"สนธิรัตน์" บุกอีสาน พบชาวหนองบัวลำภู เผยชาวบ้านตอบรับนโยบายประชารัฐ อยากให้เพิ่มสิทธิ์ในบัตรสวัสดิการฯ “พุทธิพงษ์” เผย 1 ปีที่ผ่านมารัฐบาลอัดงบเพื่อคนจนไปแล้วเกือบ 5 หมื่นล้าน ผลสำรวจส่วนใหญ่ ต้องการให้ช่วยค่าสาธารณูปโภคพื้นฐาน ยัน ร้านค้าชุมชนได้รับประโยชน์ "วิษณุ" เชื่อ คสช.หารือพรรคการเมือง 7 ธ.ค. จะมีความชัดเจนเรื่องปลดล็อกการเมือง "ปิยะณัฐ" อดีตดาวสภาฯ ควงเมีย ซบ พปชร. ยันสุขภาพใจเต็มร้อย เชื่อพปชร. ไม่ซ้ำรอยพรรคสามัคคีธรรม
วานนี้ (25พ.ย.) นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมแกนนำพรรคได้ลงพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู เพื่อรับสมัครสมาชิกพรรค ฟังปัญหา และข้อเสนอแนะเพื่อจัดทำนโยบายของพรรคในการเลือกตั้ง โดยว่าที่ ผู้สมัคร ส.ส.หนองบัวลำภู ให้การต้อนรับและพาลงพื้นที่พบปะประชาชน โดยในแต่ละพื้นที่ มีชาวบ้านกว่า 2 พันคน มารอต้อนรับ
นายสนธิรัตน์ ยังได้เดินสำรวจความเป็นอยู่ และการค้าขายในตลาดชุมชนห้วยเดื่อ อ.เมืองฯ ซึ่งมีความคึกคัก โดยมีชาวบ้านที่ออกมาจับจ่ายได้มาห้อมล้อมขอถ่ายรูป และฝากให้พรรค พปชร. สานต่อนโยบายประชารัฐ ของรัฐบาลนี้ด้วย
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า จากการรับฟังความเห็นประชาชน ที่ ต.บ้านค้อ อ.โนนสัง พบว่าประชาชนมีความต้องการเรื่องตลาดโค กระบือ ตลาดชุมชน การจัดหาเครื่องสูบน้ำของหมู่บ้านในพื้นที่ ทั้ง 12 ตำบล ขณะเดียวกันยังต้องการถนนบริเวณช่องเขาขาด และการเสริมศักยภาพพื้นที่ด้านท่องเที่ยว รวมทั้งอยากให้เพิ่มสิทธิต่างๆ ให้แก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการภาครัฐอีกด้วย ส่วนที่ตลาดห้วยเดื่อ ซึ่งเป็นตลาดสินค้าชุมชน เพื่อการท่องเที่ยวก็มีความน่าสนใจ และชาวบ้านอยากให้มีการต่อยอด ขยายไปยังพื้นที่ชุมชนอื่นๆ ด้วย จะได้ช่วยกระจายสินค้าของชุมชนมากขึ้น
** เผย1 ปีอัดงบช่วยคนจนเกือบ 5 หมื่นล้าน
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง และโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. กล่าวถึง การช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่เพิ่งออกมาล่าสุดว่า ทั้งหมดมาจากความต้องการของผู้มีรายได้น้อย ที่ได้สำรวจเมื่อเดือน ก.ค.-ส.ค.60 ส่วนใหญ่อยากให้ช่วยเหลือ ค่าสาธารณูปโภคพื้นฐาน คือ ค่าน้ำ ค่าไฟ เป็นอันดับแรก รองลงมา คือ ช่วยเหลือค่าสินค้าที่จำเป็น ค่ารักษาพยาบาล และค่าใช้จ่ายเพื่อดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ จึงเป็นสิ่งที่รัฐบาลวางแผนเตรียมการมานานแล้ว โดยก่อนหน้านี้ ผู้มีรายได้น้อย ได้รับการช่วยเหลือบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านต่าง ๆ
"ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.60 - 22 พ.ย.61 รัฐบาลได้สนับสนุนค่าใช้จ่ายรวม 49,879.4 ล้านบาท แบ่งเป็น ค่าสินค้าอุปโภคบริโภค ในร้านธงฟ้าประชารัฐ 47,209 ล้านบาท ร้านค้าก๊าซหุงต้ม 79.8 ล้านบาท รถ บขส. 137.2 ล้านบาท รถไฟ จำนวน 263.5 ล้านบาท รถไฟฟ้า 17.4 ล้านบาท และโอนเงินเข้า กระเป๋า e-money ตามมาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิต 2,172.5 ล้านบาท"
