"เพื่อไทย" ดัน"ชัชชาติ"ขึ้นเป็นเบอร์1 บัญชีนายกฯของพรรค "เจ๊หน่อย" ยอมรับสภาพ ขอเป็นแค่ "เจเนอรัลเบ๊" พร้อมรับใช้ทุกเรื่อง "อุตตม" นำทีม พปชร. ลุยหาเสียงทั่วเมืองโคราช ชูนโยบายพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางขนส่งภาคอีสาน พร้อมเดินหน้าแปลง สปก. เป็นทุน–ต่อยอดขยายผลบัตรสวัสดิการ ขณะที่"นิด้าโพล"ชี้ "บิ๊กตู่" ยังคงเป็นบุคคลที่ประชาชนอยากให้เป็นนายกฯ หลังการเลือกตั้ง พร้อมอยากได้พรรคการเมืองใหม่ๆ มาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
วานนี้ (20 ม.ค.) คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย (พท.) พร้อมด้วย นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา แกนนำพรรค และ นายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ว่าที่ผู้สมัครส.ส.เขตดินแดง-ห้วยขวาง ของพรรค ลงพื้นที่ตลาดกลางดินแดง ประชาสงเคราะห์ 7 เพื่อพบปะประชาชน พ่อค้า แม่ค้า ในตลาด ซึ่งประชาชนต่างให้ความสนใจ และร่วมถ่ายรูป ให้กำลังใจ บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก จากนั้น คุณหญิงสุดารัตน์ เดินทางไปยัง ซอยรัชดานิเวศน์ แยก 1/5 เพื่อเป็นประธานในพิธีเปิดศูนย์ประสานงานการเลือกตั้ง ส.ส.เขต 5 (ดินแดง-ห้วยขวาง) ของพรรคเพื่อไทย
คุณหญิงสุดารัตน์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว กรณีมีกระแสข่าวว่า พรรคเพื่อไทย เตรียมชู นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีต รมว.คมนาคม และแกนนำพรรค เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ลำดับที่ 1 ของพรรค ว่า ส่วนตัว หนุนนายชัชชาติ อยู่แล้ว ไม่ต้องกังวลว่าเราจะมีปัญหากัน เพราะส่วนตัวมองว่า นายชัชชาติ มีความเหมาะสม ที่จะเป็นนายกฯ ส่วนตนเอง เป็นเหมือนผู้จัดการทีม คอยวางแผน หรือเรียกว่าเป็น "เจนเนอรัลเบ๊" พร้อมทำทุกเรื่อง
เมื่อถามว่า หากคุณหญิงสุดารัตน์ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 2 ก็ไม่ขัดข้อง ใช่หรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ตนให้การสนับสนุน นายชัชชาติ โดยบัญชีนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย จะชัดเจนก็ต่อเมื่อ มีการกำหนดวันเลือกตั้ง และประกาศออกมาชัดเจนแล้วเท่านั้น อย่างไรก็ตาม แม้การเลือกตั้งจะเลื่อนออกไป แต่การลงพื้นที่พบประชาชนของพรรคเพื่อไทย มีแผนไว้หมดแล้ว ว่าจะเดินยุทธศาสตร์อย่างไร
ทั้งนี้ มีรายงานว่า เรื่องนี้มีที่มาจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯหนีคดี เป็นผู้ต่อสายมาลอบบี้กับ คุณหญิงสุดารัตน์ ว่าจะให้นายชัชชาติ ขึ้นเบอร์ 1ในบัญชีนายกฯ ของพรรคแทน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวมาเป็นระยะๆ
อย่างไรก็ตาม เมื่อวานนี้ (20ม.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้โพสต์ข้อความลงบนทวิตเตอร์ "@PouYingluck"ระบุว่า "ตามที่มีข่าวพาดหัวในหน้าหนังสือพิมพ์ว่ าดิฉันสนับสนุน และเสนอชื่อบุคคล ที่จะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ในสัดส่วนของพรรคเพื่อไทยนั้น ดิฉันขอชี้แจงว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เพราะการดำเนินการดังกล่าว เป็นเรื่องกิจการของพรรคที่ต้องไปคัดสรรผู้เหมาะสมกันเอง และปัจจุบันดิฉันก็มีงานอื่นที่ต้องทำ และรับผิดชอบเป็นจำนวนมาก ประกอบกับสิ่งที่ดิฉันได้รับในอดีตที่ผ่านมา ก็ถูกกระทำเจ็บช้ำมากพอแล้วค่ะ
