ข่าวปนคน คนปนข่าว
**พายุประชารัฐ!! “รังสิตโพล”สวน “นิด้าโพล - โพลทักษิณ”ยก “ลุงตู่”นำลิ่วคะแนนนิยม “เจ๊หน่อย-เฮียมาร์ค”ตีคู่ ตามห่างๆ แถมโชว์เหนือชั้นด้วยการเก็บสถิติ หนละ 8 พันตัวอย่าง ละเอียดกว่า“นิด้าโพล”ที่ใช้แค่พันต้นๆ ไม่อุ๊บอิ๊บ แนบผลสำรวจเป็นรายภาค พ่วงบทวิเคราะห์ล้อสถานการณ์จริง "สังศิต" ผอ.โพล ฟันธง “บัตรคนจนเอฟเฟกต์”ทำมนต์ขลัง “แม้ว ประชานิยม”เสื่อม ส่ง “พลังประชารัฐ”ชนะเลือกตั้งขาด
เฮไม่สุดเสียง .. ฟากฝั่ง “เครือข่ายทักษิณ”ที่ดี๊ด๊า กันใหญ่ หลัง “นิด้าโพล”ปล่อยผลสำรวจ “นายกฯในดวงใจ”หนล่าสุด .. แต้มพลิก “เจ๊หน่อย”คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หอบ 25.16% ขึ้นจ่าฝูงหนแรก ตบตูด“โพลทักษิณ”ที่โวลั่น กวาด 290 ที่นั่งนั่นประไร .. เฉือนแชมป์เก่า 4 ปีซ้อน อย่าง “นายกฯตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ได้ 24.05% ลงได้ .. ตั้งข้อสังเกตผ่านพื้นที่นี้ไปแล้วว่า “เชื่อถือได้แค่ไหน”กับผลสำรวจรอบล่า ของ “นิด้า” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ที่ผลัดมือให้ อัญชนา ณ ระนอง มากุมบังเหียน เป็นผอ.โพล หนแรก .. จน “อ.อัญชนา”ถึงกับต้องออกคลิป แจกแจงผลโพล ว่าแต้ม“เจ๊หน่อย - ลุงตู่”ไม่ได้ห่างกันอย่าง “มีนัยสำคัญ”หรือพูดง่ายๆว่า “เปอร์เซ็นต์เดียว”ไม่ถือว่าแตกต่างในทางวิชาการ .. อย่างที่ทราบ“นิด้าโพล”หรือโพลสถาบันการศึกษาอื่นๆ มักจับ “กลุ่มตัวอย่าง”แค่หลักพันต้นๆ หรือ 1,024 ตัวอย่าง ที่เป็น “ขั้นต่ำ”ของงานวิจัย .. อีกทั้ง “นิด้าโพล” ก็เน้นพื้นที่แค่ “กทม.”คงเหมารวมเป็น "เสียงคนทั้งประเทศ" ไม่ได้ ยังไม่รวม 10% ของ “เจ๊หน่อย”ที่พุ่งพรวดขึ้นมาอย่างน่าติดใจ สงสัย ..
ที่ว่าเฮไม่สุดเสียง ก็ด้วยล่าสุดมี “รังสิตโพล”ของ ม.รังสิต ในหัวข้อคล้ายกัน “อยากได้ใครเป็นนายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้ง”ออกมา .. ปรากฏว่าผลสำรวจที่เพิ่งทำ เมื่อ 24 พ.ย. ที่ผ่านมา “ลุงตู่”นำลิ่ว 27.06% มี “เจ๊หน่อย”ตามมาห่างๆ 18.16% และ “เฮียมาร์ค”อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ควง 15.55% มาเป็นที่ 3 ส่วนที่เหลือ “ต่ำสิบ”ไม่ขอพูดถึง .. ความต่างของ “โพลรังสิต”กับโพลสำนักอื่นๆ อยู่ตรง “ความละเอียดยิบ”เปรียบแต้มตั้งแต่ครั้ง 1-4 ให้เสร็จสรรพ .. ที่ “เหนือชั้น”ขั้นสุด คงเป็นจำนวนกลุ่มตัวอย่าง ที่ทำครั้งละ 8,000 ตัวอย่าง ใน 350 เขตเลือกตั้ง ใน 77 จังหวัดทั่วประเทศ พร้อมแจกแจงเป็นรายภาค .. ด้วยรายละเอียดที่ทำออกมา ส่งผลให้มี “ความน่าเชื่อถือ”มากกว่าโพลสำนักอื่นแบบคนละเรื่อง .. จนกล้าการันตี ด้วยระดับความเชื่อมั่นทางสถิติ 90% เก็บสถิติมาตั้งแต่เดือน พ.ค.61 นู่น .. ไม่เท่านั้นยังมี “บทวิเคราะห์”แนบตามมาด้วย เหตุและผลของคะแนนนิยมขึ้นหรือลง เพราะอะไร สอดรับไปกับ “ความเป็นจริง” ..
