วานนี้ (22พ.ย. ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) โดยมี นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสนช.คนที่ 2 เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่ง กกต. จำนวน 2 คน ตามที่คณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบความประพฤติและพฤติกรรมทางจริยธรรม พิจารณาเสร็จแล้ว คือ นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ อดีตปลัดกระทรวงเกษตรฯ และ นายฐิติเชฎฐ์ นุชนาฎ ที่ปรึกษานายกสภาทนายความ โดยเป็นกาประชุมลับ และลงคะแนนลับ ปรากฏว่า นายเลิศวิโรจน์ ได้คะแนน เห็นชอบ 148 ไม่เห็นด้วย 28 งดออกเสียง 8 เสียง นายฐิติเชฎฐ์ ได้คะแนนเห็นชอบ 149 ไม่เห็นชอบ 27 ไม่ออกเสียง 8 เสียง ดังนั้นบุคคลทั้ง 2 คน จึงถือว่าได้รับความเห็นชอบด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกที่มีอยู่ 240 คน คือ 120 คนขึ้นไป จึงถือว่าทั้ง 2 คนได้รับความเห็นชอบเป็น กกต
** กกต.หารือพรรคการเมือง
เช้าวันเดียวกันนี้ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นประธานเปิดการประชุมชี้แจงแนวทาการดำเนินกิจการแก่พรรคการเมือง โดยมีตัวแทนพรรคการเมือง 72 พรรค และผู้ยื่นจดแจ้งเตรียมการจัดตั้งพรรคการเมือง 14 กลุ่ม รวม 306 คน เข้าร่วมรับฟังการชี้แจงหลักเกณฑ์ในการสรรหาผู้สมัคร และส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคการเมือง
นายอิทธิพร กล่าวว่า รธน.กำหนดให้กกต. มีหน้าที่จัดการเลือกตั้งและดูแลพรรคการเมือง ขณะที่คำสั่ง หัวหน้า คสช.13/2561 กำหนดวิธีการให้พรรคการเมือง สรรหาสมาชิก และผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส. สำนักงาน กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง จึงจัดประชุมเพื่อชี้แจงแนวทางการปฏิบัติ โดยเฉพาะเรื่องหลักเกณฑ์ และวิธีการรับสมัคร และส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง เพื่อให้พรรคการเมือง ได้นำแนวทางไปปฏิบัติ ได้อย่างถูกต้องตามกม. ซึ่งปัจจุบันมีพรรคการเมือง 89 พรรค
นายแสวง บุญมี รองเลขาฯกกต. กล่าวถึงการแบ่งเขตเลือกตั้งว่า ตามกฎหมาย กกต.จะต้องแบ่งเขตเลือกตั้งให้เสร็จก่อนวันที่ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.มีผลบังคับใช้ ซึ่งก็คือก่อนวันที่ 10 ธ.ค.นี้ ซึ่งเขตเลือกตั้งมีความสำคัญมาก เพราะพรรคการเมืองต้องทำงานกับเขตเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นการลงคะแนน และการรับสมัครอยู่ที่เขต ดังนั้นตราบใดที่ยังไม่มีเขต ก็ตั้งตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด ไม่ได้ เพราะยังไม่รู้ว่าใครจะอยู่ตรงไหน
อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่ยังไม่มีเขตเลือกตั้ง กกต.ได้สนับสนุน และอำนวยความสะดวกให้กับพรรคการเมือง โดยแก้ประกาศนายทะเบียนสมาชิกพรรคการเมือง เรื่องการรายงานทะเบียนสมาชิกพรรคการเมือง เพื่อให้พรรคการเมือง รับสมาชิก และรายงานสมาชิกทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ รวมทั้งการจัดทำฐานข้อมูลพรรคการเมือง เพื่อให้พรรคเข้าใช้ฐานข้อมูลได้โดยตรง พรรคการเมืองสามารถแก้ไขเพิ่มเติมสมาชิก กรณีเพิ่มลดให้เป็นปัจจุบันได้ และสามารถตรวจสอบความเป็นสมาชิกพรรค เพื่อป้องกันการซ้ำซ้อนของสมาชิกพรรค โดยวันนี้ (22 พ.ย.) พรรคจะได้รับยูสเซอร์เนม และพาสเวิร์ด จากสำนักงานกกต.
