การเดินสาย “คารวะแผ่นดิน” เชิญชวนประชาชนให้สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรครวมพลังประชาชาติไทยของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ หรือลุงกำนัน สถานการณ์แตกต่างจากช่วงที่เป็นผู้นำคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) นำมวลมหาประชาชนเดินขบวนขับไล่รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรอย่างสิ้นเชิง
เพราะการเคลื่อนไหวในนามแกนนำ กปปส.ลุงกำนันได้รับการต้อนรับจากประชาชนอย่างล้นหลาม ไปที่ไหนมีแต่เสียงโห่ร้องสรรเสริญ มีทั้งดอกไม้ กำลังใจ และเงินสมทบทุนในการชุมนุมต่อสู้กับระบอบทักษิณ
แต่การเดินสายคารวะแผ่นดิน ประชาชนรอต้อนรับอย่างหลอมแหลม ไม่อบอุ่น และในหลายจุดถูกต่อต้านโจมตี
เพียงไม่กี่ปี ความศรัทธาที่เคยมีต่อลุงกำนัน เสื่อมสลายลงอย่างรวดเร็ว
จากวีรบุรุษที่ออกมาเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย นำมวลมหาประชาชนลุกฮือขึ้นมาโค่นล้มระบอบทักษิณ กลายเป็นเพียงลุงที่ยังหมกมุ่นทางการเมือง วนเวียนอยู่ในวงจรอุบาทว์ และหันหลังให้เจตนารมณ์ของมวลมหาประชาชนในการปฏิรูปประเทศเสียแล้ว
ข้อกล่าวหา “ตระบัดสัตย์” ทางการเมือง ไม่น่าจะเป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้คนที่เคยออกมาเดินเคียงบ่าเคียงไหล่ ร่วมขับไล่รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ท่ามกลางห่ากระสุนและระเบิด พร้อมเป็นตายกับลุงกำนัน กลายเป็นคนที่หมดใจให้ลุงกำนัน
ปรากฏการณ์ต่อต้านการเดินคารวะแผ่นดินที่ปะทุกันแทบทุกพื้นที่ที่ลุงกำนันเหยียบเข้าไป น่าจะเกิดจากบทบาทที่เปลี่ยนของลุงกำนัน หลังภารกิจการขับไล่รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์เสร็จสิ้น
เจตนารมณ์ของมวลมหาประชาชนไม่ได้รับการสานต่อ การปฏิรูปการเมืองโดยภาคประชาชนหยุดนิ่งสนิท ประเทศตกภายใต้กำมือของรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อย่างเต็มรูปแบบ โดยที่ปัญหาของประเทศไม่ได้รับการแก้ไข ขณะที่ลุงกำนันไม่แสดงบทบาท เพื่อขับเคลื่อนเจตนารมณ์ของมวลมหาประชาชนแต่อย่างใด
แต่แสดงท่าทีสนับสนุนการกลับมาสืบทอดอำนาจของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาอีกด้วย
ไม่น่าเชื่อว่า คนที่เคยได้รับการเชิดชูว่าเป็นวีรบุรุษ เป็นนักสู้ภาคประชาชน มีฐานมวลชนศรัทธาและให้การสนับสนุนนับสิบๆ ล้านคน จะย้อนกลับเข้าสู่วัฏจักรการเมืองน้ำเน่า และทำลายความศรัทธาที่มวลมหาประชาชนเคยมอบให้อย่างหมดใจจนสิ้น
จุดสูงสุดในชีวิตของลุงกำนัน เกิดขึ้นในช่วงเป็นผู้นำมวลมหาประชาชน ซึ่งผ่านพ้นไปแล้ว ภาพของลุงกำนันปัจจุบันเป็นเพียงอดีตนักการเมืองที่สำคัญตัวว่า ยังมีมวลมหาประชาชนให้การสนับสนุน และหวังว่าจะอาศัยฐานมวลมหาประชาชน เป็นคะแนนเสียงสนับสนุนพรรครวมพลังประชาชาติไทย ซึ่งเป็นอีกพรรคการเมืองที่จะโหนพล.อ.ประยุทธ์ เพื่อร่วมเป็นรัฐบาลชุดสืบทอดอำนาจ
แต่พรรครวมพลังประชาชาติไทยจะไปได้สักกี่น้ำ จะได้ ส.ส.สักกี่คน เพราะลุงกำนันขายไม่ออกแล้ว และคะแนนนิยมของพล.อ.ประยุทธ์กำลังตกรูด ขณะที่พรรคการเมืองที่ประกาศนโยบายไม่เอารัฐบาล คสช.กำลังมาแรง
ถ้าพรรครวมพลังประชาชาติไทยแจ้งเกิดไม่ได้ อาจเป็นฉากสุดท้ายในบทบาทของลุงกำนัน เพราะความน่าเชื่อถือทางการเมืองจะดับสูญ กลายเป็นนักการเมืองสูงวัยที่หลงกับอดีตอันรุ่งโรจน์ ในฐานะผู้สร้างประวัติศาสตร์นำมวลมหาประชาชนนับสิบล้านคนลุกฮือทั้งประเทศ ชูมือขับไล่รัฐบาลปล้นชาติเท่านั้น
การออกแรงทุ่มสุดตัว นำจุดขายของการเป็นวีรบุรุษในช่วงเวลาต่อสู้กับรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์มาใช้หาเสียงให้พรรครวมพลังประชาชาติไทย ยอมอดทนกับกระแสต่อต้านตามรายทางระหว่างเดินสายคารวะแผ่นดิน จะเป็นบทพิสูจน์ว่า ยังมีมวลมหาประชาชนที่ศรัทธาลุงกำนันหลงเหลือยู่เท่าไหร่
ใครจะแช่งหรือเชียร์การเดินย่ำรอยย้อนกลับสู่วงจรอุบาทว์ทางการเมืองของลุงกำนันอีกครั้ง ไม่มีความหมายใดๆ ทั้งสิ้น เพราะผู้ที่จะตัดสินชะตากรรมของพรรครวมพลังประชาชาติไทยคือ มวลมหาประชาชนที่เคยร่วมเป็นร่วมตาย และเคยเคารพบูชาลุงกำนันดุจดั่งเทพเจ้าสมัยร่วมกันไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์
ถ้าความศรัทธาของมวลมหาประชาชนต่อลุงกำนันยังเหนียวแน่น พรรครวมพลังประชาชาติไทยคงแจ้งเกิดได้ แต่ถ้ามวลมหาประชาชนไม่เหลือศรัทธาให้ลุงกำนัน พรรครวมพลังประชาชาติไทยคงต้องม้วนเสื่อกลับบ้าน
ความศรัทธาของมวลมหาประชาชนที่เสื่อมสลายไป จะโทษใครไม่ได้ นอกจากกำนันสุเทพเองที่เปลี่ยนบทบาทหลังปิดเวที กปปส.
ภาพนายสุเทพเดินนำมวลมหาประชาชนเพื่อเผชิญหน้ากับรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ สวยสดงดงามน่าศรัทธากว่าภาพนายสุเทพเดินสายหาเสียงให้พรรครวมพลังประชาชาติไทยยิ่งนัก
น่าเสียดาย จุดสวยสดงดงามที่สุดในชีวิตของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ วันนี้เสื่อมสลายไปสิ้น และไม่ใช่ด้วยกาลเวลา แต่ด้วยพฤติกรรมของลุงกำนันเอง