นายพุทธิพงษ์ กล่าวด้วยว่า นายกฯ ได้รับรายงานว่า ขณะนี้มีร้านธงฟ้าประชารัฐ กระจายอยู่ทั่วประเทศราว 50,000 ร้าน จากเป้าหมาย 100,000 ร้าน กว่าร้อยละ 50 เป็นสินค้าที่ผลิตในชุมชน และสินค้าเกษตรในพื้นที่ โดยสินค้าที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ ข้าวสาร กะปิ น้ำปลา และอาหารแปรรูป ไม่ใช่สินค้าที่มาจากบริษัทขนาดใหญ่เท่านั้น
"นายกฯ ย้ำว่า นอกจากผู้มีรายได้น้อยจะได้บรรเทาภาระค่าใช้จ่ายโดยตรงแล้ว ยังเป็นประโยชน์ต่อร้านค้าปลีกขนาดเล็กในชุมชน ท้องถิ่น และร้านค้ารายย่อย เช่น แผงจำหน่ายอาหาร หรือรถเร่ ที่เข้าร่วมโครงการด้วย" นายพุทธิพงษ์ กล่าว
**คาด 7 ธ.ค. มีความชัดเจนเรื่องปลดล็อก
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. กำหนดวันหารือร่วมกับพรรคการเมือง ในวันที่ 7 ธ.ค. เกี่ยวกับเรื่องปลดล็อก ให้สามารถทำกิจกรรมทางการเมือง ว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่า ในวันดังกล่าวจะได้ข้อสรุปใดบ้าง แต่ตนมีเหตุผลอันควรเชื่อว่าในวันดังกล่าว น่าจะได้ความชัดเจนในการปลดล็อกแน่ๆ แต่ไม่ทราบว่าจะมีการร่างระเบียบ หรือข้อตกลงร่วมกันขึ้นมาหรือไม่ อยู่ที่คสช.จะพิจารณา
ส่วนร่างกม.ต่างๆ ที่รัฐบาลอยากผลักดันให้สำเร็จนั้น ขณะนี้มีอยู่หลายฉบับ คาดว่าจะดำเนินการได้ทัน แม้จะมีความเสี่ยงในชั้นสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)ว่าจะพิจารณาได้เสร็จก่อน 15 ก.พ. 62 หรือไม่ ทั้งนี้ร่าง กม. 6 ฉบับ ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งท้องถิ่น บางฉบับพิจารณาเสร็จแล้ว แต่ยังไม่สามารถพิจารณา วาระ 2-3 ได้ เพราะต้องรอฉบับอื่น เพื่อพิจารณาไปพร้อมกัน
** “ปิยะณัฐ”ควงภรรยา เข้าพรรคพปชร.
นายปิยะณัฐ วัชราภรณ์ อดีต รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาล พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย และ อดีต ส.ส.ศรีสะเกษ หลายสมัย พร้อม นางวิจิตรา วัชราภรณ์ อดีต รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ภรรยา ได้มาสมัครเป็นสมาชิกพรรค พปชร. หลังจากวางมือทางการเมืองไปนาน เนื่องจากมีปัญหาสุขภาพ จากอุบัติเหตุทางรถยนต์
นายปิยะณัฐ กล่าวว่า พรรค พปชร. อาจไม่ใช่พรรคที่ดีที่สุด แต่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดในปัจจุบัน ที่จะทำให้การเมืองเดินหน้าเพื่อประโยชน์ประชาชน จึงปรึกษากับชาวบ้าน และ ตัดสินใจมาร่วม ซึ่งพรรคพปชร. ยินดีที่จะให้โอกาสตน ส่วนจะลงสมัครรับเลือกตั้งในพื้นที่ หรือไม่นั้น ต้องปรึกษากันก่อน ยืนยันว่า สุขภาพกายอาจมีปัญหาในการทำงานเมือง แต่สุขภาพใจนั้น เต็ม 100
ผู้สื่อข่าวถามถึงเสียงวิจารณ์ว่า พรรค พปชร. อาจเหมือนกับพรรคสามัคคีธรรมในอดีต ที่มีการสืบทอดอำนาจจากทหาร นายปิยะณัฐ กล่าวว่า การวิจารณ์เป็นเรื่องปกติ แต่จะเป็นไปตามที่วิจารณ์หรือไม่นั้น นักการเมืองจะต้องช่วยกันร่วมกำหนดการทำงาน ยิ่งมีการวิจารณ์คนที่กำหนดทิศทางต้องเรียนรู้ประวัติศาสตร์ในอดีต
