ผู้จัดการรายวัน 360 - สือจีนปูด “ยิ่งลักษณ์” ใช้พาสปอร์ตกัมพูชา ซื้อบริษัทบริหารท่าเรือซัวเถา หลังตรวจสอบพบใช้พาสปอร์ตเล่มเดียวกันยื่นจดทะเบียนตั้งบริษัท พีที คอร์ปอเรชั่น จำกัด ในฮ่องกง สะท้อนเส้นทางการหลบหนีผ่านเขมร ขณะที่เว็บไซต์เดอะเปเปอร์ ลบข่าวแล้ว
เว็บไซต์เซาธ์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ รายงานเมื่อวันที่ 9 ม.ค. 62 ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ใช้หนังสือเดินทางของกัมพูชา หลบหนีออกจากประเทศไทยเมื่อปี 2560 ผ่านประเทศกัมพูชาน่าจะมีความน่าเชื่อถือ แม้ว่าทางการกัมพูชาจะปฏิเสธเรื่องดังกล่าวก็ตาม
สื่อฮ่องกงรายนี้กล่าวว่า ได้ตรวจสอบพบว่า ในเอกสารยื่นขอจดทะเบียนบริษัทในฮ่องกง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ปัจจุบันอยู่ในวัย 51 ปี ได้ใช้พาสปอร์ตของกัมพูชาเป็นหลักฐานประกอบการขอจดทะเบียนเป็นกรรมการแต่เพียงผู้เดียวของ บริษัทพีทีคอร์ปอเรชั่น โดยที่บริษัทแห่งนี้ทำการจดทะเบียนในฮ่องกง เมื่อวันที่ 24 ส.ค.ปีที่แล้ว หรือ เกือบ 1 ปีหลังจากเธอออกเดินทางลี้ภัย ก่อนที่ศาลอาญา (แผนกคดีอาญานักการเมือง) ของไทย จะอ่านคำพิพากษาซึ่งเธอถูกฟ้องร้องด้วยข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
หลักฐานประกอบการยื่นจดทะเบียนบริษัทดังกล่าว ขัดแย้งกับการกล่าวอ้างของรัฐบาลกัมพูชาที่ว่าไม่เคยออกเอกสารการเดินทางใดๆ ให้แก่ตัวเธอ เมื่อครั้งที่เธอแอบหลบหนีเดินทางออกนอกประเทศ ภายใต้สภาพแวดล้อมที่น่าสงสัย ในขณะที่มีการตรวจตราตลอด 24 ชั่วโมงโดยรัฐบาลทหาร
น.ส.ยิ่งลักษณ์ถูกตัดสินจำคุก 5 ปีฐานละเลยเรื่องการปฏิบัติตามนโยบายรับจำนำข้าว อันเป็นข้อกล่าวหาที่เธออ้างว่าเป็นการกล่าวโทษกันด้วยเหตุผลทางการเมือง
หลักฐานการจดทะเบียนบริษัทในฮ่องกงแห่งนี้ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นับเป็นหนึ่งในบรรดาเอกสารชุดแรกๆ ที่เปิดเผยให้สาธารณชนได้ทราบเกี่ยวกับการติดต่อทำธุรกิจของเธอ หลังจากที่เธอได้พยายามหลีกเลี่ยงให้ตกเป็นที่สนใจนับตั้งแต่การหลบหนีจากไทย
ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าบริษัทดังกล่าวทำธุรกิจด้านใด แต่เอกสารอีกจำนวนหนึ่งแสดงให้เห็นว่า เพียงสี่เดือนหลังจากเธอก่อตั้งบริษัทนี้ ยิ่งลักษณ์ก็ได้รับการแต่งตั่งเป็นประธานของท่าคอนเทนเนอร์สินค้านานาชาติซานโถว หรือซัวเถา (Shantou International Container Terminals) ซึ่งเป็นบริษัทบริหารท่าเรือแห่งใหญ่แห่งหนึ่งในมณฑลกวางตุ้ง
"ถ้าหากเป็นหนังสือเดินทางอย่างเป็นทางการ (ของกัมพูชา) จริงๆ แล้ว คำถามก็คือ บุคคลระดับยิ่งลักษณ์ได้พาสปอร์ตฉบับนี้มาอย่างไร?" ฉง จาเอียน ศาสตราจารย์ด้านนโยบายการต่างประเทศ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์กล่าว
