xs
xsm
sm
md
lg

"บิ๊กตู่"เป็นต่อ-ทิ้งขาด ถึงต้องรุมถล่มให้จมดิน!

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

**สังเกตหรือไม่ว่าทั้งก่อนหรือหลังการปลดล็อกการเมืองที่เพิ่งผ่านมานี้ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติกำลังโดนถล่มแบบหนักหน่วงมากขึ้นทุกวัน จนเริ่มมีการกล่าวถึงแบบเปรียบเทียบว่า กำลังเป็น "บ้านกระสุนตก" ในความหมายก็คือ ทุกเป้าหมายล้วนมุ่งไปที่เขาเป็นหลัก
กลายเป็นว่าเวลานี้ดูเหมือนว่าบรรดาพรรคการเมืองและนักการเมืองที่เคยเป็นอริกัน หรืออยู่กันคนละฝั่งต่างก็สงบศึกกันชั่วคราว ไม่ได้เห็นการแสดงท่าทีหรือมีคำพูดที่โจมตีกันไปมาเหมือนแต่ก่อนแล้ว แต่พวกเขากำลังหันปากไปทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นหลัก หรืออย่างมากก็พูดจากดดัน กระทบกระเทียบเล็กๆ น้อยๆ กับ 4 รัฐมนตรี ของพรรคพลังประชารัฐ ที่ยังไม่ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี
อย่างไรก็ดี หากโฟกัสกันถึงสาเหตุหรือที่มาที่ไป เชื่อว่าหลายคนที่ติดตามสถานการณ์กันมาอย่างใกล้ชิดก็น่าจะพอเข้าใจได้ว่า ทำไม "ตำบลกระสุนตก" ถึงต้องมุ่งไปที่ "บิ๊กตู่" ในเวลานี้ และมีแนวโน้มรุนแรงหน้กหน่วงมากขึ้นเรื่อยๆ
คำตอบก็คงไม่มีอะไรมากไปกว่าการที่เขายัง "มีอำนาจ" ในมืออย่างเต็มเปี่ยม แม้ว่าในเวลานี้จะ"ปลดล็อก" เปิดทางให้มีการเคลื่อนไหวทางการเมืองได้อย่างเต็มที่แล้วก็ตาม แต่อีกด้านหนึ่งเขาก็ยังถือ "มาตรา 44" อยู่ในมือ ยังเป็นไม้เด็ดที่สามารถงัดขึ้นมาจัดได้ แม้ว่าจะไม่ง่ายเหมือนเดิมแล้วก็ตาม แต่ถึงอย่างไร ในฐานะนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ยังมีอำนาจเต็มที่ ไปจนถึงวันที่มีรัฐบาลใหม่ ไม่ใช่ในฐานะผู้นำรัฐบาลรักษาการ เช่นในอดีต
ขณะเดียวกัน สังคมทั่วไปเหมือนจะรับรู้แน่ชัดแล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องการจะ"ไปต่อ" ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี อีกครั้ง และยังมั่นใจด้วยว่าเขาจะรับการเสนอชื่อในบัญชีนายกรัฐมนตรีของ "พรรคพลังประชารัฐ" อีกด้วย ด้วยเหตุผลที่มีการแย้มๆ จนชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ เช่นกันว่า "ต้องการสานงานต่อ" ให้สำเร็จ อย่างน้อยก็ช่วงเวลาการ "เปลี่ยนผ่าน" ที่กำหนดเอาไว้ในช่วงเริ่มต้น 5 ปีแรก
แม้ว่าในทางการเมืองแล้ว เชื่อว่า"คนในวงการ" ย่อมคาดเดากันเอาไว้ได้ตั้งแต่แรกแล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะต้องไม่ยอมลงจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรีง่ายๆ เป็นแน่ อย่างน้อยก็ได้เห็นจากการ "ออกแบบ" รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ที่เอื้อให้เขาได้ไปต่อ ดังที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันไปมากแล้ว ซึ่งหากกล่าวกันแบบตรงไปตรงมากันอีกครั้ง ในเวลานี้ไม่ว่ามองกันในมุมไหน เขาก็ย่อม "ได้เปรียบ" กว่าใคร
