จากกรณีที่ผู้ปกครองของเด็กหญิง อายุ 12 ปี ซึ่งเรียนอยู่ชั้น ม.1 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท พาลูกสาวเดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชัยนาท โดยแจ้งว่า ลูกสาวถูก นายดำรงค์ หรือ ครูบอล อายุ 40 ปี ครูสอนวิชาพละศึกษา ของโรงเรียน หลอกพาลูกสาวไปขืนใจล่วงเมิดทางเพศ ถึง 2 ครั้ง แต่ทางโรงเรียนกลับเพิกเฉย เพียงแค่ให้นายดำรงค์ ไปช่วยราชการทางกองการศึกษา เทศบาลวัดสิงห์หน่วยงานต้นสังกัด จึงต้องการให้ศูนย์ดำรงธรรม ช่วยเหลือ เพราะเกรงว่านายดำรงค์ จะลอยนวลพ้นผิด
ต่อมาทางเทศบาลตำบลวัดสิงห์ ได้สั่งให้ นายดำรงค์ ไปช่วยราชการที่กองการศึกษาไว้ก่อน เพื่อพิจารณาบทลงโทษ ตามที่คณะกรรมการสอบวินัย ลงความเห็นว่า มีมูลความผิดจริงต่อไป ส่วนเรื่องทางคดี ตำรวจ สภ.วัดสิงห์ ได้แยกสำนวน 2 ฟ้อง เป็น 2 คดี ที่ต่างกรรมต่างวาระ ตามที่ได้มีการเสนอข่าวไปนั้น
ล่าสุด แม่ของเด็กหญิงผู้เสียหายได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ทางฝ่ายครูพละ ได้พยายมติดต่อผ่านญาติของตน โดยเสนอให้เงิน 200,000 บาท เพื่อให้จบเรื่อง อีกทั้งบอกกับตาของเด็กหญิงว่า "รับเงินไปเถอะ จะได้จบๆ กันไป ส่วนเรื่องคดีไม่ต้องห่วง ครูจะวิ่งเต้นทางตำรวจกับอัยการเอง ศักดิ์ศรีมันกินไม่ได้หรอก รับเงินไปดีกว่า"
เรื่องนี้พอทางแม่ของนักเรียนหญิงผู้เสียหาย ทราบเรื่องก็ไม่พอใจอย่างมาก โดยยืนยันว่า จะไม่รับเงินจากนายดำรงค์ ครูพละฉาวรายนี้แม้แต่สตางค์แดงเดียว เพราะนายดำรงค์ ทำร้ายลูกสาวที่จะเป็นตราบาปไปชั่วชีวิต ถึงครอบครัวของตนจะมีฐานะไม่ได้ร่ำรวยอะไร แต่ก็ยืนยันว่า เงินซื้อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของเราไม่ได้ และที่สำคัญ ครูไม่ได้มีท่าทีสำนึกต่อความผิดแม้แต่น้อย จึงจะขอเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
ต่อมาทางเทศบาลตำบลวัดสิงห์ ได้สั่งให้ นายดำรงค์ ไปช่วยราชการที่กองการศึกษาไว้ก่อน เพื่อพิจารณาบทลงโทษ ตามที่คณะกรรมการสอบวินัย ลงความเห็นว่า มีมูลความผิดจริงต่อไป ส่วนเรื่องทางคดี ตำรวจ สภ.วัดสิงห์ ได้แยกสำนวน 2 ฟ้อง เป็น 2 คดี ที่ต่างกรรมต่างวาระ ตามที่ได้มีการเสนอข่าวไปนั้น
ล่าสุด แม่ของเด็กหญิงผู้เสียหายได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ทางฝ่ายครูพละ ได้พยายมติดต่อผ่านญาติของตน โดยเสนอให้เงิน 200,000 บาท เพื่อให้จบเรื่อง อีกทั้งบอกกับตาของเด็กหญิงว่า "รับเงินไปเถอะ จะได้จบๆ กันไป ส่วนเรื่องคดีไม่ต้องห่วง ครูจะวิ่งเต้นทางตำรวจกับอัยการเอง ศักดิ์ศรีมันกินไม่ได้หรอก รับเงินไปดีกว่า"
เรื่องนี้พอทางแม่ของนักเรียนหญิงผู้เสียหาย ทราบเรื่องก็ไม่พอใจอย่างมาก โดยยืนยันว่า จะไม่รับเงินจากนายดำรงค์ ครูพละฉาวรายนี้แม้แต่สตางค์แดงเดียว เพราะนายดำรงค์ ทำร้ายลูกสาวที่จะเป็นตราบาปไปชั่วชีวิต ถึงครอบครัวของตนจะมีฐานะไม่ได้ร่ำรวยอะไร แต่ก็ยืนยันว่า เงินซื้อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของเราไม่ได้ และที่สำคัญ ครูไม่ได้มีท่าทีสำนึกต่อความผิดแม้แต่น้อย จึงจะขอเอาเรื่องให้ถึงที่สุด