ส่วนกรณีพรรคสามัคคีธรรม ที่เกิดขึ้นตน ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ด้วย จึงไม่ทราบถึงปัญหาภายใน แต่เมื่อตนมาอยู่พรรคนี้ ก็ไม่ได้ยอมอะไรที่ไม่ถูกต้องง่ายง่าย ซึ่งเชื่อว่าพรรค พปชร. จะไม่เหมือนพรรคสามัคคีธรรม ในอดีต
** “พีระศักดิ์”ปัดหาที่ลงส.ส.ให้ลูกชาย-ลูกเขย
นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธาน สนช.คนที่ 2 กล่าวถึง กรณี นายพิชญุตม์ พอจิต นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดอุตรดิตถ์ และ นายสายสิทธิ์ เจตสิกทัต ลูกชาย และ ลูกเขย ที่สมัครเป็นสมาชิกพรรค พปชร. ว่า เป็นการตัดสินใจของคนหนุ่ม ทั้งคู่จบปริญญาโท จากอังกฤษ มีความคิดอ่านของตัวเอง นายพิชญุตม์ บุตรชาย เป็นนายกสมาคมกีฬาอายุน้อยที่สุดในประเทศไทย สนใจเรื่องกีฬา และเรื่องท้องถิ่น นายสายสิทธิ์ เป็นนักกม. ถนัดกม.มหาชน ความจริงทั้งคู่ ศึกษาแนวทาง ทางการเมืองไว้หลายพรรค ซึ่งตนไม่เคยปิดกั้น เขาจะอยู่พรรคไหนก็ได้
ส่วนกรณีที่มีการวิจารณ์ว่า มี สนช.ลงพื้นที่โซนภาคเหนือ เพื่อไปจัดตัวผู้สมัครส.ส.ให้พรรคพปชร. นั้นนายพีระศักดิ์ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน ตนลงพื้นที่ไปจริงๆ แต่ไปเน้นรับฟังปัญหาตามโครงการ สนช.พบประชาชน ตามวิถีไทยนิยมยั่งยืน ซึ่ง สนช.คนอื่นๆก็ไปด้วยตลอด เป็นการไปรับฟังปัญหา เพื่อส่งต่อให้รัฐบาล อย่างโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่มัฝ่ายการเมืองโจมตี ว่าไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ แต่เท่าที่ตนลงพื้นที่ ชาวบ้านเเทบทุกภาค เขาตอบรับ และพอใจ ที่รัฐบาลเห็นความสำคัญของเขา ไม่ทอดทิ้งเขา หลายพื้นที่ยังฝากเรื่องนี้ไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช. เลย
**เคลียร์พื้นที่ให้อดีตส.ส.กำแพงเพชร
นายธนกร วังบุญคงชนะ สมาชิกพรรคพปชร. และอดีตโฆษกกลุ่มสามมิตร เปิดเผยว่า ยอมรับว่าการที่อดีต ส.ส.กำแพงเพชร พรรคเพื่อไทย ย้ายมาสังกัดพรรคพปชร.นั้น ทำให้เกิดการทับซ้อนกับผู้สมัครเดิม ที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคฯ คัดเลือกไว้ ทำให้ นายสมศักดิ์ ต้องเร่งทำความเข้าใจ ขณะเดียว ก็ต้องให้เครดิตกับอดีต ส.ส.ที่ย้ายมาด้วย
ทั้งนี้ หลังจากผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรคได้หารือกันแล้ว โดยเบื้องต้น จะให้เครดิตกับอดีต ส.ส.เป็นตัวหลัก ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง ส่วนผู้สมัครของกลุ่มนั้น 3 คน ยินดีช่วยเพื่อความสำเร็จของพรรคต่อไป ส่วนอีก 1 คน จำเป็นต้องย้ายไปลงสมัครกับพรรคอื่น ซึ่งได้พูดคุย และจากกันด้วยดี
นายธนกร กล่าวด้วยว่า วันนี้ (26 พ.ย.) จะเป็นวันสุดท้ายของการสมัครเป็นสมาชิกพรรค ของคนที่จะลงสมัคร ส.ส. ทราบว่า นายมานิต นพอมรบดี อดีต รมช.สาธารณสุข จะเดินทางมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคด้วย ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีอดีต ส.ส.จำนวนมาก หลั่งไหลมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคพปชร. แสดงให้เห็นว่า พรรคฯ มีนโยบายที่ตอบโจทย์พี่น้องประชาชนได้ รวมทั้งมีความร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ เชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ จะชนะการเลือกตั้งได้อย่างแน่นอน