"อุตตม"ชูโคราช"ฮับ"ขนส่งภาคอีสาน
วานนี้ (20 ม.ค.) นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยกรรมการบริหารพรรค ตระเวนลงพื้นที่ตั้งแต่เช้าจรดเย็น ใน จ.นครราชสีมา เพื่อรับสมัครสมาชิก และชี้แจงนโยบายพรรค รวมทั้งเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.นครราชสีมา อาทิ นายอัฎฐกร อินทร์ศร เขต 12 , น.ส.จันทิมา โกสินทธ์รักษา เขต 3 , นายทวิรัฐ รัตนเศรษฐ และ ดร.พจน์ เจริญสันเทียะ เขต 4 , นายเกษม ศุภรานนท์ และ นายประพิศ นวมโคกสูง เขต 1 โดยจุดแรกเริ่มต้นในเวลา 09.00 น. ที่ไร่ทองสมบูรณ์ อ.ปากช่อง โดยมีสมาชิกและประชาชนให้ความสนใจมาร่วมฟังนโยบายพรรคกว่า 2,000 คน
ทั้งนี้ นายอุตตม ได้ชี้แจงถึงแนวนโยบายของพรรคพปชร. พร้อมย้ำเรื่องการสนับสนุนเดินหน้าต่อยอดโครงการบัตรสวัสดิการประชารัฐ และขยายผลเพิ่มเติมสิทธิต่างๆ เพื่อดูแลสวัสดิการของประชาชนทุกคน โดยมีเป้าหมายเพื่อแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำอย่างยั่งยืน นอกจากนี้จะต้องแก้ปัญหาเรื่องที่ดินทำกิน ให้สิทธิ์ที่ทำกินในเขต สปก. ให้สามารถใช้ที่ดินให้เกิดประโยชน์สูงสุด สามารถเปลี่ยนเป็นทุนได้
ส่วนเรื่องหนี้สิน ต้องแก้ไขปัญหาทั้งหนี้นอกระบบและในระบบ การเพิ่มรายได้ ลดความเสี่ยงของเกษตรกร ต้องทำให้เกษตรกรมีชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน ด้วยหลักการ 3 ลด 3 เพิ่ม ปรับเปลี่ยน เพิ่มมูลค่า ใช้นวัตกรรม เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้มากขึ้น ทั้งนี้ จะพัฒนา จ.นครราชสีมาให้เป็นศูนย์กลางการขนส่งโลจิสติกส์ ด้วยเส้นทางมอเตอร์เวย์ รถไฟความเร็วสูง รถไฟทางคู่ เชื่อมโยงภาคอีสาน กับภูมิภาคอื่นๆ เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจไปถึงฐานราก
นิด้าโพลชู "บิ๊กตู่"นายกฯ
วานนี้ (20ม.ค.) "นิด้าโพล" เผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง“ประชาชนอยากได้ใครเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป ตามกฎหมายการเลือกตั้งปัจจุบัน ( ครั้งที่ 6)”ทำการสำรวจ ระหว่างวันที่ 2-15 ม.ค.62 จาก ประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค จำนวน 2,500 หน่วยตัวอย่าง
เมื่อถามถึงพรรคการเมือง ที่ประชาชนอยากให้เข้ามาเป็นรัฐบาลในการเลือกตั้งครั้งต่อไป พบว่า ส่วนใหญ่ ร้อยละ 59.72 ระบุว่า พรรคการเมืองพรรคใหม่ๆ รองลงมา ร้อยละ 39.04 ระบุว่า พรรคการเมืองพรรคเก่า และร้อยละ 1.24 ระบุว่า ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ
โดยในจำนวนของผู้ที่ระบุว่า อยากได้พรรคการเมืองพรรคใหม่ๆ ได้ให้เหตุผลว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 57.06 ระบุว่า อยากเห็นคนใหม่ๆ นโยบายใหม่ๆ แนวคิดใหม่ๆ เข้ามาบริหารและพัฒนาประเทศไปในทิศทางที่ดีขึ้น รองลงมา ร้อยละ 30.48 ระบุว่า อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงใหม่ของประเทศไทย , ร้อยละ 12.26 ระบุว่า เบื่อการบริหารงานของพรรคการเมืองพรรคเก่า และ ร้อยละ 0.20 ไม่ระบุ
