xs
xsm
sm
md
lg

แนวรบ 3 แนว...กับ “จุดเปลี่ยน” ของโลก

เผยแพร่:   โดย: ทับทิม พญาไท

นายลี เซียน หลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์
ไหนๆ เมื่อวาน...ก็อุตส่าห์ร่อนไปไกลถึงทะเลดำ ไปดู “แนวรบยุโรปตะวันออก” กันบ้างแล้ว ปิดท้ายสัปดาห์นี้ เลยน่าจะลองหยิบเอาเรื่องของแนวรบด้านอื่นๆ มาว่ากันให้ครบหมด หรือเพื่อให้พอมองเห็น “ภาพรวม” ว่ามาถึงขั้นนี้ ถึง ณ ขณะนี้ โลกมันไปไกลถึงไหนแล้ว โดยอาศัยแนวรบแต่ละแนว ไม่ว่า “ยุโรปตะวันออก” “ตะวันออกกลาง” และ “ทะเลจีนใต้” ที่ว่ากันว่า...สามารถก่อให้เกิด “จุดเปลี่ยน” ต่อฉากสถานการณ์ความเป็นไปของโลกได้อย่างเป็นเนื้อ เป็นหนัง...

สำหรับ “แนวรบยุโรปตะวันออก” นั้น...ก็อย่างที่ว่าไปแล้วเมื่อวันวาน ว่าแทบแยกไม่ออก ถึงกรณีความตึงเครียดครั้งใหม่ในแนวรบด้านนี้ ว่าไปๆ-มาๆ แล้ว...จะเป็นเรื่องระดับ “การเมืองระหว่างประเทศ” หรือหนักไปทาง “การเมืองภายใน” ของประเทศยูเครนกันแน่ เพราะมันสามารถโยงไป โยงมา ชนิดต้องกลายเป็น “คนละเรื่องเดียวกัน” ไปจนได้ แต่ที่แน่ๆ ก็คือ...แนวคิดดั้งเดิมของอภิมหาอำนาจสูงสุดอย่างคุณพ่ออเมริกา ที่หวังจะอาศัยพื้นที่ในยุโรปเป็นสมรภูมิ เป็นตัวสร้างแรงกดดันให้กับ “Rival Power” หรือ “Revisionist Power” หรือให้กับมหาอำนาจคู่แข่งอย่างรัสเซีย หรือจีนนั้นมาถึงขั้นนี้...ต้องเรียกว่าแทบเป็นไปไม่ได้อีกต่อไปแล้ว คือปลุกยังไงก็ปลุกไม่ขึ้น แม้ว่าการ “แซงชั่นรัสเซีย” หรือ “ความกลัวรัสเซีย” (Russophobia) ของบรรดาประเทศในยุโรปทั้งหลาย จะยังคงมีอยู่ ดำเนินอยู่ก็ตาม...

อาจด้วยเหตุผลง่ายๆ...แบบที่ผู้นำสหภาพยุโรปบางราย ท่านเคยกล่าวๆ เอาไว้นั่นแหละว่า การเป็นพันธมิตรกับอเมริกาในยุค “ทรัมป์บ้า” นั้น...ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาไปวิ่งหาศัตรูที่ไหนอีกต่อไปแล้ว!!! บรรยากาศความตึงเครียดในการเผชิญหน้าระหว่างรัสเซียกับยูเครน ที่ถูกปลุกขึ้นมาใหม่คราวนี้ จึงแทบไม่ได้ทำให้บรรดาประเทศหลักๆ ในยุโรป ออกอาการอุจจาระขึ้นสมองแบบเดิมๆ อีกต่อไป ไม่ว่าเยอรมนี ฝรั่งเศส ไปจนถึงตุรกีโน่นเลย ต่างหันมาเรียกร้องให้พูดคุย เจรจา ไม่ถือเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโตอะไรกันมากมาย แม้คุณพ่ออเมริกาหรือ “นาโต” จะออกอาการฮึดๆ ฮัดๆ ยังไงก็เถอะ เพราะแค่ผู้นำประเทศหลักๆ ในยุโรปอย่างฝรั่งเศส และเยอรมนี เริ่มหันมาเห็นดี เห็นงามกับแนวคิดในการก่อตั้ง “กองกำลังยุโรป” เป็นของตัวเอง ถึงจะเป็นแนวคิดที่ยากจะเป็นไปได้ หรือยังคงต้องใช้เวลากันอีกนาน แต่เพียงแค่คิดๆ เท่านั้นเอง ก็พอสะท้อนให้เห็นว่ายุโรปทั้งยุโรปทุกวันนี้ ไม่ได้เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว หรือไม่ได้คิดจะยืนเคียงบ่า-เคียงไหล่กับอเมริกาในทุกเรื่อง ทุกราว เหมือนก่อนๆ แต่อย่างใด...

