เหลือเวลาอีกเพียงประมาณ 6 สัปดาห์ จะเลือกตั้งกันแล้ว แต่ประชาชนจำนวนมากยังไม่รู้ว่า จะตัดสินลงคะแนนให้พรรคการเมืองใด เพราะไม่มีนักการเมืองในดวงใจ ไม่มีพรรคการเมืองไหนที่ศรัทธา
เสียงถามไถ่ดังไปทั่ว เลือกตั้งครั้งนี้ จะเลือกใครดี
แม้แต่ในสนามเลือกตั้ง กทม.ซึ่งเคยเป็นสนามที่เคยผลัดกันยึดครองระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคเพื่อไทย และแม้จะมีพรรคพลังประชารัฐเข้ามาสอดแทรก แต่ทั้ง 3 พรรค ก็ไม่ใช่ทางเลือกของชาวกรุง
การเปิดตัวผู้สมัครรับเลือกตั้งวันแรก 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เป็นไปอย่างเอิกเกริก มีการระดมกองเชียร์มาสร้างภาพอย่างครื้นเครง แต่ไม่ปรากฏนักการเมืองน้ำดีที่จะเป็นตัวเลือกให้ประชาชน ไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองรุ่นเก่าหรือนักการเมืองหน้าใหม่ และนักการเมืองรุ่นหนุ่มสาว
บรรดาทายาทอสูรทางการเมืองดาหน้าเข้ามาสมัครรับเลือกตั้ง นักการเมืองที่ประชาชนร้องยี้เต็มไปหมด และทำใจไม่ได้ที่จะลงคะแนนให้
อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคเพื่อไทยน่าจะได้เปรียบ เพราะมวลชนที่สนับสนุนยังเหนียวแน่น โดยแม้ว่าประชาชนส่วนใหญ่จะต่อต้านตระกูลชินวัตร นายใหญ่ของพรรค และไม่ลงคะแนนเลือกเพื่อไทย
แต่เสียงของประชาชนที่ต่อต้านพรรคเพื่อไทยแตกกระจาย บางส่วนอาจลงคะแนนให้พรรคประชาธิปัตย์ พรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย และพรรคของลุงกำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ หรือพรรคการเมืองอื่นๆ และส่วนหนึ่งจะไม่ลงคะแนนเลือกใคร ทำให้ไม่มีพรรคการเมืองใดชนะการเลือกตั้งได้เสียงข้างมาก จนเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
ขณะที่มวลชนของพรรคเพื่อไทย รักนายทักษิณ ชินวัตรอย่างหัวปักหัวปรำ พร้อมใจกันเทเสียงให้พรรคเพื่อไทยหรือพรรคสาขา
โอกาสที่พรรคเพื่อไทยจะชนะเลือกตั้ง มีเสียงข้างมากจะได้สิทธิเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลจึงเป็นไปได้สูง
และจะให้ประชาชนที่ต่อต้านระบอบทักษิณ ไม่ต้องการให้พรรคเพื่อไทยกลับมาจัดตั้งรัฐบาล แห่กันเทคะแนนเสียงให้พรรคประชาธิปัตย์ หรือพรรคพลังประชารัฐ เพื่อให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชากลับมาสืบทอดอำนาจ คงเป็นไปไม่ได้
เพราะพรรคประชาธิปัตย์เคยได้รับโอกาสเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแล้ว ประชาชนเคยร่วมเทคะแนนเสียงให้ประชาธิปัตย์ เพื่อสกัดกั้นการกลับมาของระบอบทักษิณ โดยเฉพาะในสนามเลือกตั้ง กทม.
แต่ประชาธิปัตย์กลับทำให้ประชาชนผิดหวัง เพราะไม่ได้แก้ปัญหาของประเทศ ไม่สามารถบั่นทอนระบอบทักษิณ จนประชาชนต้องลุกออกมาโค่นล้ม ต้องบาดเจ็บล้มตายเพราะความอำมหิตของระบอบทักษิณจำนวนมาก
ถ้าประชาธิปัตย์กลับมาคงเหมือนเดิม ปัญหาของประเทศไม่ได้รับการแก้ไข ระบอบทักษิณจะฟื้นตัวขึ้นมาใหม่ สุดท้ายประเทศจะเกิดความวุ่นวายซ้ำรอย
ส่วนจะเลือกพล.อ.ประยุทธ์ก็ทำใจไม่ได้กับการบริหารประเทศในช่วง 4 ปีเศษ เพราะไม่มีผลงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน โดยเฉพาะผลงานการปฏิรูป ซึ่งล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงในทุกด้าน
ปัญหาเศรษฐกิจซบเซาสุดขีด ส่งผลกระทบไปทุกหย่อมหญ้า ปัญหาการทุจริตพุ่งขึ้น สังคมเสื่อมทรุดลง
4 ปีกว่าในยุครัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ประเทศไม่มีพัฒนาการใดๆ ปัญหาหมักหมมไม่ได้รับการแก้ไข ระบอบทักษิณไม่ถูกบดขยี้ ลูกสมุน “ทักษิณ” ยังกินดีอยู่ดี
ถ้าสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ เพียงเพื่อสกัดกั้นพรรคเพื่อไทย จนพล.อ.ประยุทธ์กลับมาสืบทอดได้ตามความฝัน ประเทศจะเสียเวลา และไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด เพราะในเมื่อ 4 ปีกว่าไม่ยอมทำอะไร กลับมาใหม่คงไม่ทำอะไรเหมือนเดิม
ใครจะไปจะมา เพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้ง หรือพล.อ.ประยุทธ์จะได้กลับมา ต้องปล่อยให้เป็นไปตามยถากรรมแล้ว อย่าคิด จำเป็นต้องเลือกฝ่ายโน้น เพราะเกลียดฝ่ายนี้
เพราะไม่ว่าฝ่ายไหน พิสูจน์มาแล้ว ไม่มีอุดมการณ์ทำงานเพื่อประชาชน มีแต่โฆษณาชวนเชื่อ มีแต่การสร้างภาพ และมีแต่ราคาคุยกันทั้งนั้น
เลือกตั้ง 24 มีนาคมนี้ ไม่มีอะไรที่ซับซ้อน ไม่มีอะไรที่ต้องวุ่นวายใจ อย่าเครียดเพราะไม่รู้จะเลือกพรรคไหนดี เมื่อไม่มีพรรคการเมืองดีให้เลือก ไม่จำเป็นต้องเลือก
ไม่เลือกใคร โหวตโนเป็นวิธีที่ดีที่สุด
เพราะถ้าเลือกใครไป โดยหวังว่า จะกลับเนื้อกลับตัวเป็นรัฐบาลที่ดี ทำงานเพื่อประชาชน มีความกล้าหาญและเด็ดขาดในการแก้ปัญหา แต่กลายเป็นรัฐบาลขี้โม้เหมือนเดิม จะต้องช้ำใจภายหลัง
ผิดหวังกับทุกรัฐบาลนับครั้งไม่ถ้วนแล้ว ไม่ว่ารัฐบาลจากการเลือกตั้งหรือรัฐบาลทหาร ยังไม่เข็ดอีกหรือ จะลองเสี่ยงช้ำใจซ้ำซากอีกทำไม