xs
xsm
sm
md
lg

ต้านธุรกิจผูกขาด พณ.วางเกณฑ์ส่วนแบ่งตลาด

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


“สนธิรัตน์” เซ็นเกณฑ์ป้องกีนอำนาจเหนือตลาด-ธุรกิจผูกขาด-เอาเปรียบคนอื่น กำหนดเกณฑ์ส่วนแบ่งตลาด ตั้งแต่ 50% และมียอดขาย 1 พันล้านบาทขึ้นไป หรือ ธุรกิจ 3 รายแรก มีส่วนแบ่งตลาดรวมกัน 75% และยอดขาย 1 พันล้านบาทขึ้นไป เผยหากฝ่าฝืน มีโทษจำคุก 2 ปี ปรับ 10% ของรายได้ปีที่ทำผิด พร้อมออกเกณฑ์การควบรวมกิจการ หวังใช้ป้องกันการผูกขาด ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต คาดมีผลบังคับใช้เร็วๆ นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า ได้ลงนาม ในประกาศคณะกรรมการฯ เรื่อง หลักเกณฑ์การเป็นผู้ประกอบธุรกิจซึ่งมีอำนาจเหนือตลาด ภายใต้ พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ.2560 ซึ่งจะมีผลให้ผู้ประกอบการธุรกิจที่มีอำนาจเหนือตลาดไม่สามารถดำเนินการใดๆ ที่ทำให้เกิดการผูกขาด และความไม่เป็นธรรมทางการค้าได้ หากฝ่าฝืนจะมีทั้งโทษอาญา และโทษปรับ โดยโทษอาญา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 10% ของรายได้ในปีที่กระทำผิด หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่หากกระทำผิดในปีแรกของการประกอบธุรกิจ ต้องชำระค่าปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ในเร็วๆ นี้ ภายหลังประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว

สำหรับการกำหนดเกณฑ์ดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจากที่กระทรวงพาณิชย์ได้แก้ไข พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ.2542 และกฎหมายฉบับใหม่ คือ พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2560 มีผลบังคับใช้แล้ว ตั้งแต่เดือน ต.ค.2560 จึงต้องกำหนดหลักเกณฑ์การปฏิบัติต่างๆ ของผู้ประกอบการธุรกิจ ซึ่งรวมถึงเกณฑ์อำนาจเหนือตลาด และการรวมธุรกิจ เพื่อป้องกันการผูกขาด และทำธุรกิจอย่างไม่เป็นธรรม

โดยเกณฑ์อำนาจเหนือตลาด ประกอบด้วย ผู้ประกอบการรายใดรายหนึ่งในตลาดสินค้าใดสินค้าหนึ่ง หรือบริการใดบริการหนึ่ง ที่มีส่วนแบ่งตลาดในปีที่ผ่านมาตั้งแต่ 50% ขึ้นไป และมียอดเงินขายในปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป หรือ ผู้ประกอบการ 3 รายแรก ในตลาดสินค้าใดสินค้าหนึ่ง หรือบริการใดบริการหนึ่ง ที่มีส่วนแบ่งตลาดในปีที่ผ่านมา รวมกันตั้งแต่ 75% ขึ้นไป และมียอดเงินขายในปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ 1,000 ล้านบาท

ส่วนพฤติกรรมไม่เป็นธรรมทางการค้าที่ถือเป็นความผิดสำหรับผู้มีอำนาจเหนือตลาด มีทั้งการกำหนด หรือรักษาระดับราคาซื้อหรือราคาขายสินค้าหรือค่าบริการอย่างไม่เป็นธรรม เช่น การตั้งราคาในระดับต่ำมาก เพื่อให้คู่แข่งออกจากตลาด การตั้งราคาต่ำกว่าต้นทุน เป็นต้น , กำหนดเงื่อนไขไม่เป็นธรรม ทำให้คู่ค้าจำกัดการบริการ การผลิต การซื้อ หรือการจำหน่ายสินค้า หรือ จำกัดโอกาสเลือกซื้อ หรือขายสินค้า เช่น กำหนดให้ผู้ซื้อต้องซื้อเฉพาะสินค้าของตนเองเท่านั้น ห้ามซื้อจากผู้ผลิตรายอื่น เป็นต้น , การระงับ ลด หรือจำกัดการบริการ การผลิต การซื้อ การจำหน่าย การส่งมอบ การนำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่มีเหตุอันควร ทำลาย หรือทำให้เสียหายซึ่งสินค้า และการแทรกแซงการประกอบธุรกิจของผู้อื่นโดยไม่มีเหตุผลอันควร

ขณะเดียวกัน ยังได้ออกประกาศเรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขออนุญาตและการอนุญาตการรวมธุรกิจ พ.ศ.2561 เพื่อป้องกันการผูกขาด หรือใช้อำนาจเหนือตลาดแข่งขันอย่างไม่เป็นธรรม โดยหลักเกณฑ์ดังกล่าว กำหนดให้ผู้ประกอบการธุรกิจที่จะรวมธุรกิจ อันอาจก่อให้เกิดการผูกขาด หรือกลายเป็นผู้มีอำนาจเหนือตลาด หรือ เมื่อรวมกิจการกันแล้วมีส่วนแบ่งตลาด และยอดเงินขายเข้าตามเกณฑ์ผู้มีอำนาจเหนือตลาด จะต้องแจ้งการควบรวมต่อคณะกรรมการฯ และต้องได้รับอนุญาตก่อนการควบรวม คาดว่าจะมีผลบังคับใช้เร็วๆ นี้ ภายหลังประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว

ทั้งนี้ หากไม่แจ้งผลการรวมธุรกิจต่อคณะกรรมการฯ จะต้องชำระค่าปรับทางปกครองไม่เกิน 200,000 บาท หรือปรับอีกไม่เกิน 10,000 บาทต่อวัน ตลอดเวลาที่ฝ่าฝืน และหากไม่ขออนุญาตก่อนการรวมธุรกิจ ต้องชำระค่าปรับไม่เกิน 0.5% ของมูลค่าธุรกรรมในการรวมธุรกิจ ส่วนเมื่อรวมธุรกิจแล้ว และมีอำนาจเหนือตลาด ห้ามทำการค้าอย่างไม่เป็นธรรมเช่นเดียวกับการเป็นผู้มีอำนาจเหนือตลาด ทั้งห้ามผูกขาด ลดการแข่งขัน หรือจำกัดการแข่งขัน หากฝ่าฝืน จะมีโทษปรับไม่เกิน 10% ของรายได้ในปีที่กระทำผิด ขณะที่คู่ค้า หรือบุคคลใดที่ได้รับความเสียหายจากการใช้อำนาจเหนือตลาดทำการค้าอย่างไม่เป็นธรรม มีสิทธิฟ้องคดีเรียกค่าเสียหายได้.
กำลังโหลดความคิดเห็น