xs
xsm
sm
md
lg

แก๊งโกง'สจล.'อ่วมเจอคุกสูงสุด203ปี-"ถวิล พึ่งมา"รอด

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ผู้จัดการรายวัน 360 - ศาลมีนบุรีอ่านคำพิพากษามาราธอน 15 ชม. คดีทุจริตเงินสถาบันการศึกษา สจล.-ฟอกเงิน ร่วม 700 ล้านบาท ลงโทษจำคุก 11 จำเลย "อำพร" อดีต ผอ.ส่วนการคลัง เจอคุกอ่วม 203 ปี ส่วนอดีต ผจก.แบงก์โดน 193 ปี ที่เหลือโดนตั้งแต่ 4 ปี 6 เดือน ถึง 36 ปี ยกฟ้อง 3 คน รวม "ถวิล พึ่งมา" อดีตอธิการบดี

เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 61 ศาลจังหวัดมีนบุรี ถ.สีหบุรานุกิจ นัดอ่านคำพิพากษาคดีทุจริตเงินสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) 3 สำนวน ในคคดีหมายเลขดำ อ.1992/2558 , อ.6499/2558, อ.4592/2560 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 11 (อัยการจังหวัดมีนบุรี) เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายทรงกลด ศรีประสงค์ อายุ 43 ปี อดีตผู้จัดการธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาบิ๊กซีสุวินทวงศ์ จำเลยที่ 1, น.ส.อำพร น้อยสัมฤทธิ์ อายุ 59 ปี ผู้อำนวยการส่วนการคลัง สจล. ที่ 2 , นายพูนศักดิ์ บุญสวัสดิ์ อายุ 30 ปี ที่ 3, น.ส. จันทร์จิรา โสประดิษฐ์ อายุ 30 ปี ที่ 4 , นายสมบัติ โสประดิษฐ์ อายุ 47 ปี ที่ 5 , นางระดม มัทธุจัด อายุ 58 ปี ที่ 6 , นายจริวัฒน์ สหพรอุดมการณ์ อายุ 35 ปี ที่ 7, นายภาดา บัวขาว อายุ 31 ปี ที่ 8 , นายถวิล พึ่งมา อายุ 64 ปี อดีตอธก.สจล.ที่ 9 , นายสรรพสิทธิ์ ลิ่มนรรัตน์ อายุ 54 ปี อดีตผช.อธก. ที่ 10 , นายสลุต ราชบุรี อายุ 57 ปี ที่ 11 , นายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด ที่ 12 , นายสมพงษ์ สหพรอุดมการณ์ ที่ 13 และนายธวัชชัย ยิ้มเจริญ ที่ 14

ในความผิดฐานร่วมกันร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม ยักยอกทรัพย์ และฟอกเงิน เหตุเกิดระหว่างวันที่ 25 มิ.ย.- 12 พ.ย.55 ต่อเนื่องในปี 2557 พวกจำเลยได้ร่วมกันยักยอกทรัพย์เบียดบังทรัพย์ 689 ล้านบาทเศษ ของ สจล.ไปเป็นของตนเองหรือผู้อื่นโดยทุจริต และยังร่วมกันฟอกเงิน 303 ล้านบาทเศษด้วย ซึ่งจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ โดยนายถวิล และกลุ่ม อาจารย์ สจล. รวม 3 คน ได้รับการประกันตัวระหว่างพิจารณาคดี โดยเนื้อหาคำพิพากษา ความหนา 572 หน้า ซึ่งใช้องค์คณะผลัดเปลี่ยนหมุนอ่านคำพิพากษาต่อเนื่อง 12 คน รวมระยะเวลานานกว่า 15 ชั่วโมง

โดยศาลได้พิเคราะห์ถึงพฤติการณ์ของนายทรงกลด จำเลยที่ 1 และน.ส.อำพร จำเลยที่ 2 ร่วมกันใช้ทั้งอำนาจในหน้าที่และในฐานะส่วนตัวฉ้อฉล ลักทรัพย์เงินจากบัญชี สจล.ไปเมื่อเดือนธ.ค.57 ยอดแรกกว่า 80 ล้านบาท และร่วมกับนายพูนศักดิ์ จำเลยที่ 3 ฟอกเงินที่จำเลยที่ 3 ได้เปิดบัญชีรับฝากเงินไว้แล้วมีการโอนเงินยอด 55 ล้านบาท ไปเพื่อประโยชน์ของพวกตนเอง รวมถึงพยานหลักฐานที่โจทก์และจำเลยทั้ง 14 คน จึงพิพากษาจำคุก รวม 11 คน ยกฟ้อง 3 คน

