xs
xsm
sm
md
lg

‘ทรัมป์’ ยังหวังจะผยองต่อไป

เผยแพร่:   โดย: โสภณ องค์การณ์

<b>ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา</b>
ผลการเลือกตั้งช่วงครึ่งเทอมของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระหว่างพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครต ด้วยเดิมพันสูงสำหรับอนาคตการเมืองของสหรัฐฯ อเมริกา จะออกมาเป็นอย่างไรก็ตาม ผู้นำทำเนียบขาวจอมห้าวกร่างก็ยังอยู่ในอำนาจต่อไป
เพียงแต่ว่าถ้าพรรครีพับลิกันต้องเสียเสียงข้างมากในสภาคองเกรส หรือวุฒิสภาไป หรือเสียทั้ง 2 สภา การทำงานของทรัมป์ในการเข็นกฎหมาย นโยบายต่างๆ ก็จะยากขึ้น ถ้าเสียเพียง 1 ใน 2 ก็ยังพอลุ้น มีอำนาจต่อรองได้ คุยกันยังรู้เรื่อง

ถ้ายังรักษาแชมป์ทั้ง 2 สภาได้ ทรัมป์ก็จะยิ่งกว่าเป็นเสือติดปีก พ่นไฟได้อีกด้วย ดังนั้นนโยบายต่างๆ ที่กร่างกร้าว ไม่แยแสประเทศใดนั้น ทรัมป์จะเดินหน้าด้วยความลำพอง เชื่อมั่นในอำนาจ ที่ผ่านมาเอาตัวรอดมาได้ด้วยเล่ห์ลิ้นกลเกมด้านๆ

ทรัมป์มาจากนักธุรกิจ เมื่อมาเป็นนักการเมือง แนวคิดเรื่องการทำกำไรหรือผลประโยชน์สูงสุดก็เป็นฐานหลัก จะพูด ทำอะไรไม่ต้องคำนึงถึงประเด็นศีลธรรม คุณธรรม ยางอาย หรือมนุษยธรรม ไม่จำเป็นต้องให้ถึงแนวมือถือสาก ปากถือศีล

หนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์ ได้รวบรวมตัวเลขที่ทรัมป์พูดไม่จริง กล่าวหาเลื่อนลอย ไร้หลักฐาน ยกเมฆ หรือถึงขั้นโกหกซึ่งหน้า มีจำนวน 1,640 ครั้ง ถือว่าไม่ธรรมดา โดยปกตินักการเมืองอเมริกัน ถ้าโกหกจังๆ เพียงแค่ 3-4 ครั้งก็ไปไม่รอดแล้ว

กรณี บิล คลินตัน บอกว่าผมสูดควันกัญชา แต่ไม่ได้สูดเข้าปอด คนยังหัวเราะ เป็นประโยคอมตะที่ชาวบ้านจำกันทั่วโลก แต่ทรัมป์ไม่มีปัญหา โกหกจนกล้าประกาศว่าข่าวที่สื่อนำเสนอเกี่ยวกับตัวเองนั้นเป็น “ข่าวปลอม” และย้ำซ้ำบ่อยครั้ง

ทรัมป์ไม่มีสิ่งที่นักธุรกิจหรือนักการเมืองต้องคำนึงคือ Scruples หลักคุณธรรม ศีลธรรม จริยธรรม ที่ผ่านมาใช้กองทัพอากาศสหรัฐฯ ส่งเสริม สนับสนุนให้กองทัพซาอุฯ และพันธมิตรทำสงครามในเยเมน คนตายกว่า 2 หมื่นคน ทรัมป์ไม่สน

โลกประณามว่าสงครามทำให้เกิดภัยพิบัติ ความอดอยากหิวโหย หลายล้านคน ทรัมป์ไม่ใส่ใจ คนอเมริกันก็ไม่สนใจ คนที่ตาย อดอยาก ไม่ใช่คนอเมริกัน ความเป็นตำรวจโลก เจ้าโลกของสหรัฐฯ อยู่ที่ผลประโยชน์ ถ้าสหรัฐฯ ได้ อย่างอื่นคือเรื่องรอง

ทรัมป์กล่าวหาผู้อื่นโดยไม่รู้สึกว่าต้องรับผิดชอบว่าได้สร้างความเสียหายอย่างไรหรือไม่ เช่น การกล่าวหาผู้ลี้ภัยละตินอเมริกาว่าเป็นพวกโจร อาชญากร นักค้ายา นักข่มขืน สร้างปัญหาสังคมให้คนอเมริกัน รวมทั้งนโยบายพรากพ่อแม่จากลูก

ช่วงนี้ปัญหาการฆาตกรรมนายจามาล คาช็อกจิ ทำให้ทรัมป์ลำบากเล็กน้อย แต่ไม่ถึงขั้นเข้าตาจน ถ้าจวนตัวจริงๆ ก็หาเรื่องอื่นๆ มากลบ พลิ้วเอาตัวรอดไปได้ เป็นอย่างนี้ทุกครั้ง ยิ่งมีผลประโยชน์กับซาอุฯ มาก ทรัมป์ยิ่งไม่กังวลว่าจะอยู่ข้างไหน

