xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวปนคน คนปนข่าว

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ข่าวปนคน คนปนข่าว

** ความดันทุรังสูง!! “บอร์ดการท่าเรือฯ”กินดีหมี ก้มหน้าก้มตา“ลุยถั่ว”ดันก้น “กมลศักดิ์” เป็น ผอ.คนใหม่ให้ได้ ทั้งที่เสียงทักส่อผิด กม.ทุกขั้นตอน เปิดเบื้องลึก “กรรมการบางคน”ขอเผ่น กลัวได้ไม่คุ้มเสีย คุกยาว 10 ปี ฐานผิด มาตรา 11 พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของเจ้าพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานรัฐ พ.ศ. 2502

ท่าจะกินดีหมี หัวใจเสือ .. “ขบวนการป๋าดัน”ที่ก้มหน้าก้มตา “ลุยถั่ว”จะดันก้น ร.ท.กมลศักดิ์ พรหมประยูร รอง ผอ.สายบริหารสินทรัพย์ฯ ขึ้นเป็น ผอ.การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) คนใหม่ ให้ได้ .. มีอย่างที่ไหน ท้วงทักไปสารพัดสิ่ง ทั้งตำหนิคุณสมบัติส่วนตัว หรือความไม่ชอบมาพากลของกระบวนการสรรหา ก็ไม่ยักจะชี้แจงแถลงไข .. คิวล่าสุด สื่อหลายสำนักชี้เป้าไปเน้นๆ ถึงการประชุม “บอร์ดใหญ่”คณะกรรมการ กทท. ว่ามันทะแม่งๆ .. โดยเฉพาะท่าทีลนลานของ สมศักดิ์ ห่มม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า ในฐานะประธานบอร์ดการท่าเรือฯ ที่ยัดวาระประชุม เอารายงานผลการสรรหาฯ ที่มีรายชื่อ “กมลศักดิ์”เข้าสู่ที่ประชุมเพียงคนเดียว แถมไม่มีหลักเกณฑ์การให้คะแนนของผู้สมัครรายอื่นตามปกติ .. พอในที่ประชุมทักเข้า ก็กำปั้นทุบดิน อ้างชื่อ“บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่า“ท่านจะเอากมลศักดิ์”อย่างโจ๋งครึ้ม .. เป็นเหตุให้ “บอร์ดบางคน”ขอ “สละเรือ”ลาออกจากตำแหน่ง พร้อมทำ“โนติส” บันทึกความคิดเห็นไว้ เพื่อกันตัวเองออกจาก“ขบวนการดำๆ เทาๆ” .. หลังข่าวออก “สมศักดิ์”ไม่ได้ตอบ หรือปฏิเสธว่า ไม่จริง ร่อนข่าวแจกถึงสื่อยืนยันว่า การสรรหา “ผอ.การท่าเรือฯ”ทำตามขั้นตอนครบถ้วน ถูกต้องตาม พ.ร.บ.คุณสมบัติมาตรฐานฯ .. พร้อมระบุว่า ไม่มีการอ้างสั่งการนายกฯ แต่อย่างใด ส่วนการประชุมวาระดังกล่าวเป็น “ประชุมลับ”ไม่มีเจ้าหน้าที่อื่นเข้าร่วม ไม่มีการบันทึกเทป .. ดักคอไว้เผื่อ "บิ๊กตู่" จะไปหาเทปบันทึกการประชุมบอร์ด กทท. เมื่อวันที่ 24 ต.ค. มาเปิดฟัง เหมือนที่ชี้ช่องบอกเบาะแสไป .. ถ้าถูกต้องตามครรลองจริง ก็ต้องถามว่าจู่ๆ จะมีบอร์ดลาออก พร้อมทิ้งระเบิดว่ามาจากประเด็นนี้ทำไมกัน ..