แต่ฉงก็กล่าวด้วยว่า การมีหนังสือเดินทางของกัมพูชานั้น ดูเข้าท่าทีเดียวสำหรับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เนื่องจากกัมพูชาเป็น "ตัวเลือกง่ายที่สุด..เพียงข้ามพรมแดนเท่านั้น"
"ถ้าคุณต้องการเดินทางแบบค่อนข้างที่จะไม่ถูกสงสัย การมีหนังสือเดินทางเช่นของกัมพูชา ก็จะทำให้อะไรๆ ง่ายยิ่งขึ้นเมื่อมองกันในแง่นี้" ฉงกล่าว พร้อมกับเสริมอีกว่า "เป็นที่ชัดเจนในฐานะที่เป็นเพื่อนบ้านกัน กรณีนี้อาจกลายเป็นอีกประเด็นที่ขัดแย้งกัน"
ในช่วงที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์หลบหนีนั้น หนังสือพิมพ์พนมเปญโพสต์ รายงานอ้างเจ้าหน้าที่กรมหนังสือเดินทางของกัมพูชาซึ่งกล่าวว่า "น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นคนไทย เธอไม่ใช่ชาวกัมพูชา ดังนั้นผมไม่ออกพาสปอร์ตให้แก่ชาวต่างชาติ"
กรมตรวจคนเข้าเมืองกระทรวงมหาดไทยของกัมพูชา กล่าวในขณะนั้นเช่นกันว่า ไม่มีรายงานใดๆ เกี่ยวกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่เป็นนายกรัฐมนตรีไทยระหว่างปี 2554-2557 ในเรื่องที่พูดกันว่าเธอเดินทางไปยังสิงคโปร์โดยผ่านกัมพูชา
กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาและกระทรวงการต่างประเทศของไทย ไม่ให้คำตอบใดๆ เมื่อเซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์สอบถามขอรับทราบความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ในวันพุธ
กัมพูชาเป็นพันธมิตรใกล้ชิดกับจีน โดยมีความสัมพันธ์ต่อกันอย่างแนบแน่นทั้งทางด้านเศรษฐกิจและการทหาร น.ส.ยิ่งลักษณ์กับพี่ชายคือนายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีไทยเช่นกัน ต่างอยู่ในจีนช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อเยือนถิ่นฐานบรรพบุรุษ ที่เมืองเฟิงซุ่นในมณฑลกวางตุ้ง
เอกสารการจดทะเบียนบริษัทในฮ่องกงของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นี้ ยังได้เปิดเผยให้เห็นขอบเขตเครือข่ายอันกว้างขวางทางครอบครัวของเธอ โดยขณะที่บริษัทในฮ่องกงแห่งนี้มีเธอเองเป็นกรรมการเพียงคนเดียว แต่ในการจดทะเบียนนั้น ยังมีการระบุว่า บริษัทอีกแห่งหนึ่งที่มีชื่อเดียวกัน ทว่าใช้ที่อยู่ในกรุงเทพฯ ได้ยื่นขอทะเบียนเป็นสมาชิกก่อตั้งของบริษัทด้วย
ปรากฏว่าบริษัทในไทยที่ใช้ชื่อว่า พีทีคอร์ปอเรชั่น เช่นกันแห่งนั้น มีนางพิณทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ และน.ส.แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวทั้ง 2 ของนายทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทแห่งนั้น ทั้งนี้เป็นการเปิดเผยของบริษัทที่แยกจดทะเบียนในกรุงเทพฯ อีกบริษัทหนึ่ง
เมื่อเซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ ตามไปเยี่ยมบริษัทพีทีคอร์ปอเรชั่น ในฮ่องกง ตามที่อยู่ซึ่งระบุว่าอยู่ที่ K11 Atelier in Tsim Sha Tsui (ชิมซาจุ่ย) ได้พบว่าเป็นอาคารสำนักงานทันสมัยสูง 66 ชั้น แต่สำนักงานที่อยู่ดังกล่าว เป็นของอีกบริษัทหนึ่งที่ใช้ชื่อแปซิฟิก อินเตอร์เนชั่นแนล แคปปิตอล หนึ่งในกรรมการของบริษัทนี้คือ เฉิน ฮว่ายตาน ซึ่งเป็นที่รู้จักกันก่อนหน้านี้ในชื่อ เซลีน ถัง
