xs
xsm
sm
md
lg

นายพลจีนย้ำแผลเก่า “ประวิตร”

เผยแพร่:   โดย: สุนันท์ ศรีจันทรา


ข่าวกองทัพปลดแอกประชาชนจีนสั่งปลด 2 นายพลจีน ฐานให้และรับสินบน รวมทั้งร่ำรวยผิดปกติ จนถูกยึดทรัพย์นับร้อยล้านหยวน สื่อมวลชนให้ความสำคัญเป็นพิเศษ นำเสนอกันแทบทุกสำนัก เพราะข่าวชิ้นนี้พาดพิงในทางที่เสื่อมเสียต่อกับประเทศไทย

นายพลของจีนที่ถูกสั่งปลดคือนายพลฝาง เฟิงฮุย ประธานกรมเสนาธิการร่วมและคณะกรรมาธิการทหารกลาง สาธารณรัฐประชาชนจีน และนายพลจาง หยาง สมาชิกของคณะกรรมการกลางของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งทั้งสองถูกตั้งข้อสังเกตว่า เคยเดินทางมาหารือเรื่องอาวุธกับกองทัพไทย

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตีฝ่ายความมั่นคง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ถูกจับจ้องในทันที หลังข่าวถูกเผยแพร่

ทำไมกระแสสังคมจึงพุ่งสายตาไปที่พล.อ.ประวิตร หลังจีนดำเนินมาตรการเด็ดขาด สั่งลงโทษนายทหารระดับสูงที่มีพฤติกรรมทุจริต และเคยเดินทางมาเจรจาเรื่องอาวุธกับกองทัพไทย

พล.อ.ประวิตรเป็นตัวตั้งตัวตีผลักดันการสั่งซื้ออาวุธจากจีน ทั้งรถถังรุ่น VT-4 จำนวน 2 ล็อตมูลค่าประมาณ 7,000 ล้านบาท และสั่งซื้อเรือดำน้ำมูลค่า 13,500 ล้านบาท ซึ่งถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์ถึงความจำเป็นในการซื้ออาวุธยุทโธปรกณ์ ความโปร่งใส่ในการจัดซื้อ แม้จะซื้อระบบจีทูจีหรือรัฐต่อรัฐก็ตาม

ชื่อของพล.อ.ประวิตรถูกพาดพิงบ่อยมาก เมื่อเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์โครงการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพ หรือแม้แต่โครงการลงทุนขนาดใหญ่ภาครัฐ ซึ่งพล.อ.ประวิตรแสดงความไม่พอใจ ทุกครั้งที่ชื่อของตัวเองถูกนำไปพูดถึงในทางที่ไม่ดีแต่จะแก้ไขอย่างไรได้ ในเมื่อปัญหานาฬิกาหรูกว่า 2 โหล ราคาเรือนละนับล้านล้านบาท ที่อ้างว่า ยืมเพื่อนมาใส่ ยังเป็นมลทินติดตัวที่ล้างไม่ออก

กรณีนาฬิกาหรู แม้มีเสียงเรียกร้องดังกระหึ่มทั่วประเทศ ขอให้แสดงสปิริต เพื่อสร้างบรรทัดฐานทางการเมือง เป็นแบบอย่างของนักการเมืองรุ่นต่อไป แต่พล.อ.ประวิตรไม่สะทกสะท้านกับกระแสสังคม อยู่ในตำแหน่งจนถึงวันนี้ พร้อมกับภาพในด้านลบ

เมื่อมีข่าวฉาวโฉ่เกี่ยวกับผลประโยชน์การจัดซื้อจัดจ้างโครงการของรัฐ พล.อ.ประวิตรจึงมักถูกพาดพิง

ข่าวการปลด 2 นายพลจีน ที่พาดพิงถึงการเดินทางมาเจรจาเรื่องอาวุธกับกองทัพไทยนั้น พล.อ.ประวิตรออกมาชี้แจงข่าวทันที โดยปฏิเสธว่า นายพลจีนที่ถูกปลดเป็นคนละคนกับนายพลที่เคยเดินทางมาพูดคุยกับตน โดยคนที่มาคือนายเมิ่ง เจี้ยน จู้ ที่เกษียณราชการไปแล้ว