ไม่ต้องเดาให้ซ้ำซ้อน เบื้องหลังที่ “บอร์ด”ขอลาออก ก็เพราะไม่อยากมีส่วนร่วมกับการดัน “รท.กมลศักดิ์”ขี้นเป็น ผอ.กทท. แม้จะถูกมองว่าไร้ความเกรงใจ “ผู้มีอำนาจ”ที่ถูกแอบอ้างก็ตาม .. ด้วยว่า ไม่คุ้มเสี่ยง เห็นท่นโท่ เข้าข่ายขัดข้อกฎหมายแทบทุกขั้นตอน หากมีผู้ฟ้องร้องว่า การสรรหาไม่โปร่งใส และบริสุทธิ์ ยุติธรรม .. เรื่องแบบนี้มีมีบทเรียนให้ศึกษา ฎีกาของคำพิพากษาก็มีให้อ่านเป็นตัวอย่าง เมื่อไม่นานมานี้ ก็มีคดีว่าด้วยเรื่องสรรหาผู้บริหารหน่วยงานสังกัดรัฐวิสาหกิจเกี่ยวกับการขนส่งแห่งหนึ่ง กรรมการสรรหาสองคน ถูกฟ้องและแพ้คดีถูกตัดสินจำคุกมาแล้ว .. ว่ากันว่า ที่ทำๆ กันอยู่ มันเข้าข่ายขัด มาตรา 11 พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของเจ้าพนักงานในองค์การ หรือหน่วยงานรัฐ พ.ศ.2502 .. ใจความว่า "ผู้ใดเป็นพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่หนึ่งปี ถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ" ..
ด้วยสถานะการท่าเรือฯ เข้าข่ายกฎหมายที่ว่าไปเต็มๆ ทั้งกระบวนการสรรหาก็ดี หรือการมีส่วนทำให้องค์กรที่อยู่ในกฎหมายประสบความล้มเหลว และเกิดความเสียหายแก่รัฐอย่างร้ายแรง .. คนที่ลาออกไปล่วงหน้าก็เป่าปากโล่งใจ ก็เหลือแต่คนที่อยู่ๆ ทั้ง “สมศักดิ์”ประธานบอร์ดใหญ่ และบอร์ดที่ยังเกาะเก้าอี้แน่น รวมไปถึง กฤชเทพ สิมลี รองปลัดกระทรวงคมนาคม ประธานบอร์ดสรรหา ที่ไม่รู้ว่าถึงเวลาจริง “คาถาลงอาคม”จะยังเข้มขลังเหมือนตอนนี้หรือไม่ .. ท่องให้ขึ้นใจ อัตราโทษ มาตรา 11 นั้นว่าไว้ มีทั้งจำและปรับ โทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ซึ่งหนักสุดถึง 10 ปี .. ตระหนักกันได้เองว่า “อำนาจ”เข้ามา สุดท้ายก็จะผ่านไป แต่ “กฎหมาย-ความยุติธรรม”จะยังอยู่ คู่องค์กร .. ยิ่งการท่าเรือฯ เป็นหัวใจหลักของการพัฒนาโลจิสติกส์ของประเทศ ยุค 4.0 ใครมีส่วนทำร้ายทำลายอย่างไรรู้อยู่แก่ใจ .. ได้คุ้มเสียหรือไม่ ถามใจเธอดู

**ก็เคยสัญญา!! จับ “มือปาบึ้ม กปปส.”คนไม่ค่อยฮือฮา แห่ไปเฮ “เสี่ยโอ๊ค”ได้ควัก 10 ล้าน สินบนนำจับเมื่อครั้งปี 2557 ที่เคยเย้ยว่า“ม็อบนกหวีด” ปากันเอง พอจับตัวมาได้ แถมสารภาพสิ้นไส้ “ชายโอ๊ค”ชัตดาวน์ตัวเองจากโลกออนไลน์นับสัปดาห์ 10 ล้านจิ๊บๆ จ่ายๆ ไปเต๊อะ อย่าให้คนนินทา หมามันดูถูกเลย