เจ้าหน้าที่ที่บริษัทกล่าวว่า พวกเขาไม่รู้จักบริษัทพีทีคอร์ปอเรชั่น หรือ มีความเกี่ยวพันใดๆ กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์
"ผมไม่ทราบว่าคุณมาหาเราทำไมเกี่ยวกับบริษัทนี้" เจ้าหน้าที่คนหนึ่งกล่าว ต่อมาลูกจ้างของบริษัทอีกคนได้ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ทางโทรศัพท์"
นางเฉินยังเป็นกรรมการผู้จัดการของ บริษัทซิงไห่อี้ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทด้านอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดสิงคโปร์ บริษัทแห่งนี้ก็ไม่ยอมตอบข้อสอบถามใดๆ ในวันพุธนี้เช่นกัน
ตามข้อมูลในเว็บไซต์ของ ซิงไห่อี้ กรุ๊ป ก่อนปี 2538 นั้นนางเฉินทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ตุลาการศาลแขวงซานโถว (ซัวเถา) เธอสำเร็จการศึกษาปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยความมั่้นคงปลอดภัยของประชาชน ในประเทศจีน ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐ
เชื่อกันว่าเธอกับสามีคือกอร์ดอน ถัง อี้กัง มีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์มาก จนกระทั่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้จดทะเบียนที่อยู่ของตัวเองในฮ่องกง ที่บ้านหรูหลังหนึ่งที่ เดอะ พีค ซึ่งนางเฉินกับสามีซื้อเป็นเงิน 250 ล้านดอลลาร์ฮ่องกงเมื่อปี 2555 ทั้งนี้ตามบันทึกในหนังสือจดทะเบียนจากสำนักงานจดทะเบียนที่ดินฮ่องกง
มีรายงานเมื่อก่อนนี้ที่ระบุว่า สามีภรรยาคู่นี้มีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับนักการเมืองสหรัฐฯหลายคน และได้บริจาคเงิน 1.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ เพื่อสนับสนุนนายเจ็บ บุช (น้องชายอดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช และ อดีตผู้ว่าราชการรัฐเท็กซัส) ในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี 2559 ทั้งนี้เป็นข้อมูลด้านการเงินที่เปิดเผยโดยหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐแห่งหนึ่ง
บริษัทที่ทำหน้าที่เป็นเลขานุการของพีทีคอร์ปอเรชั่น คือ HYL Secretarian Service ก็จดทะเบียนในเดือนเดียวกันกับบริษัทแรก
นายอเล็กซานเดอร์ เหลียง โห่อิน ซึ่งเป็นทนายความคนหนึ่ง เมื่อวันพุธปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์พูดคุยทางโทรศัพท์เกี่ยวกับธุรกิจของบริษัทนี้กับพีทีคอร์ปอเรชั่น เขากล่าวว่าเคยได้ยินเกี่ยวกับพีทีคอร์ปอเรชั่น จะเปลี่ยนไปใช้บริษัทเลขานุการอีกแห่งหนึ่งแทน ซึ่งข้อมูลระบุว่านับเป็นครั้งที่สองของพีทีคอร์ปอเรชั่น