ด้านบุคคล ที่ประชาชนอยากให้เป็นนายกฯ ตามกฎหมายการเลือกตั้งปัจจุบัน (10 อันดับแรก) พบว่า ส่วนใหญ่ อันดับ 1 ร้อยละ 26.20 ระบุว่า เป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) อันดับ 2 ร้อยละ 22.40 เป็น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ (พรรคเพื่อไทย) อันดับ 3 ร้อยละ 11.56 เป็น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (หน.พรรคประชาธิปัตย์) อันดับ 4 ร้อยละ 9.60 เป็น นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ (หน.พรรคอนาคตใหม่) อันดับ 5 ร้อยละ 7.32 เป็น พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส (หน.พรรคเสรีรวมไทย)
อันดับ 6 ร้อยละ 7.28 เป็น นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ (พรรคเพื่อไทย) อันดับ 7 ร้อยละ 3.28 เป็น นายชวน หลีกภัย (อดีตนายกฯ ) อันดับ 8 ร้อยละ 2.32 เป็น พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ (หน.พรรคเพื่อไทย) อันดับ 9 ร้อยละ 1.20 เป็น นายอนุทิน ชาญวีรกูล (หน.พรรคภูมิใจไทย) อันดับ 10 ร้อยละ 0.72 เป็น นายวิษณุ เครืองาม (รองนายกฯ )
เมื่อถามถึงพรรคการเมืองที่ประชาชนอยากให้ได้คะแนนเสียงมากที่สุด และเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล (10 อันดับแรก) พบว่า ส่วนใหญ่ อันดับ 1 ร้อยละ 32.72 ระบุว่า เป็น พรรคเพื่อไทย อันดับ 2 ร้อยละ 24.16 เป็น พรรคพลังประชารัฐ อันดับ 3 ร้อยละ 14.92 เป็น พรรคประชาธิปัตย์ อันดับ 4 ร้อยละ 11.00 เป็น พรรคอนาคตใหม่ อันดับ 5 ร้อยละ 5.76 เป็นพรรคเสรีรวมไทย
อันดับ 6 ร้อยละ 1.92 เป็น พรรคภูมิใจไทย อันดับ 7 ร้อยละ 1.60 เป็น พรรคชาติไทยพัฒนา อันดับ 8 ร้อยละ 0.92 เป็น พรรคไทยรักษาชาติ อันดับ 9 ร้อยละ 0.56 เป็น พรรครวมพลังประชาชาติไทย อันดับ 10 ร้อยละ 0.52 เป็น พรรคประชาชาติ และ พรรคเพื่อชาติ ในสัดส่วนที่เท่ากัน
วานนี้ (20 ม.ค.) คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย (พท.) พร้อมด้วย นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา แกนนำพรรค และ นายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ว่าที่ผู้สมัครส.ส.เขตดินแดง-ห้วยขวาง ของพรรค ลงพื้นที่ตลาดกลางดินแดง ประชาสงเคราะห์ 7 เพื่อพบปะประชาชน พ่อค้า แม่ค้า ในตลาด ซึ่งประชาชนต่างให้ความสนใจ และร่วมถ่ายรูป ให้กำลังใจ บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก จากนั้น คุณหญิงสุดารัตน์ เดินทางไปยัง ซอยรัชดานิเวศน์ แยก 1/5 เพื่อเป็นประธานในพิธีเปิดศูนย์ประสานงานการเลือกตั้ง ส.ส.เขต 5 (ดินแดง-ห้วยขวาง) ของพรรคเพื่อไทย
คุณหญิงสุดารัตน์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว กรณีมีกระแสข่าวว่า พรรคเพื่อไทย เตรียมชู นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีต รมว.คมนาคม และแกนนำพรรค เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ลำดับที่ 1 ของพรรค ว่า ส่วนตัว หนุนนายชัชชาติ อยู่แล้ว ไม่ต้องกังวลว่าเราจะมีปัญหากัน เพราะส่วนตัวมองว่า นายชัชชาติ มีความเหมาะสม ที่จะเป็นนายกฯ ส่วนตนเอง เป็นเหมือนผู้จัดการทีม คอยวางแผน หรือเรียกว่าเป็น "เจนเนอรัลเบ๊" พร้อมทำทุกเรื่อง
