยู่ในกลุ่ม "ล้มเจ้า" ... ขณะที่นิตยสารเล่มนี้ ก็มีนักวิชาการที่เป็นคอลัมนิสต์ประจำ เช่น "บาโฟเจียม" สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล จาก ม.ธรรมศาสตร์ ที่ปัจจุบันหนีคดีหมิ่นฯ อยู่ในประเทศฝรั่งเศส และป่วยเป็นอัมพฤกษ์ นายธงชัย วินิจจะกูล นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน-แมดดิสัน สหรัฐอเมริกา ผู้มีความหลังฝังใจ จากเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ 19 เป็นต้น
นอกจากนี้นิตยสารในชื่อเดียวกันที่ "เอก ธนาธร" อยู่เบื้องหลัง ยังเคยเปิดเว็บไซต์ ในชื่อเดียวกันคือ "เว็บไซต์ฟ้าเดียวกัน" (www.sameskybooks.org; ปัจจุบันปิดดำเนินการไปแล้ว) โดยในช่วงหนึ่ง เว็บฟ้าเดียวกันเคยถูกจัดเป็นเว็บไซต์เบอร์หนึ่ง ที่กลุ่มหมิ่นพระบรมเดชานุภาพใช้สุมหัวกัน โดยเฉพาะในส่วนเว็บบอร์ด ที่มีข้อความด่าทอสถาบันตุลาการ องค์กรอิสระ และสถาบันสูงสุดด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย และข้อมูลอันเป็นเท็จจำนวนมาก รวมถึงมีการเผยแพร่ธงชาติใหม่ของ “สาธารณรัฐสยาม”อีกด้วย
วันนี้หากไปถามเด็กวัยรุ่น เยาวชนคนรุ่นใหม่ ที่กรี๊ดกร๊าดกับ วลี #ฟ้ารักพ่อ เชื่อว่ามากกว่าร้อยละ 90 คงไม่เคยทราบข้อมูลเกี่ยวกับ #ฟ้าเดียวกัน ของ"พ่อเอก ธนาธร" แห่งพรรคอนาคตใหม่มาก่อนอย่างแน่นอน บรรดาน้องฟ้าทั้งหลายถ้าจะกริ๊ด #ฟ้ารักพ่อ #พ่อรักฟ้า ก็อย่าลืมศึกษา" #ฟ้าเดียวกัน" ด้วยนะครัช.

** พรรคเดียวกัน = ผิดเท่ากัน ! จากคำสารภาพ แผนแยกกันเดิน ร่วมกันตี ของพรรคเพื่อไทย “ฮั้ว”ไทยรักษาชาติ-เพื่อชาติ เมื่อบูมเมอแรง ย้อนมาเข้าตัว "หญิงหน่อย" ถอยห่าง ปัดเอี่ยว ทษช.

ขณะที่ ชะตากรรมของพรรคไทยรักษาชาติหรือ ทษช. ที่มี ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรค ร่อแร่ กรณีกระทำการมิบังควรอย่างยิ่งต่อสถาบันพระมหาษัตริย์ ซึ่งความผิดดังกล่าวอาจจะถึงขั้นยุบพรรค ... พรรคเพื่อไทย ที่เป็นเครือข่ายนายคนเดียวกัน "หญิงหน่อย" คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ในฐานะประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งของพรรค รีบตอบว่า เป็นคนละพรรคกัน เรื่องของทษช. ไม่เกี่ยวกับพท. แม้จะมีสมาชิกที่เคยอยู่ด้วยกันมาก็ตาม...มองตามหญิงหน่อย ดูจะถอยห่างหมางเหมินกับ ทษช. ให้นึกน้อยใจแทน เดิมก่อนจะมีเรื่องนำเสนอแคนดิเดต นายกฯ ของทษช.ก็อี๋อ๋อ หัวร่อต่อกระซิกกันดี ในฐานะที่เป็นพรรคเครือข่าย ดำเนินตามแผนแยกกันเดิน รวมกันตี แผนเหนือเมฆของนายเจ้าของพรรค ...เรื่องนี้มิใช่ใครเขาจะกล่าวกันลอยๆ มโนเอง เพราะ เพจ "คิดถึงทักษิณ" กระบอกเสียงของคนรักทักษิณ ที่มีคนตามไม่น้อยก็กระจายแผนนี้เอง ไขข้องใจด้วยความภาคภูมิใจ...
