xs
xsm
sm
md
lg

ฝ่ายเหนือและฝ่ายใต้กับเลือกตั้งอเมริกา

เผยแพร่:   โดย: ทับทิม พญาไท

นายเจมส์ ครอมเวลล์
เปิดฉากสัปดาห์นี้...คงหนีไม่พ้นต้องเริ่มต้นด้วยการ “ตามไปดู” แถวๆ ชายแดนเม็กซิโก-อเมริกานั่นแหละทั่น แม้ว่าระหว่างเขียนต้นฉบับชิ้นนี้ ยังไม่อาจรับรู้ได้ว่า...ขบวนb นับพัน นับหมื่น จากอเมริกากลาง ที่เตรียม “บุกอเมริกา” ในช่วงวันอาทิตย์ที่ 4 พฤศจิกายน เพื่อเข้าไปหางาน หาการทำ จะหันมา “ปาก้อนหิน” เข้าใส่บรรดาทหารอเมริกันจำนวนกว่าห้าพัน หรืออาจสูงไปเป็นหมื่นๆ ที่ถูกรัฐบาลสั่งให้เข้ามาสกัดกั้น ตรึงแนวพรมแดนทุกๆ จุด จนอาจบานปลาย ปลายบานไปถึงขั้นไหน จะเกิดรายการไล่ทุบ ไล่ถีบ หรือถึงขั้นควักปืนไรเฟิลออกมายิงตอบโต้ แบบที่ “ทรัมป์บ้า” เคยออกมายุในช่วงแรกๆ แม้ช่วงหลังจะมีน้ำเสียงเปลี่ยนไปแล้วก็ตาม หรือไม่ อย่างไร??? อันนี้...ต้องถือเป็นเรื่องน่าคิด น่าสนใจ มิใช่น้อย...

เพราะอีก 2 วันนับจากนั้น...หรือวันพรุ่งนี้แล้วนั่นแหละ วันอังคารที่ 6 พฤศจิกายน บรรดาชาวอเมริกันชนไม่ว่าจะอยู่แถวๆ ใกล้พรมแดน หรือไกลไปจากพรมแดน จะต้องออกมาทำหน้าที่พลเมืองอเมริกัน ด้วยการตัดสินใจว่าจะเทคะแนนเสียงภายในคูหาเลือกตั้งให้กับใคร ให้กับไผกันแน่!!! ในการ “เลือกตั้งกลางเทอม” ระหว่าง “พรรครีพับลีกัน” ของ “ทรัมป์บ้า” ที่พยายามปลุกกระตุ้นความรักชาติของบรรดาชาวอเมริกันไปพร้อมๆ กับความจงเกลียด จงชัง บรรดาผู้อพยพหลบหนีเข้าเมืองทั้งหลายอยู่ในขณะนี้ กับพรรคการเมืองฝ่ายตรงกันข้ามอย่าง “พรรคเดโมแครต” ที่พยายามหาทางกวาดจำนวนเก้าอี้ตัวแทนในแต่ละเขต แต่ละพื้นที่ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพื่อนำไปสู่การ “สอย”ประธานาธิบดีอเมริกัน อย่าง “ทรัมป์บ้า” ให้คว่ำข้าวเม่า เผาข้าวหลามหมดโอกาสที่จะดำรงสถานะเป็นประธานาธิบดีไปจนครบเทอม ด้วยกระบวนการถอดถอน หรือกระบวนการใดๆ ก็แล้วแต่...

การปาก้อนหินเข้าใส่ หรือการยิงไรเฟิลสวนกลับมา...แถวๆ บริเวณแนวพรมแดนอเมริกา-เม็กซิโก มันจึงมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งกลางเทอมของอเมริกาอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้ ส่วนท้ายที่สุด...มันจะออกมาในรูปไหน อย่างไร อันนี้นี่แหละ...ที่คงต้องเก็บมาคิดกันอีกมากมาย เยอะแยะ คือถ้าคิดอย่างพวกที่สนใจในเรื่องเงินๆ ทองๆ ตลาดห้ง ตลาดหุ้นอะไรประมาณนี้ ก็มีพวก “กูรู” หรือ “กูรู้” บางราย เขาก็ได้ออกมาให้ข้อสรุปเอาไว้บ้างแล้ว เช่น “นายมาร์ค โมเบียส” หรือ “โมบิอุส” (Mark Mobius) ก็แล้วแต่จะเรียก ที่ถือว่าเป็นผู้ที่มีความรู้ มีประสบการณ์ ระดับฟังหูซ้ายแล้วมิอาจปล่อยให้ร่วงไปทางหูขวาได้เป็นอันขาด คือเคยเป็นถึงอดีตผู้ก่อตั้งกองทุนการซื้อหุ้น-ขายหุ้นระดับมหึมา อย่างกองทุน “Mobius Capital Partners” และปัจจุบันยังคงดำรงตำแหน่ง ประธานกรรมการบริหารบริษัท “Templeton Emerging Markets Group” ที่มีบทบาทในการซื้อๆ-ขายๆ หุ้นทั้งหลายในระดับโลก ซึ่งได้ออกมา “ฟันธง” เอาไว้ก่อนล่วงหน้าเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ประมาณว่า...ถ้าหากพรรครีพับลีกันเกิดเป็นฝ่ายพ่ายแพ้การเลือกตั้งคราวนี้ สิ่งที่จะอุบัติตามมาแบบฉับพลัน-ทันที ก็คือ “ตลาดหุ้นจะทรุดตัว” จนนำไปสู่การเจ๊ง การพังพินาศ และการร่วงผลอยๆ ลงสู่กองไฟของบรรดา “แมลงเม่า” ทั้งหลาย อย่างมิอาจปฏิเสธ!!!