เมื่อถามว่า หากคุณหญิงสุดารัตน์ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 2 ก็ไม่ขัดข้อง ใช่หรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ตนให้การสนับสนุน นายชัชชาติ โดยบัญชีนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย จะชัดเจนก็ต่อเมื่อ มีการกำหนดวันเลือกตั้ง และประกาศออกมาชัดเจนแล้วเท่านั้น อย่างไรก็ตาม แม้การเลือกตั้งจะเลื่อนออกไป แต่การลงพื้นที่พบประชาชนของพรรคเพื่อไทย มีแผนไว้หมดแล้ว ว่าจะเดินยุทธศาสตร์อย่างไร
ทั้งนี้ มีรายงานว่า เรื่องนี้มีที่มาจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯหนีคดี เป็นผู้ต่อสายมาลอบบี้กับ คุณหญิงสุดารัตน์ ว่าจะให้นายชัชชาติ ขึ้นเบอร์ 1ในบัญชีนายกฯ ของพรรคแทน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวมาเป็นระยะๆ
อย่างไรก็ตาม เมื่อวานนี้ (20ม.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้โพสต์ข้อความลงบนทวิตเตอร์ "@PouYingluck"ระบุว่า "ตามที่มีข่าวพาดหัวในหน้าหนังสือพิมพ์ว่ าดิฉันสนับสนุน และเสนอชื่อบุคคล ที่จะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ในสัดส่วนของพรรคเพื่อไทยนั้น ดิฉันขอชี้แจงว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เพราะการดำเนินการดังกล่าว เป็นเรื่องกิจการของพรรคที่ต้องไปคัดสรรผู้เหมาะสมกันเอง และปัจจุบันดิฉันก็มีงานอื่นที่ต้องทำ และรับผิดชอบเป็นจำนวนมาก ประกอบกับสิ่งที่ดิฉันได้รับในอดีตที่ผ่านมา ก็ถูกกระทำเจ็บช้ำมากพอแล้วค่ะ
"อุตตม"ชูโคราช"ฮับ"ขนส่งภาคอีสาน
วานนี้ (20 ม.ค.) นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยกรรมการบริหารพรรค ตระเวนลงพื้นที่ตั้งแต่เช้าจรดเย็น ใน จ.นครราชสีมา เพื่อรับสมัครสมาชิก และชี้แจงนโยบายพรรค รวมทั้งเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.นครราชสีมา อาทิ นายอัฎฐกร อินทร์ศร เขต 12 , น.ส.จันทิมา โกสินทธ์รักษา เขต 3 , นายทวิรัฐ รัตนเศรษฐ และ ดร.พจน์ เจริญสันเทียะ เขต 4 , นายเกษม ศุภรานนท์ และ นายประพิศ นวมโคกสูง เขต 1 โดยจุดแรกเริ่มต้นในเวลา 09.00 น. ที่ไร่ทองสมบูรณ์ อ.ปากช่อง โดยมีสมาชิกและประชาชนให้ความสนใจมาร่วมฟังนโยบายพรรคกว่า 2,000 คน
ทั้งนี้ นายอุตตม ได้ชี้แจงถึงแนวนโยบายของพรรคพปชร. พร้อมย้ำเรื่องการสนับสนุนเดินหน้าต่อยอดโครงการบัตรสวัสดิการประชารัฐ และขยายผลเพิ่มเติมสิทธิต่างๆ เพื่อดูแลสวัสดิการของประชาชนทุกคน โดยมีเป้าหมายเพื่อแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำอย่างยั่งยืน นอกจากนี้จะต้องแก้ปัญหาเรื่องที่ดินทำกิน ให้สิทธิ์ที่ทำกินในเขต สปก. ให้สามารถใช้ที่ดินให้เกิดประโยชน์สูงสุด สามารถเปลี่ยนเป็นทุนได้
ส่วนเรื่องหนี้สิน ต้องแก้ไขปัญหาทั้งหนี้นอกระบบและในระบบ การเพิ่มรายได้ ลดความเสี่ยงของเกษตรกร ต้องทำให้เกษตรกรมีชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน ด้วยหลักการ 3 ลด 3 เพิ่ม ปรับเปลี่ยน เพิ่มมูลค่า ใช้นวัตกรรม เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้มากขึ้น ทั้งนี้ จะพัฒนา จ.นครราชสีมาให้เป็นศูนย์กลางการขนส่งโลจิสติกส์ ด้วยเส้นทางมอเตอร์เวย์ รถไฟความเร็วสูง รถไฟทางคู่ เชื่อมโยงภาคอีสาน กับภูมิภาคอื่นๆ เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจไปถึงฐานราก
นิด้าโพลชู "บิ๊กตู่"นายกฯ
วานนี้ (20ม.ค.) "นิด้าโพล" เผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง“ประชาชนอยากได้ใครเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป ตามกฎหมายการเลือกตั้งปัจจุบัน ( ครั้งที่ 6)”ทำการสำรวจ ระหว่างวันที่ 2-15 ม.ค.62 จาก ประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค จำนวน 2,500 หน่วยตัวอย่าง
เมื่อถามถึงพรรคการเมือง ที่ประชาชนอยากให้เข้ามาเป็นรัฐบาลในการเลือกตั้งครั้งต่อไป พบว่า ส่วนใหญ่ ร้อยละ 59.72 ระบุว่า พรรคการเมืองพรรคใหม่ๆ รองลงมา ร้อยละ 39.04 ระบุว่า พรรคการเมืองพรรคเก่า และร้อยละ 1.24 ระบุว่า ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ
โดยในจำนวนของผู้ที่ระบุว่า อยากได้พรรคการเมืองพรรคใหม่ๆ ได้ให้เหตุผลว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 57.06 ระบุว่า อยากเห็นคนใหม่ๆ นโยบายใหม่ๆ แนวคิดใหม่ๆ เข้ามาบริหารและพัฒนาประเทศไปในทิศทางที่ดีขึ้น รองลงมา ร้อยละ 30.48 ระบุว่า อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงใหม่ของประเทศไทย , ร้อยละ 12.26 ระบุว่า เบื่อการบริหารงานของพรรคการเมืองพรรคเก่า และ ร้อยละ 0.20 ไม่ระบุ
ด้านบุคคล ที่ประชาชนอยากให้เป็นนายกฯ ตามกฎหมายการเลือกตั้งปัจจุบัน (10 อันดับแรก) พบว่า ส่วนใหญ่ อันดับ 1 ร้อยละ 26.20 ระบุว่า เป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) อันดับ 2 ร้อยละ 22.40 เป็น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ (พรรคเพื่อไทย) อันดับ 3 ร้อยละ 11.56 เป็น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (หน.พรรคประชาธิปัตย์) อันดับ 4 ร้อยละ 9.60 เป็น นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ (หน.พรรคอนาคตใหม่) อันดับ 5 ร้อยละ 7.32 เป็น พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส (หน.พรรคเสรีรวมไทย)
อันดับ 6 ร้อยละ 7.28 เป็น นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ (พรรคเพื่อไทย) อันดับ 7 ร้อยละ 3.28 เป็น นายชวน หลีกภัย (อดีตนายกฯ ) อันดับ 8 ร้อยละ 2.32 เป็น พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ (หน.พรรคเพื่อไทย) อันดับ 9 ร้อยละ 1.20 เป็น นายอนุทิน ชาญวีรกูล (หน.พรรคภูมิใจไทย) อันดับ 10 ร้อยละ 0.72 เป็น นายวิษณุ เครืองาม (รองนายกฯ )
เมื่อถามถึงพรรคการเมืองที่ประชาชนอยากให้ได้คะแนนเสียงมากที่สุด และเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล (10 อันดับแรก) พบว่า ส่วนใหญ่ อันดับ 1 ร้อยละ 32.72 ระบุว่า เป็น พรรคเพื่อไทย อันดับ 2 ร้อยละ 24.16 เป็น พรรคพลังประชารัฐ อันดับ 3 ร้อยละ 14.92 เป็น พรรคประชาธิปัตย์ อันดับ 4 ร้อยละ 11.00 เป็น พรรคอนาคตใหม่ อันดับ 5 ร้อยละ 5.76 เป็นพรรคเสรีรวมไทย
อันดับ 6 ร้อยละ 1.92 เป็น พรรคภูมิใจไทย อันดับ 7 ร้อยละ 1.60 เป็น พรรคชาติไทยพัฒนา อันดับ 8 ร้อยละ 0.92 เป็น พรรคไทยรักษาชาติ อันดับ 9 ร้อยละ 0.56 เป็น พรรครวมพลังประชาชาติไทย อันดับ 10 ร้อยละ 0.52 เป็น พรรคประชาชาติ และ พรรคเพื่อชาติ ในสัดส่วนที่เท่ากัน