น.ส.ยิ่งลักษณ์ซึ่งเคยเป็นกรรมการอำนวยการบริษัทเทเลคอมที่พี่ชายเป็นเจ้าของ และ ทำธุรกิจแขนงอสังหาริมทรัพย์ของครอบครัว ได้เข้าถือครองบริษัทบริหารท่าเรือที่ซานโถว หลังจากบริษัท Hutchison Port Holdings ถอนหุ้นส่วน 70% ของตนที่ถือผ่านบริษัท Hutchison Ports Shantou ออกไปเดือน ธ.ค.ที่แล้ว
บริษัท Hutchison Port กล่าวในวันพุธนี้ว่า บริษัทได้ขายหุ้นของตนออกไปทั้งหมดในราคาที่ไม่เปิดเผย ให้แก่ผู้ลงทุนจากสิงคโปร์รายหนึ่ง โดยไม่ยอมเปิดเผยชื่อ
โฆษกของบริษัทนี้ไม่ยอมเปิดเผยว่า มีการซื้อขายกันตั้งแต่เมื่อไร ให้ความเห็นเพียงว่า การที่นักลงทุนจะนำใครเข้ามาบ้าง หลังบริษัทได้ขายหุ้นไปนั้น อยู่นอกเหนือการควบคุมของบริษัท
หุ้นส่วนอีก 30% ถือโดยบริษัทสาขาในซานโถวของ China Merchants Port Group หลักฐานการจดทะเบียนแสดงให้เห็นว่า นางเฉินได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการ Hutchison Ports Shantou วันที่ 11 พ.ย.2561 โดยมีพนักงานจากสิงคโปร์ จีนแผ่นดินใหญ่ และ ผู้ถือบัตรประจำตัวประชาชนฮ่องกงอีก 3 คน
เอกสารยังเปิดแสดงด้วยว่า เมื่อปี 2559 นายทักษิณได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการบริษัทในฮ่องกงอีกแห่งหนึ่ง ที่ชื่อว่า Planet Telecom (HK) Company Limited
ทักษิณอายุ 69 ที่หลบหนีออกนอกประเทศไหลังถูกโค้นล้มในการรัฐประหารของฝ่ายทหารปี 2549 ได้ใช้หนังสือเดินทางของประเทศมอนเตนีโกรในการยื่นจดทะเบียน ที่อยู่ของเขาถูกระบุว่าอยู่ที่ Emirates Hill อาณาบริเวณที่หรูหราของดูไบ ซึ่งเป็นที่อาศัยจตลอดทศวรรษที่ผ่านมา
เว็บไซต์เดอะเปเปอร์ลบข่าว “ยิ่งลักษณ์” ออกแล้ว
อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวแจ้งว่า จากการตรวจสอบเว็บไซต์เดอะเปเปอร์ (www.thepaper.cn) ของจีน ที่รายงานข่าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี บุคคลหลบหนีคำพิพากษาจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จำคุก 5 ปี จากคดีปล่อยทุจริตจำนำข้าว เข้าไปซื้อกิจการ บริษัท ซัวเถา อินเตอร์เนชั่นแนล คอนเทนเนอร์เทอร์มินัล จำกัด (Shantou International Container Terminal) ในเมืองซัวเถา มณฑลกวางตุ้ง สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อเดือนธันวาคม ที่ผ่านมา นั้น ขณะนี้เว็บไซต์ดังกล่าวได้ลบข่าวดังกล่าวไปแล้ว โดยขึ้นข้อความหน้าจอว่า มีบางอย่างผิดพลาด! ไม่พบบทความดังกล่าว
ก่อนหน้านี้สำนักข่าวได้นำเสนอข่าวระบุว่า บริษัทซัวเถาคอนเทนเนอร์เทอร์มินัลก่อตั้งขึ้นในปี 2537 ด้วยทุนจดทะเบียน 88 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มูลค่าร่วม 3 พันล้านบาท ตามข้อมูลการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมและเชิงพาณิชย์แสดงให้เห็นว่า ผู้บริหารท่าเรือตู้คอนเทนเนอร์ Shantou ได้เปลี่ยนจาก Lin Daqi เป็น น.ส.ยิ่งลักษณ์ เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม ที่ผ่านมา