สำหรับทรัมป์ คาช็อกจิคือคนที่ตายแล้ว ต่อให้มีกระแส แรงกดดันอย่างไรก็ไม่สร้างผลกระทบต่อสหรัฐฯ มาก คาช็อกจิไม่ฟื้นแน่ อีกไม่นานก็จะสร่างซาไป เพียงแค่ยื้อไว้จนกว่าฝ่ายซาอุฯ หาทางเบี่ยงประเด็น นี่ก็คือการเมืองระดับภูมิภาค

ถึงอย่างไรทรัมป์ก็ไม่ทำอะไรซาอุฯ แม้จะเปรยๆ ว่าอาจมีมาตรการลงโทษ ซาอุฯ เป็นฐานสำคัญสำหรับสหรัฐฯ ในตะวันออกกลาง เป็นมิตรกับอิสราเอล และรวมกันแล้วเป็นฝ่ายตรงข้ามกับอิหร่าน เป็นศัตรูคู่อาฆาต ชาตินี้ไม่มีวันยอมเป็นญาติดีกันได้

ยิ่งช่วงนี้ทรัมป์เพิ่มระดับมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน ทั้งภาคการเงิน พลังงาน และการขนส่ง สหรัฐฯ จำเป็นต้องมีเพื่อนในภูมิภาคที่ไว้ใจได้และยอมตาม ต่างฝ่ายต่างคิดว่าตนเองถือไพ่เหนือกว่า ดังนั้นจะต้องสร้างดุลให้อยู่ระดับพอเหมาะพอดี

ตราบใดที่สหรัฐฯ ยังไม่เลิกราการสนับสนุนซาอุฯ ประชาชนเยเมนก็ต้องยอมรับผลร้ายแห่งสงครามต่อไป ซาอุฯ พยายามเร่งปิดเกมให้ได้โดยเร็วด้วยการทิ้งระเบิดโจมตีเป้าหมายในเยเมน เสียงเรียกร้องของชาวโลกและสหประชาชาติไร้ความหมาย

สหรัฐฯ ก็เอาหูทวนลม อย่างมากก็สั่งให้รัฐมนตรีกลาโหม หรือต่างประเทศปรามผู้นำรัฐซาอุฯ เบาๆ แต่ก็ปล่อยให้กองทัพซาอุฯ ถล่มเยเมนไม่ยั้ง ทรัมป์จึงตีหน้ามึน ไม่รู้ไม่ชี้กับเสียงประณามจากสมาชิกสหประชาชาติ เรียกร้องให้มีการหยุดยิง

สหรัฐฯ ใช่ว่าจะกล้าเปิดฉากสงครามการค้า การเมือง มาตรการคว่ำบาตรอิหร่านทรัมป์ยังยอมให้อีก 8 ประเทศทำมาค้าขายน้ำมัน ไม่กล้าหักตรงๆ เพราะถึงอย่างไรอิหร่านก็ประสบปัญหา ค่าเงินหายไปกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ลำบากนานหลายปี

ดังนั้น การเมืองภายในประเทศ ถึงอย่างไรทรัมป์ก็ยังเอาอยู่ ตัวเลขการจ้างงานใหม่ก็เพิ่ม ตลาดหุ้นก็ยังไปได้สวย ภาคธุรกิจยังได้ประโยชน์จากนโยบายด้านภาษี เสียงสนับสนุนในสภาคองเกรสและวุฒิสภาก็ยังไม่ทำให้ทรัมป์ต้องจนตรอก

นักการเมืองอเมริกันถึงอย่างไรก็ไม่ยอมให้การเมืองทำความเสียหายให้ประเทศ แม้ดูว่าจะเล่นงานถึงขั้นเอาเป็นเอาตาย ผลสุดท้ายก็ต้องต่อรองผลประโยชน์ระหว่างนโยบายพรรค “วันนี้ข้าเกาหลังให้เอ็ง คราวหน้าเอ็งเกาให้ข้า”

ก่อนวาระเลือกตั้ง ผลสำรวจความนิยมของทรัมป์อยู่ที่ 39 เปอร์เซ็นต์ ทรัมป์เชื่อว่าก็เป็นเพียงตัวเลข เปลี่ยนแปลงได้เสมอ ดังนั้นการหาเสียงด้วยการโจมตีคู่แข่ง ใส่ร้ายป้ายสี กล่าวเท็จ ใช้นโยบายเหยียดเชื้อชาติ ทำให้โดนใจคนอเมริกันส่วนหนึ่ง

ในยุคทรัมป์ เรื่องศีลธรรม จริยธรรมยางอาย ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ข้อกล่าวหาเรื่องการใช้เทคนิคเลี่ยงการจ่ายภาษี ลวดลายต่างๆ รวมทั้งประเด็นฉาวสารพัด การแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม จะเอาทรัมป์อยู่ได้ พรรคเดโมแครตต้องชนะเยอะๆ

อีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า ผลเลือกตั้งเริ่มเข้ามา คนอเมริกันก็จะรู้ว่าบ้านเมืองจะไปทิศทางใด ศัตรูต่างชาติก็ภาวนาให้ทรัมป์แพ้เลือกตั้ง จะได้ลดระดับความลำพองบ้าง อิหร่าน รัสเซีย จีน และชาติอื่นๆ ต้องการให้สหรัฐฯ มีการเปลี่ยนแปลงบ้าง

ความหวังจะเป็นเพียงความเพ้อฝันเลื่อนลอยหรือไม่ ผลการเลือกตั้งจะชี้ขาด
กำลังโหลดความคิดเห็น