เพจคิดถึงทักษิณ โพสต์เมื่อวันที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมา บอกดังๆ ว่า..." หลายๆท่านยังสงสัยว่า 3 พรรคนี้ เป็นพรรคเดียวกันหรือไม่... ผมขอตอบเลยว่า"ใช่ครับ" เหตุผลที่แยกเป็น 3 พรรค เพราะป้องกันการยุบพรรคเพื่อไทย และด้วยกฎ กติกา การเลือกตั้งใหม่ทำให้พรรคเพื่อไทยจำเป็นต้องแยกพรรคออกเป็น 3 พรรค 1.พรรคเพื่อไทย เป็นทัพหลวง โดยจะส่ง ส.ส.ลงแข่งในภาคเหนือ กับภาคอีสาน และภาคอื่นๆ อีกบางส่วน 2. พรรคไทยรักษาชาติ เป็นทัพคนรุ่นใหม่ โดยจะส่ง ส.ส.ลงชิงชัยในภาคใต้ทั้งหมด และภาคกลางบางส่วน 3. พรรคเพื่อชาติ เป็นทัพคนเสื้อแดง จะส่ง ส.ส.ลงแข่งในภาคกลางตอนล่าง และภาคตะวันออก โดย 3 พรรคนี้ จะไม่ส่งผู้สมัครทับซ้อนเพื่อตัดคะแนนกัน หลังเลือกตั้งเสร็จทั้ง 3 พรรค จะเอาจำนวนส.ส.มารวมกัน เพื่อชิงธงในการจัดตั้งรัฐบาล แข่งกับฝ่ายเผด็จการ...
ฉะนั้น ไม่ต้องสงสัยครับว่าทำไมเขตของท่านไม่มีพรรคเพื่อไทย ถ้าเขตของท่านมีพรรคไทยรักษาชาติ หรือพรรคเพื่อชาติ ท่านก็เลือกเลยครับ เพราะ 2 พรรคนี้ คือพรรคเดียวกันกับเพื่อไทย... ชัดเจนจนไม่ต้องนำสืบต่อ เป็นโพสต์ที่มีคนเข้ามาตอบความเห็น และแชร์ต่อสองหมื่นกว่าคน เป็นโพสต์ยอดนิยมของเพจเลยทีเดียว ... ดังนั้น หากการกระทำของพรรคไทยรักษาชาติ ที่อาจเข้าข่ายผิดเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง รวมทั้งระเบียบ กกต.ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้าม ในการหาเสียงเลือกตั้งส.ส. ที่ห้ามผู้สมัคร พรรคการเมือง หรือผู้ใดนำสถาบันพระมหากษัตริย์ มาเกี่ยวข้องกับการหาเสียง จะต้องถูกยุบพรรค ...ดังนั้นคำถามว่า พรรคเครือข่ายตระกูลเพื่อจะรอดหรือไม่ ด้วยความสัมพันธ์ตามแผนของพรรคเพื่อไทย ที่โพสต์กันไว้เองโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ เนื้อหานั้นได้กลับเป็นคำสารภาพได้ดี ว่าเกี่ยวกันอย่างไร ฮั้วกันอย่างไร จะได้คำตอบทันที "พรรคเดียวกัน=ผิดเท่ากัน"

**กลุ่มป่วน เล่นแผน "กวนน้ำให้ขุ่น" ทั้งปล่อยข่าวปฏิวัติ ทำราชกิจจาฯ ปลอม อ้างคสช. สั่งปลด ผบ.เหล่าทัพ เล่นเอา "บิ๊กตู่" ต้องออกมาสยบข่าวลือ พร้อมสั่งตามล่าหาตัว คนปล่อยข่าว
สถานการณ์การเมืองที่กำลังปั่นป่วน อันเป็นผลต่อเนื่องมาจาก การที่พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ยื่นเสนอ "ทูลกระหม่อมหญิงฯ" เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ในบัญชีของพรรค ทำเอาคนไทย ที่รัก เทิดทูนในสถาบันฯ อึดอัด แทบหายใจไม่ออก เหมือนเจอ "ฝุ่นละอง PM2.5" แผ่ปกคลุมไปทั่วขอบเขตประเทศไทย เป็นเวลา 13 ชั่วโมงเศษ กระทั่งมี "พระราชโองการ" ที่เปรียบเสมือนสายฝนโปรยปรายลงมา ชะล้างฝุ่นละอองเหล่านั้นจน "ฟ้าใส" ในค่ำวันเดียวกัน...
