xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวปนคน คนปนข่าว

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ข่าวปนคน คนปนข่าว

**ระวังดราม่าไม่เข้าเรื่อง!! “เดอะแจ๊ค”ฉุน “แก๊ง 3 ลูกกรอก”ประกาศยึด ส.ส.เมืองกรุง แล้วดันอารมณ์ค้าง หล่นคำแรงใส่ “สนธิรัตน์”ทำคนโดนพาดพิงเซ็งคำพูดดูถูกเชื้อชาติ ที่ไม่น่าหลุดจากปาก“อดีตผู้ทรงเกียรติ” แล้วที่หาว่าโม้ ก็แค่เทียบ “รถไฟนิวยอร์ค”ที่ใครเคยนั่ง ก็รู้ว่าโทรมแค่ไหน ถ้าโม้ว่าจะดีกว่า“รถไฟญี่ปุ่น”นั่นก็อีกเรื่อง

เดือดปุดๆ ทีเดียว .. คิวที่ “เดอะแจ๊ค”วัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.ฝีปากกล้า ค่ายประชาธิปัตย์ จัดหนักถลกหนัง “อดีตคนกันเอง” .. ตั้งแต่ “เสี่ยบี”พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ “เสี่ยจั้ม”สกลธี ภัททิยกุล และ“เสี่ยตั้น”ณัฐพล ทีปสุวรรณ อดีตเพื่อร่วมค่ายประชาธิปัตย์ .. ที่วันนี้กลายร่างมาตั้งตัวเป็น “ลูกกรอกพลังประชารัฐ”ประกาศนำ “พรรคพลังประชารัฐ”ปักธง ส.ส.กทม.15 ที่นั่ง หรือครึ่งเมืองหลวง .. แม้ “3เสี่ยแห่งแก๊งลูกกรอก” จะไม่เปิดหน้าชน “สังกัดเก่า”ตรงๆ บอกเน้นเจาะพื้นที่ “เพื่อไทย”เป็นหนัก แต่ 15 ที่นั่งเป้าหมายมันย่อมกินโควตาประชาธิปัตย์ไปด้วย .. เป็นเหตุให้ “เดอะแจ๊ค”ท้าเหยงๆ ให้ “3 เสี่ย”ลงสมัคร ส.ส.ในเขตเดิมของตนเอง ที่เคยเป็นส.ส.มาก่อน จะได้รู้อะไรเป็นอะไร ..
อารมณ์ค้างก็เลยฟาดงวงฟาดงา ใส่ สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ไปด้วยอีกคน .. หล่นคำแรง “เจ็กขี้โม้”สวนประโยคที่ “เลขาฯสน”บอกว่า “อีก 4 ปี รถไฟฟ้ากรุงเทพฯ จะดีกว่านิวยอร์ค” ..ทำเอา “สนธิรัตน์”เซ็งในอารมณ์ไม่น้อย เจอพาดพิงไม่ว่า ดันใช้คำพูดดูถูกเหยียดเชื้อชาติอย่างชัดเจน บ่นพึม ไม่น่าจะหลุดออกมาจากคำพูดของนักการเมือง .. ที่น่ากลัวกว่านั้น ก็ห่วงว่าอาจเป็นประเด็น “เซนซิทีฟ-อ่อนไหว” ไปถึงระดับประเทศ ความสัมพันธ์กับ “ประเทศจีน”ที่กำลังไปได้สวยอีกด้วย แล้วมันจะดราม่าไม่เข้าเรื่อง .. แล้วที่ไปว่าเขาโม้ ก็ไม่ได้เรื่องใหญ่โตเป็นประเด็น กะอีแค่บอกจะทำรถให้เหมือน “นิวยอร์ค”ฟังเผินๆ ก็ดี แต่ใครเคยไปนั่งก็รู้ดีว่าโทรมสุดๆแค่ไหน ถ้าจะโม้ทั้งที บอกจะทำให้ดีกว่า “รถไฟญี่ปุ่น” นั่นก็อีกเรื่อง.

**ขนาด“ลุงป้อม”ยังยี้!! “เสี่ยอ๊อด”ต้องพิจารณาตัวเอง อย่าหยุดแค่ปลด “โค้ชมิโล”บูชายัญ ผลงานห่วยแตกพ่าย “อินเดีย”ยับเยิน ย้อนคำ“ถ้าไม่มีอะไรดีขึ้น ผมจะขอลาออกเอง”ไม่ได้แชมป์อาเซียน ส่อตกรอบเอเชียนคัพ น่าจะพิสูจนแล้ว บอลไทยไม่ดีขึ้น หนักไปทางแย่ลงด้วยซ้ำ บอลลีก ก็ตกต่ำ หมดข้ออ้างอยู่ต่อแล้วครับ“เสี่ยอ๊อด”