ขณะที่ล่าสุดเฟซบุ๊ก กรุงเทพ กรุงเทพ อ้างว่าได้เบอร์ติดต่อที่ทำงาน ท่านประธาน SICT มาแล้ว แล้วได้เบอร์ แผนกต่างๆ มาด้วยเบอร์ที่ทำงาน ท่านประธาน ยิ่งลักษณ์ ขึ้นต้นเหมือนกันหมด 0754-88939XXX
เว็บไซต์เซาธ์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ รายงานเมื่อวันที่ 9 ม.ค. 62 ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ใช้หนังสือเดินทางของกัมพูชา หลบหนีออกจากประเทศไทยเมื่อปี 2560 ผ่านประเทศกัมพูชาน่าจะมีความน่าเชื่อถือ แม้ว่าทางการกัมพูชาจะปฏิเสธเรื่องดังกล่าวก็ตาม
สื่อฮ่องกงรายนี้กล่าวว่า ได้ตรวจสอบพบว่า ในเอกสารยื่นขอจดทะเบียนบริษัทในฮ่องกง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ปัจจุบันอยู่ในวัย 51 ปี ได้ใช้พาสปอร์ตของกัมพูชาเป็นหลักฐานประกอบการขอจดทะเบียนเป็นกรรมการแต่เพียงผู้เดียวของ บริษัทพีทีคอร์ปอเรชั่น โดยที่บริษัทแห่งนี้ทำการจดทะเบียนในฮ่องกง เมื่อวันที่ 24 ส.ค.ปีที่แล้ว หรือ เกือบ 1 ปีหลังจากเธอออกเดินทางลี้ภัย ก่อนที่ศาลอาญา (แผนกคดีอาญานักการเมือง) ของไทย จะอ่านคำพิพากษาซึ่งเธอถูกฟ้องร้องด้วยข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
หลักฐานประกอบการยื่นจดทะเบียนบริษัทดังกล่าว ขัดแย้งกับการกล่าวอ้างของรัฐบาลกัมพูชาที่ว่าไม่เคยออกเอกสารการเดินทางใดๆ ให้แก่ตัวเธอ เมื่อครั้งที่เธอแอบหลบหนีเดินทางออกนอกประเทศ ภายใต้สภาพแวดล้อมที่น่าสงสัย ในขณะที่มีการตรวจตราตลอด 24 ชั่วโมงโดยรัฐบาลทหาร
น.ส.ยิ่งลักษณ์ถูกตัดสินจำคุก 5 ปีฐานละเลยเรื่องการปฏิบัติตามนโยบายรับจำนำข้าว อันเป็นข้อกล่าวหาที่เธออ้างว่าเป็นการกล่าวโทษกันด้วยเหตุผลทางการเมือง
หลักฐานการจดทะเบียนบริษัทในฮ่องกงแห่งนี้ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นับเป็นหนึ่งในบรรดาเอกสารชุดแรกๆ ที่เปิดเผยให้สาธารณชนได้ทราบเกี่ยวกับการติดต่อทำธุรกิจของเธอ หลังจากที่เธอได้พยายามหลีกเลี่ยงให้ตกเป็นที่สนใจนับตั้งแต่การหลบหนีจากไทย
ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าบริษัทดังกล่าวทำธุรกิจด้านใด แต่เอกสารอีกจำนวนหนึ่งแสดงให้เห็นว่า เพียงสี่เดือนหลังจากเธอก่อตั้งบริษัทนี้ ยิ่งลักษณ์ก็ได้รับการแต่งตั่งเป็นประธานของท่าคอนเทนเนอร์สินค้านานาชาติซานโถว หรือซัวเถา (Shantou International Container Terminals) ซึ่งเป็นบริษัทบริหารท่าเรือแห่งใหญ่แห่งหนึ่งในมณฑลกวางตุ้ง
"ถ้าหากเป็นหนังสือเดินทางอย่างเป็นทางการ (ของกัมพูชา) จริงๆ แล้ว คำถามก็คือ บุคคลระดับยิ่งลักษณ์ได้พาสปอร์ตฉบับนี้มาอย่างไร?" ฉง จาเอียน ศาสตราจารย์ด้านนโยบายการต่างประเทศ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์กล่าว
แต่ฉงก็กล่าวด้วยว่า การมีหนังสือเดินทางของกัมพูชานั้น ดูเข้าท่าทีเดียวสำหรับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เนื่องจากกัมพูชาเป็น "ตัวเลือกง่ายที่สุด..เพียงข้ามพรมแดนเท่านั้น"