อย่างไรก็ดี "ความได้เปรียบ" ที่ว่านี้มันมีหลายความหมาย และหลายองค์ประกอบ ที่ไม่ใช่พิจารณากันเพียงแค่"อำนาจ" และ "กติกา" ที่ได้เปรียบเป็นหลักเท่านั้น เพราะแม้ว่าจะมีทั้งสองอย่างดังกล่าวเกื้อหนุนอย่างเต็มเปี่ยม แต่ตราบใดก็ตามหากไม่ได้รับ "ความศรัทธา" จากชาวบ้านจำนวนมากแล้วมันก็ไร้ความหมาย
**ที่ผ่านมา "ผู้นำเผด็จการ" หลายคนก็เคยประสบมาแล้ว แต่สำหรับ "บิ๊กตู่" ที่ถือว่าเข้า "องค์ประกอบเผด็จการ" เต็มรูปแบบ กลับผิดแผกไป เพราะสามารถรักษาความนิยม รักษาความศรัทธาได้ในระดับที่ดี แม้ว่าในช่วงหลังมานี้อาจจะลดลงไปบ้าง แต่ก็ยังถือว่ายังสูงอยู่
ส่วนสำคัญอาจเป็นเพราะเขามีการปรับตัว รู้จักยืดหยุ่น เฝ้ามองกระแสความต้องการของชาวบ้านอย่างเข้าใจมากกว่าเผด็จการคนอื่น และที่น่าสนใจก็คืออาจจะเป็นเผด็จการคนแรกก็ว่าได้ ที่รู้จักเรียนรู้ "วิถีการเมืองน้ำเน่า" ไม่ต่างจากนักการเมือง และนำมาปรับใช้ให้เป็นประโยชน์ เขารับรู้ว่าชาวบ้านระดับล่างต้องการแบบไหน หลายคนอาจเรียกว่า "ประชานิยม" แต่เขายืนยันว่าไม่ใช่ แต่เป็นแบบ"ประชารัฐ" หรือนิยามแบบว่า "ไทยนิยม" เป็นความร่วมมือกันระหว่างชาวบ้านกับรัฐ
แม้ว่าข้อเท็จจริงจะเป็นแบบไหน หรือเป็นนโยบายประชานิยมหรือไม่ แต่เวลานี้ โครงการ"บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" หรือบัตรคนจน กำลังเป็นที่ถูกอกถูกใจของชาวบ้านที่ได้รับ จำนวนเกือบ 15 ล้านคนไปแล้ว และจะกลายเป็นว่าพวกเขากำลังจะต้องปกป้องโครงการนี้ให้คงอยู่ต่อไป และนั่นก็หมายความว่า จะต้อง "ปกป้องบิ๊กตู่" ให้ได้กลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้ง เนื่องจากหวั่นเกรงว่าหากไม่ใช่เขาแล้วจะไม่ได้รับอีกต่อไป
แน่นอนว่า จุดอ่อนของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็คือ เรื่องปัญหาราคาสินค้าเกษตรตัวหลักบางตัว เช่น ปาล์มน้ำมัน ยางพารา รวมทั้งมะพร้าว ที่ราคาตกต่ำ แต่เวลานี้ก็ตื่นตัวในการแก้ปัญหาแบบเฉพาะหน้า ก็น่าจะกระเตื้องขึ้นมาบ้าง อย่างน้อยก็ในแง่จิตวิทยา ที่แสดงให้เห็นว่ามีความกระตือรือล้น ที่จะพยายามช่วยเหลือดูแล ขณะเดียวกันกลับได้ผลดีในเรื่องราคาข้าวที่ไม่ต้องพบศึกหนักที่ก่อปัญหาสมทบประดังเข้ามา
**ดังนั้น หากพิจารณาความเคลื่อนไหวและผลงานดังกล่าวมา มันก็กลายเป็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังเป็นคู่ต่อกรของนักการเมืองที่แข็งแกร่ง ยากที่จะโค่นลงไปได้ง่ายๆ ขณะเดียวกันก็อย่าได้แปลกใจที่เวลานี้เขากำลังถูกรุมถล่มจากบรรดานักการเมืองที่ดาหน้ากันเข้ามาแบบ "สหบาทา" ให้จมดิน ซึ่งอีกด้านหนึ่งมันก็สามารถเข้าใจได้ทันทีว่า "บิ๊กตู่" ยังเป็นต่อ "แต้มยังทิ้งขาด" ฝ่ายตรงข้าม เพราะตราบใดที่เสียงโจมตียังดัง หรือยังพุ่งมาเป็นจุดเดียวแบบนี้ มันก็มองเป็นอย่างอื่นไม่ได้ และกว่าจะถึงวันนั้นจะหนักกว่านี้อีก จนไม่รู้ว่าจะ"สติแตก"เสียก่อนหรือไม่ !!
กำลังโหลดความคิดเห็น