xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวปนคน คนปนข่าว

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ข่าวปนคน คนปนข่าว

**ก็เป็นซะแบบนี้!! "ลุงตู่" กร้าวปราบโกง “ตำรวจ-ทหาร-พลเรือน” ใครผิดปลด-เอาออกเด็ดขาด เจอย้อนเรื่อง “2หลานชาย”ไม่ยักจะเอาจริง ล่าสุด “เมียกุนซือรมต.”ยังสร้างเรื่องเบียดบังรถหลวง จัดวันเดย์ทริป หนักกว่านั้น“แก๊งกินป่า”เหิมเกริมรุก “ภูขี้ไก่”แผ้วถางป่าต้นน้ำสมบูรณ์เกือบ 2 พันไร่ ทำสวนน้ำ “บิ๊กทหาร”รับเป็นประธานพิธีเปิดโครงการซะด้วย ปราบโกงเสียของแบบนี้ เรตติ้งยิ่งต่ำตม สงสัย“โรดแมปอยู่ยาว”คงจะเป็นหมัน

ขึงขังเหมือนเคย .. เวลา “นายกฯตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พูดถึงเรื่องปราบปรามการทุจริต คอร์รัปชัน ตลอดสี่ซ้าห้าปีมานี้ .. ล่าสุดใช้พื้นที่แฟนเพจ “ประยุทธ์ออฟฟิเชียล”ประกาศกร้าว “...โครงการไหนทุจริตหรือไม่ หากมี และผลสอบว่าผิด ทุจริตจริง ต้องโดนลงโทษหมด ผมไม่เว้น ตำรวจ ทหาร พลเรือน ต้องปลด เอาออก…” ..แทนที่จะได้รับเสียงแซ่ซ้องสรรเสริญ หลายคอมเมนต์ กลับแดกดันกลับในเชิง “ดีแต่พูด”บ้าง “แผ่นเสียงตกร่อง”บ้าง .. แฟนเพจบางรายยังกระตุกความจำ “ท่านนายกฯ”ด้วยว่า กรณี“คนรอบข้าง”ที่เข้าไปจุ้นจ้านในการจัดซื้อ จัดจ้าง หน่วยงานรัฐ หรือโครงการรัฐ จนเข้าข่าย“ไม่โปร่งใส”..โดยเฉพาะเคสของ“หลานชาย”ไม่ว่าจะ“ลูกน้องชายนายกฯ”ที่เคยไปปักหลักเปิดกิจการ“หจก.ลูกนายพล”รับเหมาก่อสร้างในค่ายทหาร ร่วมวงประมูลงาน ส่งกลิ่นทะแม่งๆ มาจนถึงวันนี้ .. หรือลูกชาย“พี่ที่เคารพ”รัฐมนตรีกระทรวงใหญ่ในรัฐบาล ที่ไปคุ้ยเขี่ย “เมกะโปรเจกต์ขยะ”จนเหม็นโฉ่ไปทั้งรัฐบาล .. แล้วยังกลายเป็นปมที่ถูก สามารถ แก้วมีชัย อดีต ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย เอามาเหน็บแนมให้“นายกฯประยุทธ์”โผล่ขึ้นมาย้อนศร“ประกาศปราบโกง”ของหัวหน้าคสช. อยู่ตลอดเวลา .. บางเรื่องอาจจะเล็กน้อย ไม่ได้กระทบสังคมวงกว้าง แต่ก็สะท้อนว่า ผู้ใต้บังคับบัญชา ไม่ได้เกรงกลัวประกาศิต “ท่านผู้นำ”แม้แต่น้อย ..