วานนี้ (25พ.ย.) นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมแกนนำพรรคได้ลงพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู เพื่อรับสมัครสมาชิกพรรค ฟังปัญหา และข้อเสนอแนะเพื่อจัดทำนโยบายของพรรคในการเลือกตั้ง โดยว่าที่ ผู้สมัคร ส.ส.หนองบัวลำภู ให้การต้อนรับและพาลงพื้นที่พบปะประชาชน โดยในแต่ละพื้นที่ มีชาวบ้านกว่า 2 พันคน มารอต้อนรับ
นายสนธิรัตน์ ยังได้เดินสำรวจความเป็นอยู่ และการค้าขายในตลาดชุมชนห้วยเดื่อ อ.เมืองฯ ซึ่งมีความคึกคัก โดยมีชาวบ้านที่ออกมาจับจ่ายได้มาห้อมล้อมขอถ่ายรูป และฝากให้พรรค พปชร. สานต่อนโยบายประชารัฐ ของรัฐบาลนี้ด้วย
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า จากการรับฟังความเห็นประชาชน ที่ ต.บ้านค้อ อ.โนนสัง พบว่าประชาชนมีความต้องการเรื่องตลาดโค กระบือ ตลาดชุมชน การจัดหาเครื่องสูบน้ำของหมู่บ้านในพื้นที่ ทั้ง 12 ตำบล ขณะเดียวกันยังต้องการถนนบริเวณช่องเขาขาด และการเสริมศักยภาพพื้นที่ด้านท่องเที่ยว รวมทั้งอยากให้เพิ่มสิทธิต่างๆ ให้แก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการภาครัฐอีกด้วย ส่วนที่ตลาดห้วยเดื่อ ซึ่งเป็นตลาดสินค้าชุมชน เพื่อการท่องเที่ยวก็มีความน่าสนใจ และชาวบ้านอยากให้มีการต่อยอด ขยายไปยังพื้นที่ชุมชนอื่นๆ ด้วย จะได้ช่วยกระจายสินค้าของชุมชนมากขึ้น
** เผย1 ปีอัดงบช่วยคนจนเกือบ 5 หมื่นล้าน
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง และโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. กล่าวถึง การช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่เพิ่งออกมาล่าสุดว่า ทั้งหมดมาจากความต้องการของผู้มีรายได้น้อย ที่ได้สำรวจเมื่อเดือน ก.ค.-ส.ค.60 ส่วนใหญ่อยากให้ช่วยเหลือ ค่าสาธารณูปโภคพื้นฐาน คือ ค่าน้ำ ค่าไฟ เป็นอันดับแรก รองลงมา คือ ช่วยเหลือค่าสินค้าที่จำเป็น ค่ารักษาพยาบาล และค่าใช้จ่ายเพื่อดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ จึงเป็นสิ่งที่รัฐบาลวางแผนเตรียมการมานานแล้ว โดยก่อนหน้านี้ ผู้มีรายได้น้อย ได้รับการช่วยเหลือบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านต่าง ๆ
"ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.60 - 22 พ.ย.61 รัฐบาลได้สนับสนุนค่าใช้จ่ายรวม 49,879.4 ล้านบาท แบ่งเป็น ค่าสินค้าอุปโภคบริโภค ในร้านธงฟ้าประชารัฐ 47,209 ล้านบาท ร้านค้าก๊าซหุงต้ม 79.8 ล้านบาท รถ บขส. 137.2 ล้านบาท รถไฟ จำนวน 263.5 ล้านบาท รถไฟฟ้า 17.4 ล้านบาท และโอนเงินเข้า กระเป๋า e-money ตามมาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิต 2,172.5 ล้านบาท"
