xs
xsm
sm
md
lg

‘Who Cares About Us?’ คนไทยขอถาม...

เผยแพร่:   โดย: โสภณ องค์การณ์


ประเทศไทยยุครัฐบาลทหารเป็นใหญ่คงต้องพึ่งพาคนต่างชาติอุ้มชูแทบทุกเรื่องเสียแล้วกระมัง ทั้งๆ ที่คณะผู้ใหญ่ผู้โตมีอดีตผู้บัญชาการทหารบกถึง 3 คน อยู่ร่วมกันกุมอำนาจรัฐ ยิ่งอยู่นานไป ทำไมคนไทยยิ่งจนลงแทบทุกสารทิศ ชีวิตแทบสิ้นหนทาง

ก่อนหน้านี้รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจแทบจะลงทุนปูผ้าก้มลงกราบแจ็ค หม่า เจ้าของเว็บขายสินค้าอาลีบาบา ให้ช่วยอุ้มประเทศไทยพ้นจากภาวะตกต่ำในธุรกิจท่องเที่ยวหลังจากผู้ใหญ่ผู้โตก่อปัญหาโอษฐภัยเรื่องเรือพานักท่องเที่ยวจีนล่ม

ฝรั่งบอกว่า Loose Lips Sink Ship แต่คงมีไม่กี่คนในรัฐบาลนี้ หรือแทบไม่มีเลย ที่ได้รับรู้คำเปรียบเปรยนี้ แต่พิสูจน์ให้เห็นเมื่อนักท่องเที่ยวจีนตายหลายสิบคนที่ภูเก็ต เมื่อคำพูดขาดความละเอียดอ่อนหรือ Sensitivity ก็ทำให้มีปัญหาดังที่รับรู้กัน

เมื่อปากไม่ดีทำให้เสียการท่องเที่ยว รองนายกฯ ฝ่ายเศรษฐกิจต้องไปพูดภาษาจีนกลางชักชวนให้นักท่องเที่ยวกลับมาใช้เงินในประเทศเหมือนเดิม โดยไม่ได้รับประกันว่าจะมีอะไรดีขึ้น หรือมีมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างไรให้คุ้มค่าเงิน

นักท่องเที่ยวจีนยังไม่ทันมา ดันมีปัญหา รปภ.ที่สนามบินไปมีเรื่องกับนักท่องเที่ยวจีนอีก ไม่รู้ว่าใครผิดถูกชัด ก็โดนให้ออกจากงาน จากนั้นมีข่าวเรื่องตัวเลขนักท่องเที่ยวยังไม่ฟื้น ยิ่งจีนมีปัญหาเศรษฐกิจซ้ำเติม ทำให้ยุ่งยากกว่าเดิม

ก่อนหน้านี้มีมาตรการสร้างพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ อีอีซี ภาคตะวันออก เอาไว้อ่อยเหยื่อนักลงทุนต่างชาติ โดยมีจีนเป็นเป้าหมายหลัก ทั้งๆ ที่นักธุรกิจจีนได้เข้ามาโดยไม่ต้องรอคำเชิญ ยึดหลายพื้นที่ในเมืองหลวงและต่างจังหวัดสร้างเขตของตัวเอง

น่าอนาถประเทศไทยต้องพึ่งพาทุนต่างชาติ แรงงานต่างชาติ เงินต่างชาติเข้ามาช่วยทำให้ตัวเลขจีดีพีเติบโตเป็นหน้าเป็นตาของผู้รับผิดชอบดูแลด้านเศรษฐกิจ โดยผู้ใหญ่ผู้โตรู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้างพลอยอยากดีใจเนื้อเต้นด้วยเงินของต่างชาติ

เงินต่างชาติมันคงหอมหวนยวนใจ โดยเฉพาะเงินคอมมิชชั่น เงินทอนจากการจัดซื้อจัดจ้างต่างๆ แม้แต่เงินลงทุน ก็ยังมีใต้โต๊ะ บนโต๊ะจากโครงการขนาดใหญ่ต่างๆ ที่ท่านผู้ใหญ่ผู้โตต้องออกกฎหมายพิเศษย่ำยีรัฐธรรมนูญและกฎหมายอื่นๆ

อำนวยความสะดวกให้นักลงทุนต่างชาติ คุณภาพธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในประเทศไทยเป็นเรื่องย่อย ขนาดสารพิษเคมีเกษตรยังไม่ยอมยกเลิก ให้คนไทยสังเวยชีวิตด้วยการตายผ่อนส่ง ไม่ให้เสียบรรยากาศการลงทุนและกระทบธุรกิจใหญ่

มาตรการสิ้นคิดต่างๆ สะท้อนให้เห็นว่าผู้รับผิดชอบประเทศไม่มีความรู้ ความสามารถ มีคุณค่าสำหรับบริหารบ้านเมือง เก่งแต่อ้อนวอน ทำมาตรการส่งเสริมการลงทุนให้คนต่างชาติเข้ามาเยอะๆ กอบโกยทรัพย์สินแผ่นดินได้ตามสะดวก