แต่แล้วกลับมี "กลุ่มป่วน" กวนน้ำให้ขุ่น ด้วยการปล่อยข่าวลือ "รัฐประหารซ้อน" ในโลกโซเชียล โดยนำภาพการเคลื่อนย้ายยุทโธปกรณ์ และพาหนะทางทหาร จาก จ.สระแก้ว ปราจีนบุรี และ ชลบุรี ที่จะไปทำการฝึกตามวงรอบประจำปี ที่ จ.ลพบุรี มาเผยแพร่ด้วย... ที่หนักไปกว่านั้น ถึงขั้นปลอมแปลง "ราชกิจจานุเบกษา" คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ "สั่งปลด" ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ทั้งทัพบก ทัพเรือ ทัพอากาศ ออกมาเผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย สร้างความสับสน หวาดผวา ว่าบ้านเมืองจะเดินหน้าไปอย่างไร ทั้งๆ ที่กำลังจะมีการเลือกตั้ง... เพราะกระแสปลดผู้บัญชาการเหล่าทัพ ทำให้ # รัฐประหาร ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ประเทศไทย ตลอดทั้งคืน วันที่ 10 ก.พ. ที่ผ่านมา
ทำเอา"ลุงตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องรีบออกมาสยบข่าวลือ โดยยืนยันหนักแน่นว่า เป็นไปไม่ได้เลย หากจะโยกย้ายก็ต้องแจ้งอยู่แล้ว และเรื่องการโยกย้าย หรือออกคำสั่ง จะต้องผ่านขั้นตอนต่างๆ ไม่สามารถใช้ ม. 44 แต่งตั้ง หรือปลดใครได้ทุกตำแหน่ง เพราะจะใช้ ม. 44 เฉพาะคนที่มีปัญหาเท่านั้น ที่แล้วมา ก็ไม่เคยมีปัญหากับใครทั้งสิ้น... ดีกันมาโดยตลอด เป็นพี่น้องกันมาตั้งนาน หลายสิบปีแล้ว ถือเป็นภาระ ความผูกพัน ถ้าทุกคนต่างทำความดี ก็ต้องส่งเสริมซึ่งกันและกัน หากไม่ดี และเขาไม่ชอบผม ผมก็ต้องยอมรับ โดยต้องยอมรับซึ่งกันและกัน...พร้อมบอกว่า "กำลังตรวจสอบอยู่ เดี๋ยวจะลงโทษ ข่าวปลอม"... และได้สั่งการให้ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ไปแจ้งความดำเนินคดี หาตัวผู้กระทำผิด กรณีปลอมแปลงเอกสารทางราชการแล้ว ทั้งยังสั่งการให้ "มหาดไทย" เป็นเจ้าภาพ ในการชี้แจง ทำความเข้าใจให้ประชาชนได้รับทราบ เมื่อมี "ข่าวเท็จ บิดเบือน" โดยใช้ช่องทางโซเชียลมีเดีย และ "หอกระจายข่าว"ประจำหมู่บ้าน ชุมชน ที่มีอยู่กว่า 7 หมื่นแห่งทั่วประเทศ ให้เป็นประโยชน์ แก้เกมกลุ่มป่วน ที่หลบลงไปเคลื่อนไหวใต้ดิน เหมือนมีวาระซ่อนเร้นว่า เจตนาจะล้มเลือกตั้ง

-------
รูป
- ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ในงานฟุตบอลประเพณี จุฬาฯ -ธรรมศาสตร์ -- สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล
-คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ - ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช
-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
กำลังโหลดความคิดเห็น