นายพุทธิพงษ์ กล่าวด้วยว่า นายกฯ ได้รับรายงานว่า ขณะนี้มีร้านธงฟ้าประชารัฐ กระจายอยู่ทั่วประเทศราว 50,000 ร้าน จากเป้าหมาย 100,000 ร้าน กว่าร้อยละ 50 เป็นสินค้าที่ผลิตในชุมชน และสินค้าเกษตรในพื้นที่ โดยสินค้าที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ ข้าวสาร กะปิ น้ำปลา และอาหารแปรรูป ไม่ใช่สินค้าที่มาจากบริษัทขนาดใหญ่เท่านั้น
"นายกฯ ย้ำว่า นอกจากผู้มีรายได้น้อยจะได้บรรเทาภาระค่าใช้จ่ายโดยตรงแล้ว ยังเป็นประโยชน์ต่อร้านค้าปลีกขนาดเล็กในชุมชน ท้องถิ่น และร้านค้ารายย่อย เช่น แผงจำหน่ายอาหาร หรือรถเร่ ที่เข้าร่วมโครงการด้วย" นายพุทธิพงษ์ กล่าว
**คาด 7 ธ.ค. มีความชัดเจนเรื่องปลดล็อก
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. กำหนดวันหารือร่วมกับพรรคการเมือง ในวันที่ 7 ธ.ค. เกี่ยวกับเรื่องปลดล็อก ให้สามารถทำกิจกรรมทางการเมือง ว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่า ในวันดังกล่าวจะได้ข้อสรุปใดบ้าง แต่ตนมีเหตุผลอันควรเชื่อว่าในวันดังกล่าว น่าจะได้ความชัดเจนในการปลดล็อกแน่ๆ แต่ไม่ทราบว่าจะมีการร่างระเบียบ หรือข้อตกลงร่วมกันขึ้นมาหรือไม่ อยู่ที่คสช.จะพิจารณา
ส่วนร่างกม.ต่างๆ ที่รัฐบาลอยากผลักดันให้สำเร็จนั้น ขณะนี้มีอยู่หลายฉบับ คาดว่าจะดำเนินการได้ทัน แม้จะมีความเสี่ยงในชั้นสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)ว่าจะพิจารณาได้เสร็จก่อน 15 ก.พ. 62 หรือไม่ ทั้งนี้ร่าง กม. 6 ฉบับ ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งท้องถิ่น บางฉบับพิจารณาเสร็จแล้ว แต่ยังไม่สามารถพิจารณา วาระ 2-3 ได้ เพราะต้องรอฉบับอื่น เพื่อพิจารณาไปพร้อมกัน
** “ปิยะณัฐ”ควงภรรยา เข้าพรรคพปชร.
นายปิยะณัฐ วัชราภรณ์ อดีต รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาล พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย และ อดีต ส.ส.ศรีสะเกษ หลายสมัย พร้อม นางวิจิตรา วัชราภรณ์ อดีต รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ภรรยา ได้มาสมัครเป็นสมาชิกพรรค พปชร. หลังจากวางมือทางการเมืองไปนาน เนื่องจากมีปัญหาสุขภาพ จากอุบัติเหตุทางรถยนต์
นายปิยะณัฐ กล่าวว่า พรรค พปชร. อาจไม่ใช่พรรคที่ดีที่สุด แต่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดในปัจจุบัน ที่จะทำให้การเมืองเดินหน้าเพื่อประโยชน์ประชาชน จึงปรึกษากับชาวบ้าน และ ตัดสินใจมาร่วม ซึ่งพรรคพปชร. ยินดีที่จะให้โอกาสตน ส่วนจะลงสมัครรับเลือกตั้งในพื้นที่ หรือไม่นั้น ต้องปรึกษากันก่อน ยืนยันว่า สุขภาพกายอาจมีปัญหาในการทำงานเมือง แต่สุขภาพใจนั้น เต็ม 100
ผู้สื่อข่าวถามถึงเสียงวิจารณ์ว่า พรรค พปชร. อาจเหมือนกับพรรคสามัคคีธรรมในอดีต ที่มีการสืบทอดอำนาจจากทหาร นายปิยะณัฐ กล่าวว่า การวิจารณ์เป็นเรื่องปกติ แต่จะเป็นไปตามที่วิจารณ์หรือไม่นั้น นักการเมืองจะต้องช่วยกันร่วมกำหนดการทำงาน ยิ่งมีการวิจารณ์คนที่กำหนดทิศทางต้องเรียนรู้ประวัติศาสตร์ในอดีต
ส่วนกรณีพรรคสามัคคีธรรม ที่เกิดขึ้นตน ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ด้วย จึงไม่ทราบถึงปัญหาภายใน แต่เมื่อตนมาอยู่พรรคนี้ ก็ไม่ได้ยอมอะไรที่ไม่ถูกต้องง่ายง่าย ซึ่งเชื่อว่าพรรค พปชร. จะไม่เหมือนพรรคสามัคคีธรรม ในอดีต