อย่างกรณี เพจ "ปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน" ลงภาพถ่าย “สาวใหญ่กลุ่มใหญ่”จัดทัวร์วันเดย์ทริป โดยใช้“รถหลวง”ปะโลโก้ สพป.สงขลา เขต 1 .. บรรยายไว้ว่า เป็นกลุ่มของ "เมียที่ปรึกษารมช.ศึกษาฯ”ที่พา “คณะเซเลปเมืองสงขลา”ตะลอนทัวร์ 9 ภารกิจแสนชิล ทั่วเมืองพัทลุง .. ตามโปรแกรมล้วนแล้วแต่ “กิน เที่ยว ชอป”ไม่ใกล้เคียงกิจการงานราชการ แต่ก็ต้องถือว่านำรถราชการไปใช้อย่างคุ้มค่าจริงๆ .. ถึงไม่ได้ทุจริต รับเงินทอนอะไรมากมาย แต่ก็เบียดบังทรัพยากรราชการ แบบไม่ละอายใจ จนโดนด่ากระทบว่า “รัฐบาลขี้ตู่”ไม่เห็นจะปราบโกงได้ เลย .. แต่ที่หนักหนาสาหัส แบบไม่น่าให้อภัย คงเป็นคิวที่“นายพัน กอ.รมน.”ระบายความอัดอั้นตันใจ เกี่ยวกรณีโครงการสวนน้ำ บริเวณภูขี้ไก่ รอยต่อของอ.หล่มเก่า และอ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ รุกพื้นที่ “ป่าต้นน้ำ”ถึง 1,800 ไร่ .. ถึงจะเป็นเรื่องค้างเก่ามาตั้งแต่ปี 49-50 นู่น แต่ก็ยังปล่อยคาราคาซังมาจนถึงวันนี้ ที่เจ็บปวด คงเป็นความคืบหน้าอย่างรวดเร็วของโครงการในยุคคสช. .. มีการแผ้วถางพื้นที่ อ้างว่าเป็น“ป่าเสื่อมโทรม”ทั้งที่มีข้อมูลยืนยันว่า“ป่าภูขี้ไก่”เป็น “ป่าต้นน้ำสมบูรณ์”เจอหลักฐานจะๆ เป็นท่อน
ไม้สัก ที่ถูกลักลอบตัดนับร้อยๆ ท่อน ตบหน้ารัฐบาลเจ้าของนโยบาย“ทมวงคืนผืนป่า”เข้าอย่างจัง .. ซ้ำร้ายเห็นว่าเพิ่งทำพิธีเปิดโครงการสวนน้ำไปไม่นาน มี “นายทหารใหญ่”รับไปเป็นประธานในพิธีซะด้วย .. พอเป็นเรื่องขึ้นมาก็“เพิ่งตื่น”กันเหมือนเดิม “บิ๊กเต่า”พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ สั่งตรวจสอบโดยด่วน .. ถือเป็นความล้มเหลวเข้าทำนอง“เสียของ” ของ“รัฐบาล คสช.”อย่างชัดเจน ในการปราบปรามทุจริต คอร์รัปชัน จนทำท่า“โรดแมปอยู่ต่อ”อาจกลายเป็นหมัน .. ล่าสุดราคาหน้าบ่อน จากที่ให้กัน 30 เสียง สำหรับ “พรรคทหาร”ร่วงกราว วูบเดียวเหลือราว 20 เสียง ถึงมี“พรรค ส.ว. 250 เสียง”ในมือ คิดจะ “ต่อท่ออำนาจ”ก็ยังต้องไปพึ่ง “นักเลือกตั้ง”ยืมจมูกคนอื่นหายใจ .. แล้วถ้าเปลี่ยนผ่านจาก“รัฐบาลรัฏฐาธิปัตย์”อำนาจเต็มข้อ ยังปราบโกงไม่สะเด็ดน้ำ แล้วกลายร่างเป็น“รัฐบาลเลือกตั้ง”ที่ “นักเลือกตั้ง”ตั้งท่าจะ “ถอนทุน”กันถ้วนหน้า .. มันจะ“ฉิบหาย”ไปกันใหญ่ นะท่านนะ