กลัวจะไม่ชัด สังศิต พิริยะรังสรรค์ คณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต ในฐานะ “ผอ.โพลรังสิต”ออกมาวิเคราะห์ตามหลักวิชาการ .. ระบุทิศทางความนิยม ทักษิณ ชินวัตร เริ่มเสื่อม จากปัจจัยความแตกแยกภายในเครือข่ายตัวเอง .. ส่วนนโยบายโดนใจ ที่เคยผันเป็นกระแส “ทักษิณฟีเวอร์” ก็ถูกนำมาแก้ไข ต่อยอด จนมนต์สะกด ที่ชื่อ “ประชานิยม”จางไปโข .. เอาง่ายๆ แค่แคมเปญ “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ”ที่ “รัฐบาล คสช.”ยิงสลุตออกมา จน “ลิ่วล้อทักษิณ”โวยลั่นว่า “หาเสียงล่วงหน้า”ก็ชัด .. “วันนี้ถ้าดูคะแนนนิยมส่วนตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ซึ่งผมสำรวจมา 4 หน ชนะแค่ 3 หน แต่ครั้งสุดท้าย เริ่มชนะเยอะ ส่วนคะแนนนิยมพรรค แพ้มาตลอด แต่วันนี้พลิกกลับมาชนะ เหตุผลที่พลิกกลับมาชนะ ผมคิดว่ามาจากเรื่องบัตรคนจน” อ.สังศิต วิเคราะห์ไว้ .. อานิสงส์ หนีไม่พ้นตกไปที่ “พรรคพลังประชารัฐ”ที่ละไว้ในฐานที่เข้าใจว่า สนับสนุน “ลุงตู่อยู่ต่อ”.. ไม่ต้องเดาให้ยาก แนวนโยบาย “พลังประชารัฐ”ก็คงจะล้อไปกับสิ่งที่รัฐบาล คสช. ทำอยู่นั่นแหละ ขณะเดียวกันก็บังคับ “ขั้วตรงข้าม”ต้องแทงสวน ค้านทุกเรื่องไปในตัว .. กลายเป็นจุดที่ “ได้เปรียบ”ของ พปชร. จน “เสี่ยแฮงค์”อนุชา นาคาศัย กรรมการบริหาร ออกมาท้าทายว่า พรรคอื่น กล้าประกาศยกเลิกบัตรคนจนไหมล่ะ กล้าไหมๆ .. แนวโน้มแบบนี้ “สังศิต”ฟันธงเปรี้ยง ยิ่งใกล้เลือกตั้ง “พปชร.”จะยิ่งทิ้งห่างมากขึ้น เปรียบเป็น “พายุ”กวาดพรรคเพื่อไทยตกลู่ เป็นพรรคแรกตั้งแต่เลือกตั้งปี 2544 .. เอาเป็นว่า ฟังหูไว้หู แล้วคอยดูว่า “พายุประชารัฐ”จะทรงพลานุภาพ เอาชนะปรากฏการณ์ “ดินถล่ม - หิมะทลาย”ที่ “ทักษิณ” เคยประกาศไว้หรือไม่ ละกัน
**อย่าหือกับพี่!! ลือแรงๆ “คนในคุก”สามัคคีชี้เป้า “เจ๊โม่ง”กดสูตร “จีทูเจี๊ยะ - จีทูเจ๊”ค้ำหมัด “บิ๊กบอส”อย่าคิดหืออือ เดินแผนสู้เต็มสูบ บังคับ “เพลย์เซฟ”รักษาชีวิต“น้องสาว” เข้าอีหรอบเดียวกับ“ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน”ที่อยู่ในแปลน “ตัวประกัน”จากคดีฟอกเงิน ขืนดิ้นสู้ มีหวัง “ยกครัว”ไปเป็น “สัมภเวสีหนีคดี”ในต่างแดนแบบพร้อมหน้า พร้อมตา
เชื่อกันทั้งบางไปแล้ว .. ข่าวลือแรงๆ ที่ว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สับเกียร์ห้า เร่งเครื่องสางคดีโคตรโกง “จีทูจี ล็อต 2” ..เพิ่ม “ตัวละคร”จากภาคแรก สาวลึก “เจ๊โม่ง”ที่บงการ “เสี่ยฮุก”บุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ จนตกกระได ต้องโทษไปร่วม 40 ปี .. ลือแรงจนเห็นว่า “เจ๊แดง”เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ เจ้าแม่วังบัวบาน ซุ้มต้นสังกัด “เสี่ยฮุก”จู่ๆ “ชัตดาวน์ตัวเอง”หายไปจากสารบบดื้อๆ .. อย่างคอก “เพื่อธรรม”ที่ว่า ตั้งมาเป็น “พรรคสำรอง”พร้อมกับไว้รองรับสต็อกเด็กในคาถา“เจ๊” สุดท้ายต้องพับโปรเจกต์ เก็บพรรคไว้ทื่อๆ .. ทำเอา สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ต้องถอนสมอ ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค รีเทิร์นเข้าค่ายเพื่อไทย .. ว่ากันว่า ที่โปรเจกต์นี้ต้องพับเร็วกว่าวัยอันควร ก็มาจากผลพวง “จีทูเจี๊ยะ - จีทูเจ๊”เนี่ยแหละ .. จากเดิม “เจ๊บัวบาน”อยู่ในสถานะปลอดภัย ลอยตัวกับทุกเรื่องฉาว คาวทุจริต ไม่ได้คาดการณ์ว่า “ทหาร”จะหัวหมอ ล่อมาถึงตัวจนได้ .. อุตส่าห์เก็บตัว โลว์โปรไฟล์ ขนาด “ผู้แทนรษฎร”ยังเว้นวรรคไม่ขอเป็น ดันสามี “ชายจืด”สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ออกมาเขยื้อน หวังแก้มือเป็นนายกฯคำรบ 2 .. ที่ไหนได้ มันร้ายกว่าที่คิด กะปลิดชีพล้างตระกูล ให้พ้นวงจรการเมืองไทยกันเลย ..