มีความสามารถกู้เงินสร้างหนี้สินได้ไม่จำกัด ที่ผ่านมาคณะนี้ได้กู้มาแล้วกว่า 2 ล้านล้านบาท และยังจะกู้อีก 4.5 แสนล้านบาท ทำอย่างไม่อายฟ้าดิน ไม่ห่วงว่าคนรุ่นต่อไปต้องรับผิดชอบ อ้างหน้าตาเฉยว่า “ยังกู้ได้อีก ยังไม่ติดเพดานเงินกู้”

แจกเงิน จัดสรรโครงการประชานิยมสารพัด แต่หน้าก็ไม่บางพอที่จะยอมรับว่าเป็นประชานิยม ทั้ง 3 อย่าง คือเปิดทางให้ต่างชาติเข้ามาแสวงหาประโยชน์ กู้เงิน แจกเงิน การบริหารแบบนี้หลงจู๊โรงรับจำนำ พวกซาเล้งเก็บขยะขายยังทำได้เก่งกว่า

วันก่อนมีข่าวซึ่งน่าจะเป็นประเด็นขาดความละเอียดอ่อน Sensitivity อีกแล้ว!

มีสื่อจีนรายงานว่า ท่านผู้ใหญ่ผู้โต รองนายกฯ ของไทย ได้เป็นประธานเปิดงาน “WE CARE ABOUT YOU” วันอาทิตย์ที่ผ่านมา บริเวณริมทะเลสาบเมืองทองธานี โดยจัดเลี้ยง “ข้าวเหนียวมะม่วง” อาหารยอดฮิตของนักท่องเที่ยวจีน

กิจกรรมสำคัญคือการทำ “ข้าวเหนียวมะม่วงที่ใหญ่ที่สุดในโลก” ด้วยมะม่วงจำนวน 6,000 ลูก และข้าวเหนียวเขี้ยวงู 1.5 ตัน รวมน้ำหนักกว่า 5 ตัน จะได้รับการบันทึกเป็นสถิติโลกลงในกินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ด (Guinness World Records)

สื่อจีนว่า รองนายกฯ ได้เชิญนักท่องเที่ยวชาวจีนจำนวน 10,000 คน มาร่วมรับประทานข้าวเหนียวมะม่วง เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของไทย ฟังดูแล้วต้องยอมรับคนรัฐบาลนี้มองว่าเอาข้าวเหนียวมะม่วงล่อ นักท่องเที่ยวก็มาแล้ว

ไม่บอกว่านักท่องเที่ยวต้องเชิญมาเป็นพิเศษ หรือเชิญเฉพาะพวกที่เข้ามาท่องเที่ยวอยู่แล้ว แต่ละคนได้สิทธิเปิบจานเดียว หรือว่ากินจนอิ่มแปล้ พุงกางนั่นเลย งบประมาณขนาดย่อมๆ มะม่วงชั้นดีราคาอย่างต่ำก็ 50 บาท ข้าวเหนียวอร่อยอีก

ยุคนี้มะม่วงไทยเกรดดีมีล้งจีนรับซื้อคาสวนเอาไปขายให้คนจีน เศรษฐกิจอย่างนี้หลายครอบครัวไทยไม่มีโอกาสได้เปิบข้าวเหนียวมะม่วงอย่างที่นักท่องเที่ยวจีนได้มีโอกาสลิ้มรส แทบไม่มีข้าวสารกรอกหม้อ ยากจนทุกข์เลือดตาแทบกระเด็น

งาน “ข้าวเหนียวมะม่วงกู้ชาติ” จะทำให้นักท่องเที่ยวจีนประทับใจหรือไม่ แต่คนไทยส่วนหนึ่งที่ยังไม่ได้ลิ้มรสข้าวเหนียวมะม่วงรสเลิศ หรือคนยากจนกินข้าวไม่ครบมื้อ แต่ละมื้อมีข้าวไม่ครบเม็ด จะรู้สึกอย่างไรหรือไม่ มีใครรู้สึกแคร์บ้างมั้ย?

คนไทยอย่าว่าแต่อยากจะกินข้าวเหนียวมะม่วงเลย แค่อิ่มท้องทุกมื้อก็ยาก เมื่อรัฐบาลคุณท่านประกาศให้ชาวจีนรู้ว่า “We Care About You” คนไทยก็อยากถามดังๆ เหมือนกันว่า “Who Cares About Us?” บ้าง ได้หรือไม่ ใครจะกล้าตอบ

ผู้ใหญ่ผู้โตวางมาดโอหังลำพอง พูดหรือทำอะไรก็อย่าให้คนไทยเริ่มรู้สึกมากขึ้นก็แล้วกันว่าไร้ค่า ทุกวันนี้แทบจะเป็นพลเมืองชั้น 2 บนแผ่นดินเกิดของตัวเองแล้ว

ระวัง! ถ้าวันไหนคนไทยไม่ Care แล้ว พวกเหยียบย่ำน้ำใจจะไม่มีแผ่นดินอยู่!

กำลังโหลดความคิดเห็น