นายสมบูรณ์ หน่อแก้ว รองอธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) เปิดเผยหลังการหารือร่วมกับ บมจ. ปตท. และธนาคารกรุงไทย จำกัด เพื่อพิจารณาแนวทางดำเนินโครงการช่วยเหลือรถจักรยานยนต์รับจ้าง ให้ได้ใช้น้ำมันแก๊สโซออล์ 95 ราคาต่ำกว่าปกติ 3 บาทต่อลิตร ตามนโยบายของ นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงานว่า จากการหารือได้ข้อสรุปที่จะดำเนินโครงการดังกล่าวในช่วงสิ้นปีนี้ ก่อนปีใหม่ (ปี2562) โดย ปตท.จะรับผิดชอบต้นทุนน้ำมัน 3 บาทต่อลิตรทั้งหมด โดยมีเงื่อนไข รถจักรยานยนต์รับจ้างจะต้องมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และต้องจดทะเบียนกับกรมขนส่งทางบก ที่คาดว่าจะเข้าข่ายคุณสมบัติดังกล่าวประมาณ 4 หมื่นราย
“เดิมราคาที่ลด จะให้ปตท.ช่วย 1 บาทต่อลิตร ที่เหลือกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง แต่ต้องให้ปตท.ดำเนินการเพราะกองทุนน้ำมันฯมีหลักเกณฑ์ที่ไม่สามารถนำมาดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว โดยรถที่เข้าเกณฑ์มี 4 หมื่นคัน กำหนดให้ได้รับการช่วยเหลือวันละไม่เกิน 5 ลิตร/ราย/วัน หรือประมาณ 150 ลิตร/เดือน หรือ 450 บาท/เดือน รวมประมาณ 18 ล้านบาท /เดือน นับเป็นมาตรการช่วยเหลือจาก ปตท. ในการช่วยเหลือรถสาธารณะ ที่ปตท.ช่วยสนับสนุนราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) ราคาต่ำ อีก ประมาณ 40 ล้านบาทต่อเดือน ทำให้รวมแล้ว ปตท. เข้ามาช่วยเหลือรถสาธารณะ 58 ล้านบาท/เดือน" นายสมบูรณ์ กล่าว
อย่างไรก็ตามรถจักรยานยนต์รับจ้างที่จดทะเบียนกับกรมขนส่งทางบก ปัจจุบันมี 2 แสนราย แต่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 4 หมื่นรายเท่านั้น ซึ่งกลุ่มที่ยังไม่ได้สมัคร ก็ยังสามารถดำเนินการได้ จนถึงเดือนเมษายน ซึ่งกรมบัญชีกลางจะเปิดให้ลงทะเบียนครั้งใหม่ อย่างไรก็ตาม จะต้องหารือกับกระทรวงการคลังว่า เครื่องรูดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ซื้อน้ำมัน ปั๊ม ปตท. 1,800 แห่งทั่วประเทศ จะใช้เครื่องรูดบัตรอีดีซี ได้เฉพาะเครื่องของธนาคารกรุงไทย หรือ สามารถรูดบัตรผ่านเครื่องอีดีซี ของ ปตท. ที่ใช้เครือข่ายธนาคารกสิกรไทยได้หรือไม่ โดยจะเร่งสรุปโดยเร็ว
แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า เมื่อวันที่ 25 ต.ค. นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน ได้เป็นประธานประชุมร่วมกับสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ถึงการสนับสนุนการดูดซับน้ำมันปาล์มเพิ่มขึ้น โดยที่ประชุมได้ข้อสรุปที่จะทำการขยายความคลาดเคลื่อน (BAND) ของน้ำมันดีเซลปัจจุบัน ที่กำหนดส่วนผสมกับน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ 100% (บี100) จาก 6.5-7% เป็น 6.8-7.2% ที่จะช่วยดูดซับน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) เพิ่มได้อีก 8 หมื่นตันต่อปี จากปัจจุบันใช้ 1.3 ล้านตันต่อปี เพราะจะมีการใช้บี 100 เพิ่มอีก 0.4% หรือ 95 ล้านลิตรต่อปี
ขณะเดียวกันกระทรวงพลังงาน ได้เดินหน้าส่งเสริมการใช้ บี 20 สำหรับรถบรรทุกขนาดใหญ่ รถโดยสาร เรือโดยสาร และเรือขนส่งอย่างต่อเนื่อง โดยในวันที่ 26 ต.ค.นี้ บมจ.ปตท. จะจัดพิธีเปิดโครงการส่งเสริมการใช้ ดีเซล บี 20 สำหรับรถโดยสารองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และบริษัทขนส่งจำกัด (บขส.) โดยรมว.พลังงาน และ รมว.คมนาคม จะเป็นประธานในพิธีดังกล่าว