** “พีระศักดิ์”ปัดหาที่ลงส.ส.ให้ลูกชาย-ลูกเขย
นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธาน สนช.คนที่ 2 กล่าวถึง กรณี นายพิชญุตม์ พอจิต นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดอุตรดิตถ์ และ นายสายสิทธิ์ เจตสิกทัต ลูกชาย และ ลูกเขย ที่สมัครเป็นสมาชิกพรรค พปชร. ว่า เป็นการตัดสินใจของคนหนุ่ม ทั้งคู่จบปริญญาโท จากอังกฤษ มีความคิดอ่านของตัวเอง นายพิชญุตม์ บุตรชาย เป็นนายกสมาคมกีฬาอายุน้อยที่สุดในประเทศไทย สนใจเรื่องกีฬา และเรื่องท้องถิ่น นายสายสิทธิ์ เป็นนักกม. ถนัดกม.มหาชน ความจริงทั้งคู่ ศึกษาแนวทาง ทางการเมืองไว้หลายพรรค ซึ่งตนไม่เคยปิดกั้น เขาจะอยู่พรรคไหนก็ได้
ส่วนกรณีที่มีการวิจารณ์ว่า มี สนช.ลงพื้นที่โซนภาคเหนือ เพื่อไปจัดตัวผู้สมัครส.ส.ให้พรรคพปชร. นั้นนายพีระศักดิ์ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน ตนลงพื้นที่ไปจริงๆ แต่ไปเน้นรับฟังปัญหาตามโครงการ สนช.พบประชาชน ตามวิถีไทยนิยมยั่งยืน ซึ่ง สนช.คนอื่นๆก็ไปด้วยตลอด เป็นการไปรับฟังปัญหา เพื่อส่งต่อให้รัฐบาล อย่างโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่มัฝ่ายการเมืองโจมตี ว่าไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ แต่เท่าที่ตนลงพื้นที่ ชาวบ้านเเทบทุกภาค เขาตอบรับ และพอใจ ที่รัฐบาลเห็นความสำคัญของเขา ไม่ทอดทิ้งเขา หลายพื้นที่ยังฝากเรื่องนี้ไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช. เลย
**เคลียร์พื้นที่ให้อดีตส.ส.กำแพงเพชร
นายธนกร วังบุญคงชนะ สมาชิกพรรคพปชร. และอดีตโฆษกกลุ่มสามมิตร เปิดเผยว่า ยอมรับว่าการที่อดีต ส.ส.กำแพงเพชร พรรคเพื่อไทย ย้ายมาสังกัดพรรคพปชร.นั้น ทำให้เกิดการทับซ้อนกับผู้สมัครเดิม ที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคฯ คัดเลือกไว้ ทำให้ นายสมศักดิ์ ต้องเร่งทำความเข้าใจ ขณะเดียว ก็ต้องให้เครดิตกับอดีต ส.ส.ที่ย้ายมาด้วย
ทั้งนี้ หลังจากผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรคได้หารือกันแล้ว โดยเบื้องต้น จะให้เครดิตกับอดีต ส.ส.เป็นตัวหลัก ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง ส่วนผู้สมัครของกลุ่มนั้น 3 คน ยินดีช่วยเพื่อความสำเร็จของพรรคต่อไป ส่วนอีก 1 คน จำเป็นต้องย้ายไปลงสมัครกับพรรคอื่น ซึ่งได้พูดคุย และจากกันด้วยดี
นายธนกร กล่าวด้วยว่า วันนี้ (26 พ.ย.) จะเป็นวันสุดท้ายของการสมัครเป็นสมาชิกพรรค ของคนที่จะลงสมัคร ส.ส. ทราบว่า นายมานิต นพอมรบดี อดีต รมช.สาธารณสุข จะเดินทางมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคด้วย ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีอดีต ส.ส.จำนวนมาก หลั่งไหลมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคพปชร. แสดงให้เห็นว่า พรรคฯ มีนโยบายที่ตอบโจทย์พี่น้องประชาชนได้ รวมทั้งมีความร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ เชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ จะชนะการเลือกตั้งได้อย่างแน่นอน