คืออันที่จริงนั้น...“นายมาร์ค” รายที่ว่า แกก็ไม่ได้เป็นพวกที่คอย “ถือหางทรัมป์บ้า” หรือเป็นพวกรีพับลีกันมากมายสักเท่าไหร่ หลายต่อหลายครั้ง...แกเคยออกมา “สวน”นโยบายและแนวคิดในทางเศรษฐกิจของรัฐบาลอเมริกันชุดนี้อยู่ไม่น้อย แต่เหตุที่แกหันมามองไปในแนวนี้ ก็คงว่ากันไป “ตามเนื้อผ้า” นั่นแหละ หรือด้วยการอ้างถึง “สัญญาณทางเทคนิค” ที่ได้ก่อตัว แสดงตัวให้เห็นมาเป็นระยะๆ โดยเฉพาะในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ที่ตลาดหุ้นดาวโจนส์ของสหรัฐฯ ดิ่งลงไปไม่น้อยกว่า 6 เปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ปักหัวดิ่งไปถึง 20 เปอร์เซ็นต์ หรือพูดง่ายๆ ว่า...ถ้าหากไม่มีการ “ปั่น” การสร้าง “มายาภาพทางเศรษฐกิจ” โดยฝีมือของ “ทรัมป์บ้า” ให้สืบเนื่องต่อไป การเจ๊ง การพังพินาศของตลาดหุ้นอเมริกา ย่อมหนีไม่พ้นต้องเป็นไปตามสภาวะที่แท้จริงทางเศรษฐกิจนั่นแล...

ด้วยเหตุนี้...สำหรับผู้ที่ชอบเงิน ชอบทอง ผู้ที่ไม่อยากเห็นตลาดหุ้นอเมริกาต้องเจ๊งต่อหน้าต่อตา ผู้ที่ไม่อยากเห็นคนยาก คนจน ในอเมริกากลางเข้ามาแย่งงานทำหรือผู้ที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน ประโยชน์ของอเมริกา ต้อง “มาก่อน” ทุกสิ่งทุกอย่าง อาจต้องหันไปเทคะแนนเสียงให้กับพรรครีพับลิกันอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธได้ แต่ก็นั่นแหละ...สำหรับผู้ที่อาจไม่ถึงกับสนใจในเรื่องเงินๆ ทองๆ มากมายสักเท่าไหร่ พวกที่หลงใหล คลั่งไคล้ ในเรื่องเสรีภาพ เรื่องสิทธิมนุษยชน เรื่องความเป็นประชาธิปไตย-ไม่เป็นประชาธิปไตย รวมทั้งผู้ที่เห็นอก เห็นใจคนยากคนจน จนอาจ “ทำใจไม่ได้” ถ้าได้เห็นภาพคาราวานคนจนที่เรียกตัวเองว่า “ประชาชนผู้ไม่มีพรมแดน” (People Without Border) ถูกเหยียบ ถูกกระทืบ หรือถูกไรเฟิลยิงใส่นอนดิ้นไปดิ้นมาอยู่แถวๆ พรมแดนเม็กซิโก แต่ถ้าการหันไปเทคะแนนเสียงให้กับพรรคเดโมแครตคราวนี้ กลับไม่สามารถเอาชนะพวกพรรครีพับลีกันได้ ก็ได้มีผู้ที่ออกมาแสดงตนเป็น “กูรู” หรือ “กูรู้” อีกหนึ่งราย ที่ออกมา “ฟันธง” ถึงผลสรุปในลักษณะดังกล่าวเอาไว้แล้วล่วงหน้าอีกเช่นกัน...

