ผู้จัดการรายวัน360- “สนธิรัตน์” เผยครม.เห็นชอบขึ้นบัญชีควบคุมค่ายา-เวชภัณฑ์-ค่าบริการทางการแพทย์ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ยันไม่ได้คุมราคาขั้นสูงสุด แต่เป็นการกำหนดมาตรการที่ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ด้านก.พาณิชย์ พร้อมจัดตั้งอนุกรรมการเพื่อศึกษารายละเอียด ก่อนสรุปเสนอ กกร. ต่อไป ขณะที่รพ.เอกชน พร้อมทำตามมติ ครม. หลังเคาะค่ารักษาเป็นสินค้า-บริการควบคุม ห่วงออกเกณฑ์จนด้อยคุณภาพ
วานนี้ (22 ม.ค.) นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม. เห็นชอบตามที่กระทรวงพาณิชย์ โดยคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) เสนอให้นำ ค่ายา เวชภัณฑ์ และค่าบริการทางการแพทย์ เข้าเป็นสินค้าและบริการควบคุม ประจำปี 62 ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ซึ่งไม่ได้ไปคุมราคาขั้นสูงสุดกับการรักษาพยาบาล เนื่องจากการรักษาพยาบาล ไม่ใช่สินค้าทั่วไป
ทั้งนี้เมื่อขึ้นเป็นบริการควบคุมแล้ว ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งตัวแทนของรัฐ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงสาธารณสุข ตัวแทนภาคธุรกิจ โรงพยาบาลเอกชนและตัวแทนภาคประชาชน เข้ามาเป็นคณะอนุกรรมการร่วม เพื่อกำหนดมาตรการที่จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ส่วนค่ายาและค่าบริการ จะต้องทำเป็นราคาแนะนำ หรือไม่นั้น ในเรื่องนี้ ใน พ.ร.บ.ค่ารักษาพยาบาลของ กระทรวงสาธารณสุข ที่ควบคุมสถานพยาบาล มีเรื่องของแพกเกจ ราคาแนะนำอยู่แล้ว ว่าไม่ให้ขายยาเกินราคา และจะให้คณะอนุกรรมการกำกับสินค้าและบริการไปศึกษาในรายละเอียด ส่วนมาตรการจะออกมาเป็นอย่างไรขอให้คณะกรรมการชุดนี้ใช้เวลาในการหารือกันก่อน
***วอนอย่าขยายความหวั่นกระทบภาพลักษณ์
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. กล่าวถึง เรื่องนี้ว่า เป็นการทำตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ที่กำหนดให้ต้องปรับปรุงรายการสินค้าและบริการควบคุม ทุกๆ 2 ปี ซึ่งในการปรับปรุงครั้งนี้ คณะอนุกรรมการจากทุกภาคส่วนร่วมกันพิจารณา กำหนดมาตรการ กำหนดสินค้า และบริการหลายรายการเข้ามาด้วย ซึ่งเดิมมีสินค้าและบริการควบคุม 50 กว่ารายการ แต่ได้ยกเลิกการกำหนดให้น้ำตาลทราย เป็นสินค้าควบคุม
ขณะที่กระทรวงสาธารณสุข กำกับดูแลการดำเนินการของโรงพยาบาลเอกชนในระดับหนึ่งแล้ว ซึ่งต้องดูแลผู้ให้ และผู้รับบริการทางการแพทย์ โดยกรณีของโรงพยาบาลเอกชนนั้น มีบางแห่งเข้าตลาดหลักทรัพย์แล้ว จึงต้องพิจารณาความแตกต่างตรงนี้ด้วย
ดังนั้น สิ่งที่รัฐบาลทำคือ การมอบหมายให้ไปกำหนดมาตรการที่เหมาะสมออกมา ต้องดูกฎหมายหลายฉบับ และไม่ใช่จะไปควบคุมราคาได้ทั้งหมด จึงขอทุกฝ่ายอย่าเพิ่งวิตก หรือตื่นเต้นในเรื่องนี้ คือ เนื่องจากมีพ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 ซึ่งควบคุมดูแลสถานบริการทางการแพทย์ และกำหนดให้สถานพยาบาลทุกแห่งต้องมีป้ายแจ้งจุดที่ผู้ป่วยสามารถตรวจสอบสิทธิของผู้ป่วย หรืออัตราค่าบริการทางการแพทย์ก่อนเข้ารับบริการ ขณะที่ผู้ให้บริการต้องแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาล ค่ายา และเวชภัณฑ์ ค่าบริการทางการแพทย์ให้ผู้ป่วยได้รับทราบเพื่อใช้ในการตัดสินใจก่อนเข้ารับการรักษา
