โจ๋หื่นมอบตัวครบ 5 ราย นำส่งสถานพินิจฯ "จักรทิพย์" มอบ "รองผบช.ภ.1" ดูคดีโทรมเด็ก 12 รองโฆษกตร.ยัน ตร.รับแจ้งความแต่แรก แนะดูปมรุมโทรม-สมยอม พูดแปร่งระวังคดีพลิกโอละพ่อ
จากคดีเยาวชนวัยรุ่นอย่างน้อย 5 รายรุมโทรมเด็กหญิงวัย 12 ปี ภายในร้านขายของในพื้นที่ อ.เมือง จ.สระบุรี หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้คุมตัว 4 เยาวชน ส่งสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จ.สระบุรีแล้ว โดยศาลพิจารณาเห็นว่ามีความผิดจริง และล่าสุดวัยรุ่นคนที่ 5 ได้เดินทางมาให้การกับตำรวจแล้ว
วานนี้ (20 ธ.ค.) พล.ต.ต. สมหมาย ประสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี เปิดเผยว่า ผู้ต้องหามีทั้งหมด 5 คน เป็นเยาวชนทั้งหมด ส่วนการสอบสวนเพิ่มเติมว่าจะมีผู้เสียหายเพิ่มเติมหรือไม่ก็อยู่ระหว่างการสอบสวน หากสาวถึงใครก็จะมีการออกหมายจับเพิ่ม ในส่วนพื้นที่เกิดเหตุ เป็นร้านขายของทุกอย่าง 10 บาท อยู่ห่างจาก สภ.เมืองสระบุรีประมาณ 500 เมตร เยื้องกับโรงเรียนอาชีวะ ซึ่งวันนี้ยังปิดให้บริการ จากการพูดคุยกับชาวบ้านทราบว่าร้านนี้เปิดมาได้ไม่ถึงปี ปกติมีวัยรุ่นอยู่บริเวณหน้าร้านประจำ แต่ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้น
ด้านพัฒนาสังคมจังหวัด เปิดเผยว่า กำลังพิจารณางบช่วยเหลือในรูปแบบของเงินสงเคราะห์หลายประเภทที่จะช่วยเยียวยาผู้เสียหาย เหยื่อวัย 12 และวัย16 ที่ถูกระทำชำเรา สำหรับเด็กหญิงวัย 12 ปี ขณะนี้อยู่ในความคุ้มครองดูแลของกรมกิจการเด็ก และเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พักอยู่ในบ้านพักเด็ก และเยาวชนจังหวัดสระบุรี มีสหวิชาชีพคอยดูแลใกล้ชิด หลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่จะประเมินความพร้อม ในการดูแลบุตรของครอบครัว อาจจะแยกแม่และเด็กออกจากกันชั่วคราว เพื่อประเมินความพร้อมในการเลี้ยงดู
อีกด้าน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวว่า เรื่องนี้ตำรวจภูธรภาค 1 ได้ดำเนินการอยู่แล้ว โดยมี พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (รอง ผบช.ภ.1) ลงไปดูแลควบคุมสั่งการด้วยตัวเอง เนื่องจากผู้เสียหายและผู้ก่อเหตุเป็นเด็กเยาวชน ต้องมีเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพเข้าร่วมสอบสวนทุกอย่างไปเป็นตามขั้นตอน
ทางด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร.กล่าวว่า ในเรื่องนี้พนักงานสอบสวนได้มีการรับแจ้งความไว้แล้วตั้งแต่ต้น ไม่เป็นไปตามที่ปรากฎตามข่าวออกมา ส่วนที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยอื่นเข้าไปร่วมสืบสวนด้วยเป็นเรื่องปกติ เมื่อมีคดีเกิดขึ้น และเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ อาจจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีหน้าที่รับผิดชอบช่วยเหลือหน่วยงานพื้นที่ เข้าไปร่วมดำเนินการตรวจสอบด้วย เพื่อความโปร่งใสของคดี
“อยากฝากไว้เลย คดีในลักษณะแบบนี้ที่ผ่านมา จะออกมา 2 หน้า คือมีการข่มขืนจริง หรือมีการสมยอม ต้องเข้าใจว่า บริบทสังคมไทยต้องยอมรับความเป็นจริง สิ่งที่อยากจะฝากคือ เรื่องของการดูแลบุตรหลาน เด็กเยาวชนวัยรุ่นอายุขนาดนี้กระทำในสิ่งที่คิดว่าสมควรหรือไม่ต้องไปดูด้วย จากคดีในลักษณะแบบนี้ตำรวจได้รับคดีมา ดำเนินคดีมา ผมกล้าพูดได้เลย มีอยู่หลายคดีที่สุดท้ายแล้วคดีออกมาโอละพ่อ อย่างไรก็ตาม เมื่อกฎหมายระบุไว้ว่า การกระทำความผิดถึงแม้ว่าอายุของผู้กระทำความผิด ผิดไม่ต้องรับโทษในลักษณะแบบนี้ก็คงต้องดำเนินการต่อไป แต่สิ่งที่สะท้อนออกมา มีความเสียหาย มาพบพนักงานสอบสวน สืบสวน สอบสวนได้ตัวสุดท้ายได้ตัวกลายเป็นความสมยอม ที่พูดมานี้ไม่ได้หมายถึงเคสที่ จ.สระบุรี แต่อยากจะฝากให้ไปดูกัน” พ.ต.อ.กฤษณะ ระบุ.