คำปฏิเสธของพล.อ.ประวิตร น่าจะกลบข้อครหาการเจรจาซื้อขายอาวุธกับ 2 นายพลจีนที่ถูกตั้งข้อหาให้และรับสินบนได้ แต่ปรากฏว่า มีการขุดคุ้ยข้อมูล โดยนำภาพการพบปะระหว่างพล.อ.ประวิตรกับนายพลฝาง เฟิงฮุย ที่ศาลาว่าการกระทรวงกลาโหม ช่วงปลายเดือนพฤษภาคมตีแผ่

และภาพนายพลฝางเข้าเยี่ยมคารวะพล.อ.ประยุทธ์ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2560 เพื่อเสริมสร้างและพัฒนาความร่วมมือทางทหารระหว่างไทยกับจีนในทุกระดับ

ทุกคนกำลังรอว่า พล.อ.ประวิตรจะมีข้อแก้ต่างที่สุดพิสดาร เหมือนกรณีนาฬิกาหรูที่อ้างว่า ยืมเพื่อนมาใส่หรือไม่

เพราะภาพการพบปะระหว่างนายพลฝาง เฟิงฮุยกับพล.อ.ประวิตร ทุกคนเห็นเต็มตา มีวันเวลาและสถานที่เป็นหลักฐาน และไม่น่าเชื่อว่า พล.อ.ประวิตรจะหลงลืมได้

คดีนาฬิกาหรู พล.อ.ประวิตรยอมทนกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ใช้ความเงียบสยบกระแสสังคม และพยายามสร้างผลงานจนคะแนนนิยมกระเตื้องขึ้น จนสังคมเริ่มลืมคดีนาฬิกา

แต่คดีปลด 2 นายพลจีนที่ทุจริตต่อหน้าที่ รับและให้สินบนจนร่ำรวยผิดปกติ ทำให้กระสุนตกใส่พล.อ.ประวิตรอีกครั้ง ยิ่งมีหลักฐานการพบปะพูดคุยกับ 1 ใน 2 นายพลจีน ซึ่งเป็นการจับโกหกพล.อ.ประวิตร ยิ่งทำให้ข้อแก้ต่างคดีนาฬิกาหรูถูกรื้อฟื้นขึ้นมาใหม่

เวลานับปีที่พล.อ.ประวิตรพยายามสร้างผลงาน เพื่อลบล้างภาพลักษณ์เก่า และกลบคดีนาฬิกาหรู กลายเป็นความสูญเปล่า

นายพลจีนที่หากินกับสินบน ไม่แตกต่างจากนายพลไทยที่ใช้อำนาจหน้าที่แสวงหาประโยชน์ สิ่งที่แตกต่างกันคือ มาตรการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชัน ระหว่างจีนกับไทย

เพราะจีนดำเนินมาตรการเด็ดขาดกับข้าราชการที่อาศัยตำแหน่งหน้าที่แสวงหาประโยชน์ โดยไม่เห็นแก่หน้าใคร ไม่ละเว้นแม้แต่พวกพ้อง จะเป็นนายพลยิ่งใหญ่ขนาดไหน ถ้าโกงรัฐบาลจีนฟันไม่เลี้ยง

แต่มาตรการปราบโกงของไทย มีแต่ราคาคุยเท่านั้น คนโกงถ้าเป็นพวกพ้อง จะได้รับการละเว้น และใครที่มีอำนาจ กอบโกยได้ตามใจชอบ

ถ้ารัฐบาลไทยปราบโกงจริงเหมือนจีน คุกคงไม่พอขังนายพลคนดังๆ ข้าราชการตัวใหญ่ๆ นักการเมืองระดับบิ๊กๆ
กำลังโหลดความคิดเห็น