ใครไม่อาย ผมอายครับ (อีกซักรอบ) .. ดูไม่จืด ทั้งผลการแข่งขัน ทั้งฟอร์มการเล่นของทัพช้างศึกทีมชาติไทย ในนัดแรกของศึกฟุตบอลเอเชียนคัพ ที่ประเดิมสนามพบกับ ทีมจาก “แดนภารตะ”ทีมชาติอินเดีย .. ด้วยสกอร์ 4 ประตูต่อ 1 ภาษาวงการลูกหนังเรียกว่า “ต้อนตือ”ไม่ไว้หน้า “อดีตเบอร์ 1 อาเซียน”บ้างเลย .. จริงอยู่ ทีมชาติอินเดียไม่ใช่ละอ่อนมาจากไหน แรงกิ้งฟีฟ่า ก็สูงกว่าทีมชาติไทยนับสิบอันดับ แต่ผลที่ออกมามันเกินจะรับไหว .. อีกทั้งสถิติ มันก็ชัดว่า ชื่อชั้นไม่ได้ทิ้งกันขนาดนั้น กว่า 30 ปี ที่ไทยไม่เคยพลาดท่าให้กับอินเดียเลย .. คำถามมีว่า แล้วมันเกิดอะไรขึ้น สิ่งที่ “เละเทะ”กว่าสกอร์ท้ายเกม คงเป็น“รูปเกม”ที่ทัพช้างศึก สู้ไม่ได้เลย .. ทั้งๆ ที่ตัวหลักจากต่างแดนก็ลงกันครบครัน ขาดก็แต่ กวิน ธรรมสัจจานันท์ ผู้รักษาประตูมือหนึ่ง แค่รายเดียว .. ที่เหลือพร้อมหน้า “เจ้ามุ้ย”ธีรศิลป์ แดงดา “เจ้าเจ”ชนาธิป สรงกระสินธุ์ และ“เจ้าอุ้ม”ธีราทร บุญมาทัน ถูกส่งลงเป็นตัวจริง เต็มสูบ .. หมด“ข้ออ้าง”ที่ว่า “ขาดตัวหลัก”ซึ่งเคยใช้เมื่อครั้งล้มเหลวตกรอบรองฯ รายการ เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2018 เมื่อเดือนก่อน ..
ด้วยขุนพลที่เรียกว่าฟูลทีม แต่ผลงานห่วยแตก จะให้นั่งปลง“ลูกกลมๆ อะไรก็เกิดขึ้นได้”ก็คงไม่ไหว .. แรงกดดันถาโถมเข้าใส่ "เสี่ยอ๊อด" พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฟุตบอลฯ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ .. ตลอดจน“โค้ชมิโล”มิโลวาน ราเยวัช กุนซือชาวเซอร์เบีย ที่ระยะหลังดูจะไม่เป็นที่รักของ“ติ่งช้างศึก” ด้วยแทกติก ที่ไม่สมราคา “กุนซือระดับโลก”นำมาซึ่งผลงานที่สาละวันเตี้ยลงๆ .. แน่นอน “อดีต ผบ.ไซด์ไลน์”คงติดตามกระแสด่ากราดในโซเชียลฯ นำมาซึ่งการปลด “โค้ชมิโล”ออกจากตำแหน่งกลางอากาศ .. เมื่อเวลาตี 4 กว่าๆ ตามเวลาประเทศไทย หรือราวเที่ยงคืน ที่ยูเออี สถานแข่งขันเอเชียนคัพ .. พร้อมแต่งตั้ง “โค้ชโต่ย”ศิริศักดิ์ ยอดหญ้าไทย และ “โค้ชโชค”โชคทวี พรหมรัตน์ ร่วมกัน “ขัดตาทัพ”นำทัพช้างศึกในทัวร์นาเมนต์นี้ .. กับศึกหนัก ทีมชาติบาเรนห์ และ ยูเออี เจ้าภาพ ใน 2 แมตซ์ที่เหลือ โอกาสพลิกเข้ารอบ ริบหรี่ .. สกอร์ที่พังพาบให้ “ทีมภารตะ”ถูกนำไปเทียบกับที่เคยแพ้ ญี่ปุ่น 0-4 เกมรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2018 .. วลีอมตะของ “นายกฯอ๊อด”ถูกขุดมาตอกหน้าอีกครั้ง "ใครไม่อาย ผมอายครับ”และ จากเหตุการณ์เดียวกันนั้น “เสี่ยอ๊อด”ก็ประกาศไว้คำโตว่า “ถ้าไม่มีอะไรดีขึ้น ผมจะขอลาออกเอง” ..มาวันนี้ผลงานมันฟ้อง ทั้งทีมชาติไม่พัฒนา หนักไปในทางแย่ลงด้วยซ้ำ บอลลีก ก็ตกต่ำจนอาการน่าเป็นห่วง .. บอกเลยปลด “โค้ชมิโล”ยังไม่สาแก่ใจ เสียงเรียกร้องยังกระหึ่มให้ “เสี่ยอ๊อด”พิจารณาตัวเอง .. ล่าสุดมีเสียงเข้มๆ “บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะประธานโอลิมปิกไทย ที่ออกตัวว่า คงไปปลดเขาออกจากตำแหน่งไม่ได้ .. "ตัวนายกสมาคม และสมาคม เขาก็ต้องพิจารณาตัวเอง" พี่ใหญ่ว่าไว้อย่างนั้น