**พรรคนายทุนหน้าใหม่!! “ใจ อึ๊งภากรณ์”กระชากหน้ากาก“เสี่ยเอก-ธนาธร”ก็แค่ “นายทุนที่กินอิ่มแล้ว”ย้อนปูม เคยสั่งสอนลูกจ้างในบริษัทไว้อย่างเจ็บแสบ ถามย้ำจุดยืน ล้มรัฐธรรมนูญชัดเจน แต่กลับไร้แนวยโยบาย“ให้โอกาส”แรงงานอะไรเลย กระชุ่น“กรรมาชีพ-ชนชั้นแรงงาน”ต้องมีศักดิ์ศรีมากกว่านี้ อย่าคอยตามก้น“พรรคนายทุน”ทั้ง“เพื่อไทย-อนาคตใหม่”

มันส์ พะยะค่ะ .. เห็น“เขาว่า”กระแสดีหนักหนา “พรรคอนาคตใหม่”ของ “เสี่ยเอก”ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่“ผู้สันทัดกรณี”ถึงขนาดประเมินว่า 40-50 ที่นั่ง น่าจะได้เลยทีเดียว .. ถึงเวลาจริงไม่รู้เข้าเป้า-เกินเป้า หรือไม่อย่างไร จะ“ท่าดีทีเหลว”หรือประสบอุบัติเหตุก่อนกาล หรือไม่ .. เรื่องของเรื่องก็ล้วนแล้วแต่มาจาก “ชนักเก่า”ครั้งอดีต ของทั้ง“เสี่ยเอก”ที่มันยังตามหลอนไม่เลิก โดยเฉพาะเรื่อง“จุดยืน”เกี่ยวกับระบอบปกครองของบ้านเรา .. ถูกขุดคุ้ยจับ“คดีร้ายแรง”ประกบเอาง่ายๆ .. เหมือนจะรู้ตัวเช่นกัน ก็เลยเพ่นพ่าน ทุ่มทุนจ้าง“ลอบบี้ยีสต์”ดีลให้ไปออกงาน-ออกสื่อที่ต่างประเทศ เหมือนกับหวังใช้“หลังพิงโลก”เผื่อพลาดพลั้งถูกเล่นงาน .. แต่ที่จั่วหัวว่า “มันส์พะยะค่ะ”เป็นคิวที่ “เสี่ยเอก”ถูก “คู่เวรคู่กรรม”อย่าง ใจ อึ๊งภากรณ์ นักเคลื่อนไหวทางวิชาการ และการเมือง บุตรชาย ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ อดีตผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ ตามหลอนไม่เลิก .. หลังเคยยิง“คำถามที่ไม่ได้คำตอบ”ใส่ “เสี่ยเอก”แต่ไม่มีสัญญาณตอบรับจากปลายทาง ล่าสุดปล่อยบทความ "แรงงานไม่ควรหลงเลือกนายใหม่ในรูปแบบพรรคอนาคตใหม่" ลากไส้ซะไม่เหลือชิ้นดี .. ถึง “อาจารย์ใจ”จะสนับสนุนแนวทาง“อนาคตใหม่”ที่ตั้งท่างัดข้อกับ“เผด็จการทหาร”รวมถึงแนวทางประชาธิปไตยก็ตาม .. แต่ก็ยัง“คาใจ”และย้อนความไปถึงวีรกรรม “ท่านรองฯเอก”สมัยเป็นใหญ่ในเครือไทยซัมมิท ที่จัดการสั่งสอน“พนักงานในโรงงานไทยซัมมิท”ที่เรียกร้องโบนัสเท่าเทียมกับ “สำนักงานใหญ่”..