จับได้แล้วจ้าา .. กฤษดา ไชยแค ผู้ต้องหาปาระเบิดใส่เวทีกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. เมื่อปี 57 ถูกจับได้ที่ชายแดนไทยใกล้กับด่าน ต.คลองลึก จ.สระแก้ว .. รับสารภาพสิ้นไส้ว่า “เคยรักทักษิณ”ร่วมกับพวกก่อเหตุ ปาระเบิด 2 ครั้ง คือบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ หน้า รพ.ราชวิถี จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บอีกกว่า 20 ราย .. และอีกจุดคือ บริเวณบรรทัดทอง ปาระเบิดใส่ขบวนของ “กำนันเทือก”สุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำ กปปส. .. หลังก่อเหตุได้หลบหนีไปกบดานยังประเทศเพื่อนบ้าน ตั้งแต่ปี 2557 โดยมี “ไอ้โม่ง”คอยให้ความช่วยเหลือด้านการเงิน ส่งเสียเดือนละ 3 หมื่นบาท .. ระยะหลังโดนกดดันหนัก เงินทองร่อยหรอ จึงพยายามเดินทางกลับประเทศไทย เพื่อมอบตัว .. ประเด็นความผิดของ “กฤษดา”กลายเป็นประเด็นรองไปแทบจะทันที เมื่อมี “คนจำแม่น”ถึงคำสัญญาของ “เสี่ยโอ๊ค”พานทองแท้ ชินวัตร .. ตามไปขุดว่า เมื่อครั้งเกิดเหตุระเบิดขบวน กปปส. ที่บรรทัดทอง “เสี่ยโอ๊ค”รัวคีย์บอร์ด เมื่อวันที่ 21 ม.ค. 2557 ไว้อย่างน่าสนใจ .. ประกาศว่า ทักษิณ ชินวัตร พ่อของตัวเอง จะจ่ายสินบนนำจับ 10 ล้านบาท ให้กับคนที่จับกุมมือระเบิดได้ด้วย .. แถมไม่โพสต์ข้อความเฉยๆ โชว์ป๋า เอาเงิน 10 ล้านบาท มาวางกอง คู่กับ 10 ล้านเดิมที่เตรียมไว้ตั้งแต่คดีเผาเซ็นทรัลเวิล์ด เมื่อปี 2553 ..
ย้อนไปอ่านข้อความที่เต็มไปด้วยความมั่นใจเบอร์สุด วิเคราะห์ราวกับ “ดอกเตอร์ด้านอาชญวิทยา”เหมือน “ผู้พ่อ”ระบุมองจากคลิป เห็นชัด คนปาบึ้มห้อยนกหวีด ชัดเจน .. แดกดันไปอีกว่า "ชงเอง-ตบเอง" หรือพูดให้ชัดๆ “นำม็อบเอง-ระเบิดเอง-ชาวบ้านเจ็บเอง ตายเอง-ไม่มีสแตนด์อิน” .. ลากกลับไปถึงปี 2553 เผาเซนทรัลเวิลด์ “ชายโอ๊ค”ก็ว่า รัฐบาลสมัยนั้นสร้างสถานการณ์ ทั้งที่เห็นจะๆ ว่า “ใคร”เป็นคนประกาศให้เผา .. น่าแปลกใจไม่น้อย หลังข่าวนี้ออก “เสี่ยโอ๊ค”ทีมหาเสียงพรรคเพื่อไทย ที่ติดโซเชียลหนัก โพสต์ไม่เว้นวัน ถึงกับชัตดาวน์ตัวเองจากโลกออนไลน์ ไปเป็นสัปดาห์ .. ก็ไม่รู้ซินะ หรือจะเป็นพฤติกรรมถ่ายทอดผ่าน ดีเอ็นเอ เหมือนครั้ง “ป๊าษิณ" ประกาศ “เสียงปืนแตก”แล้วจะมาเดินหน้า นำพี่น้อง แตกแล้ว แตกอีก ก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงา .. คนเขาอุตส่าห์จับตัวมาให้ ขุดข้อมูลมาเสิร์ฟ 10 ล้าน จิ๊บๆ จ่ายๆไปเต๊อะ อย่าทำเป็น “ลืมง่าย”ให้คนนินทา หมามันดูถูกเลย .. ลูกผู้ชาย พูดแล้วไม่คืนคำ นะโอ๊คนะ

