xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวปนคน คนปนข่าว

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ข่าวปนคน คนปนข่าว

*เตือนอย่าเพิ่งเฮ ! คำสั่งมาตรา 44 ยกเลิกสิทธิบัตรต่างชาติ วอนรัฐบาลชี้แจงความในข้อ 4 ว่า "ยกเลิก" แล้ว หรือกลับมาใหม่อีก หลังกฎหมายบังคับใช้
หลังจากก่อนหน้านี้ “สมชาย แสวงการ” สนช. ให้สัมภาษณ์กับ FM 101 ว่า จะต้องมีการยกเลิกสิทธิบัตร ”ก่อน” กฎหมายบังคับใช้ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ โดยยืนยันว่าจะต้องยกเลิกสิทธิบัตรฯกัญชาของชาติให้เสร็จก่อน เพราะตอนนั้นมีข้อห่วงใยจากภาคประชาชนและองค์กร ที่ออกมาเคลื่อนไหวเรื่องนี้ว่า ถ้า พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ ฉบับใหม่ออกมาก่อนการยกเลิกสิทธิบัตร ผลก็คือ การประกาศ 7 โฆษณาคำสิทธิบัตรที่เคยทำผิด และยังทำผิดอยู่ ก็จะกลายเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ตามกฎหมาย ยากที่จะยกเลิกด้วยเหตุผลเดิมได้ แม้ยกเลิกก็อาจจะไปแพ้ในชั้นศาล เพราะสิ่งที่เคยระบุว่า เป็นสิ่งผิดกฎหมายกลายเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมายจาก พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษแล้ว
แต่อยู่ๆ ทราบว่า เมื่อวันที่ 17 ม.ค.62 ทางสนช.ดอดนำ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ ส่งถึงเลขาธิการ ครม. ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 145 เมื่อนายกรัฐมนตรีได้รับกฎหมายดังกล่าว ต้องรอไว้ 5 วัน หากสนช.และรัฐบาล ไม่คิดจะส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ จะต้องส่งทูลเกล้าฯ ภายใน 20 วัน แต่แหล่งข่าวทราบมาว่า รัฐบาลชิงทูลเกล้าฯ กฎหมายดังกล่าวไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 23 ม.ค. 62 โดยไม่ได้ยกเลิกสิทธิบัตรฯ กัญชาของต่างชาติเสียก่อน
จนเกิดคำถามว่า เกิดอะไรขึ้น กระทั่งช่วงบ่ายวานนี้ (28ม.ค.) ได้มีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 1/2562 เรื่อง การแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยสิทธิบัตรและมาตรการด้านสิทธิบัตรเป็นกรณีพิเศษ ถ้าอ่านเผินๆ “ ข้อ 1-3 “ เหมือนกับแก้ปมการยื่นขอสิทธิบัตรของต่างชาติ ที่ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญาไม่กล้าใช้อำนาจยกเลิก เพราะกลัวถูกเอกชนฟ้อง แต่พออ่าน ข้อ 4 ที่เขียนว่า ในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษมีการแก้ไขเพิ่มเติม เพื่อให้มีการนำกัญชา ไปทำการศึกษาวิจัย เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ได้ ให้ข้อ 1 และข้อ 2 ของคำสั่งนี้เป็นอันยกเลิก นับแต่วันที่กฎหมายดังกล่าว มีผลใช้บังคับ ทั้งนี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบคำขอรับสิทธิบัตร ที่ได้ยื่นไว้แล้วต่อไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และขั้นตอน ตามข้อ 1 และ ข้อ 2 จนกว่าจะแล้วเสร็จ
ผลมันอยู่ที่ข้อ 4 นี้นี่เอง ว่า เมื่อกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้นำกัญชาไปศึกษาวิจัยทางการแพทย์ ได้ออกมาแล้ว ประกาศตาม ข้อ 1 และ 2 ให้ยกเลิกไป แล้วให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ "คำขอสิทธิบัตรที่ยื่นไว้แล้ว" คือ อะไร แปลว่า “สิทธิบัตรที่ต่างชาติยื่นไว้ ยังอยู่ ใช่หรือไม่” รัฐบาลน่าจะออกมาอธิบายในข้อนี้ให้ชัดเจน ... เพราะหลังคำสั่งนี้ออกมา “ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์” คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต ซึ่งเป็นผู้หนึ่งที่ออกมาเคลื่อนไหวเรื่องนี้ ได้โพสต์เฟซบุ๊กว่า “อย่าเพิ่งเฮ! “
คำสั่ง คสช. ยกเลิกสิทธิบัตร ที่ยกเลิกรายเก่า โดยอาศัย มาตรา 9(5) จะสิ้นผลไป แต่พอ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับใหม่) บังคับใช้ (ซึ่งคงจะไม่นานนี้) รายเก่าที่ถูกยกเลิกไป ย่อมมีสิทธิกลับมาจดใหม่อีกครั้งได้ คราวนี้จะยกเลิกโดยอาศัยมาตรา. 9(5) ไม่ได้อีกแล้ว ... ส่วนที่ว่าใครจะจดสิทธิได้ทั้งนั้น เริ่มต้นก็ไม่เท่ากันแล้ว เพราะไทยไม่เคยมีใครวิจัยในมนุษย์มาก่อน ( ซึ่งไม่รู้ว่าอีกกี่ปี ที่จะไล่ทันต่างชาติได้) ... เพราะอย่างไรเสียคนไทยย่อมเสียเปรียบต่างชาติ ที่มีจุดเริ่มเข้าเส้นชัยก่อนไทย ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว การมีอำนาจตาม มาตรา 44 ทั้งที ถ้าจะอาศัยความเท่าเทียมจริง ควรจะยกเว้นการจดสิทธิบัตรไป 5 ปี ตามเวลาบทเฉพาะกาล ของ พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ ฉบับใหม่ แต่ผู้ที่ออกกฎหมายคงห่วงเรื่องเวทีระหว่างประเทศ คนไทยคงต้องอึดสู้ขวากหนามต่อไปนะครับ... ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร กุรูกฎหมาย และเนติบริกร ช่วยอธิบายให้ชาวบ้านที่รออานิสงส์จากกฎหมายฉบับนี้ เข้าใจหน่อย

