โสภณ องค์การณ์
“จิ้งจกเปลี่ยนสี” เป็นคำเปรียบเปรยแนวไทยๆ แดกดันคนไม่มีจุดยืนมั่นคง เปลี่ยนค่าย เปลี่ยนความจงรักภักดีและอะไรหลายอย่าง วันก่อนลุงป้อม นักคืนโฉนดเหยื่อเงินกู้ออกอาการเม้งแตก กระแทกรุ่นน้องที่ไปเข้าค่ายเหลี่ยม แถมพูดความจริงแสบๆ
“วันนี้อยากเรียกร้องทหารทุกคนยืนเคียงข้างประชาชน หมดยุคของการใช้อำนาจเผด็จการมาปกครองประเทศแล้ว บทเรียนการยึดอำนาจตลอด 4 ปีกว่าที่ผ่านมาแสดงให้เห็นแล้วว่า ประเทศชาติไม่เจริญก้าวหน้าประชาชนเดือดร้อน ถึงเวลาแล้วที่ทหารทุกคนต้องหันมาหาประชาชน...” นี่คือคำพูดของ พล.อ. ยศนันท์ หร่ายเจริญ
ฟังดูเจ็บแสบ ยิ่งคนพูดเป็นนายทหารเพิ่งเกษียณหมาดๆ จากตำแหน่ง รอง ผบ.สส. เข้าสังกัดพรรคไทยรักษาชาติในเครือข่ายท่านเหลี่ยม ก็ยิ่งทำให้เจ็บถึงกระดองใจ สิ่งที่พูดไม่มีอะไรผิดพลาด เพียงแต่พูดช้าไป น่าจะพูดนานแล้ว
เป็นนายทหารรุ่นเดียวกับ ผบ.ทบ. คนก่อน “บิ๊กเจี๊ยบ” นั่นแหละ!
ประเด็นที่ต้องคิดหนัก ถึงขั้นต้องกังวลเพราะเป็นเสียงเรียกร้องของนายทหารเกษียณ ให้ทหารในกองทัพออกมาช่วยเหลือประชาชน ว่ากันง่ายๆ คือเพียงแค่ส่งสัญญาณว่าไม่สนับสนุนรัฐบาลคุณท่านนักแต่งเพลง เล่นลีลา ก็ไปลำบากแล้ว
อันที่จริง กองทัพไม่มีหน้าที่สนับสนุนรัฐบาล เพียงแต่ว่ารัฐบาลนี้มาจากการรัฐประหารโดยคุณท่านผู้นำซึ่งเป็น ผบ.ทบ. ในนามหัวหน้า คสช. ดังนั้นจึงอาศัยอำนาจกองทัพควบคุมสถานการณ์ในประเทศโดยอ้างความมั่นคง กฎหมายพิเศษ
ผลงานของรัฐบาลนี้โดยตัวของมันเองไม่ได้เรื่อง เมื่อเทียบกับอำนาจที่มีและเวลาที่เสียไป จนเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่า “เสียของ” อย่างแรง เพราะไม่มีการปฏิรูปอะไรที่เป็นสาระเพื่อประโยชน์ยั่งยืนของบ้านเมือง และวกกลับไปสู่จุดเดิม
การเลือกตั้งที่ว่าจะมี ถ้ามีจริง จะไม่ทำให้บ้านเมืองดีขึ้น จะย้อนไปสู่ยุครัฐบาลสมัคร สมชาย ยิ่งลักษณ์ เพราะไม่มีการปฏิรูป ปรับโครงสร้าง มีแต่การ “ดีไซน์รัฐธรรมนูญ”ให้นักเลือกตั้งได้เข้ามาหามคุณท่านได้อยู่สืบทอดอำนาจ
รัฐบาลปัจจุบันไม่ได้อยู่ด้วยผลงานดี แต่ด้วยการสนับสนุนของกองทัพ ซึ่งถึงเวลาที่จะต้องพิจารณาอย่างจริงจังว่าจะทำอย่างไรต่อไปเมื่อคำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชนระดับล่าง คนรากหญ้า ซึ่งลำบากแทบรากเลือด เลือดตากระเด็น
ระบบเศรษฐกิจระดับล่างอยู่ในสภาพตายซาก ไม่มีโอกาสได้ฟื้น บ้านเมืองอยู่ในสภาวะ “โกงกระจุก รวยกระจุก จนกระจาย” ต่างจากตัวเลขเศรษฐกิจเน้นจีดีพี แต่คนรายได้น้อยสิ้นอาชีพ คนจนมีมากเป็นทางการถึง 14.5 ล้านคนภายไต้รัฐบาลนี้
คำพูดของ พล.อ.ยศนันท์ อาจไปกระตุ้นต่อมความรู้สึกผิดชอบชั่วดีในหน้าที่ และจุดยืนของกองทัพว่าถึงเวลาต้องเลือกระหว่างรัฐบาลนักการเมืองและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญด้านความมั่นคงของประเทศ
หน้าที่ทำการกองทัพมีคำประกาศ “เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน” ไม่มีสักคำที่บอกว่า “เพื่อรัฐบาล” ไม่ว่าจะมาจากการเลือกตั้งหรือโดยวิธีใด ผ่านไปกว่า 4 ปี ย่อมไม่มีพันธะผูกพันระหว่างกองทัพกับ คสช. และรัฐบาลด้วย