ขณะที่ “บอร์ด ป.ป.ช.”ผู้ห่อชะตาชีวิต “เจ๊”ตอนนี้ก็เดินเป็นสเตป ไม่ยอมคายสักที ว่ามีชื่อ “เยาวภา”อยู่ในลิสต์ถูกตั้งอนุกรรมการไต่สวนหรือไม่ .. ปล่อยให้ฝ่ายถูกรุกล้ำ ต้องเผชิญอาการ "วัวสันหลังหวะ" ไม่กล้าทำอะไรผลีผลาม เตลิดเปิดเปิงไปพักใจอยู่ “ดูไบ”นู่น .. อีกกระแสหนึ่งก็ว่า ที่ ป.ป.ช. ยัง“เงื้อง่าราคาแพง”เป็น “แผนบันได 4 ขั้น”เหมือนต้องการกด “เจ๊ใหญ่”ให้กระทบชิ่งไปถึง “พี่ชาย”ในต่างแดน .. ค้ำหมัดไว้ ไม่ให้คิดหืออือ เดินแผนสู้ “คสช.”เต็มสูบ แล้ว “เพลย์เซฟ”รักษาชีวิต “น้องสาว” เข้าอีหรอบเดียวกับ “ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน” ที่อยู่ในแปลน “ตัวประกัน”จากคดีฟอกเงิน .. จะบีบก็ตาย จะคลายก็รอด จะมอดม้วย หรือยังใช้ชีวิตอยู่ในประเทศไทย ทั้งหมดทั้งมวลอยู่ที่การตัดสินใจของ “นายใหญ่”ทั้งสิ้น .. ถ้ายังดิ้น สู้ไม่เลิก โอกาสที่ “ยกครัว”ไปเป็น “สัมภเวสีหนีคดี”ตามรอย “พี่ษิณ - น้องปู”ใช้ชีวิตในต่างแดนแบบพร้อมหน้าพร้อมตามีสูง .. เห็นว่าป่านนี้ “น้องแดง”ก็ยังไม่กลับจาก “ดูไบ”หลังไปเยี่ยมพี่ชายมาหลายวันแล้ว ลูกน้องชะเง้อคอ มองลุ้นกันตุ้มๆ ต่อมๆ กลับ –ไม่กลับ .. เอาเข้าจริงมันก็เสี่ยง ลำพัง“บุญทรง”ปากเดียวที่ซัดทอด อาจจะพอหาทางสู้ .. แต่ลือกันออกมานอกคุก จำเลยทั้งหลาย พร้อมใจกันเปิดปาก ให้การตรงกัน “เจ๊โม่ง”คือใคร ไม่เว้นกระทั่ง “เสี่ยเปี๋ยง”อภิชาต จันทร์สกุลพร ที่เป็นระดับมือไม้สายตรง“บิ๊กบอส”..สยองแค่ไหน ดูเอาแล้วกัน “เสี่ยต๋อง”วราเทพ รัตนากร อดีตลูกรักของ “เจ๊”ยังยอมทิ้งค่าย หันไปซบศัตรู เพราะรู้กันอยู่ สมัยระบายข้าวถุง เคยถูกจับโยง .. ชี้เป้าว่า โรงสีจัดทำข้าวถุงได้งานก็เพราะ “รมต.ว.”พาไปหา“เจ๊ ด.”เพื่อของาน ลองไปย้อนฟังเทปอภิปรายของ “หมอวรงค์” นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ว่าที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูก็จะรู้แจ้ง
**บ่อน้ำมันค่ายสะตอ!! “เฮียมาร์ค”โชว์หล่อ ไม่หวั่น“พลังดูด”กระชากอดีตผู้แทนฯไปร่วม 20 ชีวิต ยกสถิติข่ม ย้ายพรรคโอกาสรีเทิร์น “สภาหินอ่อน” ริบหรี่ แต่อย่าลืมพวกที่ยังเหนียวแน่น “ค่ายสีฟ้า”ก็ใช่ว่าชัวร์ “พรรคเสี่ยหนู - พรรคสุเทพ”รุกหนักปักษ์ใต้ สบช่องอดีต ส.ส.ปชป. “ขี้คร้าน”ทำตัวเป็น “เสาไฟฟ้า”ปล่อย “มวยรอง”ตีตื้น จ่อคอหอย
ยักไหล่หล่อๆ .. ตามสไตล์ “เฮียมาร์ค”อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โวลั่น “บ่ยั่น”หลังต้องเสียไพร่พล อดีต ส.ส.ไปให้ “พลังดูด”ทั้งหลาย .. ไม่ว่าจะเป็น “พลังประชารัฐ- ภูมิใจไทย - รวมพลังประชาชาติไทย”หลายหน่อ เกือบ 20 ชีวิต .. กระเทือนแน่ๆ แต่ “เก็บอาการ” แถมเย้ยหยัน ที่ได้ๆ กันไป ก็อาจเป็น อดีต ส.ส.ไปยาวๆ ยกสถิติข่มโอกาสหน้าเดิมจะได้เก้าอี้อีกสมัย มีแค่ 20-30% .. เข้าใจได้ว่าเป็น “จิตวิทยา”ตามประสา “แม่ทัพใหญ่”ที่ต้องปลุกเร้าลูกพรรค ที่ยังเหนียวแน่นไม่ไปไหน .. ต้องยอมรับว่า โดยสภาพ “อดีตผู้แทนฯ”ของ “ค่ายสะตอ”โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ โอกาสกลายเป็น “ส.ต.-สอบตก”เหมือนกัน .. แต่งวดนี้ “พลพรรคค่ายสะตอ”ที่ยืนหนึ่งไม่ไปไหน ก็ใช้ว่าจะปลอดภัย หลายพื้นที่ถูกขยี้หนัก ส่อแววจะเสียฐานที่มั่นสำคัญอยู่รอมร่อ ..