** ความผิดพลาดเพราะ "ไม่รู้" ของ "น้ำใสBNK48" กับการ "สำนึกผิด" คือบทเรียนที่ผู้ใหญ่ควรเอาอย่าง

กรณีนักร้องสาว "น้ำใส-พิชญาภา นาถา" แห่งวง BNK48 ใส่เสื้อที่มีสัญลักษณ์ "สวัสติกะ" ของพรรคนาซีเยอรมนี ไปซ้อมคอนเสิร์ตใหญ่ เมื่อวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา จนกลายเป็นกระแสดราม่าในโลกโซเชียลฯ และมีชาวต่างชาติได้แสดงออกถึงความไม่พอใจถึงเรื่องดังกล่าว ในขณะที่มีบรรดาโอตะจำนวนมากออกมาปกป้องเธอ แต่ก่อนเหตุการณ์จะบานปลายออกไป "น้ำใส" และผู้จัดการวงได้ออกมาขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยน้ำตาอย่างสำนึกผิดในการกระทำที่ไม่รู้เท่าถึงการณ์ของตัวเอง
โดยวันต่อมา "น้ำใส" ได้เข้าพบเอกอัครราชทูตอิสราเอล "ดร.เมเอียร์ ชโลโม" เพื่อกล่าวขอโทษด้วยตัวเอง มีการพูดคุยเกี่ยวกับความสำคัญของประวัติศาสตร์ทั่วไป โดยเฉพาะการตระหนักถึงความสำคัญของเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว หรือ "โฮโลคอสต์" จากคำขอของท่านทูต สมาชิกของวง BNK48 ได้ตกลงที่จะจัดกิจกรรมทางการศึกษาร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตอิสราเอลในอนาคต โดยผู้จัดการวง ได้เสนอให้สมาชิก BNK48 จัดเวิร์กชอปเพื่อการศึกษาเกี่ยวกับโฮโลคอสต์ เพื่อเป็นการยืนยันปณิธานของวง ที่เกี่ยวข้องกับประเด็นที่สำคัญนี้ หลังการพูดคุยกันท่านทูตอิสราเอลได้ให้อภัยต่อความผิดพลาดโดยกล่าวว่า “ผมเข้าใจว่าการกระทำครั้งนี้เกิดจากความไม่รู้ประวัติศาสตร์และขาดความตระหนัก ผมรู้สึกยินดีที่พวกเขามาขอโทษ และตกลงที่จะจัดเวิร์กช็อปเพื่อการศึกษาร่วมกันในอนาคต”
แม้จะเป็นความผิดพลาดที่ไม่น่าเกิดขึ้น ในฐานะที่เป็นคนสาธารณะ บางคนบอกว่า "น้ำใส"ไม่ใช่เด็กแล้ว เรียนมหาวิทยาลัย จะบอกว่าไม่รู้เรื่องแบบนี้ไม่ได้ หรือกระทั่งโทษไปที่ระบบการศึกษาของไทย กระทั่งมีบางคนออกมาโหน ถือโอกาสด่ารัฐบาลทหารว่า ระบบการศึกษาไทยปลุกฝังค่านิยมให้ "ฝักใฝ่เผด็จการ" ไปโน่น แต่คงจำกันได้ว่า เมื่อหลายปีก่อนขนาด "เจ้าชายแฮร์รี" ของอังกฤษ ซึ่งน่าจะใกล้ชิดกับประวัติศาสตร์ยุโรปมากกว่า เคยแต่งชุดทหาร "นาซี" ร่วมงานปาร์ตี้เพื่อฉลองวันเกิดของพระสหาย ณ บ้านพักของริชาร์ด มีด นักแข่งม้ากีฬาโอลิมปิก ในเมืองวิลต์เชอร์ ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษ จนพระราชวังวินด์เซอร์ ต้องออกแถลงการณ์ขอโทษ หลังจากการกล่าวคำขอโทษเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์พระบิดามีกระแสรับสั่งในทันทีให้เจ้าชายแฮร์รี เสด็จเยือนอดีตค่ายกักกันนักโทษของนาซี เพื่อรับรู้ถึงความโหดร้ายสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง สะท้อนว่าเป็นความผิดพลาดของบุคคลที่อาจเกิดขึ้นได้ไม่ใช่ระบบอะไรที่ไหน
แต่เมื่อเธอทำผิดแล้วก็รู้จัก "ขอโทษ" นอกจากสิ่งที่กระทำผิดของเธอจะเป็นเรื่องเตือนใจให้ต่อไปต้องระมัดระวังกับเรื่องที่ "อ่อนไหว" กับความรู้สึกของมนุษยชาติแล้ว เธอยังได้แสดงให้ผู้ใหญ่ได้เห็นว่า เมื่อทำผิดแล้วต้องรู้จัก "ขอโทษ" ก็น่าจะเป็นแบบอย่างที่ดี เพราะเราไม่เห็นเรื่องนี้นักใน "ผู้ใหญ่" ที่มีบทบาทในบ้านเมืองในฐานะบุคคลสาธารณะ ต้องบอกว่าบางครั้งความผิดพลาดก็คือบทเรียนที่มีคุณค่า

รูป –สมชาย แสวงการ – ปานเทพ พัวพงษ์พันธุ์

-"น้ำใส-พิชญาภา นาถา" เข้าพบ "ดร.เมเอียร์ ชโลโม" เอกอัครราชทูตอิสราเอล
กำลังโหลดความคิดเห็น