จากคดีเยาวชนวัยรุ่นอย่างน้อย 5 รายรุมโทรมเด็กหญิงวัย 12 ปี ภายในร้านขายของในพื้นที่ อ.เมือง จ.สระบุรี หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้คุมตัว 4 เยาวชน ส่งสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จ.สระบุรีแล้ว โดยศาลพิจารณาเห็นว่ามีความผิดจริง และล่าสุดวัยรุ่นคนที่ 5 ได้เดินทางมาให้การกับตำรวจแล้ว
วานนี้ (20 ธ.ค.) พล.ต.ต. สมหมาย ประสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี เปิดเผยว่า ผู้ต้องหามีทั้งหมด 5 คน เป็นเยาวชนทั้งหมด ส่วนการสอบสวนเพิ่มเติมว่าจะมีผู้เสียหายเพิ่มเติมหรือไม่ก็อยู่ระหว่างการสอบสวน หากสาวถึงใครก็จะมีการออกหมายจับเพิ่ม ในส่วนพื้นที่เกิดเหตุ เป็นร้านขายของทุกอย่าง 10 บาท อยู่ห่างจาก สภ.เมืองสระบุรีประมาณ 500 เมตร เยื้องกับโรงเรียนอาชีวะ ซึ่งวันนี้ยังปิดให้บริการ จากการพูดคุยกับชาวบ้านทราบว่าร้านนี้เปิดมาได้ไม่ถึงปี ปกติมีวัยรุ่นอยู่บริเวณหน้าร้านประจำ แต่ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้น
ด้านพัฒนาสังคมจังหวัด เปิดเผยว่า กำลังพิจารณางบช่วยเหลือในรูปแบบของเงินสงเคราะห์หลายประเภทที่จะช่วยเยียวยาผู้เสียหาย เหยื่อวัย 12 และวัย16 ที่ถูกระทำชำเรา สำหรับเด็กหญิงวัย 12 ปี ขณะนี้อยู่ในความคุ้มครองดูแลของกรมกิจการเด็ก และเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พักอยู่ในบ้านพักเด็ก และเยาวชนจังหวัดสระบุรี มีสหวิชาชีพคอยดูแลใกล้ชิด หลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่จะประเมินความพร้อม ในการดูแลบุตรของครอบครัว อาจจะแยกแม่และเด็กออกจากกันชั่วคราว เพื่อประเมินความพร้อมในการเลี้ยงดู
อีกด้าน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวว่า เรื่องนี้ตำรวจภูธรภาค 1 ได้ดำเนินการอยู่แล้ว โดยมี พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (รอง ผบช.ภ.1) ลงไปดูแลควบคุมสั่งการด้วยตัวเอง เนื่องจากผู้เสียหายและผู้ก่อเหตุเป็นเด็กเยาวชน ต้องมีเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพเข้าร่วมสอบสวนทุกอย่างไปเป็นตามขั้นตอน
ทางด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร.กล่าวว่า ในเรื่องนี้พนักงานสอบสวนได้มีการรับแจ้งความไว้แล้วตั้งแต่ต้น ไม่เป็นไปตามที่ปรากฎตามข่าวออกมา ส่วนที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยอื่นเข้าไปร่วมสืบสวนด้วยเป็นเรื่องปกติ เมื่อมีคดีเกิดขึ้น และเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ อาจจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีหน้าที่รับผิดชอบช่วยเหลือหน่วยงานพื้นที่ เข้าไปร่วมดำเนินการตรวจสอบด้วย เพื่อความโปร่งใสของคดี
“อยากฝากไว้เลย คดีในลักษณะแบบนี้ที่ผ่านมา จะออกมา 2 หน้า คือมีการข่มขืนจริง หรือมีการสมยอม ต้องเข้าใจว่า บริบทสังคมไทยต้องยอมรับความเป็นจริง สิ่งที่อยากจะฝากคือ เรื่องของการดูแลบุตรหลาน เด็กเยาวชนวัยรุ่นอายุขนาดนี้กระทำในสิ่งที่คิดว่าสมควรหรือไม่ต้องไปดูด้วย จากคดีในลักษณะแบบนี้ตำรวจได้รับคดีมา ดำเนินคดีมา ผมกล้าพูดได้เลย มีอยู่หลายคดีที่สุดท้ายแล้วคดีออกมาโอละพ่อ อย่างไรก็ตาม เมื่อกฎหมายระบุไว้ว่า การกระทำความผิดถึงแม้ว่าอายุของผู้กระทำความผิด ผิดไม่ต้องรับโทษในลักษณะแบบนี้ก็คงต้องดำเนินการต่อไป แต่สิ่งที่สะท้อนออกมา มีความเสียหาย มาพบพนักงานสอบสวน สืบสวน สอบสวนได้ตัวสุดท้ายได้ตัวกลายเป็นความสมยอม ที่พูดมานี้ไม่ได้หมายถึงเคสที่ จ.สระบุรี แต่อยากจะฝากให้ไปดูกัน” พ.ต.อ.กฤษณะ ระบุ.