"ถ้าคุณต้องการเดินทางแบบค่อนข้างที่จะไม่ถูกสงสัย การมีหนังสือเดินทางเช่นของกัมพูชา ก็จะทำให้อะไรๆ ง่ายยิ่งขึ้นเมื่อมองกันในแง่นี้" ฉงกล่าว พร้อมกับเสริมอีกว่า "เป็นที่ชัดเจนในฐานะที่เป็นเพื่อนบ้านกัน กรณีนี้อาจกลายเป็นอีกประเด็นที่ขัดแย้งกัน"
ในช่วงที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์หลบหนีนั้น หนังสือพิมพ์พนมเปญโพสต์ รายงานอ้างเจ้าหน้าที่กรมหนังสือเดินทางของกัมพูชาซึ่งกล่าวว่า "น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นคนไทย เธอไม่ใช่ชาวกัมพูชา ดังนั้นผมไม่ออกพาสปอร์ตให้แก่ชาวต่างชาติ"
กรมตรวจคนเข้าเมืองกระทรวงมหาดไทยของกัมพูชา กล่าวในขณะนั้นเช่นกันว่า ไม่มีรายงานใดๆ เกี่ยวกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่เป็นนายกรัฐมนตรีไทยระหว่างปี 2554-2557 ในเรื่องที่พูดกันว่าเธอเดินทางไปยังสิงคโปร์โดยผ่านกัมพูชา
กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาและกระทรวงการต่างประเทศของไทย ไม่ให้คำตอบใดๆ เมื่อเซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์สอบถามขอรับทราบความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ในวันพุธ
กัมพูชาเป็นพันธมิตรใกล้ชิดกับจีน โดยมีความสัมพันธ์ต่อกันอย่างแนบแน่นทั้งทางด้านเศรษฐกิจและการทหาร น.ส.ยิ่งลักษณ์กับพี่ชายคือนายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีไทยเช่นกัน ต่างอยู่ในจีนช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อเยือนถิ่นฐานบรรพบุรุษ ที่เมืองเฟิงซุ่นในมณฑลกวางตุ้ง
เอกสารการจดทะเบียนบริษัทในฮ่องกงของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นี้ ยังได้เปิดเผยให้เห็นขอบเขตเครือข่ายอันกว้างขวางทางครอบครัวของเธอ โดยขณะที่บริษัทในฮ่องกงแห่งนี้มีเธอเองเป็นกรรมการเพียงคนเดียว แต่ในการจดทะเบียนนั้น ยังมีการระบุว่า บริษัทอีกแห่งหนึ่งที่มีชื่อเดียวกัน ทว่าใช้ที่อยู่ในกรุงเทพฯ ได้ยื่นขอทะเบียนเป็นสมาชิกก่อตั้งของบริษัทด้วย
ปรากฏว่าบริษัทในไทยที่ใช้ชื่อว่า พีทีคอร์ปอเรชั่น เช่นกันแห่งนั้น มีนางพิณทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ และน.ส.แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวทั้ง 2 ของนายทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทแห่งนั้น ทั้งนี้เป็นการเปิดเผยของบริษัทที่แยกจดทะเบียนในกรุงเทพฯ อีกบริษัทหนึ่ง
เมื่อเซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ ตามไปเยี่ยมบริษัทพีทีคอร์ปอเรชั่น ในฮ่องกง ตามที่อยู่ซึ่งระบุว่าอยู่ที่ K11 Atelier in Tsim Sha Tsui (ชิมซาจุ่ย) ได้พบว่าเป็นอาคารสำนักงานทันสมัยสูง 66 ชั้น แต่สำนักงานที่อยู่ดังกล่าว เป็นของอีกบริษัทหนึ่งที่ใช้ชื่อแปซิฟิก อินเตอร์เนชั่นแนล แคปปิตอล หนึ่งในกรรมการของบริษัทนี้คือ เฉิน ฮว่ายตาน ซึ่งเป็นที่รู้จักกันก่อนหน้านี้ในชื่อ เซลีน ถัง