“ถ้าใครพบว่ามีโรงพยาบาลแห่งใดที่ไม่ติดป้ายดังกล่าว สามารถร้องเรียนมาได้ หรือหากใครเข้ารับบริการทางการแพทย์ แล้วรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม สามารถร้องเรียนได้ตามช่องทางรับเรื่องร้องเรียน “
ทั้งนี้ ขออย่าเอาทุกอย่างไปขยายความอีก เพื่อให้เกิดความเข้าใจอันดีระหว่างโรงพยาบาลเอกชน กับผู้รับบริการ รวมถึงภาพลักษณ์ของประเทศไทย ในการเป็นผู้นำด้านสถานพยาบาล ซึ่งไม่เพียงแค่เรื่องมาตรฐานของการรักษาพยาบาลเท่านั้น แต่ยังต้องมีมาตรฐานและความโปร่งใส ในด้านราคาค่าบริการด้วย
***พาณิชย์พร้อมตั้งคณะอนุฯศึกษา
นายประโยชน์ เพ็ญสุต รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า หลังจากครม. เห็นชอบให้ขึ้นบัญชีควบคุมยา เวชภัณฑ์และค่าบริการทางการแพทย์ ในการประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ หรือ กกร. ครั้งที่ 1 ปี 2562 ให้มีการปรับปรุงรายการสินค้าและบริการควบคุมประจำปี 2562
โดยรายการสินค้า ที่มีการปรับปรุง ระบุให้ ยา เวชภัณฑ์ บริการทางการแพทย์และบริการรักษาพยาบาล เป็นสินค้าและบริการควบคุมใหม่ ปี 2562 พร้อมทั้งเสนอให้มีการจัดตั้งอนุกรรมการเพื่อศึกษาเรื่องดังกล่าวด้วย
กรมการค้าภายในจะดำเนินการให้มีการจัดตั้งอนุกรรมการเพื่อศึกษารายละเอียด โดยคณะกรรมการจะประกอบไปด้วยตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงสาธารณสุข ประกันภัย วินาศภัย มูลนิธิ และผู้เชี่ยวชาญ ผู้ทรงคุณวุฒิ เป็นต้น ซึ่งเมื่อมีการเสนอรายชื่ออนุกรรมการเป็นที่เรียบร้อยก็จะนำเสนอรายงานให้กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์พิจารณารับทราบ และคาดว่าหลังจากนั้นก็จะให้อนุกรรมการเริ่มทำหน้าที่ศึกษารายละเอียดที่เกี่ยวข้อง เพื่อที่จะหาข้อสรุปว่าจะดำเนินการอย่างไรกับ รายการสินค้าและบริการควบคุมที่เสนอ ครม. ไป
ทั้งนี้ รายการสินค้าและบริการควบคุมในปี 2562 มีจำนวน 52 รายการ แบ่งเป็นสินค้า 46 รายการ และบริการ 6 รายการ ซึ่งสอดคล้องกับสถานการณ์ราคาสินค้าในปัจจุบัน
*** รพ.เอกชน พร้อมทำตามมติ ครม.
นพ.เอื้อชาติ กาญจนพิทักษ์ อดีตนายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน กล่าวถึงกรณีคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้ค่ายาและเวชภัณฑ์ และบริการทางการแพทย์ เป็นสินค้าและบริการควบคุม ว่า ในฐานะของผู้ประกอบการ รพ.เอกชน เราก็ต้องทำตาม จากนี้ก็อยู่ที่คณะอนุกรรมการฯ จะพิจารณาวางหลักเกณฑ์ออกมาอย่างไร แต่อย่ากระทบจนกระทั่งความมีประสิทธิภาพของ รพ.เอกชนกลายเป็นความด้อยลงไป เพียงเพราะไปแก้ปัญหาของคน 2-5% แล้วกระทบคนส่วนมาก 95%