** จะลงส.ส.ต้องเป็นสมาชิกพรรคก่อน 26 พ.ย.
นายแสวง ยังกล่าวถึง คำสั่ง คสช. ที่ 16/2561 เรื่อง การสรรหารผู้สมัครรับเลือกตั้ง จนถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง ว่า ขณะนี้มีผู้แทนพรรคโทรหาทุกวัน สอบถามเรื่องหลักเกณฑ์ 90 วันหายไปหรือยัง สามารถย้ายพรรคได้ตลอดหรือไม่ จึงขอชี้แจงว่า กำหนดระยะเวลาสรรหา เป็นคนละเรื่องกับคุณสมบัติของผู้สมัคร หากวันเลือกตั้งเป็นวันที่ 24 ก.พ. 62 การสังกัดพรรค และเป็นสมาชิกพรรคไม่น้อยกว่า 90 วัน ต้องเป็นสมาชิกก่อนวันที่ 26 พ.ย.นี้ เว้นแต่เป็นพรรคการเมืองจัดตั้งใหม่ ที่เข้ายื่นจดจัดตั้งภายใน วันที่ 23 พ.ย.นี้ ความเป็นสมาชิกจะย้อนกลับมาถึงวันที่ยื่นจดแจ้ง ขอรับประกันว่า ถ้ายื่นจดจัดตั้งพรรควันนี้ มีสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้งทันแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงตอบข้อซักถามของตัวแทนพรรคการเมือง นายชูศักดิ์ ศิรินิล คณะทำงานฝ่ายกม. พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ยิ่งมาฟังการชี้แจงของกกต. ยิ่งมีความสับสนมากขึ้น ทั้งประเด็นสาขาของพรรค และระยะเวลาการสังกัดพรรคการเมืองของผู้สมัคร
"ขอถามไปยัง กกต.ว่า เหตุใดจึงยังชักช้าในการประกาศเขตเลือกตั้ง ซึ่งล่วงเลยมานาน จนทำให้มีคำสั่ง คสช.ที่ 16/2561 ที่ให้อำนาจ กกต.ทบทวนการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ได้ แม้จะขัดต่อกม. และระเบียบที่วางไว้ กลายเป็นการกระทำที่ชอบด้วยรธน. และยังเขียนหน้าด้านไปถึงขนาดให้การพิจารณาของ กกต. เป็นที่สุด ซึ่งก็ไม่ได้รู้ว่า กกต.เตรียมทำอะไรที่ผิดกม. หรือผิดระเบียบที่ตัวเองร่างขึ้นหรือไม่ เพราะ พ.ร.ป.การเลือกตั้งส.ส. เขียนไว้ชัดว่าการแบ่งเขตเลือกตั้งต้องทำอย่างไร ขณะนี้ในต่างจังหวัด มีรูปแบบการแบ่งเขต รูปแบบที่ 4 ปลิวว่อนไปหมด และ มีข่าวว่า กกต.จะไม่เอา 3 รูปแบบที่รับฟังความเห็น รวมทั้งมีผู้สมัครจากบางพรรคการเมืองไปคุยโม้ว่า แบบที่ 4 กำลังจะมีขึ้น" นายชูศักดิ์ กล่าว
**"สหพรรคฯ"ขอเลื่อนเลือกตั้งไป 5 พ.ค.62
วันเดียวกันนี้ กลุ่มสหพรรคการเมืองไทย นำโดย นายสาธุ อนุโมทามิ หน.พรรคพลังไทยดี ได้นำหนังสือ และแถลงการณ์ ยื่นต่อตัวแทนกกต. ขอให้พิจารณาเลื่อนการเลือกตั้งออกไปเป็น วันที่ 5 พ.ค. 62 เนื่องจากเห็นว่า การจัดการเลือกตั้งในวันที่ 24 ก.พ. 62 กระชั้นชิดเกินไป สำหรับพรรคการเมืองที่จัดตั้งขึ้นใหม่ จนทำให้เสียโอกาส ที่จะลงไปนำเสนอนโยบาย ต่อประชาชน ซึ่งวันที่ 5 พ.ค. 62 ยังถือว่าอยู่ในกรอบเวลา 150 วัน ที่กฎหมายกำหนด โดยเวลาที่เลื่อนออกไปเพียง 2 เดือน 9 วัน เพื่อให้พรรคการเมืองทุกพรรคพร้อมสำหรับการเลือกตั้ง และจะเป็นการเลือกตั้งที่สมบูรณ์
อย่างไรก็ตาม ยังมีกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ที่ไม่ต้องการให้เลื่อนเลือกตั้งไปจากวันที่ 24 ก.พ.62 นำโดย นายเอกชัย หงส์กังวาน ได้เดินทางไปที่บริเวณด้านหน้าโรงแรมเซ็นทรา ศูนย์ราชการและคอนเวชั่นเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ และได้ยื่นหนังสือต่อ นายสมเกียรติ คงดี ผอ.สำนักกิจการ กกต.เพื่อคัดค้านการเลื่อนเลือกตั้ง โดยนายเอกชัย ระบุว่า พรรคการเมืองต่างๆ ควรเรียกร้องให้มีการปลดล็อกทางการเมือง ไม่ใช่มาขอให้เลื่อนการเลือกตั้งออกไป เพราะมองว่า ไม่ว่าการเลือกตั้งจะเลื่อนออกไปไกลแค่ไหน ก็ไม่เป็นประโยชน์ หากไม่มีการปลดล็อกให้ทำกิจกรรมทางการเมืองอย่างเสรี
** เลื่อน-ไม่เลื่อน รอคุยแม่น้ำ5สาย
นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. กล่าวถึง กรณีพรรคการเมืองยื่นหนังสือขอให้การเลือกตั้งเป็นไปตามโรดแมป วันที่ 24 ก.พ. 62 และ พรรคการเมืองอีกกลุ่ม ขอให้เลื่อนการเลือกตั้งออกไป เป็น 5 พ.ค.62 ว่า กกต. จะเอาข้อมูลมาพิจารณาในภาพรวม แต่เบื้องต้น มองว่ายังไม่มีเหตุปัจจัยที่จะทำให้การเลือกตั้งเลื่อนออกไปจากโรดแมป
อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจว่า การเลือกตั้ง จะเลื่อนออกไปหรือไม่นั้น คงจะมีความชัดเจนหลังจากการประชุมร่วมกันระหว่างแม่น้ำ 5 สาย กับตัวแทนพรรคการเมือง ตามข้อ 8 ของคำสั่ง คสช. ที่ 53/2561 และคาดว่า วันประชุมจะชัดเจน หลังพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มีผลใช้บังคับ แต่หากมีข้อสรุปให้เลื่อนการเลือกตั้งออกไป กกต. เองก็ไม่จำเป็นแสดงความรับผิดชอบ เพราะกม. ไม่ได้กำหนดเช่นนั้น แต่การเลื่อน ก็ต้องมีเหตุผล และก็ต้องชี้แจงให้เข้าใจ
ส่วนคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 16/2561 เปิดทางให้ กกต. ทบทวนการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ให้เสร็จก่อนวันที่ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. จะมีผลใช้บังคับนั้น ทาง กกต.จะเร่งพิจารณาให้เสร็จภายในวันที่ 30 พ.ย. เพื่อเผื่อเวลาการประกาศในราชกิจจานุเบกษาไว้ด้วย
** “บิ๊กตู่”ลงพื้นที่”เจ๊หน่อย”พบปะประชาชน
เช้าวานนี้ (22 พ.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและคณะ ลงพื้นที่ตรวจราชการ กทม. (กลุ่มกรุงเทพตะวันออก เขตบางกะปิ สะพานสูง คลองสามวา มีนบุรี) โดยจุดแรกนายกฯ เดินทางไปยังโรงเรียนวัดศรีบุญเรือง เขตบางกระปิ ยืนเข้าแถวเคารพธงชาติร่วมกับนักเรียน ผู้ปกครอง และประชาชน มอบหมวกกันน็อกให้ตัวแทนนักเรียน เพื่อรณรงค์สร้างวินัยจราจร และความปลอดภัยบนท้องถนน และกล่าวให้โอวาท และทักทายประชาชน ว่า ตนมาเยี่ยมเยียน ไม่ด้วยเหตุผลอะไร แต่มาดูปัญหาอุปสรรคการทำงาน ว่าควรจะต้องปรับแก้ตรงไหนบ้าง การที่นายกฯ ไปทุกจังหวัด เพื่อที่จะไปดูแลคนไทย ทั้งเด็ก เยาวชน ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ นับวันจะมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งหมายความว่า จะต้องมีการดูแลด้านสาธารณสุข และด้านอื่นๆด้วย
"เงินที่ให้ 500 บาท 1,000 บาท เพื่อต้องการลดภาระให้กับประชาชน ซื้อของใช้ในครัวเรือน กะปิ น้ำปลา ร้านไหนที่มีเครื่องอ่านบัตรสวัสดิการ ก็สามารถซื้อได้หมด อย่าให้ใครไปบิดเบือนว่า ไปซื้อของคนรวย เอื้อประโยชน์คนรวย ของที่เป็นขนาดใหญ่เอกชนเป็นผู้ผลิต รัฐบาลก็ไปขอความร่วมมือ ไม่ได้หมายความว่าจะเอาไปให้เขา ฉะนั้นใครมีอะไรจะขาย ก็เสนอมาแต่ต้องอยู่ในราคาที่เหมาะสม อยากให้เข้าใจตรงนี้ รัฐบาลอำนวยความสะดวกกลไกการค้าเสรี ทำให้โปร่ง ใส ราคาต่างๆ ต้องถูกต้อง" นายกฯ กล่าว
ต่อมานายกฯ และคณะ เดินทางไปยังมัสยิดกมาลุลอิสลาม ซอยประชาร่วมใจ 48 เขตคลองสามวา โดยนายวินัย สะมะอุน อิหม่ามประจำมัสยิด นำผู้นำศาสนา และเด็กนักเรียน ให้การต้อนรับ พร้อมมอบสาราบั่น หรือผ้าโพกศีรษะของชายชาวมุสลิม สีเหลือง ให้กับนายกฯ พร้อมกับอ่านดูอาห์ ขอพรให้นายกฯ และคณะมีความสุขความเจริญ คิดหวังสิ่งใดสมความปราถนา และขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีไปอีกนานแสนนาน เป็นที่พึ่งของประชาชนต่อไป
ก่อนกลับ นายกฯได้ถ่ายภาพร่วมกับผู้นำศาสนา และเด็กนักเรียน ก่อนเยี่ยมชมนิทรรศการ และผลิตภัณฑ์ที่มาจากโครงการไทยนิยม ยั่งยืน และสินค้าเกษตรของดีเขตคลองสามวา
** ยันไม่เลิกบัตรสวัสดิการคนจน
จากนั้นนายกฯ พร้อมคณะเดินทางไปที่ ตลาดมีนบุรี เขตมีนบุรี เพื่อตรวจเยี่ยมแผงค้า และพบปะพ่อค้าแม่ค้าและประชาชน โดยมีประชาชนชนรอต้อนรับกว่า 1,000 คน ทั้งนี้นายกฯ ยังได้ลงมือทำผัดไทยกุ้งสด พร้อมกับชิมฝีมือการผัดของตัวเอง และยกนิ้วโป้งบอกว่า “ไม่เคยกินผัดไทยที่ไหนอร่อยเท่านี้”ก่อนเดินพบปะพ่อค้า แม่ค้า ภายในตลาด ทักทายประชาชนที่มาจับจ่าย ซื้อสินค้าในตลาด มีประชาชน มอบดอกไม้ให้กับนายกฯ บ้างก็ตะโกนให้กำลังใจ บอกให้สู้ๆ