นั่นก็คือ...อภิมหาดาราเจ้าบทบาทชาวอเมริกัน อย่าง “นายเจมส์ ครอมเวลล์” (James Cromwell) ที่ไม่ได้เป็นแค่เพียงศิลปินนักแสดงที่มีชื่อ มีเสียง ระดับเคยได้รับการเสนอชื่อ การคว้ารางวัลตุ๊กตาทองไม่รู้กี่ต่อกี่รางวัล แต่ยังเป็น “นักเคลื่อนไหว” ทางการเมือง ทางสังคม ตัวฉกาจ เคยถูกจับเข้าซังเตมาแล้วไม่รู้กี่ครั้ง ต่อกี่ครั้ง เพราะการเคลื่อนไหวเพื่อเสรีภาพ เพื่อสิทธิพลเมือง จนอาจถือเป็นแกนนำคนสำคัญของกลุ่มก้อน ขบวนการ “Civil Rights Movement” ในอเมริกา ที่ได้ตัดสินใจออกมา “ฟันธง” เอาไว้แล้วล่วงหน้าประมาณว่า ถ้าหากพรรคเดโมแครต “แพ้” การเลือกตั้งกลางเทอมคราวนี้ หรือไม่มีโอกาสกวาดคะแนนเสียงเพื่อเข้ามาทำหน้าที่ควบคุมประธานาธิบดีแห่งพรรครีพับลิกันอย่าง “ทรัมป์บ้า” ได้แบบจะจะจังๆ สิ่งที่ “นายเจมส์ ครอมเวลล์” แกคาดว่าน่าจะอุบัติขึ้นมาในอีกไม่นาน-ไม่ช้าในประเทศอเมริกา ก็คือ...การนำไปสู่ “การปฏิวัติด้วยความรุนแรง” ระดับที่ชาวอเมริกันอาจมีสิทธิ์ได้เห็น “เลือดเจิ่งนองทั่วท้องถนน” เอาเลยถึงขั้นนั้นหรือ “ถ้าเราไม่หยุดเขา (ทรัมป์) เดี๋ยวนี้ นับจากนั้น...เราอาจต้องเจอกับการปฏิวัติของจริง ที่เลือดชาวอเมริกันอาจหลั่งนองไปตามท้องถนน การเลือกตั้งกลางเทอมครั้งนี้จึงไม่ได้มีความสำคัญแต่เฉพาะชาวอเมริกันเท่านั้น แต่ยังมีความสำคัญต่อโลกทั้งโลกอีกด้วย”...ว่าซั่น!!!

ใครจะว่า “เว่อร์-ไม่เว่อร์” อันนั้น...คงต้องไปคิดกันเอาเอง แต่คงต้องยอมรับว่า...การปะทะทางการเมืองระหว่างพรรคการเมือง 2 พรรคใหญ่ของอเมริกา อย่างรีพับลิกันและเดโมแครตช่วงหลังๆ นี้ มันชักก่อให้เกิดสีสันบรรยากาศแทบไม่ต่างอะไรไปจากการปะทะกันระหว่าง “ฝ่ายเหนือ” กับ “ฝ่ายใต้” ในอเมริกาเมื่อกว่า 200 ปีที่แล้ว คือระหว่างฝ่ายที่เห็นแก่ “ตัวกู-ของกู” หรือเห็นดี-เห็นงามกับการมีทาส กับฝ่ายที่เห็นว่าการใช้แรงงานทาสนั้นเป็นอะไรที่น่าเกลียด น่าชัง ไม่ทันสมัย ไม่ก้าวหน้า ไม่เป็นที่ยอมรับต่อชาวโลก ส่วนจะมีผลประโยชน์อื่นๆ แอบแฝง สอดแทรก เข้ามาด้วยหรือไม่ อย่างไร ก็แล้วแต่จะว่ากันไป แต่สุดท้ายแล้ว...ด้วยแนวคิด ทัศนะที่แตกต่างกันไปในแบบคนละเรื่อง คนละม้วนเช่นนี้นี่เอง ได้ส่งผลให้เลือดของชาวอเมริกันด้วยกันเอง เคยเจิ่งนองไปทั่วท้องถนน ตายกันไปเป็นล้านๆ คน ก็เคยมีให้เห็นเป็นตัวอย่าง จนทำให้คำเตือนของ “นายเจมส์ ครอมเวลล์” ใช่ว่าจะเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เอาเลย...


กำลังโหลดความคิดเห็น