ส่วน “แนวรบในตะวันออกกลาง” นั้น...แทบไม่ต้องเสียเวลาพูดถึง ไม่ว่าแผนการ “ปฏิรูปตะวันออกกลาง” ตามแนวคิดของพวก “นีโอ-คอนเซอร์เวทีพ” ในรัฐบาลอเมริกันแต่ละยุค แต่ละสมัย แผน “ฉีกประเทศซีเรีย” ออกไปเป็นชิ้นๆ ไปจนถึงการ “บุกอิหร่าน”โน่นเลย ฯลฯ ล้วนแล้วแต่ “เจ๊ง...กับ...เจ๊ง” ไปด้วยกันทั้งสิ้น ไม่เพียงแต่ฝ่ายที่ถูกถือเป็นปรปักษ์อย่างซีเรีย อิหร่าน พวกฮามาสเฮซบอลเลาะห์ ฯลฯ จะยังคง “อยู่ได้” แถมยังโตวันโตคืน แต่บรรดาพันธมิตรที่หวังไว้ถึงขั้นคิดจะก่อตั้งกองกำลัง “อาหรับนาโต” เอาเลยถึงขั้นนั้นมาถึง ณ ขณะนี้...ก็ล้วนแต่ออกอาการ “กรอบเป็นข้าวเกรียบ” ไปตามๆ กัน โดยเฉพาะซาอุฯ นั้น น่าจะหนักหนาสาหัสที่สุด แค่เจอกับ “นิยายปริศนาฆาตกรรม” “นายจามาล คาช็อกกี” เรื่องเดียว...ก็ตายแล้ว!!! ยิ่งเมื่อเจอกับบรรดาประเทศบริวารซึ่งเคยชักชวนมารุมถล่มประเทศเล็กๆ จนๆ อย่างเยเมน ค่อยๆ ตีจากกันไปทีละรายสองราย ก็ต้องเรียกว่า...แทบหมดฤทธิ์หมดเดช กระทั่ง “พันธมิตรอันศักดิ์สิทธิ์” อย่างอิสราเอลก็เถอะ เมื่อต้องเจอเข้ากับจรวดพวก “ฮามาส” คราวล่าสุด เข้าไปจนอิ่ม จนจุก เล่นเอาแทบเละเทะไปทั้งรัฐบาล แม้อยากออกมือ ออกตีน ออกอาวุธ เพื่อตัดมือ ตัดตีน ฝ่ายตรงกันข้าม แต่เมื่อดันไปเจอกับ “ระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-300 รุ่นล่าสุด” ของรัสเซีย ตั้งตระหง่านอยู่ในซีเรีย ก็เลย “ไปไม่เป็น” จนตราบเท่าทุกวันนี้

สำหรับ “แนวรบในทะเลจีนใต้” ไปจนถึงคาบสมุทรเกาหลีโน่นเลย...อันถือเป็นแนวรบที่มีผลสะเทือนต่อความเป็นไปในบ้านเรา หรือบ้านใกล้เรือนเคียงค่อนข้างมากที่สุด มาถึง ณ ขณะนี้ ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมประมาณ “พลิกหน้าตีนเป็นหลังมือ” อยู่ตามสมควร อย่างน้อยสุด...ความพยายายามที่จะหยิบยกเอา “ความขัดแย้ง” หรือกรณีข้อพิพาทพื้นที่ต่างๆ ในทะเลจีนใต้ มาเป็นตัวปลุกกระตุ้น ปิดล้อม เป็นอุปสรรคขัดขวางการเดินหน้าออกอ่าว ออกทะเล ของ “Rival Power” อย่างคุณพี่จีน ตามแผนการ “One Belt, One Road” นับวัน...มันชักกลายเป็น “มุกด้าน” หรือ “มุกแป้ก”ยิ่งขึ้นทุกที ความพยายามสร้างความเคลื่อนไหวในเชิงสัญลักษณ์แบบที่เรียกว่า “การเดินโดยเสรี” (Freedom of Navigation-FON) ในน่านน้ำทะเลจีนใต้ ไปๆ-มาๆ...ชักกลายเป็นแค่การยั่วยวนกวนส้นตีน ระหว่างคุณพ่ออเมริกากับคุณพี่จีนกันโดยเฉพาะ ไม่ได้ก่อให้เกิดการมีส่วนร่วมของบรรดาประเทศต่างๆ ในทะเลจีนใต้ ที่หวังจะค้าๆ ขายๆ หวังจะให้เกิดสันติภาพและความสงบกันเป็นหลัก แม้แต่ผู้ที่เคยเป็นตัวตั้งตัวตีอย่างฟิลิปปินส์ ก็ไม่น่าจะเอาด้วยแล้ว หันไปซื้ออาวุธจีน ค้าขายลงทุนกับจีน ชนิดแทบไม่เหลือบรรยากาศเก่าๆ ที่เคยทำให้การประชุมอาเซียนในแต่ละที ต้องปวดเศียรเวียนเกล้ากับการ “แถลงการณ์ร่วม” มาโดยตลอด กระทั่งเวียดนาม ก็เริ่มหันไปฟื้นฟูความสัมพันธ์เก่าๆ กับรัสเซีย ที่ถือเป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ของจีน จนทำท่าว่าไม่อยากจะหยิบเอาเรื่องเล็กๆ น้อยๆ มาคิดมากอีกต่อไป...