นายทรงกลด จำเลยที่ 1 พิพากษาจำคุกรวม 193 ปี 8 เดือน คำให้การเป็นประโยชน์อยู่บ้างลดโทษให้ 1 ใน 4 คงจำคุก 145 ปี 3 เดือน โดยโทษกระทงหนักสุดที่จำคุกสูงสุดนั้นเกินกว่า 10 ปี ดังนั้นเมื่อรวมลงโทษทุกกระทงแล้วคงจำคุกทั้งสิ้น 50 ปี โดยให้จำเลยที่ 1 ชดใช้เงินคืน สจล.โจทก์ร่วมที่ 1 ตามแคชเชียร์เช็ค 2 ฉบับ รวม 80 ล้านบาท และคืนเงิน ธ.ไทยพาณิชย์ โจทก์ร่วมที่ 2 อีก 636,795,884.80 บาท

น.ส.อำพร จำเลยที่ 2 โทษจำคุกรวม 203 ปี ลดโทษ 1 ใน 4 คงจำคุก 152 ปี 3 เดือน โดยโทษกระทงหนักสุดที่จำคุกสูงสุดนั้นเกินกว่า 10 ปี ดังนั้นเมื่อรวมลงโทษทุกกระทงแล้วคงจำคุกทั้งสิ้น 50 ปี โดยให้จำเลยที่ 2 ร่วมจำเลยที่ 1 ชดใช้เงินคืน สจล.โจทก์ร่วมที่ 1 ตามแคชเชียร์เช็ค 2 ฉบับ รวม 80 ล้านบาท และคืนเงิน ธ.ไทยพาณิชย์ โจทก์ร่วมที่ 2 อีก 608,675,884.80 บาท

ส่วนจำเลยที่ 3 นายพูนศักดิ์ จำคุก 12 ปี ลดโทษ 1 ใน 4 คงเหลือ 9 ปี, น.ส.จันทร์จิรา จำคุก 6 ปี ลดโทษ เหลือ 4 ปี 6 เดือน, นางระดม จำคุก18 ปี ลดโทษเหลือ 13 ปี 6 เดือน, นายจริวัฒน์ จำคุก 12 ปี ลดโทษเหลือ 9 ปี,นายสลุต จำคุก 12 ปี ลดโทษเหลือ 9 ปี, นายสมพงษ์ จำคุก 6 ปี ลดโทษเหลือ 4 ปี 6 เดือน นายธวัชชัย จำคุก 6 ปี ลดโทษเหลือ 4 ปี 6 เดือน

ขณะที่นายสรรพสิทธิ์ โทษจำคุก 33 ปี ลดโทษเหลือ 24 ปี 9 เดือน ให้ร่วมจำเลยที่ 1 และที่ 2 คืนเงิน ธ.ไทยพาณิชย์ โจทก์ร่วมที่ 2 อีก 55,972,785.80 บาท และนายนายกิตติศักดิ์ โทษจำคุก 36 ปี ลดโทษเหลือ 27 ปี โดยโทษกระทงหนักสุดที่จำคุกสูงสุดนั้นเกินกว่า 3 ปีแต่ไม่เกิน 10 ปีดังนั้นเมื่อรวมลงโทษทุกกระทงแล้วคงจำคุกทั้งสิ้น 20 ปี

ส่วนจำเลย 3 คนที่ศาลยกฟ้องประกอบด้วย นายสมบัติ จำเลยที่ 5 นายภาดา จำเลยที่ 8 และนายถวิล จำเลยที่ 9

นายถวิล กล่าวภายหลังศาลมีคำพิพากษายกฟ้อง ว่า ขอขอบคุณศาลที่ให้ความเป็นธรรม ซึ่งตนไม่ได้กระทำผิด หากอัยการจะยื่นอุทธรณ์ ก็พร้อมสู้คดี ส่วนคดีที่ตน กับพวกถูกอัยการยื่นฟ้องที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางนั้น ฐานยักยอกทรัพย์ สจล. และความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานในองค์การของรัฐตนก็ไม่รู้สึกหนักใจอะไร เพราะตนไม่ได้กระทำผิดแต่อย่างใด


กำลังโหลดความคิดเห็น