xs
xsm
sm
md
lg

ปีใหม่เมืองไทยยังไปลำบาก...

เผยแพร่:   โดย: โสภณ องค์การณ์


ปี 2561 จากไปพร้อมกับความทุกข์ระทมของคนเกือบทั่วทั้งแผ่นดิน มีเพียงคนส่วนน้อยที่ไม่มีปัญหาด้านรายได้ เงินสะสม ทรัพย์สินเงินทอง ความพร้อมมากหรือระดับหนึ่งเท่านั้นที่ยังรับสภาพ และส่วนหนึ่งอาจรับรู้ว่าคนยากจน แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร

ภายใต้บรรยากาศห้ามชาวบ้านโวย ชุมนุมเรียกร้อง มีกระบวนการจัดการไม่ให้สร้างปัญหาความมั่นคงกับรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง และยังไม่อยากเลือกตั้ง ถ้ายังมีทางเลือกอื่นสำหรับยื้ออยู่ต่อ ปี 2561 ถือว่าหนักหนาสาหัสมาก

และแนวโน้มสำหรับปีหน้าจะวิกฤตมากกว่านี้ ทั้งภาวะในประเทศและต่างประเทศ เชื่อมโยงกันอย่างแยกไม่ออก ดังเช่นตลาดหุ้นตกรูดต่างประเทศคนบ้านเราก็ตื่นตาม ราคาหุ้นตก ทั้งๆ ที่ไม่มีพื้นฐานเปลี่ยน เป็นเรื่องของความรู้สึก

ดูภาพรวม จากที่เป็นอยู่ ความไม่แน่นอนว่าจะมีเลือกตั้งหรือไม่ก็ยังค้างคา อ้อยอิ่งอยู่ในบรรยากาศนักเลือกตั้ง นักแสวงโชคลาภจากการเมือง รวมทั้งนักลงทุนต่างหวังผลมีส่วนในการจะได้ผ่องถ่ายทรัพย์สินแผ่นดินเข้ากระเป๋าตัวเองและพวก

แต่ดูแล้ว ประเทศไทยไปได้ยาก ถ้ายังไม่มีการเปลี่ยนแปลงเรื่องโครงสร้างหลักด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และภาคส่วนอื่นๆ และพวกหน้าเดิมจะเข้ามากุมอำนาจรัฐ จะมีวิกฤตด้านศรัทธา ความน่าเชื่อถือ ดูหน้าแล้วมีแต่พวกคิดไม่ซื่อทั้งนั้น

ในแผ่นดินนี้ คนใจซื่อ มือสะอาด เจตนาดีต่อชาติ ไม่มีโอกาสได้ทำงานให้บ้านเมืองเต็มที่ เราจึงมีแต่นักฉวยโอกาส คิดว่าถ้าบ้านเมืองเป็นอะไร เราต้องอยู่ได้สบาย ดังนั้นต้องสะสมความมั่งคั่งเพื่อความปลอดภัย แม้จะโกงกินก็ต้องเร่งทำ

โครงสร้างประเทศที่คนมีอำนาจขาดคุณธรรม จริยธรรม ศีลธรรม ความซื่อสัตย์สุจริต จิตสำนึกในด้านความรับผิดชอบทำงานเพื่อบ้านเมือง เราจะมีแต่ประสบความเสื่อมถดถอย ล้าหลังประเทศอื่นๆ ซึ่งมีระบบนิติรัฐน่าเชื่อถือ คนมีวินัย

แผ่นดินไทยอุดมสมบูรณ์ พวกกุมอำนาจรัฐเข้ามากอบโกยทรัพย์สินไปหลายรอบ ทั้งการเมืองเลือกตั้ง รัฐประหารแล้วรวย ก็ยังอยู่ได้ มีความยืดหยุ่นรับกับวิกฤต วันหนึ่งฐานจะผุกร่อนจนอยู่ไม่ได้ หรือประชาชนทนไม่ไหวลุกฮือจัดการมารกินเมือง

เราไปได้ยาก ต่อให้คนเสียงดังวิทยุแปดหลอดคุยฟุ้ง สัญญาว่าสวรรค์มีจริงให้ชาวบ้านบ้องตื้นได้ปลื้มดื่มด่ำกับของฟรีผ่านนโยบายประชานิยมถมไม่เต็ม ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ เราจะมีปัญหาหนี้สินประเทศ การขาดแคลนทรัพยากรรุนแรง

การบริหารบ้านเมืองแต่ละยุคด้วยความโง่เขลาเบาปัญญาแล้วขยัน ผยองอำนาจ ใช้เล่ห์ลิ้นลมปากแหกตาชาวบ้านแต่รุมกินทรัพย์สินแผ่นดินยิ่งกว่าผีปอบหิวโหย ต่อให้มั่งคั่งแค่ไหน ไม่จัดการหามาเติมอย่าให้พร่อง ก็ต้องมีวันหมดสิ้น

ขณะเดียวกัน ความอดทนของคนยากจน คนด้อยโอกาส ก็มีวันสิ้นสุด!

