xs
xsm
sm
md
lg

‘เจ้าพ่ออเมซอน’ สู้ศึกแบล็กเมล์

เผยแพร่:   โดย: โสภณ องค์การณ์

นายเจฟฟ์ เบซอส มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลก
เจฟฟ์ เบซอส อภิมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลกด้วยความมั่งคั่ง 130 พันล้านดอลลาร์ เป็นเจ้าของบริษัทขายสินค้าออนไลน์ “อเมซอน” และหนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์ กำลังสู้ศึก “แบล็กเมล์” กับเจ้าของสื่อใหญ่ฉาวระดับชาติชนิดตาต่อตา ฟันต่อฟัน

ถือว่าเป็นการต่อสู้แบบสมน้ำสมเนื้อ โดยมีเดิมพันคือชื่อเสียง เกียรติภูมิ ความน่าเชื่อถือ การยอมรับในสังคมการเมือง ธุรกิจระดับชาติของสหรัฐฯ ฝ่ายตรงข้ามคือบริษัทอเมริกัน มีเดีย อิงค์ เป็นเจ้าของสื่อ “เนชั่นแนล เอนไควเรอร์” จอมเปิดโปง

คนมีชื่อเสียงหลายรายต้องพบกับความฉาวโฉ่ ความอับอายขายหน้า ความอัปยศ เสียชื่อเสียง จากการเปิดโปงของหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์แบบแทบลอยด์ ที่ผ่านมาไม่เคยมีใครกล้าเผชิญกับหนังสือพิมพ์รายนี้ ซึ่งเน้นเสนอข่าวสังคมฉาวโฉ่

เป็นสื่อระดับล่าง เหมาะสำหรับผู้นิยมอ่านข่าวดราม่า ชู้สาว ซุบซิบ ร้ายยิ่งกว่าหนังสือประเภทหัวสีบ้านเรา เป็นสื่อที่นิยมจ่ายเงินซื้อข่าว ยิ่งฉาว เน่า สร้างความเสียหายให้เหยื่อเท่าไหร่ก็ยิ่งชอบ ถูกกล่าวหาว่าเป็นสื่อที่ใช้วิธีแบล็กเมล์แลกกับเงิน

ที่ผ่านมา ไม่เคยมีใครกล้าสู้ อาจเป็นเพราะมีหลักฐานฉาวมัดตัว กลัวเสียชื่อเสียง จำเป็นต้องยอม แต่ไม่มีใครกล้าเปิดเผยเช่นกันว่าต้องเสียเท่าไหร่ แลกกับการไม่ต้องถูกเปิดโปง ที่ผ่านมาได้ข่าวแบบ “สกู๊ป” หลายครั้ง ทำให้ดังแบบน่ากลัว

มาถึงคราว เจฟฟ์ เบซอส เจ้าพ่อขายสินค้าออนไลน์ระดับโลก อายุ 55 ปี สร้างตัวจากธุรกิจขนาดเล็กจนเป็นอภิมหาเศรษฐีในเวลาไม่กี่สิบปี แซงหน้ารุ่นก่อนทั้งเจ้าพ่อไมโครซอฟท์ และวอร์เรน บัฟเฟตต์ โดนสื่อจอมแบล็กเมล์เล่นงานอย่างจัง

ช่วงที่เบซอสกำลังมีปัญหาหย่าร้างกับภริยา ต้องแบ่งสมบัติ สื่อเนชั่นแนล เอนไควเรอร์ ก็สื่อสารกับเบซอส เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้น อ้างว่ามีภาพความสัมพันธ์ระหว่างเบซอสกับสาวสวยนางหนึ่ง รอเรน ซานเชส คงหมายถึงภาพเปลือยนั่นแหละ

จากนั้นก็สื่อสารผ่านอีเมลระหว่างตัวใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของอเมริกัน มีเดีย อิงค์ “เดวิด เพ็กเกอร์” ตอบโต้กันไปมา สื่อความว่าถ้าไม่อยากให้หนังสือแทบลอยด์ของตัวเองตีข่าวเรื่องความสัมพันธ์เร้นลับ ก็ต้องมีอะไรตอบแทน

เจฟฟ์ เบซอส พยายามสื่อสารต่อรอง เก็บหลักฐานไว้ จากนั้นก็เปิดโปงว่าตัวเองโดนบริษัทเอเอ็มไอพยายามรีดเงิน แต่ปฏิเสธ จากนั้นก็ทยอยเปิดหลักฐานการเรียกร้องเป็นชุดๆ และจ้างนักสืบติดตามว่าการปล่อยข่าวเรื่องฉาวเป็นฝีมือของใคร

การยอมสู้ศึกแบล็กเมล์ครั้งนี้ได้ผล มีรายอื่นๆ ซึ่งเคยตกเป็นเหยื่อของการรีดออกมาเปิดโปงพฤติกรรมของสื่อฉาวครั้งนี้ด้วย และวิธีการหากินดังกล่าวถูกเปิดเผยว่าเป็นมานานแล้ว ทำให้คนดังในสังคมอเมริกันหวาดผวาว่าสักวันหนึ่งอาจจะโดน