ทั้งนี้ ในการลงพื้นที่ตลาดมีนบุรี นายชาญวิทย์ วิภูศิริ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตมีนบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ที่ได้ตัดสินใจมาร่วมงานกับ พรรคพลังประชารัฐ ได้มาต้อนรับนายกฯ ด้วย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวยืนยันว่า บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน) ไม่มีวันเลิก เราจะทำต่อไป และอย่าคิดว่ารัฐบาลทำแล้วจะได้ประโยชน์ เพราะการดำเนินการอะไร รัฐบาลระวังที่สุด และไม่ได้คิดทำเพื่อสืบทอดอำนาจ หากสืบทอดอำนาจก็เพื่อพวกท่าน ไม่ใช่เพื่อตนเอง
** "บิ๊กตู่"ไลฟ์สดลอยกระทงที่คลองผดุงฯ
ต่อมา เวลา 17.30 น. ที่คลองผดุงกรุงเกษม พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมนางนราพร จันทร์โอชา ภริยา และ รัฐมนตรี ร่วมลอยกระทงสืบสานวัฒนธรรมไทย เนื่องในเทศกาลลอยกระทง ประจำปี 2561 ที่ บริเวณคลองผดุงกรุงเกษม ข้างทำเนียบรัฐบาล โดยนายกฯ กล่าวว่า มาช่วยกันลอยกระทงนะ ลอยทุกข์โศกโรคภัย ขอพรให้คนไทยทั้งประเทศ และขอให้ประเทศมีความสงบ วันนี้บอกประชาชนขอให้ลอยกระทงอย่างปลอดภัย ในคืนวันลอยกระทงก็อย่าให้เหตุการณ์ที่ไม่ดีเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า อย่างที่ผ่านมา เราต้องช่วยกันดูแลตัวเองดูแลครอบครัว การที่จะเข้าไปใกล้น้ำต้องระมัดระวังให้มากที่สุด โดยเฉพาะเด็กเล็ก
"วันนี้ผมมาในนามครอบครัว และถือโอกาสลอยให้คนอื่นที่ไม่มีโอกาสได้ลอย เพราะบางส่วนต้องทำงาน" นายกฯ กล่าว
ทั้งนี้ ในช่วงที่นายกฯไปลอยกระทง ได้ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อ“ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha”เป็นครั้งแรก โดยระหว่างการทำกิจกรรม ได้พูดคุยกับประชาชนที่เดินทางมาลอยกระทง ทั้งนี้นายกฯ โพสต์เฟซบุ๊กล่วงหน้า ว่า "สวัสดีครับ วันนี้ผมไลฟ์เฟซบุ๊กเป็นครั้งแรก ไปลอยกระทงที่คลองผดุงกรุงเกษม พี่น้องประชาชนไปลอยกระทงกันก็อย่าลืมช่วยกันรณรงค์ลดขยะตามนโยบาย 1 กระทง 1 ครอบครัว นะครับ”
ผ็สื่อข่าวรายงานว่า หลังการลอยกระทงของนายกฯ และภริยาเสร็จสิ้น ทีมข่าวได้ติดตามไปดูกระทงดอกไม้ของ นายกฯ พบว่าได้ลอยเลี้ยวซ้ายกลับไปทาง ด้านหน้าทำเนียบรัฐบาล บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ ขณะที่กระทงอื่นส่วนใหญ่ จะลอยไปทางขวา โดย ช่างภาพและสื่อมวลชนบางส่วน ตั้งข้อสังเกตุ ว่า เหมือนเป็นลางบอก ว่า นายกฯ อาจจะกลับ มาทำเนียบรัฐบาลอีกครั้ง หลังการเลือกตั้ง
**"แม้ว"ฝากความคิดถึงชาวไทย
เฟซบุ๊ก อานนท์ แสนน่าน โพสต์ข้อความพร้อมภาพ ระบุว่า "ทักษิณ ชินวัตร" มอบนโยบายด้านการเกษตรให้ดูแลประชาชน ห่วงและคิดถึงประชาชนชาวไทยเสมอ และตลอดไป
เช้าวันนี้ ณ ประเทศสิงคโปร์ ท่าน "ดร.ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกฯในดวงใจของประชาชนชาวไทย ได้เปิดโอกาสให้ นายอานนท์ แสนน่าน นำคณะเข้าพบ โดยมี นายสมชัย แสงทอง ตัวแทนจากภาคเหนือ นางนิตยา นาโล ตัวแทนจากภาคอีสาน และ นางธนภัทร พันธวาส ตัวแทนกลุ่มเกษตรกร/วิสาหกิจชุมชน เพื่อรับนโยบายในการขับเคลื่อนช่วยเหลือประชาชน
ท่านได้บอกว่า "...คิดถึงประชาชนชาวไทย และห่วงความเป็นอยู่ของประชาชน อยากจะให้ประชาชนได้มีอาชีพทำกันทุกคน มีรายได้มาก ๆ อยากจะให้พวกเราดูแลกันและกัน ไม่ทิ้งกัน โดยเฉพาะประชาชนที่ขาดโอกาสและกลุ่มเกษตรกร ถ้ามีการเลือกตั้งและมีรัฐบาลมาจากการเลือกตั้งเศรษฐกิจของไทยจะดีขึ้นและประชาชนก็จะมีชีวิตทีดีขึ้น..."
การพบท่าน "ดร.ทักษิณ ชินวัตร" ในครั้งนี้ พวกเราดีใจมาก หลังจากที่ไม่ได้เจอท่านตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2557 ก่อนปฏิวัติเพียงไม่กี่วัน ในช่วงนั้นท่านอายุเพียง 60 ปี ต้นๆ แต่มาปีนี้ ท่านอายุเกือบจะ 70 ปี แล้วแต่ดูหน้าตาท่าน เหมือนคนอายุเพียง 50 ปี ต้นๆ ไม่เหมือน 4 ปี ที่ผ่านมา ที่หน้าตาท่านดูเหมือนคนมีอายุมาก พวกเราก็ดีใจ ท่านเองได้ยกกำปั้น และแสดงท่าทีให้ดู ถึงสมรรถภาพร่างกายของท่านแข็งแรงมาก ๆ และที่สำคัญ "หุ่นหล่อมาก ๆ " จึงฝากถึงมวลสมาชิก และประชาชนชาวไทยที่ยังรัก ห่วง และ ศรัทธาท่าน ท่านบอกว่า "...อายุเป็นเพียงตัวเลข ร่างกายแข็งแรง และ พร้อมทุกอย่าง..."