ถ้าเห็นว่าทุกข์สุขของประชาชนทั้งแผ่นดินอยู่เหนือสิ่งอื่นใด! คำพูดของ พล.อ.ยศนันท์ จะมีความหมาย ส่งผลกระทบต่อเนื่องหรือไม่ ต้องรอดูว่าเป็น “จิ้งจกทัก” หรือ “จิ้งจกเปลี่ยนสี” และการ “เปลี่ยนสี” จะทำให้อะไรเปลี่ยนไปในทางที่ดีหรือไม่
แต่การที่ท่านป้อมบอกว่าเป็นพฤติกรรมแบบ “จิ้งจกเปลี่ยนสี” ตามคำถามเชิงเสี้ยมของนักข่าวนายหนึ่ง แถมยังด่าด้วยว่าไม่คำนึงถึงข้าวแดงแกงร้อน และอะไรอีกมากมายนั้น ในความเป็นจริง ไม่ใช่คุณยศนันท์จะถูกมองว่าเป็นคนเดียวแบบนั้น
นักเลือกตั้ง นักซื้อเสียงที่แห่กันย้ายค่าย ย้ายพรรค เนรคุณหักหลังเจ้านายเดิม ได้พ้นจากระดับจิ้งจกเปลี่ยนสีที่เป็นชั้นกระจอกแล้ว แบบไทยๆ ต้องติดอันดับ “กิ้งก่าคาเมเลี่ยน” โน่น เลื้อยผ่านผ้าสลับลายเปลี่ยนสีไวกว่าจิ้งจก หรือกิ้งก่าไทยเยอะ
ช่วงหลังเปรียบว่าเป็น “จิ้งจกเปลี่ยนสี” ถือว่าดีเกินไป นักเลือกตั้ง ย้ายพรรค นักทรยศนายเก่า ถูกปรับระดับความน่ารังเกียจให้เป็นเห็บเหาประชาธิปไตยน้ำเน่า กระโดดหนีหมาผอม หมาตาย หมาลำบาก ไปหาหมาตัวอ้วนท้วนสมบูรณ์กว่า
เป็นธรรมชาติการเอาตัวรอด ไร้หลักการ ความน่าเชื่อถือ ไม่ถึงชั้นนักการเมืองด้วย เป็นแค่นักเลือกตั้ง นักซื้อเสียง นักเสี่ยงโชคทางการเมือง หรือนักตกทอง เท่านั้น ใจกล้า หน้าด้าน โกหกพกลม ปลิ้นปล้อน กะล่อน หลอกชาวบ้านขอคะแนนเสียง
เมื่อท่านป้อมพูดแดกดันอดีตลูกน้อง ต้องมีผลกระทบไปถึงนักทรยศนายเก่าที่แห่กันเข้าไปพรรคพลังดูดเป็นหลัก หรือพรรคอื่นๆ ด้วยข้ออ้างสารพัด แล้วแต่จะพูดแก้ตัวให้ตัวเองดูดี ทั้งๆ ที่เป็นเห็บเหาการเมืองน้ำเน่ากระโดดหนีหมาลำบาก
เป็นสภาวะธรรมดาของการเมืองแบบไทยๆ ไร้หลักการ ไร้อนาคต!
ท่านป้อมกล่าวหาว่าคุณยศนันท์ “วิ่งเต้น” ตลอด ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ระบบราชการไทยมีแต่นักวิ่งเต้น นักแจกถุงขนม ใช้เส้นสายและเงิน เพื่อมีโอกาสได้ก้าวหน้า ท่านป้อมยังโดนท่านเหลี่ยมปูดว่าเคยไปเกาะโต๊ะขอตำแหน่ง ผบ.ทบ.
เพียงแค่พูดไม่กี่ประโยค คุณยศนันท์ได้เป็นคนดังข้ามคืน คนรู้จักทั้งเมือง และยังบอกอีกว่ามีรุ่นเดียวกันหลายคนที่เข้าไป และจะเข้าสังกัดพรรคท่านเหลี่ยม ที่เข้าไปแล้วไม่อยากเปิดเผยตัวเท่านั้น เท่ากับว่าเริ่มมีความเคลื่อนไหวที่ควรเฝ้ามอง
ก่อนหน้านี้มีนายทหารคนดังๆ มากมายได้เข้าอยู่ในเครือข่ายท่านเหลี่ยม ในช่วงที่เสื้อแดงชุมนุมกลางเมืองมีนายพลเกษียณกว่า 30 นายนั่งรถบัส มีเมียคุมไปรับถุงขนมจากเครือข่ายท่านเหลี่ยม หนัก 2-3 กก. หรือกว่า แต่ไม่ทันได้ส่งผลอะไร
คราวนี้น่าห่วง เพราะคุณท่านและพวกอยู่ในสภาวะ “ขาลอย” น่าหวาดเสียว แม้จะยังเล่นลีลาอารมณ์ดี เดินสายหาความนิยม ลึกๆ ภายในใจ ยังมั่นใจอยู่หรือไม่ว่าพรรคพลังดูดจะหาบหามให้อยู่บนเก้าอี้นายกฯ ได้ และจะมีเลือกตั้งจริงหรือไม่
ใครก็ตอบไม่ได้ แม้แต่ตัวคุณท่านเองก็ยังไม่รู้ อยู่ไปแบบวันต่อวัน!