เริ่มตั้งแต่“พัทลุง”ที่ “เสี่ยหนู”อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ส่งทุนใหญ่ “ตระกูลรัชกิจประการ”เจ้าของกิจการน้ำมัน “พีที” ลงไปแย่งเก้าอี้ ส.ส. ... ต้องบอกเลยว่า “แข็งโป๊ก”โอกาสโค่นแชมป์เก่ามีสูง หลังลุยทำพื้นที่จนมีกระแสไม่น้อยหน้ากัน .. เช่นเดียวกับที่ “สตูล”ที่ “ค่ายสีน้ำเงิน”ก็หมายมั่นกว่าพื้นที่ใด ว่าไม่ต้องออกแรงมาก เพราะนี่คือ “จุดอ่อน”ประชาธิปัตย์ในภาคใต้ มาจะแทบตลอดทุกสมัย 50-50 ไม่เคยชัวร์ .. แล้วจะเป็นโดมิโน่ไปถึง “เมืองระนอง”ด้วยเหมือนกัน หลัง วิรัช ร่มเย็น กลับลำมาลงสมัครเขต หนีปาร์ตี้ลิสต์ โลเลไปมา ทำเอาผิดใจกับ คมกฤษ ฉัตรมาลีรัตน์ นายก อบจ.ระนอง ที่คุยกันดิบดี ว่าจะส่งลงเขต จนต้องหนีไปอยู่ “ภูมิใจไทย”แล้วกลายมาเป็นคู่แข่ง ชนกันเอง .. ต้องบอกว่าที่ “ค่ายสีฟ้า”โดนรุกหนัก ส่วนหนึ่งมาจาก “เคยตัว-ชะล่าใจ”ทำตัวประหนึ่ง “เสาไฟฟ้า”..คิดก็แค่ใส่เสื้อสีฟ้า ลงที่ไหนในปักษ์ใต้ ยังไงก็ชนะ หากวิกฤตจริงๆ ก็เรียกใช้ผู้บริหาร-พึ่งบารมี “นายหัวใหญ่”ชวน หลีกภัย ลงพื้นที่ เสกคาถาซักรอบ ก็เข้าวินฉลุย .. คิดกันซะแบบนี้ จนเกียจคร้านลงพื้นที่ โยกย้ายถ่ายเท “งบ ส.ส.”ไปลงที่อื่น ปล่อยให้ “มวยรอง”แต่ขยันออกหมัด ปฏิบัติการทำพื้นที่ ตีตื้น มาจนจ่อคอหอย .. ทำเป็นเล่น “สงขลา”ที่ว่าแข็งๆ แต่เขต “เสี่ยเล็ก”ศิริโชค โสภา นี่อย่างกับ“บ่อน้ำมัน” คราวก่อน รอดมาได้ เพราะยี่ห้อพรรค .. คราวนี้อาจจะ“ไม่โสภา” คู่แข่งกลายมาเป็น“คนกันเอง”อย่าง “พรรคกำนัน”ที่ “นายหัววอน” ถาวร เสนเนียม เพิ่งเปิดฟลอร์ให้ สุเทพ เทือกสุบรรณ ปราศรัยใส่ยับ ว่า เอาแน่ เขต 7 สงขลา ทำเอา “พี่มาร์ค”เดือดปุดๆ นั่นไง
ช.ชฎา
รูป
-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา- คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ - สังศิต พิริยะรังสรรค์ - อัญชนา ณ ระนอง
-เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ - บุญทรง เตริยาภิรมย์
-อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ -อนุทิน ชาญวีรกูล- ศิริโชค โสภา- ถาวร เสนเนียม