** กกต.หารือพรรคการเมือง
เช้าวันเดียวกันนี้ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นประธานเปิดการประชุมชี้แจงแนวทาการดำเนินกิจการแก่พรรคการเมือง โดยมีตัวแทนพรรคการเมือง 72 พรรค และผู้ยื่นจดแจ้งเตรียมการจัดตั้งพรรคการเมือง 14 กลุ่ม รวม 306 คน เข้าร่วมรับฟังการชี้แจงหลักเกณฑ์ในการสรรหาผู้สมัคร และส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคการเมือง
นายอิทธิพร กล่าวว่า รธน.กำหนดให้กกต. มีหน้าที่จัดการเลือกตั้งและดูแลพรรคการเมือง ขณะที่คำสั่ง หัวหน้า คสช.13/2561 กำหนดวิธีการให้พรรคการเมือง สรรหาสมาชิก และผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส. สำนักงาน กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง จึงจัดประชุมเพื่อชี้แจงแนวทางการปฏิบัติ โดยเฉพาะเรื่องหลักเกณฑ์ และวิธีการรับสมัคร และส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง เพื่อให้พรรคการเมือง ได้นำแนวทางไปปฏิบัติ ได้อย่างถูกต้องตามกม. ซึ่งปัจจุบันมีพรรคการเมือง 89 พรรค
นายแสวง บุญมี รองเลขาฯกกต. กล่าวถึงการแบ่งเขตเลือกตั้งว่า ตามกฎหมาย กกต.จะต้องแบ่งเขตเลือกตั้งให้เสร็จก่อนวันที่ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.มีผลบังคับใช้ ซึ่งก็คือก่อนวันที่ 10 ธ.ค.นี้ ซึ่งเขตเลือกตั้งมีความสำคัญมาก เพราะพรรคการเมืองต้องทำงานกับเขตเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นการลงคะแนน และการรับสมัครอยู่ที่เขต ดังนั้นตราบใดที่ยังไม่มีเขต ก็ตั้งตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด ไม่ได้ เพราะยังไม่รู้ว่าใครจะอยู่ตรงไหน
อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่ยังไม่มีเขตเลือกตั้ง กกต.ได้สนับสนุน และอำนวยความสะดวกให้กับพรรคการเมือง โดยแก้ประกาศนายทะเบียนสมาชิกพรรคการเมือง เรื่องการรายงานทะเบียนสมาชิกพรรคการเมือง เพื่อให้พรรคการเมือง รับสมาชิก และรายงานสมาชิกทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ รวมทั้งการจัดทำฐานข้อมูลพรรคการเมือง เพื่อให้พรรคเข้าใช้ฐานข้อมูลได้โดยตรง พรรคการเมืองสามารถแก้ไขเพิ่มเติมสมาชิก กรณีเพิ่มลดให้เป็นปัจจุบันได้ และสามารถตรวจสอบความเป็นสมาชิกพรรค เพื่อป้องกันการซ้ำซ้อนของสมาชิกพรรค โดยวันนี้ (22 พ.ย.) พรรคจะได้รับยูสเซอร์เนม และพาสเวิร์ด จากสำนักงานกกต.
** จะลงส.ส.ต้องเป็นสมาชิกพรรคก่อน 26 พ.ย.
นายแสวง ยังกล่าวถึง คำสั่ง คสช. ที่ 16/2561 เรื่อง การสรรหารผู้สมัครรับเลือกตั้ง จนถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง ว่า ขณะนี้มีผู้แทนพรรคโทรหาทุกวัน สอบถามเรื่องหลักเกณฑ์ 90 วันหายไปหรือยัง สามารถย้ายพรรคได้ตลอดหรือไม่ จึงขอชี้แจงว่า กำหนดระยะเวลาสรรหา เป็นคนละเรื่องกับคุณสมบัติของผู้สมัคร หากวันเลือกตั้งเป็นวันที่ 24 ก.พ. 62 การสังกัดพรรค และเป็นสมาชิกพรรคไม่น้อยกว่า 90 วัน ต้องเป็นสมาชิกก่อนวันที่ 26 พ.ย.นี้ เว้นแต่เป็นพรรคการเมืองจัดตั้งใหม่ ที่เข้ายื่นจดจัดตั้งภายใน วันที่ 23 พ.ย.นี้ ความเป็นสมาชิกจะย้อนกลับมาถึงวันที่ยื่นจดแจ้ง ขอรับประกันว่า ถ้ายื่นจดจัดตั้งพรรควันนี้ มีสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้งทันแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงตอบข้อซักถามของตัวแทนพรรคการเมือง นายชูศักดิ์ ศิรินิล คณะทำงานฝ่ายกม. พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ยิ่งมาฟังการชี้แจงของกกต. ยิ่งมีความสับสนมากขึ้น ทั้งประเด็นสาขาของพรรค และระยะเวลาการสังกัดพรรคการเมืองของผู้สมัคร