**ทารกการเมือง!! พูดเป็นเสียงเดียวกัน “พรรคธนาธร”เคลือบภาพประชาธิปไตย ไส้ใน “เผด็จการ”สุดๆ ว่าที่ผู้สมัครแต่งตัวดิบดี โดนสวมตอ ใส่ชื่อคนนอกพื้นที่เสียบเฉย ขอแยกทางพร้อมมอบ “ขวดนม”ให้หัวหน้าพรรค หยันปัญหาแค่นี้แก้ไม่ได้ ขนาด “ทนายจ๋า”เซเลปดังเชียงใหม่ ตุน 2 หมื่นแต้ม ในกระเป๋า ยังโดนดีดออก ฐานเป็น“คนเสื้อเหลือง - นกหวีด”ซะงั้น

แผลปริต่อเนื่อง .. ฉากหน้า “เสี่ยเอก”ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กับ “จารย์ป๊อก”ปิยะบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค ยังคงเดินหน้า “สร้างภาพ”เหมือนไร้ “ปัญหาหลังบ้าน”อย่างต่อเนื่อง .. วันวาน อีเวนต์ใหญ่ ประกาศนโยบายหาเสียง 12 วาระ ในงาน“เปิดวิสัยทัศน์ เปลี่ยนอนาคต” .. ตัดภาพกลับไปที่พรรค สงสัยจะไม่มีอนาคต จากฉายา “พรรคส้มหวาน”มาวันนี้ พวกบอก “ส้มขม”ซะแล้ว .. ไม่ต้องท้าวความไปถึงปัญหาก่อนหน้าที่ยังไม่เคลียร์ แต่ที่เงียบไปก็เพราะอยู่ไม่ไหวกับ “เผด็จการ”ในคราบ “นักประชาธิปไตย” ..ความขัดแย้งล่าสุด อยู่ที่การวางตัวผู้สมัคร ส.ส. ที่อวดโอ่จะใช้ระบบ “ไพรมารีโหวต”ผ่านระบบออนไลน์ ผสานกับการพิจารณาของกรรมการบริหารฯ .. ปรากฏว่า มีการร้องเรียนว่า ไม่ได้รับความไม่เป็นธรรม ส่อไปในทางทุจริตการคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส. ด้วยซ้ำ .. เสียงจาก “ว่าที่ผู้สมัคร”แจ้งไปยัง “ส่วนกลาง”ปรากฏว่า แบ๊ะๆ ไม่ได้รับการแก้ไข ยืนยันตามผลโหวต ที่เขาว่ามีปัญหานั่นแหละ .. จี้หนักเข้า “เสี่ยเอก" เจ้าของพรรค ระบุว่า ที่ชื่อบางคนหายไปเพราะ "ไม่ผ่านกระบวนการของคณะกรรมการสรรหา" ..
ก็ถึงจุดแตกหัก มีทั้ง 5 ผู้เสนอตัวลงสมัครใน กทม. ฝั่งธนบุรี และ จ.นครศรีธรรมราช 5 ราย แถลงข่าวลาออกพร้อมมอบ “ขวดนม”ถึง “เสี่ยเอก” เสมือนแทนความไร้เดียงสาทางการเมืองอีกดวย .. ผู้เสนอตัวรายหนึ่งระบุว่า มีการนำบุคคลอื่นต่างพื้นที่มาลงแทนผู้ที่เสนอตัวลงสมัครตั้งแต่ต้น ร้องเรีนนไปก็ได้คำตอบแบบ “กำปั้นทุบดิน” .. "ปัญหาแค่นี้ยังจัดการแก้ไขไม่ได้ จะสามารถแก้ไขปัญหาประเทศชาติได้อย่างไร" สาปส่งไล่หลังไว้อย่างนั้น .. อีกรายที่ไม่น่าเชื่อ “ทนายจ๋า”ธิดารัตน์ ศิริวิทยากร ที่จับจองพื้นที่เขต 1 เชียงใหม่ ในสีเสื้ออนาคตใหม่ไว้ .. ก็ถูกตัดชื่อออกอย่างไม่น่าเชื่อ ด้วยข้อหาเป็น “เสื้อเหลือง - แม่ยกนกหวีด”ทั้งที่ลงทุนลงแรง ช่วยจัดตั้งสาขาพรรคที่เชียงใหม่ .. แล้วขอบอก “ทนายจ๋า”ไม่ธรรมดา เลือกตั้งนายกเทศมนตรีหนก่อน ขับเคี่ยวกับ “นายกฯไก่” ทัศนัย บูรณุปกรณ์ ของฝั่งเพื่อไทย ก็ยังได้มาถึง 2 หมื่นคะแนน แพ้ไปไม่ห่าง 6 พันแต้ม เท่านั้น .. พอไปกันไม่ได้ “ทนายจ๋า”ก็ทิ้งเชื้อไว้เช่นเดียวกับรายอื่นๆ ก่อนหน้า “ที่ว่าอ้างประชาธิปไตย ข้างในยิ่งกว่าเผด็จการ”ซะอีก .. เดิมทีห่วงว่า “อนาคตใหม่”จะซวนซัดซวนเซ ถูก “เจาะยาง” จากเรื่องในอดีต ทำไปทำมากลายเรื่องประเภท “ทำตัวเอง”ที่ทำพรรคเสียทรงมากกว่าซะอีก .. มาแนวนี้ บอกเลย ยิ่งใกล้เลือกตั้ง “เละตุ้มเป๊ะ”