**พายุประชารัฐ!! “รังสิตโพล”สวน “นิด้าโพล - โพลทักษิณ”ยก “ลุงตู่”นำลิ่วคะแนนนิยม “เจ๊หน่อย-เฮียมาร์ค”ตีคู่ ตามห่างๆ แถมโชว์เหนือชั้นด้วยการเก็บสถิติ หนละ 8 พันตัวอย่าง ละเอียดกว่า“นิด้าโพล”ที่ใช้แค่พันต้นๆ ไม่อุ๊บอิ๊บ แนบผลสำรวจเป็นรายภาค พ่วงบทวิเคราะห์ล้อสถานการณ์จริง "สังศิต" ผอ.โพล ฟันธง “บัตรคนจนเอฟเฟกต์”ทำมนต์ขลัง “แม้ว ประชานิยม”เสื่อม ส่ง “พลังประชารัฐ”ชนะเลือกตั้งขาด
เฮไม่สุดเสียง .. ฟากฝั่ง “เครือข่ายทักษิณ”ที่ดี๊ด๊า กันใหญ่ หลัง “นิด้าโพล”ปล่อยผลสำรวจ “นายกฯในดวงใจ”หนล่าสุด .. แต้มพลิก “เจ๊หน่อย”คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หอบ 25.16% ขึ้นจ่าฝูงหนแรก ตบตูด“โพลทักษิณ”ที่โวลั่น กวาด 290 ที่นั่งนั่นประไร .. เฉือนแชมป์เก่า 4 ปีซ้อน อย่าง “นายกฯตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ได้ 24.05% ลงได้ .. ตั้งข้อสังเกตผ่านพื้นที่นี้ไปแล้วว่า “เชื่อถือได้แค่ไหน”กับผลสำรวจรอบล่า ของ “นิด้า” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ที่ผลัดมือให้ อัญชนา ณ ระนอง มากุมบังเหียน เป็นผอ.โพล หนแรก .. จน “อ.อัญชนา”ถึงกับต้องออกคลิป แจกแจงผลโพล ว่าแต้ม“เจ๊หน่อย - ลุงตู่”ไม่ได้ห่างกันอย่าง “มีนัยสำคัญ”หรือพูดง่ายๆว่า “เปอร์เซ็นต์เดียว”ไม่ถือว่าแตกต่างในทางวิชาการ .. อย่างที่ทราบ“นิด้าโพล”หรือโพลสถาบันการศึกษาอื่นๆ มักจับ “กลุ่มตัวอย่าง”แค่หลักพันต้นๆ หรือ 1,024 ตัวอย่าง ที่เป็น “ขั้นต่ำ”ของงานวิจัย .. อีกทั้ง “นิด้าโพล” ก็เน้นพื้นที่แค่ “กทม.”คงเหมารวมเป็น "เสียงคนทั้งประเทศ" ไม่ได้ ยังไม่รวม 10% ของ “เจ๊หน่อย”ที่พุ่งพรวดขึ้นมาอย่างน่าติดใจ สงสัย ..
ที่ว่าเฮไม่สุดเสียง ก็ด้วยล่าสุดมี “รังสิตโพล”ของ ม.รังสิต ในหัวข้อคล้ายกัน “อยากได้ใครเป็นนายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้ง”ออกมา .. ปรากฏว่าผลสำรวจที่เพิ่งทำ เมื่อ 24 พ.ย. ที่ผ่านมา “ลุงตู่”นำลิ่ว 27.06% มี “เจ๊หน่อย”ตามมาห่างๆ 18.16% และ “เฮียมาร์ค”อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ควง 15.55% มาเป็นที่ 3 ส่วนที่เหลือ “ต่ำสิบ”ไม่ขอพูดถึง .. ความต่างของ “โพลรังสิต”กับโพลสำนักอื่นๆ อยู่ตรง “ความละเอียดยิบ”เปรียบแต้มตั้งแต่ครั้ง 1-4 ให้เสร็จสรรพ .. ที่ “เหนือชั้น”ขั้นสุด คงเป็นจำนวนกลุ่มตัวอย่าง ที่ทำครั้งละ 8,000 ตัวอย่าง ใน 350 เขตเลือกตั้ง ใน 77 จังหวัดทั่วประเทศ พร้อมแจกแจงเป็นรายภาค .. ด้วยรายละเอียดที่ทำออกมา ส่งผลให้มี “ความน่าเชื่อถือ”มากกว่าโพลสำนักอื่นแบบคนละเรื่อง .. จนกล้าการันตี ด้วยระดับความเชื่อมั่นทางสถิติ 90% เก็บสถิติมาตั้งแต่เดือน พ.ค.61 นู่น .. ไม่เท่านั้นยังมี “บทวิเคราะห์”แนบตามมาด้วย เหตุและผลของคะแนนนิยมขึ้นหรือลง เพราะอะไร สอดรับไปกับ “ความเป็นจริง” ..