ยิ่งถ้ามองเลยไปถึงคาบสมุทรเกาหลี ไปถึงยุ่นปี่ ญี่ปุ่น โน่นเลย...ยิ่งเห็นภาพความเปลี่ยนแปลงยิ่งขึ้นไปใหญ่ ไม่เพียงแต่หลีเหนือ-หลีใต้ เริ่มหันมารับประทาน “กิมจิ” ไหเดียวกันยิ่งขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่ญี่ปุ่นที่เคยเป็นตัวถ่วงจีน ปิดล้อมจีน ในแทบทุกเรื่องทุกราว มาถึง ณ ขณะนี้...ได้กลายเป็น “หุ้นส่วนการลงทุนในประเทศที่สาม” กับจีนเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายต่างต้องเจอกับ “ลูกบ้า” ของ “ทรัมป์บ้า” ไปด้วยกันทั้งสิ้น กระทั่งตัวถ่วงดุลรายสุดท้าย...อย่างอินตะระเดีย ที่ถูกเอาชื่อไปใช้เป็นสมญานาม “กองบัญชาการแปซิฟิก” ของกองทัพอเมริกา ให้กลายเป็น “กองบัญชาการอินโด-แปซิฟิก” ไปแทนที่ ไม่เพียงแต่หันไปซื้อระบบป้องกันขีปนาวุธ S-400 ของรัสเซีย โดยไม่คิดฟังคำเตือนของคุณพ่ออเมริกาเท่านั้น ยังหันไปสั่งซื้อ “น้ำมันอิหร่าน” แบบชนิดเท่าไหร่เท่ากัน แถมยังซื้อด้วยเงิน “เรียล” เงิน “รูปี” แทนเงิน “ดอลลาร์” ซะอีกด้วย ฯลฯ...

สรุปรวมความแล้ว...เท่าที่ลากยาวมาถึงขั้นนี้ ก็เพื่ออาจเอาไว้ใช้เป็น “ข้อมูล” ประกอบการ “พิจารณา” ของบรรดาผู้ที่อยู่ในประเทศเล็กๆ อย่างไทยแลนด์ แดนสยาม ของหมู่เฮาทั้งหลาย เพราะวันใด-วันหนึ่ง...มันอาจเกิดฉากสถานการณ์ดังที่ผู้นำประเทศเล็กสุดๆ อย่างสิงคโปร์ นายกรัฐมนตรี “ลี เซียน หลุง” ท่านได้เคยเตือนๆ ให้เตรียมตัว เตรียมใจเอาไว้ล่วงหน้า นั่นก็คือฉากสถานการณ์ที่ “บรรดาประเทศในอาเซียน...อาจต้องตัดสินใจว่าจะเลือกเป็นพันธมิตรกับฝ่ายหนึ่ง-ฝ่ายใด” หรือฉากสถานการณ์ที่ไม่หลงเหลือ “พื้นที่เป็นกลาง” ใดๆ อีกต่อไป อะไรถูก-อะไรผิด อะไรแพ้-อะไรชนะ และอะไรเป็นธรรม-ไม่เป็นธรรม คงต้องเก็บมาคิดๆ เอาไว้ให้ละเอียด ประณีต เพราะย่อมต้องดีกว่า “การเอาตัวรอดไปวันๆ” อยู่แล้วแน่ๆ...


กำลังโหลดความคิดเห็น