เจ้าหน้าที่ที่บริษัทกล่าวว่า พวกเขาไม่รู้จักบริษัทพีทีคอร์ปอเรชั่น หรือ มีความเกี่ยวพันใดๆ กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์
"ผมไม่ทราบว่าคุณมาหาเราทำไมเกี่ยวกับบริษัทนี้" เจ้าหน้าที่คนหนึ่งกล่าว ต่อมาลูกจ้างของบริษัทอีกคนได้ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ทางโทรศัพท์"
นางเฉินยังเป็นกรรมการผู้จัดการของ บริษัทซิงไห่อี้ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทด้านอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดสิงคโปร์ บริษัทแห่งนี้ก็ไม่ยอมตอบข้อสอบถามใดๆ ในวันพุธนี้เช่นกัน
ตามข้อมูลในเว็บไซต์ของ ซิงไห่อี้ กรุ๊ป ก่อนปี 2538 นั้นนางเฉินทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ตุลาการศาลแขวงซานโถว (ซัวเถา) เธอสำเร็จการศึกษาปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยความมั่้นคงปลอดภัยของประชาชน ในประเทศจีน ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐ
เชื่อกันว่าเธอกับสามีคือกอร์ดอน ถัง อี้กัง มีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์มาก จนกระทั่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้จดทะเบียนที่อยู่ของตัวเองในฮ่องกง ที่บ้านหรูหลังหนึ่งที่ เดอะ พีค ซึ่งนางเฉินกับสามีซื้อเป็นเงิน 250 ล้านดอลลาร์ฮ่องกงเมื่อปี 2555 ทั้งนี้ตามบันทึกในหนังสือจดทะเบียนจากสำนักงานจดทะเบียนที่ดินฮ่องกง
มีรายงานเมื่อก่อนนี้ที่ระบุว่า สามีภรรยาคู่นี้มีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับนักการเมืองสหรัฐฯหลายคน และได้บริจาคเงิน 1.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ เพื่อสนับสนุนนายเจ็บ บุช (น้องชายอดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช และ อดีตผู้ว่าราชการรัฐเท็กซัส) ในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี 2559 ทั้งนี้เป็นข้อมูลด้านการเงินที่เปิดเผยโดยหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐแห่งหนึ่ง
บริษัทที่ทำหน้าที่เป็นเลขานุการของพีทีคอร์ปอเรชั่น คือ HYL Secretarian Service ก็จดทะเบียนในเดือนเดียวกันกับบริษัทแรก
นายอเล็กซานเดอร์ เหลียง โห่อิน ซึ่งเป็นทนายความคนหนึ่ง เมื่อวันพุธปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์พูดคุยทางโทรศัพท์เกี่ยวกับธุรกิจของบริษัทนี้กับพีทีคอร์ปอเรชั่น เขากล่าวว่าเคยได้ยินเกี่ยวกับพีทีคอร์ปอเรชั่น จะเปลี่ยนไปใช้บริษัทเลขานุการอีกแห่งหนึ่งแทน ซึ่งข้อมูลระบุว่านับเป็นครั้งที่สองของพีทีคอร์ปอเรชั่น
น.ส.ยิ่งลักษณ์ซึ่งเคยเป็นกรรมการอำนวยการบริษัทเทเลคอมที่พี่ชายเป็นเจ้าของ และ ทำธุรกิจแขนงอสังหาริมทรัพย์ของครอบครัว ได้เข้าถือครองบริษัทบริหารท่าเรือที่ซานโถว หลังจากบริษัท Hutchison Port Holdings ถอนหุ้นส่วน 70% ของตนที่ถือผ่านบริษัท Hutchison Ports Shantou ออกไปเดือน ธ.ค.ที่แล้ว