กลัวจะไม่ชัด สังศิต พิริยะรังสรรค์ คณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต ในฐานะ “ผอ.โพลรังสิต”ออกมาวิเคราะห์ตามหลักวิชาการ .. ระบุทิศทางความนิยม ทักษิณ ชินวัตร เริ่มเสื่อม จากปัจจัยความแตกแยกภายในเครือข่ายตัวเอง .. ส่วนนโยบายโดนใจ ที่เคยผันเป็นกระแส “ทักษิณฟีเวอร์” ก็ถูกนำมาแก้ไข ต่อยอด จนมนต์สะกด ที่ชื่อ “ประชานิยม”จางไปโข .. เอาง่ายๆ แค่แคมเปญ “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ”ที่ “รัฐบาล คสช.”ยิงสลุตออกมา จน “ลิ่วล้อทักษิณ”โวยลั่นว่า “หาเสียงล่วงหน้า”ก็ชัด .. “วันนี้ถ้าดูคะแนนนิยมส่วนตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ซึ่งผมสำรวจมา 4 หน ชนะแค่ 3 หน แต่ครั้งสุดท้าย เริ่มชนะเยอะ ส่วนคะแนนนิยมพรรค แพ้มาตลอด แต่วันนี้พลิกกลับมาชนะ เหตุผลที่พลิกกลับมาชนะ ผมคิดว่ามาจากเรื่องบัตรคนจน” อ.สังศิต วิเคราะห์ไว้ .. อานิสงส์ หนีไม่พ้นตกไปที่ “พรรคพลังประชารัฐ”ที่ละไว้ในฐานที่เข้าใจว่า สนับสนุน “ลุงตู่อยู่ต่อ”.. ไม่ต้องเดาให้ยาก แนวนโยบาย “พลังประชารัฐ”ก็คงจะล้อไปกับสิ่งที่รัฐบาล คสช. ทำอยู่นั่นแหละ ขณะเดียวกันก็บังคับ “ขั้วตรงข้าม”ต้องแทงสวน ค้านทุกเรื่องไปในตัว .. กลายเป็นจุดที่ “ได้เปรียบ”ของ พปชร. จน “เสี่ยแฮงค์”อนุชา นาคาศัย กรรมการบริหาร ออกมาท้าทายว่า พรรคอื่น กล้าประกาศยกเลิกบัตรคนจนไหมล่ะ กล้าไหมๆ .. แนวโน้มแบบนี้ “สังศิต”ฟันธงเปรี้ยง ยิ่งใกล้เลือกตั้ง “พปชร.”จะยิ่งทิ้งห่างมากขึ้น เปรียบเป็น “พายุ”กวาดพรรคเพื่อไทยตกลู่ เป็นพรรคแรกตั้งแต่เลือกตั้งปี 2544 .. เอาเป็นว่า ฟังหูไว้หู แล้วคอยดูว่า “พายุประชารัฐ”จะทรงพลานุภาพ เอาชนะปรากฏการณ์ “ดินถล่ม - หิมะทลาย”ที่ “ทักษิณ” เคยประกาศไว้หรือไม่ ละกัน
**อย่าหือกับพี่!! ลือแรงๆ “คนในคุก”สามัคคีชี้เป้า “เจ๊โม่ง”กดสูตร “จีทูเจี๊ยะ - จีทูเจ๊”ค้ำหมัด “บิ๊กบอส”อย่าคิดหืออือ เดินแผนสู้เต็มสูบ บังคับ “เพลย์เซฟ”รักษาชีวิต“น้องสาว” เข้าอีหรอบเดียวกับ“ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน”ที่อยู่ในแปลน “ตัวประกัน”จากคดีฟอกเงิน ขืนดิ้นสู้ มีหวัง “ยกครัว”ไปเป็น “สัมภเวสีหนีคดี”ในต่างแดนแบบพร้อมหน้า พร้อมตา
เชื่อกันทั้งบางไปแล้ว .. ข่าวลือแรงๆ ที่ว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สับเกียร์ห้า เร่งเครื่องสางคดีโคตรโกง “จีทูจี ล็อต 2” ..เพิ่ม “ตัวละคร”จากภาคแรก สาวลึก “เจ๊โม่ง”ที่บงการ “เสี่ยฮุก”บุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ จนตกกระได ต้องโทษไปร่วม 40 ปี .. ลือแรงจนเห็นว่า “เจ๊แดง”เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ เจ้าแม่วังบัวบาน ซุ้มต้นสังกัด “เสี่ยฮุก”จู่ๆ “ชัตดาวน์ตัวเอง”หายไปจากสารบบดื้อๆ .. อย่างคอก “เพื่อธรรม”ที่ว่า ตั้งมาเป็น “พรรคสำรอง”พร้อมกับไว้รองรับสต็อกเด็กในคาถา“เจ๊” สุดท้ายต้องพับโปรเจกต์ เก็บพรรคไว้ทื่อๆ .. ทำเอา สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ต้องถอนสมอ ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค รีเทิร์นเข้าค่ายเพื่อไทย .. ว่ากันว่า ที่โปรเจกต์นี้ต้องพับเร็วกว่าวัยอันควร ก็มาจากผลพวง “จีทูเจี๊ยะ - จีทูเจ๊”เนี่ยแหละ .. จากเดิม “เจ๊บัวบาน”อยู่ในสถานะปลอดภัย ลอยตัวกับทุกเรื่องฉาว คาวทุจริต ไม่ได้คาดการณ์ว่า “ทหาร”จะหัวหมอ ล่อมาถึงตัวจนได้ .. อุตส่าห์เก็บตัว โลว์โปรไฟล์ ขนาด “ผู้แทนรษฎร”ยังเว้นวรรคไม่ขอเป็น ดันสามี “ชายจืด”สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ออกมาเขยื้อน หวังแก้มือเป็นนายกฯคำรบ 2 .. ที่ไหนได้ มันร้ายกว่าที่คิด กะปลิดชีพล้างตระกูล ให้พ้นวงจรการเมืองไทยกันเลย ..