นายองอาจ พงศ์กิจวรสิน สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย กล่าวว่า หลังจากประชุมกับกระทรวงพลังงานแล้ว จะนำเรื่องไปหารือภายในสมาคม ทั้งในเรื่องหลักการ และด้านเทคนิคที่เฉลี่ยแล้วจะไม่เกิน 7% ผู้ผลิตรถยนต์สามารถรับได้ หลังจากนั้น จะส่งเรื่องกลับมายังกระทรวงพลังงาน อีกครั้ง
“เดิมราคาที่ลด จะให้ปตท.ช่วย 1 บาทต่อลิตร ที่เหลือกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง แต่ต้องให้ปตท.ดำเนินการเพราะกองทุนน้ำมันฯมีหลักเกณฑ์ที่ไม่สามารถนำมาดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว โดยรถที่เข้าเกณฑ์มี 4 หมื่นคัน กำหนดให้ได้รับการช่วยเหลือวันละไม่เกิน 5 ลิตร/ราย/วัน หรือประมาณ 150 ลิตร/เดือน หรือ 450 บาท/เดือน รวมประมาณ 18 ล้านบาท /เดือน นับเป็นมาตรการช่วยเหลือจาก ปตท. ในการช่วยเหลือรถสาธารณะ ที่ปตท.ช่วยสนับสนุนราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) ราคาต่ำ อีก ประมาณ 40 ล้านบาทต่อเดือน ทำให้รวมแล้ว ปตท. เข้ามาช่วยเหลือรถสาธารณะ 58 ล้านบาท/เดือน" นายสมบูรณ์ กล่าว
อย่างไรก็ตามรถจักรยานยนต์รับจ้างที่จดทะเบียนกับกรมขนส่งทางบก ปัจจุบันมี 2 แสนราย แต่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 4 หมื่นรายเท่านั้น ซึ่งกลุ่มที่ยังไม่ได้สมัคร ก็ยังสามารถดำเนินการได้ จนถึงเดือนเมษายน ซึ่งกรมบัญชีกลางจะเปิดให้ลงทะเบียนครั้งใหม่ อย่างไรก็ตาม จะต้องหารือกับกระทรวงการคลังว่า เครื่องรูดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ซื้อน้ำมัน ปั๊ม ปตท. 1,800 แห่งทั่วประเทศ จะใช้เครื่องรูดบัตรอีดีซี ได้เฉพาะเครื่องของธนาคารกรุงไทย หรือ สามารถรูดบัตรผ่านเครื่องอีดีซี ของ ปตท. ที่ใช้เครือข่ายธนาคารกสิกรไทยได้หรือไม่ โดยจะเร่งสรุปโดยเร็ว
แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า เมื่อวันที่ 25 ต.ค. นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน ได้เป็นประธานประชุมร่วมกับสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ถึงการสนับสนุนการดูดซับน้ำมันปาล์มเพิ่มขึ้น โดยที่ประชุมได้ข้อสรุปที่จะทำการขยายความคลาดเคลื่อน (BAND) ของน้ำมันดีเซลปัจจุบัน ที่กำหนดส่วนผสมกับน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ 100% (บี100) จาก 6.5-7% เป็น 6.8-7.2% ที่จะช่วยดูดซับน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) เพิ่มได้อีก 8 หมื่นตันต่อปี จากปัจจุบันใช้ 1.3 ล้านตันต่อปี เพราะจะมีการใช้บี 100 เพิ่มอีก 0.4% หรือ 95 ล้านลิตรต่อปี
ขณะเดียวกันกระทรวงพลังงาน ได้เดินหน้าส่งเสริมการใช้ บี 20 สำหรับรถบรรทุกขนาดใหญ่ รถโดยสาร เรือโดยสาร และเรือขนส่งอย่างต่อเนื่อง โดยในวันที่ 26 ต.ค.นี้ บมจ.ปตท. จะจัดพิธีเปิดโครงการส่งเสริมการใช้ ดีเซล บี 20 สำหรับรถโดยสารองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และบริษัทขนส่งจำกัด (บขส.) โดยรมว.พลังงาน และ รมว.คมนาคม จะเป็นประธานในพิธีดังกล่าว
นายองอาจ พงศ์กิจวรสิน สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย กล่าวว่า หลังจากประชุมกับกระทรวงพลังงานแล้ว จะนำเรื่องไปหารือภายในสมาคม ทั้งในเรื่องหลักการ และด้านเทคนิคที่เฉลี่ยแล้วจะไม่เกิน 7% ผู้ผลิตรถยนต์สามารถรับได้ หลังจากนั้น จะส่งเรื่องกลับมายังกระทรวงพลังงาน อีกครั้ง