** พี่ริดติดคุก!! “ธาริต”เข้าซังเตทั้งน้ำตา คดีหมิ่นฯ “เทือก”ที่ขอขมาแล้วไม่เป็นผล ดักคอไว้ก่อน น่ากลัว “สุเทพ”อาจลักไก่ เอาแถลงการณ์“ธาริต” ขอขมา ไปใช้อ้างเพื่อประโยชน์ในรูปคดีโรงพักร้าง อย่าลืม “ศาลฎีกา”พิพากษาชัด “อดีต อธิบดีดีเอสไอ”ไม่อยู่ในฐานะชี้มูลความผิดใคร ก็ไม่น่าจะการันตีความบริสุทธิ์ให้ใครได้เช่นกัน

ต่อมสำนึกไม่ช้าไปนิด .. ส่งให้ ธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดี ดีเอสไอ ต้องกลายสถานะเป็น “นักโทษชาย”กับโทษจำคุก 1 ปี ไม่รอลงอาญา .. ในคดีหมิ่นประมาท “เทพเทือก”สุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ เกี่ยวกับคดีประมูลโรงพัก 396 แห่ง .. โค้งสุดท้าย ก็เป็นฝ่าย “พี่เทพ”ที่ “ใจแข็ง” ไม่ยอมลงให้ แม้อีกฝ่ายจะเว้าวอน ขอขมา-ขอยอมความ ผ่าน “ผู้ใหญ่”ก็ตาม .. สัปดาห์ก่อนให้พื้นที่พูดถึงคดีนี้แทบทุกวัน ลึกๆ ยังเชื่อว่า ในเมื่อทิศทางลม 2 ศาล ชั้นต้น-อุทธรณ์ พิพากษา "ยกฟ้อง" ไปก่อนแล้ว “พี่ริด”ไม่น่าจะต้องดิ้นรนจนหยดสุดท้ายขนาดนั้น .. ก็มีคำอธิบายในตัวว่า เหตุใดชั้น“ฎีกา”พิพากษากลับ ระบุชัด แม้ทำตามหน้าที่ แต่ไม่ได้มีอำนาจ“ชี้มูลความผิด”ก็ถึงได้รับความกระจ่าง .. อย่างน้อยก็ต้องนับถือใจ “ธาริต”ที่เหมือนรู้ “สัญญาณบางอย่าง”แต่ก็ไม่หลบลี้ หนีหน้า ยืดอกมาขึ้นศาล แม้ต้องออกมาเข้าซังเตทั้งน้ำตาก็ตาม ..