ขณะที่ “บอร์ด ป.ป.ช.”ผู้ห่อชะตาชีวิต “เจ๊”ตอนนี้ก็เดินเป็นสเตป ไม่ยอมคายสักที ว่ามีชื่อ “เยาวภา”อยู่ในลิสต์ถูกตั้งอนุกรรมการไต่สวนหรือไม่ .. ปล่อยให้ฝ่ายถูกรุกล้ำ ต้องเผชิญอาการ "วัวสันหลังหวะ" ไม่กล้าทำอะไรผลีผลาม เตลิดเปิดเปิงไปพักใจอยู่ “ดูไบ”นู่น .. อีกกระแสหนึ่งก็ว่า ที่ ป.ป.ช. ยัง“เงื้อง่าราคาแพง”เป็น “แผนบันได 4 ขั้น”เหมือนต้องการกด “เจ๊ใหญ่”ให้กระทบชิ่งไปถึง “พี่ชาย”ในต่างแดน .. ค้ำหมัดไว้ ไม่ให้คิดหืออือ เดินแผนสู้ “คสช.”เต็มสูบ แล้ว “เพลย์เซฟ”รักษาชีวิต “น้องสาว” เข้าอีหรอบเดียวกับ “ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน” ที่อยู่ในแปลน “ตัวประกัน”จากคดีฟอกเงิน .. จะบีบก็ตาย จะคลายก็รอด จะมอดม้วย หรือยังใช้ชีวิตอยู่ในประเทศไทย ทั้งหมดทั้งมวลอยู่ที่การตัดสินใจของ “นายใหญ่”ทั้งสิ้น .. ถ้ายังดิ้น สู้ไม่เลิก โอกาสที่ “ยกครัว”ไปเป็น “สัมภเวสีหนีคดี”ตามรอย “พี่ษิณ - น้องปู”ใช้ชีวิตในต่างแดนแบบพร้อมหน้าพร้อมตามีสูง .. เห็นว่าป่านนี้ “น้องแดง”ก็ยังไม่กลับจาก “ดูไบ”หลังไปเยี่ยมพี่ชายมาหลายวันแล้ว ลูกน้องชะเง้อคอ มองลุ้นกันตุ้มๆ ต่อมๆ กลับ –ไม่กลับ .. เอาเข้าจริงมันก็เสี่ยง ลำพัง“บุญทรง”ปากเดียวที่ซัดทอด อาจจะพอหาทางสู้ .. แต่ลือกันออกมานอกคุก จำเลยทั้งหลาย พร้อมใจกันเปิดปาก ให้การตรงกัน “เจ๊โม่ง”คือใคร ไม่เว้นกระทั่ง “เสี่ยเปี๋ยง”อภิชาต จันทร์สกุลพร ที่เป็นระดับมือไม้สายตรง“บิ๊กบอส”..สยองแค่ไหน ดูเอาแล้วกัน “เสี่ยต๋อง”วราเทพ รัตนากร อดีตลูกรักของ “เจ๊”ยังยอมทิ้งค่าย หันไปซบศัตรู เพราะรู้กันอยู่ สมัยระบายข้าวถุง เคยถูกจับโยง .. ชี้เป้าว่า โรงสีจัดทำข้าวถุงได้งานก็เพราะ “รมต.ว.”พาไปหา“เจ๊ ด.”เพื่อของาน ลองไปย้อนฟังเทปอภิปรายของ “หมอวรงค์” นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ว่าที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูก็จะรู้แจ้ง
**บ่อน้ำมันค่ายสะตอ!! “เฮียมาร์ค”โชว์หล่อ ไม่หวั่น“พลังดูด”กระชากอดีตผู้แทนฯไปร่วม 20 ชีวิต ยกสถิติข่ม ย้ายพรรคโอกาสรีเทิร์น “สภาหินอ่อน” ริบหรี่ แต่อย่าลืมพวกที่ยังเหนียวแน่น “ค่ายสีฟ้า”ก็ใช่ว่าชัวร์ “พรรคเสี่ยหนู - พรรคสุเทพ”รุกหนักปักษ์ใต้ สบช่องอดีต ส.ส.ปชป. “ขี้คร้าน”ทำตัวเป็น “เสาไฟฟ้า”ปล่อย “มวยรอง”ตีตื้น จ่อคอหอย
ยักไหล่หล่อๆ .. ตามสไตล์ “เฮียมาร์ค”อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โวลั่น “บ่ยั่น”หลังต้องเสียไพร่พล อดีต ส.ส.ไปให้ “พลังดูด”ทั้งหลาย .. ไม่ว่าจะเป็น “พลังประชารัฐ- ภูมิใจไทย - รวมพลังประชาชาติไทย”หลายหน่อ เกือบ 20 ชีวิต .. กระเทือนแน่ๆ แต่ “เก็บอาการ” แถมเย้ยหยัน ที่ได้ๆ กันไป ก็อาจเป็น อดีต ส.ส.ไปยาวๆ ยกสถิติข่มโอกาสหน้าเดิมจะได้เก้าอี้อีกสมัย มีแค่ 20-30% .. เข้าใจได้ว่าเป็น “จิตวิทยา”ตามประสา “แม่ทัพใหญ่”ที่ต้องปลุกเร้าลูกพรรค ที่ยังเหนียวแน่นไม่ไปไหน .. ต้องยอมรับว่า โดยสภาพ “อดีตผู้แทนฯ”ของ “ค่ายสะตอ”โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ โอกาสกลายเป็น “ส.ต.-สอบตก”เหมือนกัน .. แต่งวดนี้ “พลพรรคค่ายสะตอ”ที่ยืนหนึ่งไม่ไปไหน ก็ใช้ว่าจะปลอดภัย หลายพื้นที่ถูกขยี้หนัก ส่อแววจะเสียฐานที่มั่นสำคัญอยู่รอมร่อ ..