**ยกนิ้วให้ในสปิริต!! เปิดเบื้องหลังถ่ายทำ “อุตตม” สั่งยกเลิกกำหนดการคิกออฟนโยบาย “พลังประชารัฐ” ด่วน หันมาสวมหมวก “รมว.อุตสาหกรรม” เรียกประชุมผู้บริหารกระทรวง คลอด "5 มาตรการ ทำทันที” ช่วยเหลือพี่น้องชาวใต้ที่ประภัย “พายุปาบึก” ทันควัน สะท้อนหมวก 2 ใบ ของ “4 รัฐมนตรีพลังประชารัฐ” ทำเสียเปรียบชาวบ้านมากกว่า

ล้อกันกิ๊วๆๆ .. กำหนดการ“พรรคพลังประชารัฐ”นัดแถลงใหญ่ คิกออฟนโยบายลุยศึกเลือกตั้ง เมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 ม.ค. ถูกยกเลิกกระทันหัน .. พวกก็แซวกันว่าเป็น“พรรคพลังประชาเลื่อน”บ้าง “พลังประชาเท”บ้าง เย้นหยันไปอีกว่า สงสัยไม่พร้อมจะลงสนาม .. กระทั่งแถลงการณ์ของพรรค ออกมาระบุถึงสาเหตุที่เลื่อนไปอย่างไม่กำหนดว่า มาจาก “พายุปาบึก”ที่เป็นช่วงช่วยเหลือผู้น้องผู้ประสบภัย ในพื้นที่ .. ก็ยังถูกแขวะไปอีกว่า“โหนกระแส” ใช้เป็นข้ออ้างมากกว่า ด้วยหมายสำคัญระดับ อุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค แถลงเอง .. หากแต่เบื้องลึกเบื้องหลัง น่าสนใจ ขนาด“ทีมงานเบื้องหลัง”ที่เตรียมงานพร้อมสรรพ รอแค่แถลง ก็เพิ่งถึงบางอ้อ .. ด้วยเข้าใจ “อุตตม”ที่ประเมินสถานการณ์ “พายุปาบึก”แล้วเชื่อว่า จะเข้าขั้นวิกฤต ประชาชนเดือดร้อน ภาคอุตสาหกรรมเสียหาย .. จนจำใจต้องถอดหมวก“หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ” กลับมาใส่หมวก“รมว.อุตสาหกรรม”ทันที .. จากเดิมที่เซตภารกิจในภาค “นักการเมือง”ไว้ในวันอาทิตย์ ที่เป็นวันหยุดราชการ ต้องสั่งยกเลิก แล้วมาทำหน้าที่ “รัฐมนตรี”แทน ..
หลังยกเลิกกำหนดการ “หัวหน้าพรรค”แล้ว “อุตตม”ก็ได้เรียกประชุมฉุกเฉิน กับปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และผู้บริหารทุกหน่วยงานในสังกัด อย่างเร่งด่วน .. เพื่อระดมจัดทำแพกเกจ เยียวยาช่วยเหลือพี่น้องชาวใต้ ที่ได้รับผลกระทบครั้งนี้ ให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม คือข้อสั่งการของ“อุตตม” ในวันนั้น .. หลังการประชุม นำมาซึ่ง " 5 มาตรการ ทำทันที”ออกมาเพื่อช่วยเหลือพี่น้องชาวใต้ ที่ประภัย“พายุปาบึก”ทันควัน .. ถือว่าเป็นการขับเคลื่อนเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ภัยพิบัติได้อย่างรวดเร็ว และควรแซ่ซ้องสรรเสริญไม่น้อย .. ติดก็แต่ “รมต.อุตตม”ดันมีหมวกอีกใบ เป็น“หัวหน้าพรรคการเมือง”จะป่าวประกาศโพนทะนา ก็คงถูกหาว่าใช้ตำแหน่งหาเสียง .. หากแต่ “เบื้องหลังการถ่ายทำ”ที่ไม่ได้ตีฆ้องร้องป่าวเรียกแต้มอะไรนี้ ก็สะท้อนให้เห็นถึง “สปิริต”ของ “รมต.อุตตม”ได้เป็นอย่างดี .. เป็นสปิริตที่เหนือกว่าข้อเรียกร้องให้ลาออกจากตำแหน่งจากฝ่ายการเมืองที่เป็นแค่ “เปลือกนอก” ซะอีก .. แล้วยังสะท้อนให้เห็นว่า การสวมหมวก 2 ใบ ของ “4 รัฐมนตรีพลังประชารัฐ”ไม่ใช่แค่ไม่ได้เอาเปรียบชาวบ้าน แล้วยังออกไปในแนวเสียเปรียบด้วย .. เมื่อกิจการพรรคการเมืองในช่วงเวลากระชั้นชิด ถูกเบียดบังด้วย “งานหลวง”ภารกิจในหน้าที่ อยู่ตลอดเวลา

ช.ชฎา

+++++++++++
รูป-
- สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ - วัชระ เพชรทอง
- พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง - พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
- อุตตม สาวนายน
กำลังโหลดความคิดเห็น