ไล่เรียงไปแล้ว คดีความ-คดีกรรม “ธาริต”ยังมีอีกเพียบ ทั้งกับ “เดอะคิด”พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม นั่นก็สาหัสสากรรจ์ กว่าคดีหมิ่นประมาทหลายเท่า .. เอาแค่กับ “สุเทพ”ก็ต้องดวลกันอีกหลายหมัด ที่ประกาศแล้วว่า คดีอื่นๆ ก็ว่ากันไปตามกฎหมาย .. แต่ในคดีหมิ่นฯ ที่ตัดสินไปแล้วนั้น ก็ยังมีความน่าสนใจ ที่ต้องติดตามอยู่ไม่น้อย .. ด้วยมีผลพวงไปถึง “คดีใหญ่”อย่างการทุจริตคดีประมูลโรงพัก 396 แห่ง ที่ “สุเทพ”มีชื่อติดอยู่ในสำนวน ป.ป.ช. .. ถอดรหัสแถลงการณ์ขอขมา “ธาริต”ที่ออกมาเมื่อสัปดาห์ก่อน ไม่เพียงขมาลาโทษ ยก "สุเทพ" เป็น “ผู้มีพระคุณ”เท่านั้น .. ใจความสำคัญ ยังออกตัวเป็น "ผงซักฟอก" การันตีว่า "โรงพักร้าง" นั้น ไม่เกี่ยวกับ "เทพเทือก" อีกต่างหาก .. "ตามข้อเท็จจริงแล้ว การออกคำสั่งของนายสุเทพ ดังกล่าว เป็นการกระทำตามข้อเสนอของ ผบ.ตร. ซึ่งเป็นข้าราชการประจำ โดยมีเหตุผล และที่มาที่ไปตามความเหมาะสมและจำเป็น" .. น่ากลัวได้ว่า แถลงการณ์ประวัติศาสตร์นี้ ฉบับนี้ จะถูกใช้เป็น “หลักฐานใหม่”ในการต่อสู้คดีของ “สุเทพ”หลังพ้นจากชั้น ป.ป.ช.ไปแล้ว .. ก็ต้องดักไว้ล่วงหน้าด้วยว่า คำพิพากษาศาลฎีกา ระบุชัดว่า “ธาริต”ในฐานะอธิบดี ดีเอสไอ ไม่ได้มีอำนาจไป “ชี้มูลความผิด” .. เฉกเช่นเดียวกัน “ธาริต”ในฐานะจำเลยในคดีที่กำลังจะตัดสินในชั้นฎีกา ก็ไม่ได้มีอำนาจ หรืออยู่ในฐานะที่จะไปรับประกัน “ความบริสุทธิ์”ของใครเช่นกัน

ช.ชฎา

++++++++++
รูป
- ร.ท.กมลศักดิ์ พรหมประยูร - สมศักดิ์ ห่มม่วง
-กฤษดา ไชยแค - พานทองแท้ ชินวัตร
-ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ - ธิดารัตน์ ศิริวิทยากร
- ธาริต เพ็งดิษฐ์ - สุเทพ เทือกสุบรรณ
กำลังโหลดความคิดเห็น