เริ่มตั้งแต่“พัทลุง”ที่ “เสี่ยหนู”อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ส่งทุนใหญ่ “ตระกูลรัชกิจประการ”เจ้าของกิจการน้ำมัน “พีที” ลงไปแย่งเก้าอี้ ส.ส. ... ต้องบอกเลยว่า “แข็งโป๊ก”โอกาสโค่นแชมป์เก่ามีสูง หลังลุยทำพื้นที่จนมีกระแสไม่น้อยหน้ากัน .. เช่นเดียวกับที่ “สตูล”ที่ “ค่ายสีน้ำเงิน”ก็หมายมั่นกว่าพื้นที่ใด ว่าไม่ต้องออกแรงมาก เพราะนี่คือ “จุดอ่อน”ประชาธิปัตย์ในภาคใต้ มาจะแทบตลอดทุกสมัย 50-50 ไม่เคยชัวร์ .. แล้วจะเป็นโดมิโน่ไปถึง “เมืองระนอง”ด้วยเหมือนกัน หลัง วิรัช ร่มเย็น กลับลำมาลงสมัครเขต หนีปาร์ตี้ลิสต์ โลเลไปมา ทำเอาผิดใจกับ คมกฤษ ฉัตรมาลีรัตน์ นายก อบจ.ระนอง ที่คุยกันดิบดี ว่าจะส่งลงเขต จนต้องหนีไปอยู่ “ภูมิใจไทย”แล้วกลายมาเป็นคู่แข่ง ชนกันเอง .. ต้องบอกว่าที่ “ค่ายสีฟ้า”โดนรุกหนัก ส่วนหนึ่งมาจาก “เคยตัว-ชะล่าใจ”ทำตัวประหนึ่ง “เสาไฟฟ้า”..คิดก็แค่ใส่เสื้อสีฟ้า ลงที่ไหนในปักษ์ใต้ ยังไงก็ชนะ หากวิกฤตจริงๆ ก็เรียกใช้ผู้บริหาร-พึ่งบารมี “นายหัวใหญ่”ชวน หลีกภัย ลงพื้นที่ เสกคาถาซักรอบ ก็เข้าวินฉลุย .. คิดกันซะแบบนี้ จนเกียจคร้านลงพื้นที่ โยกย้ายถ่ายเท “งบ ส.ส.”ไปลงที่อื่น ปล่อยให้ “มวยรอง”แต่ขยันออกหมัด ปฏิบัติการทำพื้นที่ ตีตื้น มาจนจ่อคอหอย .. ทำเป็นเล่น “สงขลา”ที่ว่าแข็งๆ แต่เขต “เสี่ยเล็ก”ศิริโชค โสภา นี่อย่างกับ“บ่อน้ำมัน” คราวก่อน รอดมาได้ เพราะยี่ห้อพรรค .. คราวนี้อาจจะ“ไม่โสภา” คู่แข่งกลายมาเป็น“คนกันเอง”อย่าง “พรรคกำนัน”ที่ “นายหัววอน” ถาวร เสนเนียม เพิ่งเปิดฟลอร์ให้ สุเทพ เทือกสุบรรณ ปราศรัยใส่ยับ ว่า เอาแน่ เขต 7 สงขลา ทำเอา “พี่มาร์ค”เดือดปุดๆ นั่นไง
ช.ชฎา
รูป
-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา- คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ - สังศิต พิริยะรังสรรค์ - อัญชนา ณ ระนอง
-เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ - บุญทรง เตริยาภิรมย์
-อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ -อนุทิน ชาญวีรกูล- ศิริโชค โสภา- ถาวร เสนเนียม