บริษัท Hutchison Port กล่าวในวันพุธนี้ว่า บริษัทได้ขายหุ้นของตนออกไปทั้งหมดในราคาที่ไม่เปิดเผย ให้แก่ผู้ลงทุนจากสิงคโปร์รายหนึ่ง โดยไม่ยอมเปิดเผยชื่อ
โฆษกของบริษัทนี้ไม่ยอมเปิดเผยว่า มีการซื้อขายกันตั้งแต่เมื่อไร ให้ความเห็นเพียงว่า การที่นักลงทุนจะนำใครเข้ามาบ้าง หลังบริษัทได้ขายหุ้นไปนั้น อยู่นอกเหนือการควบคุมของบริษัท
หุ้นส่วนอีก 30% ถือโดยบริษัทสาขาในซานโถวของ China Merchants Port Group หลักฐานการจดทะเบียนแสดงให้เห็นว่า นางเฉินได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการ Hutchison Ports Shantou วันที่ 11 พ.ย.2561 โดยมีพนักงานจากสิงคโปร์ จีนแผ่นดินใหญ่ และ ผู้ถือบัตรประจำตัวประชาชนฮ่องกงอีก 3 คน
เอกสารยังเปิดแสดงด้วยว่า เมื่อปี 2559 นายทักษิณได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการบริษัทในฮ่องกงอีกแห่งหนึ่ง ที่ชื่อว่า Planet Telecom (HK) Company Limited
ทักษิณอายุ 69 ที่หลบหนีออกนอกประเทศไหลังถูกโค้นล้มในการรัฐประหารของฝ่ายทหารปี 2549 ได้ใช้หนังสือเดินทางของประเทศมอนเตนีโกรในการยื่นจดทะเบียน ที่อยู่ของเขาถูกระบุว่าอยู่ที่ Emirates Hill อาณาบริเวณที่หรูหราของดูไบ ซึ่งเป็นที่อาศัยจตลอดทศวรรษที่ผ่านมา
เว็บไซต์เดอะเปเปอร์ลบข่าว “ยิ่งลักษณ์” ออกแล้ว
อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวแจ้งว่า จากการตรวจสอบเว็บไซต์เดอะเปเปอร์ (www.thepaper.cn) ของจีน ที่รายงานข่าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี บุคคลหลบหนีคำพิพากษาจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จำคุก 5 ปี จากคดีปล่อยทุจริตจำนำข้าว เข้าไปซื้อกิจการ บริษัท ซัวเถา อินเตอร์เนชั่นแนล คอนเทนเนอร์เทอร์มินัล จำกัด (Shantou International Container Terminal) ในเมืองซัวเถา มณฑลกวางตุ้ง สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อเดือนธันวาคม ที่ผ่านมา นั้น ขณะนี้เว็บไซต์ดังกล่าวได้ลบข่าวดังกล่าวไปแล้ว โดยขึ้นข้อความหน้าจอว่า มีบางอย่างผิดพลาด! ไม่พบบทความดังกล่าว
ก่อนหน้านี้สำนักข่าวได้นำเสนอข่าวระบุว่า บริษัทซัวเถาคอนเทนเนอร์เทอร์มินัลก่อตั้งขึ้นในปี 2537 ด้วยทุนจดทะเบียน 88 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มูลค่าร่วม 3 พันล้านบาท ตามข้อมูลการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมและเชิงพาณิชย์แสดงให้เห็นว่า ผู้บริหารท่าเรือตู้คอนเทนเนอร์ Shantou ได้เปลี่ยนจาก Lin Daqi เป็น น.ส.ยิ่งลักษณ์ เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม ที่ผ่านมา
ขณะที่ล่าสุดเฟซบุ๊ก กรุงเทพ กรุงเทพ อ้างว่าได้เบอร์ติดต่อที่ทำงาน ท่านประธาน SICT มาแล้ว แล้วได้เบอร์ แผนกต่างๆ มาด้วยเบอร์ที่ทำงาน ท่านประธาน ยิ่งลักษณ์ ขึ้นต้นเหมือนกันหมด 0754-88939XXX