“อาจารย์ใจ” ระบุว่า “ธนาธร”ตัดสินใจปิดโรงงาน-ไล่คนงานทุกคนออก เพื่อสกัดกั้นไม่ให้มีการ สไตรค์ -นัดหยุดงาน .. แล้วก็ยังมีกรณีที่ “ไทยซัมมิท”สั่งเลิกจ้างคนงาน 50 คน เมื่อปลายปี 2549 สาเหตุเพราะไปสมัครเป็นสมาชิกของสหภาพแรงงานฟอร์ดและมาสด้าประเทศไทย เพื่อสกัดไม่ให้มีการตั้ง“สหภาพแรงงาน”มาต่อรองกับบริษัทฯ .. ตลอดจนแนวทางการปฏิบัติต่อประเด็น“ค่าจ้าง-สวัสดิการ”ของลูกจ้างในบริษัทฯ ที่ฟ้องว่า “ธนาธร”ก็คิดถึงแต่ผลกำไรเหมือน“นายทุน”ทั่วๆไป ไม่ได้ใกล้เคียงคำว่า“ให้โอกาส”ในนโยบายของพรรคอนาคตใหม่เลย .. โดยมีวรรคตอนสำคัญ ที่ว่า "ธนาธร ออกมาสั่งสอนนักสหภาพแรงงานเหมือนเป็นครูใหญ่ และพูดว่า ธุรกิจ“ต้อง”ได้กำไรเพิ่ม ก่อนที่จะเพิ่มค่าจ้าง หรือปรับสวัสดิการให้ดีขึ้น พูดง่ายๆ ผลประโยชน์ของนายทุน 1% ของประชากร สำคัญกว่าผลประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ 99% และเมื่อนายทุนกินอิ่มแล้ว เศษอาหารที่เหลือบนโต๊ะ จะเป็นของแรงงาน" .. “ทายาท อ.ป๋วย”ตั้งคำถามต่อว่า ในขณะที่ “เสี่ยเอก”มีความชัดเจนในเรื่องการ รื้อ-ล้มรัฐธรรมนูญ 2560 แต่ก็ไม่ยักจะมีมีข้อเสนอให้รื้อถอน “กฎหมายแรงงาน”ที่เป็นอุปสรรคต่อการเคลื่อนไหวของ“สหภาพแรงงาน”แต่อย่างใดเลย .. ก่อนลงท้ายถึง“กรรมาชีพ-ชนชั้นแรงงาน”ต้องมีศักดิ์ศรีมากกว่านี้ ไม่ควรคอยเดินตามก้น “พรรคนายทุน”ไม่ว่าจะเป็น“หน้าเก่า”อย่าง “เพื่อไทย”หรือ “หน้าใหม่”อย่าง “อนาคตใหม่”ที่ทำให้ต้องอยู่อย่างเป็น “ทาส”และเป็นแค่ "กบเลือกนาย" อยู่เช่นนี้

**ขุมทรัพย์สุดขอบน้ำ!! ปฎิบัติการตามล่า“ขุมทรัพย์แสนล้านสุดขอบน้ำ”ที่ “การท่าเรือ”ที่ชี้เป็นชี้ตายบิ๊กโปรเจกต์ EECเรือธงของ “รัฐบาล คสช.”อย่าอ้างแค่ “ตำแหน่งว่างมานาน”ประเคนเค้กก้อนโตให้ “2แคนดิเดต”ที่ตำหนิเต็มตัว จน “สหภาพฯ”ต้องออกแถลงการณ์ค้านสุดฤทธิ์
เสียงคัดค้านกระหึ่ม .. “สหภาพแรงงานพนักงานการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.)”ออกแถลงการณ์ ไม่ยอมรับ “2 แคนดิเดต”ที่เป็นตัวเลือกในตำแหน่ง“ผู้อำนวยการ กทท.”คนใหม่ .. คนหนึ่งถูก ม.44 ปลดจากตำแหน่งมาก่อน ขณะที่อีกคน มีข้อครหามือไม่ถึง-บริหารงานแย่ แล้วยังมีประโยชน์ “ทับซ้อน”อีก .. กระนั้นการชิงดำกันอยู่ระหว่าง ปฏิมา จีระแพทย์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) และ ร.ท.