"ขอถามไปยัง กกต.ว่า เหตุใดจึงยังชักช้าในการประกาศเขตเลือกตั้ง ซึ่งล่วงเลยมานาน จนทำให้มีคำสั่ง คสช.ที่ 16/2561 ที่ให้อำนาจ กกต.ทบทวนการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ได้ แม้จะขัดต่อกม. และระเบียบที่วางไว้ กลายเป็นการกระทำที่ชอบด้วยรธน. และยังเขียนหน้าด้านไปถึงขนาดให้การพิจารณาของ กกต. เป็นที่สุด ซึ่งก็ไม่ได้รู้ว่า กกต.เตรียมทำอะไรที่ผิดกม. หรือผิดระเบียบที่ตัวเองร่างขึ้นหรือไม่ เพราะ พ.ร.ป.การเลือกตั้งส.ส. เขียนไว้ชัดว่าการแบ่งเขตเลือกตั้งต้องทำอย่างไร ขณะนี้ในต่างจังหวัด มีรูปแบบการแบ่งเขต รูปแบบที่ 4 ปลิวว่อนไปหมด และ มีข่าวว่า กกต.จะไม่เอา 3 รูปแบบที่รับฟังความเห็น รวมทั้งมีผู้สมัครจากบางพรรคการเมืองไปคุยโม้ว่า แบบที่ 4 กำลังจะมีขึ้น" นายชูศักดิ์ กล่าว
**"สหพรรคฯ"ขอเลื่อนเลือกตั้งไป 5 พ.ค.62
วันเดียวกันนี้ กลุ่มสหพรรคการเมืองไทย นำโดย นายสาธุ อนุโมทามิ หน.พรรคพลังไทยดี ได้นำหนังสือ และแถลงการณ์ ยื่นต่อตัวแทนกกต. ขอให้พิจารณาเลื่อนการเลือกตั้งออกไปเป็น วันที่ 5 พ.ค. 62 เนื่องจากเห็นว่า การจัดการเลือกตั้งในวันที่ 24 ก.พ. 62 กระชั้นชิดเกินไป สำหรับพรรคการเมืองที่จัดตั้งขึ้นใหม่ จนทำให้เสียโอกาส ที่จะลงไปนำเสนอนโยบาย ต่อประชาชน ซึ่งวันที่ 5 พ.ค. 62 ยังถือว่าอยู่ในกรอบเวลา 150 วัน ที่กฎหมายกำหนด โดยเวลาที่เลื่อนออกไปเพียง 2 เดือน 9 วัน เพื่อให้พรรคการเมืองทุกพรรคพร้อมสำหรับการเลือกตั้ง และจะเป็นการเลือกตั้งที่สมบูรณ์
อย่างไรก็ตาม ยังมีกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ที่ไม่ต้องการให้เลื่อนเลือกตั้งไปจากวันที่ 24 ก.พ.62 นำโดย นายเอกชัย หงส์กังวาน ได้เดินทางไปที่บริเวณด้านหน้าโรงแรมเซ็นทรา ศูนย์ราชการและคอนเวชั่นเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ และได้ยื่นหนังสือต่อ นายสมเกียรติ คงดี ผอ.สำนักกิจการ กกต.เพื่อคัดค้านการเลื่อนเลือกตั้ง โดยนายเอกชัย ระบุว่า พรรคการเมืองต่างๆ ควรเรียกร้องให้มีการปลดล็อกทางการเมือง ไม่ใช่มาขอให้เลื่อนการเลือกตั้งออกไป เพราะมองว่า ไม่ว่าการเลือกตั้งจะเลื่อนออกไปไกลแค่ไหน ก็ไม่เป็นประโยชน์ หากไม่มีการปลดล็อกให้ทำกิจกรรมทางการเมืองอย่างเสรี
** เลื่อน-ไม่เลื่อน รอคุยแม่น้ำ5สาย
นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. กล่าวถึง กรณีพรรคการเมืองยื่นหนังสือขอให้การเลือกตั้งเป็นไปตามโรดแมป วันที่ 24 ก.พ. 62 และ พรรคการเมืองอีกกลุ่ม ขอให้เลื่อนการเลือกตั้งออกไป เป็น 5 พ.ค.62 ว่า กกต. จะเอาข้อมูลมาพิจารณาในภาพรวม แต่เบื้องต้น มองว่ายังไม่มีเหตุปัจจัยที่จะทำให้การเลือกตั้งเลื่อนออกไปจากโรดแมป
อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจว่า การเลือกตั้ง จะเลื่อนออกไปหรือไม่นั้น คงจะมีความชัดเจนหลังจากการประชุมร่วมกันระหว่างแม่น้ำ 5 สาย กับตัวแทนพรรคการเมือง ตามข้อ 8 ของคำสั่ง คสช. ที่ 53/2561 และคาดว่า วันประชุมจะชัดเจน หลังพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มีผลใช้บังคับ แต่หากมีข้อสรุปให้เลื่อนการเลือกตั้งออกไป กกต. เองก็ไม่จำเป็นแสดงความรับผิดชอบ เพราะกม. ไม่ได้กำหนดเช่นนั้น แต่การเลื่อน ก็ต้องมีเหตุผล และก็ต้องชี้แจงให้เข้าใจ
ส่วนคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 16/2561 เปิดทางให้ กกต. ทบทวนการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ให้เสร็จก่อนวันที่ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. จะมีผลใช้บังคับนั้น ทาง กกต.จะเร่งพิจารณาให้เสร็จภายในวันที่ 30 พ.ย. เพื่อเผื่อเวลาการประกาศในราชกิจจานุเบกษาไว้ด้วย