ในแผ่นดินที่ประชาชนมีความหิวโหย ถูกเอาเปรียบ ขูดรีด ผู้กุมอำนาจวางท่ายโสโอหัง ลำพอง ต้องมีการเปลี่ยนแปลง ไม่ช้าก็เร็ว อำนาจจากปากกระบอกปืนกฎหมาย ช่วยให้อยู่ได้ แต่ไม่จีรังยั่งยืน ในโลกนี้ยังไม่เคยมีทรราชอยู่ได้ตลอดกาล

ด้วยโครงสร้างที่ผุกร่อน ผู้นำรัฐมีปัญหาความน่าเชื่อถือ ทำตัวเป็นจำอวดแหกตาหลอกชาวบ้านตีกินไปวันๆ นั้น คนรู้ทันจะมีจำนวนมากขึ้น โครงการประชานิยมต่อให้เสพติดแค่ไหนก็เอาไม่อยู่ เพราะคนสิ้นหนทางสิ้นคิด ทำได้ทุกอย่างเช่นกัน

กว่า 4 ปี ไม่มีการเตรียมพร้อมประเทศให้รับกับการแข่งขัน มีแต่เปิดประเทศให้ต่างชาติทุกระดับเข้ามากอบโกยความมั่งคั่ง สิ้นท่าไม่ถึงขั้นปูผ้าก้มลงกราบ เพียงแค่ไปออกสื่อต่างประเทศออดอ้อนให้เอาเงินมาใช้จ่ายในประเทศเพราะสิ้นหนทาง

สภาวะของความไม่ซื่อต่อประชาชน เงื่อนงำในการตัดสินใจอนุมัติโครงการต่างๆ ทำให้ขาดความน่าเชื่อถือทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น การประมูลเรื่องพลังงาน โครงการรถไฟความเร็วสูง โรงไฟฟ้า นโยบายเรื่องปลดล็อกกัญชา เป็นต้น

การที่ผู้นำรัฐบาลและคณะใช้ทรัพยากรแผ่นดินหาเสียงเพื่อขอสืบทอดอำนาจ ท่ามกลางเสียงครหา ก็ถือว่าไม่มีความโปร่งใส เอาเปรียบผู้อื่น ใช้อำนาจรัฐแสวงหาความได้เปรียบ สร้างความเสื่อมเสียเกียรติภูมิต่อตัวเองและองค์กรที่ควบคุมดูแล

ปัญหาความน่าเชื่อถือ ความศรัทธา ความโปร่งใส การขาดความจริงใจในการดูแลทุกข์สุขของประชาชนจะยังมีผลกระทบในปีใหม่ ถ้ายังไม่เปลี่ยนท่าที ยังมุ่งเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน บ้านเมืองจะอยู่ในความเสี่ยงสูงกับความไม่สงบ การต่อต้าน

เมื่อถึงวาระนั้น จะมีใครรับผิดชอบกับความเสียหายหรือไม่?

ภาพของความขัดแย้งเริ่มแล้วหลังจากปลดล็อก แม้จะเป็นความเห็นต่างทางการเมือง แต่แท้ที่จริง สภาวะความเป็นปฏิปักษ์ด้านผลประโยชน์ การแก่งแย่งชิงอำนาจเพื่อให้ได้โอกาสแสวงหาผลประโยชน์จากทรัพย์สินแผ่นดินโดยไม่อายฟ้าดิน

เห็นได้ชัดว่าเพื่อผลทางการเมืองและผลประโยชน์ จะมีคนคิด หรือทำอะไร อย่างใดก็ได้เพื่อให้บรรลุผล การตั้งพรรคการเมืองเพื่อสืบทอดอำนาจ และกวาดต้อนอดีต ส.ส.พรรคอื่นมาเข้าสังกัดเป็นฐาน แม้จะเป็นกลุ่มขัดแย้งกันมาก่อนก็ยังกล้าทำ

นั่นแสดงให้เห็นว่าผู้กุมอำนาจรัฐทุกวันนี้ขาดหลักการเพื่อการทำงานเพื่อบ้านเมือง ยังไม่เห็นเจตนาที่จะทำงานเพื่อความมั่นคงก้าวหน้าของประเทศอย่างยั่งยืนการใช้นโยบายประชานิยมเพื่อการสืบทอดอำนาจ ไม่คำนึงถึงวินัยทางการคลัง

ข้อกล่าวหา 8 ประการของหม่อมอุ๋ย ยังไม่มีใครกล้ามาชี้แจงหรือแก้อย่างจริงจัง เพียงแค่เล่นลิ้นหักเหเฉไฉประเด็น แค่นี้ก็พิสูจน์ได้แล้วว่าข้อกล่าวหานั้นจริง!


กำลังโหลดความคิดเห็น