กมลศักดิ์ พรหมประยูร รองผู้อำนวยการ กทท. สายบริหารสินทรัพย์และพัฒนาธุรกิจ ยังฝุ่นตลบทั่วถิ่นคลองเตย .. ว่ากันว่า “กองหนุนผู้หวังดี”ของ 1 ใน 2 รายนี้ ได้วิ่งเข้าหา“บิ๊กผู้มีอำนาจในรัฐบาล”พยายามเสนอ “เงื่อนไขพิเศษ”เพื่อให้คนของตัวเองคว้าเก้าอี้สำคัญนี้ให้ได้ .. พื้นที่นี้เคยฉายภาพไปทีแล้วว่า ไฉน “เก้าอี้ ผอ.กกท.”ถึงสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ และมีผลกระทบอย่างยิ่งต่อ การต่อยอด EEC “ผลงานมาสเตอร์พีช”ของ“รัฐบาล คสช.”.. หากหาผู้เหมาะสมมาทำงานไม่ได้ ก็ไม่ควรใช้เหตุผลแค่ “ตำแหน่งว่างมานาน”มาเป็น “ข้ออ้าง”ให้เลือกคนที่ไม่เป็นที่ยอมรับให้จบๆ กันไป .. ไม่เช่นนั้น “ขุมทรัพย์สุดขอบน้ำ”ที่มูลค่ามหาศาล “หลักแสนๆ ล้าน”ที่เป็นประโยชน์ของประเทศทั้งสิ้น ก็น่าเป็นห่วงยิ่ง ..
แค่โปรเจกต์ “ท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3”ตัวเดียวไปปาเข้าไปเกือบ “ครึ่งแสนล้าน”เข้าให้แล้ว .. อีกทั้งจะเป็น “จุดเปลี่ยน”ที่จะยกระดับศักยภาพของ“การท่าเรือฯ”รองรับการขนส่งสินค้าได้มากกว่า 15 ล้านทีอียู ต่อปี ส่งผลให้“ท่าเรือแหลมฉบัง”ก้าวสู่ทอปเทนท่าเรือโลกเลยทีเดียว .. แล้วยังมีการต่อยอดจากบิ๊กโปรเจกต์ EEC สารพัด ทั้งโครงการพัฒนาศูนย์การขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟที่ท่าเรือแหลมฉบัง มูลค่าเหยียบ 2 พันล้านบาท ที่ได้ลงนามสัญญาว่าจ้าง “เครืออิตาเลียนไทย”และเริ่มให้บริการเมื่อเร็วๆ นี้ .. เช่นเดียวกับ ท่าเรือกรุงเทพฯ ก็มีโครงการพัฒนารอสานต่อให้เป็นรูปธรรมยาวเหยียด อาทิ โครงการพัฒนาคลังสินค้าเพื่อการส่งออก (CFS Export)ที่มุ่งปรับปรุงประสิทธิภาพบริการบรรจุตู้สินค้าขาออกให้ได้มาตรฐานสากล .. ยัง“เค้กก้อนโต”อย่างการบริหารจัดการ “พื้นที่นอกรั้วศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ”ที่ตามแผนพัฒนาจะดันให้เป็น “คลังสินค้า - ออฟฟิสให้เช่า - ศูนย์แสดงสินค้าฯ”ตลอดจน “ท่าเทียบเรือสำราญ”ภายใต้คอนเซปต์ “สัมปทาน”ให้เอกชนบริหาร ที่เรียกว่า“ผลประโยชน์ล้วนๆ”.. ถือเป็นเดิมพันที่สูงกว่า “ข้ออ้าง”ในการสรรหา ผอ.กกท.ใหม่ ให้ได้โดยเร็ว เพราะร้างห่างการมี“เจ้าของตัวจริง”มานาน

ช.ชฎา
------------------
รูป-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา - พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์
- ใจ อึ๊งภากรณ์ - ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
-ร.ท.กมลศักดิ์ พรหมประยูร - ปฏิมา จีระแพทย์
กำลังโหลดความคิดเห็น