** “บิ๊กตู่”ลงพื้นที่”เจ๊หน่อย”พบปะประชาชน
เช้าวานนี้ (22 พ.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและคณะ ลงพื้นที่ตรวจราชการ กทม. (กลุ่มกรุงเทพตะวันออก เขตบางกะปิ สะพานสูง คลองสามวา มีนบุรี) โดยจุดแรกนายกฯ เดินทางไปยังโรงเรียนวัดศรีบุญเรือง เขตบางกระปิ ยืนเข้าแถวเคารพธงชาติร่วมกับนักเรียน ผู้ปกครอง และประชาชน มอบหมวกกันน็อกให้ตัวแทนนักเรียน เพื่อรณรงค์สร้างวินัยจราจร และความปลอดภัยบนท้องถนน และกล่าวให้โอวาท และทักทายประชาชน ว่า ตนมาเยี่ยมเยียน ไม่ด้วยเหตุผลอะไร แต่มาดูปัญหาอุปสรรคการทำงาน ว่าควรจะต้องปรับแก้ตรงไหนบ้าง การที่นายกฯ ไปทุกจังหวัด เพื่อที่จะไปดูแลคนไทย ทั้งเด็ก เยาวชน ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ นับวันจะมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งหมายความว่า จะต้องมีการดูแลด้านสาธารณสุข และด้านอื่นๆด้วย
"เงินที่ให้ 500 บาท 1,000 บาท เพื่อต้องการลดภาระให้กับประชาชน ซื้อของใช้ในครัวเรือน กะปิ น้ำปลา ร้านไหนที่มีเครื่องอ่านบัตรสวัสดิการ ก็สามารถซื้อได้หมด อย่าให้ใครไปบิดเบือนว่า ไปซื้อของคนรวย เอื้อประโยชน์คนรวย ของที่เป็นขนาดใหญ่เอกชนเป็นผู้ผลิต รัฐบาลก็ไปขอความร่วมมือ ไม่ได้หมายความว่าจะเอาไปให้เขา ฉะนั้นใครมีอะไรจะขาย ก็เสนอมาแต่ต้องอยู่ในราคาที่เหมาะสม อยากให้เข้าใจตรงนี้ รัฐบาลอำนวยความสะดวกกลไกการค้าเสรี ทำให้โปร่ง ใส ราคาต่างๆ ต้องถูกต้อง" นายกฯ กล่าว
ต่อมานายกฯ และคณะ เดินทางไปยังมัสยิดกมาลุลอิสลาม ซอยประชาร่วมใจ 48 เขตคลองสามวา โดยนายวินัย สะมะอุน อิหม่ามประจำมัสยิด นำผู้นำศาสนา และเด็กนักเรียน ให้การต้อนรับ พร้อมมอบสาราบั่น หรือผ้าโพกศีรษะของชายชาวมุสลิม สีเหลือง ให้กับนายกฯ พร้อมกับอ่านดูอาห์ ขอพรให้นายกฯ และคณะมีความสุขความเจริญ คิดหวังสิ่งใดสมความปราถนา และขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีไปอีกนานแสนนาน เป็นที่พึ่งของประชาชนต่อไป
ก่อนกลับ นายกฯได้ถ่ายภาพร่วมกับผู้นำศาสนา และเด็กนักเรียน ก่อนเยี่ยมชมนิทรรศการ และผลิตภัณฑ์ที่มาจากโครงการไทยนิยม ยั่งยืน และสินค้าเกษตรของดีเขตคลองสามวา
** ยันไม่เลิกบัตรสวัสดิการคนจน
จากนั้นนายกฯ พร้อมคณะเดินทางไปที่ ตลาดมีนบุรี เขตมีนบุรี เพื่อตรวจเยี่ยมแผงค้า และพบปะพ่อค้าแม่ค้าและประชาชน โดยมีประชาชนชนรอต้อนรับกว่า 1,000 คน ทั้งนี้นายกฯ ยังได้ลงมือทำผัดไทยกุ้งสด พร้อมกับชิมฝีมือการผัดของตัวเอง และยกนิ้วโป้งบอกว่า “ไม่เคยกินผัดไทยที่ไหนอร่อยเท่านี้”ก่อนเดินพบปะพ่อค้า แม่ค้า ภายในตลาด ทักทายประชาชนที่มาจับจ่าย ซื้อสินค้าในตลาด มีประชาชน มอบดอกไม้ให้กับนายกฯ บ้างก็ตะโกนให้กำลังใจ บอกให้สู้ๆ
ทั้งนี้ ในการลงพื้นที่ตลาดมีนบุรี นายชาญวิทย์ วิภูศิริ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตมีนบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ที่ได้ตัดสินใจมาร่วมงานกับ พรรคพลังประชารัฐ ได้มาต้อนรับนายกฯ ด้วย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวยืนยันว่า บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน) ไม่มีวันเลิก เราจะทำต่อไป และอย่าคิดว่ารัฐบาลทำแล้วจะได้ประโยชน์ เพราะการดำเนินการอะไร รัฐบาลระวังที่สุด และไม่ได้คิดทำเพื่อสืบทอดอำนาจ หากสืบทอดอำนาจก็เพื่อพวกท่าน ไม่ใช่เพื่อตนเอง