คนดังในสังคมอเมริกันต่างพากันชื่นชมความกล้าหาญของเจฟฟ์ เบซอส ที่ไม่ยอมสยบกับคำขู่รีดทรัพย์แลกกับการไม่เสนอข่าวและภาพ ฝ่ายพยายามรีดตกเป็นฝ่ายรับ เมื่อถูกเปิดโปงบ้าง ทำให้คนติดตามศึกแบล็กเมล์ครั้งนี้ซี๊ดปากไปตามๆ กัน

หลังจากประดาบก็เลือดสาด ปรากฏว่าเจฟฟ์ เบซอส ได้รับความเห็นใจและเสียงเชียร์ เพราะอยากจะให้ทั้งเอเอ็มไอและสื่อแทบลอยด์ถูกสยบ ให้ตกอยู่ในความอัปยศด้านชื่อเสียงและปัญหาความน่าเชื่อถือบ้าง เพราะตีกินมานานแล้ว

เจฟฟ์ เบซอส ไม่ได้พึ่งพาอิทธิพลของหนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์ ซึ่งติดตามข่าวระหว่าง 2 ฝ่ายเช่นกัน พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าการพยายามเปิดภาพความสัมพันธ์ของเจ้าพ่ออเมซอนกับสาวนั้นมีเบื้องหน้าเบื้องหลังอย่างไร มีใบสั่งจากใครหรือไม่

ที่น่าสนใจก็คือ “เดวิด เพ็กเกอร์” และ “เนชั่นแนล เอนไควเรอร์” เคยมีบทบาทกับการช่วยปิดข่าว ปิดปากคนโวยเกี่ยวกับพฤติกรรมของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ด้านความสัมพันธ์กับ 2 สาวนางแบบ และนักแสดงหนังโป๊ที่กำลังเป็นเรื่องอยู่

เอเอ็มไอเคยซื้อลิขสิทธิ์เรื่องของหนึ่งใน 2 สาว ที่เปิดเผยความสัมพันธ์กับทรัมป์ เมื่อซื้อเรื่องไปแล้ว กลับไม่ยอมตีพิมพ์ เอาไปเก็บไว้เพื่อปิดข่าว และจ่ายเงินปิดปาก โดยมีทนายความส่วนตัวของทรัมป์ ไมเคิล โคเฮน เป็นตัวเชื่อม

เดวิด เพ็กเกอร์ ถูกอัยการพิเศษ โรเบิร์ต มุลเลอร์ สั่งให้ไปให้ปากคำเรื่องนี้ โดยให้สิทธิคุ้มครองว่าจะไม่ถูกดำเนินคดี ถ้ายอมไปเป็นพยาน แต่คราวนี้มาเป็นเรื่องฉาวกับเจ้าพ่ออเมซอน ทำให้ความน่าเชื่อถือของเพ็กเกอร์มีปัญหาขึ้นมาทันที

ไมเคิล โคเฮน เสี่ยงกับการติดคุกเพราะยอมรับว่าเป็นตัวแทนของทรัมป์ในการติดต่องานต่างๆ กับนักธุรกิจรัสเซีย และเป็นตัวกลางจ่ายเงินปิดปากให้หญิงซึ่งอ้างความสัมพันธ์กับทรัมป์ โดยมีเงินจากการรณรงค์หาเสียงมาจ่ายและทรัมป์จ่ายคืนให้

สื่อออนไลน์และสื่อบล็อกพยายามขุดคุ้ยพฤติกรรมของบริษัทเอเอ็มไอและหนังสือพิมพ์แทบลอยด์เช่นกันว่าได้กระทำการอันน่ารังเกียจในอาชีพสื่ออย่างไร ปรากฏว่าถูกทนายความของฝ่ายตรงข้ามขู่ว่าจะฟ้องร้อง ถ้ายังไม่หยุดการสืบเสาะ

มีอีก 2 รายได้เปิดเผยว่าก่อนหน้านี้ทรัมป์เคยใช้งานทั้งเอเอ็มไอและหนังสือพิมพ์แทบลอยด์โดยขู่ว่าจะเปิดโปงพฤติกรรมน่าละอาย ถ้ายังไม่เลิกขุดคุ้ยเรื่องทรัมป์ ทั้งคู่ต้องยอม เพราะไม่มีพลังและอำนาจเงินมากพอในการสู้กับสื่อยักษ์จอมแฉ

ดูแล้วศึกระหว่างผู้บริหารของ 2 องค์กรยักษ์ด้านสื่อต้องยืดเยื้อแบบไม่มีใครยอมใคร เจฟฟ์ เบซอส ไม่ใช้ความเป็นเจ้าของวอชิงตัน โพสต์ ต่อสู้ แต่เปิดบล็อกพิเศษแบบทยอย “ปล่อยของ” ซึ่งคือการโต้ตอบด้านอีเมลเพื่อเล่นงานฝ่ายตรงข้าม

งานนี้เอเอ็มไอและสื่อแฉในเครือเคี้ยวเหยื่อไม่สะดวก จะติดคอตายด้วย!

กำลังโหลดความคิดเห็น