xs
xsm
sm
md
lg

“สมคิด”ปลุกเชื่อมั่นทุนญี่ปุ่น มั่นใจ รบ.หน้าสานต่อนโยบาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

"สมคิด" นำคณะลุยแดนปลาดิบ ขึ้นเวทีบีโอไอกล่อมนักลงทุนญี่ปุ่น แจงปีนี้ประเทศไทยมีเปลี่ยนผ่านสำคัญ 3 เรื่อง “พระราชพิธี - เลือกตั้ง - ประธานอาเซียน” มั่นใจรัฐบาลหน้าสานต่อนโยบายสำคัญรัฐบาลนี้แน่นอน โปรยยาหอมหากต้องการความต่อเนื่อง-ปฏิรูปเศรษฐกิจที่ดีขึ้น นักลงทุนญี่ปุ่นต้องสนับสนุน เพื่อเป็นฐานการลงทุนที่มั่นคงของประเทศญี่ปุ่นต่อไป

วานนี้ (31 ม.ค.) ที่นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษภายในงาน Advancing ASEAN – Japan ที่จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) โดยมีนักธุรกิจและนักลงทุนชาวญี่ปุ่นเข้าร่วมรับฟังกว่า 500 คน

นายสมคิดกล่าวว่า ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศญี่ปุ่นในครั้งนี้นอกจากจะกระชับความสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่น ในด้านเศรษฐกิจที่ปัจจุบันไม่ได้จำกัดเฉพาะแค่เมืองหลวง แต่ความสัมพันธ์ในระดับท้องถิ่นทวีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆและเริ่มมีความร่วมมือกัน โดยในนครโอซากาและเขตคันไซยังมีอุตสาหกรรมที่สอดคล้องอุตสาหกรรมเป้าหมายของไทยมากมาย โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการแพทย์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และดิจิทัล ตนจึงมีความตั้งใจที่จะมาพบปะกับผู้แทนภาครัฐและภาคเอกชนของจังหวัดโอซากา วากายามะ และเกียวโตในครั้งนี้ เพื่อชักชวนเอกชนในกลุ่มเป้าหมายไปลงทุนในประเทศไท นอกจากนั้นในการเยือนประเทศญี่ปุ่นในครั้งนี้ ยังเป็นช่วงเวลาที่ประเทศไทยกำลังอยู่ระหว่างช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่าน (transition period) ที่สำคัญ ซึ่งตนในฐานะผู้ขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจจึงมีหน้าที่ที่จะต้องสร้างความเข้าใจและความมั่นใจ (confidence) ของนักลงทุนญี่ปุ่น

นายสมคิด ได้ชี้แจงให้นักลงทุนชาวญี่ปุ่นรับทราบถึงการเปลี่ยนแปลงว่า ประเทศไทยจะมีสิ่งดีๆที่จะเกิดขึ้นในช่วง 5 เดือนข้างหน้า 3 ประการ ได้แก่ 1.ชาวไทยกำลังเตรียมตัวด้วยความยินดีอย่างยิ่งสำหรับพิธีบรมราชาภิเษก (Royal Coronation Ceremony) ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 แห่งราชวงศ์จักรีระหว่างวันที่ 4 - 6 พ.ค.62 พระราชพิธีนี้นับว่าเป็นวาระที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของไทย เป็นที่ภาคภูมิใจ และชื่นชมยินดีของปวงชนชาวไทย และสะท้อนความมั่นคง (stability) ของไทยในการเป็นประเทศที่ปกครองโดยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข

2. ในวันที่ 24 มี.ค.ไทยจะมีการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ ซึ่งหลังประกาศวันเลือกตั้งของไทยนับว่าเป็นการส่งสัญญาณที่ดีต่อทิศทางการพัฒนาในทุกมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อการเสริมสร้างความมั่นคงทางการเมือง สะท้อนให้เห็นว่า รัฐบาลได้รักษาคำมั่นและดำเนินการตามโรดแมปที่ได้วางไว้ทุกประการ ทั้งนี้ที่ผ่านมารัฐบาลยังได้วางรากฐานความมั่นคงทางเศรษฐกิจไว้อย่างละเอียด เช่น การวางยุทธศาสตร์ระยะยาว การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC)ที่ได้มีการออกกฎหมายรับรองไว้อย่างครบถ้วนแล้ว ซึ่งทำให้มั่นใจได้ถึงการมีความต่อเนื่องอย่างไร้รอยต่อในรัฐบาลต่อไป

และ 3.การเป็นประธานอาเซียนของประเทศไทย โดยนอกเหนือจากการประชุมผู้นำและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องของอาเซียนซึ่งได้จัดกันมาเป็นธรรมเนียมแล้ว ในปีนี้ ไทยจะมีการจัดประชุม ASEAN Business Investment Summit (ABIS 2019) ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งจะเป็นโอกาสอันดีที่จะได้ประชาสัมพันธ์ศักยภาพทางด้านเศรษฐกิจ การค้าการลงทุนในภูมิภาคนี้

“ไม่มีพรรคการเมืองไหนที่โง่พอที่จะไม่สานต่อนโยบายสำคัญแน่นอนเพราะเป็นเรื่องสำคัญ ขอให้นักลงทุนชาวญี่ปุ่นมีความมั่นใจ และการเปลี่ยนผ่านใน 3 เรื่องที่สำคัญในปีนี้จะทำให้เกิดความต่อเนื่องในการพัฒนาในประเทศไทยในระยะต่อไป ซึ่งหากมีความต่อเนื่องของการลงทุนและการสนับสนุนจากนักลงทุนญี่ปุ่นและการช่วยปฏิรูปเศรษฐกิจที่ดีขึ้นก็ต้องอาศัยความร่วมมือจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งหากไทยสามารถปฏิรูปประเทศในทางเศรษฐกิจได้สำเร็จก็จะเป็นฐานการลงทุนที่สำคัญและมั่นคงของญี่ปุ่นในภูมิภาคนี้ต่อไปในอนาคต” นายสมคิด กล่าว.
กำลังโหลดความคิดเห็น