** "บิ๊กตู่"ไลฟ์สดลอยกระทงที่คลองผดุงฯ
ต่อมา เวลา 17.30 น. ที่คลองผดุงกรุงเกษม พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมนางนราพร จันทร์โอชา ภริยา และ รัฐมนตรี ร่วมลอยกระทงสืบสานวัฒนธรรมไทย เนื่องในเทศกาลลอยกระทง ประจำปี 2561 ที่ บริเวณคลองผดุงกรุงเกษม ข้างทำเนียบรัฐบาล โดยนายกฯ กล่าวว่า มาช่วยกันลอยกระทงนะ ลอยทุกข์โศกโรคภัย ขอพรให้คนไทยทั้งประเทศ และขอให้ประเทศมีความสงบ วันนี้บอกประชาชนขอให้ลอยกระทงอย่างปลอดภัย ในคืนวันลอยกระทงก็อย่าให้เหตุการณ์ที่ไม่ดีเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า อย่างที่ผ่านมา เราต้องช่วยกันดูแลตัวเองดูแลครอบครัว การที่จะเข้าไปใกล้น้ำต้องระมัดระวังให้มากที่สุด โดยเฉพาะเด็กเล็ก
"วันนี้ผมมาในนามครอบครัว และถือโอกาสลอยให้คนอื่นที่ไม่มีโอกาสได้ลอย เพราะบางส่วนต้องทำงาน" นายกฯ กล่าว
ทั้งนี้ ในช่วงที่นายกฯไปลอยกระทง ได้ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อ“ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha”เป็นครั้งแรก โดยระหว่างการทำกิจกรรม ได้พูดคุยกับประชาชนที่เดินทางมาลอยกระทง ทั้งนี้นายกฯ โพสต์เฟซบุ๊กล่วงหน้า ว่า "สวัสดีครับ วันนี้ผมไลฟ์เฟซบุ๊กเป็นครั้งแรก ไปลอยกระทงที่คลองผดุงกรุงเกษม พี่น้องประชาชนไปลอยกระทงกันก็อย่าลืมช่วยกันรณรงค์ลดขยะตามนโยบาย 1 กระทง 1 ครอบครัว นะครับ”
ผ็สื่อข่าวรายงานว่า หลังการลอยกระทงของนายกฯ และภริยาเสร็จสิ้น ทีมข่าวได้ติดตามไปดูกระทงดอกไม้ของ นายกฯ พบว่าได้ลอยเลี้ยวซ้ายกลับไปทาง ด้านหน้าทำเนียบรัฐบาล บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ ขณะที่กระทงอื่นส่วนใหญ่ จะลอยไปทางขวา โดย ช่างภาพและสื่อมวลชนบางส่วน ตั้งข้อสังเกตุ ว่า เหมือนเป็นลางบอก ว่า นายกฯ อาจจะกลับ มาทำเนียบรัฐบาลอีกครั้ง หลังการเลือกตั้ง
**"แม้ว"ฝากความคิดถึงชาวไทย
เฟซบุ๊ก อานนท์ แสนน่าน โพสต์ข้อความพร้อมภาพ ระบุว่า "ทักษิณ ชินวัตร" มอบนโยบายด้านการเกษตรให้ดูแลประชาชน ห่วงและคิดถึงประชาชนชาวไทยเสมอ และตลอดไป
เช้าวันนี้ ณ ประเทศสิงคโปร์ ท่าน "ดร.ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกฯในดวงใจของประชาชนชาวไทย ได้เปิดโอกาสให้ นายอานนท์ แสนน่าน นำคณะเข้าพบ โดยมี นายสมชัย แสงทอง ตัวแทนจากภาคเหนือ นางนิตยา นาโล ตัวแทนจากภาคอีสาน และ นางธนภัทร พันธวาส ตัวแทนกลุ่มเกษตรกร/วิสาหกิจชุมชน เพื่อรับนโยบายในการขับเคลื่อนช่วยเหลือประชาชน
ท่านได้บอกว่า "...คิดถึงประชาชนชาวไทย และห่วงความเป็นอยู่ของประชาชน อยากจะให้ประชาชนได้มีอาชีพทำกันทุกคน มีรายได้มาก ๆ อยากจะให้พวกเราดูแลกันและกัน ไม่ทิ้งกัน โดยเฉพาะประชาชนที่ขาดโอกาสและกลุ่มเกษตรกร ถ้ามีการเลือกตั้งและมีรัฐบาลมาจากการเลือกตั้งเศรษฐกิจของไทยจะดีขึ้นและประชาชนก็จะมีชีวิตทีดีขึ้น..."
การพบท่าน "ดร.ทักษิณ ชินวัตร" ในครั้งนี้ พวกเราดีใจมาก หลังจากที่ไม่ได้เจอท่านตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2557 ก่อนปฏิวัติเพียงไม่กี่วัน ในช่วงนั้นท่านอายุเพียง 60 ปี ต้นๆ แต่มาปีนี้ ท่านอายุเกือบจะ 70 ปี แล้วแต่ดูหน้าตาท่าน เหมือนคนอายุเพียง 50 ปี ต้นๆ ไม่เหมือน 4 ปี ที่ผ่านมา ที่หน้าตาท่านดูเหมือนคนมีอายุมาก พวกเราก็ดีใจ ท่านเองได้ยกกำปั้น และแสดงท่าทีให้ดู ถึงสมรรถภาพร่างกายของท่านแข็งแรงมาก ๆ และที่สำคัญ "หุ่นหล่อมาก ๆ " จึงฝากถึงมวลสมาชิก และประชาชนชาวไทยที่ยังรัก ห่วง และ ศรัทธาท่าน ท่านบอกว่า "...อายุเป็นเพียงตัวเลข ร่างกายแข็งแรง และ พร้อมทุกอย่าง..."