ผู้จัดการรายวัน360-กรมแพทย์แผนไทย เสนอปลดล็อก "กัญชา" 4 ตำรับยา "ศุขไสยาศน์-ทำลายพระสุเมรุ-สนั่นไตรภพ-ทัพยาธิคุณ" พร้อมยื่นโครงการศึกษาในคน หลังกฎหมายเปิดช่อง ยันมีการสกัดในรูปยาน้ำ ผง และน้ำมัน เชื่อไม่ติดปัญหายาเสพติดประเภท 2 เหตุไม่ได้ใช้ในรูปแบบใบดอกกัญชา
จากกรณีมีข้อเสนอว่าจะปลดล็อก "กัญชา" ทางการแพทย์ ด้วยการเปลี่ยนจากยาเสพติดให้โทษประเภท 5 มาเป็นประเภท 2 เนื่องจากเป็นวิธีการที่รวดเร็วที่สุด โดยอนุญาตเฉพาะเพียงสารสกัดจากกัญชา ซึ่งอาจกระทบกับทางการแพทย์แผนไทยที่มักใช้ ดอก ใบ ในการทำตำรับยา
นพ.มารุต จิรเศรษฐสิริ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ปัจจุบันยังไม่มีการปลดทางกฎหมายตำรับยาที่มีกัญชาเป็นส่วนผสม จึงมีการตัดออกไป แต่รัฐบาลกำลังมองว่าจะดำเนินการกัญชาทางการแพทย์อย่างไรและมีการควบคุมอย่างไร เบื้องต้นกรมฯ จะเสนอให้คลายล็อกยา 4 ตำรับ ที่มีกัญชาเป็นส่วนผสม คือ ตำรับศุขไสยาศน์ ตำรับทำลายพระสุเมรุ ตำรับน้ำมันสนั่นไตรภพ และตำรับทัพยาธิคุณ เพื่อทำการศึกษาและดูผลว่าการรักษาเป็นอย่างไร และควบคุมกัญชาให้ทำอยู่ในวงจำกัดอย่างไร ซึ่งการแพทย์แผนไทยจะได้รับการปลดล็อกมากน้อยอย่างไรก็ต้องรอการพิจารณา
นพ.ขวัญชัย วิศิษฐานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันการแพทย์แผนไทย กล่าวว่า สำหรับการปลดล็อกกัญชาที่อาจกระทบกับแพทย์แผนไทยนั้น ตรงนี้กำลังหารือร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เนื่องจากแม้ตำรับยาจะใช้ใบ ดอก แต่ทางการแพทย์แผนไทย ก็มีวิธีสกัด คือ สกัดน้ำก็จะเป็นยาต้มหรือยาน้ำนำมาบรรจุขวด ไม่ได้เป็นใบหรือดอกแล้ว ก็นำมาใช้ผิดประเภทไม่ได้ หรือการสกัดแอลกอฮอล์ ก็จะเป็นรูปแบบผงนำมาบรรจุเป็นแคปซูล หรือทำเป็นสเปรย์ดราย ซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 2 นำมาทำอย่างไรก็ได้ไม่ให้คงสภาพเดิมเป็นดอกหรือใบ แต่ไม่ว่าจะออกมาในรูปแบบไหน ก็จะถูกควบคุมหมดโดย อย. ส่วนที่กังวล คือ หากมีการเข้มงวดมาก จะกลายเป็นว่าสารสกัดยาเสพติดประเภท 2 จะเป็นสารสกัดที่นำเข้าหรือผลิตโดยต่างประเทศทั้งหมด เพราะประเทศไทยยังไม่มีอุตสาหกรรมหรือโรงงานที่ทำได้ ซึ่งจะทำให้เราเสียเปรียบ
สำหรับตำรับยาทั้ง 4 ตำรับนั้น มีสรรพคุณ คือ ตำรับศุขไสยาศน์ ช่วยให้นอนหลับสบาย แก้ปวด เจริญอาหาร นำมาใช้ทดแทนหรือเสริมกับยานอนหลับในแผนปัจจุบันได้ ตำรับทำลายพระสุเมรุ ช่วยแก้อาการแข็งเกร็งจากอัมพฤกษ์อัมพาต ตำรับน้ำมันสนั่นไตรภพ ช่วยเรื่องท้องบวม คลายลมในท้อง ท้องอืดจากโรคมะเร็งตับ หรือที่เรียกว่า ท้องมาน และตำรับทัพยาธิคุณ ช่วยเรื่องโรคเบาหวาน ลดน้ำตาล เนื่องจากทางแพทย์แผนไทยจะมองว่า โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เป็นกลุ่มที่เรียกว่ากษัย โดยตำรับสนั่นไตรภพจะเป็นลักษณะของน้ำมันใช้ทาภายนอก ที่เหลืออีก 3 ตำรับจะเป็นรูปแบบยารับประทาน แคปซูลหรือลูกกลอน
"ระหว่างรอการปลดล็อก ก็จะมีการเตรียมตัว คือ จะทำโครงการขอศึกษาในมนุษย์ ในตำรับยาทั้ง 4 ตำรับ ตำรับละ 100 ราย ซึ่งหากมีผลดี มีสรรพคุณที่ดี ปลอดภัย ไม่ทำให้เสพติด ก็จะขยายโดยการเก็บข้อมูลเพิ่มเป็นตำรับละ 1,000 ราย หากผลดีก็จะต่อยอดไปขึ้นในทะเบียนบัญชียาหลักแห่งชาติของแพทย์แผนไทย เพื่อให้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างกว้างขวาง ซึ่งต้องรอปลดล็อกก่อน และกำลังทำเรื่องขอ อย.ในการหาแหล่งที่ปลูก ซึ่งตามตำราระบุว่า กัญชาสายพันธุ์ไทยมาจากเชิงเขาภูพาน ลุ่มน้ำสงคราม อยู่ใน จ.นครพนม สกลนคร และมุกดาหาร เบื้องต้นจึงได้ประสานมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) อีสาน วิทยาเขตสกลนคร ในการขอใช้พื้นที่ 2 ไร่ เพื่อปลูกในระบบควบคุม" นพ.ขวัญชัย กล่าว
เมื่อถามว่าตำรับยาเมื่อไม่มีกัญชาผสม ทำให้ประสิทธิภาพลดลงหรือไม่ ภญ.คลิชา ชั่งสิริพร เภสัชกรประจำโรงพยาบาลอู่ทอง จ.สุพรรณบุรี กล่าวว่า มีหลายตำรับที่มีกัญชาเป็นสูตรผสมหลายชนิด น้ำมันสนั่นไตรภพก็เช่นกัน แต่จากที่กฎหมายยังไม่เปิดให้ใช้ แต่ละสูตรจึงต้องตัดกัญชาออกไป ซึ่งเราไม่ได้ใช้ยาที่มีกัญชามานานมากแล้ว จึงไม่มีการเปรียบเทียบว่า ระหว่างสูตรยาที่มีกัญชาหรือไม่มี แบบไหนมีประสิทธิภาพมากกว่ากัน มีความต่างกันหรือไม่ ซึ่งต้องรอลุ้นว่าจะปลดล็อกได้หรือไม่
จากกรณีมีข้อเสนอว่าจะปลดล็อก "กัญชา" ทางการแพทย์ ด้วยการเปลี่ยนจากยาเสพติดให้โทษประเภท 5 มาเป็นประเภท 2 เนื่องจากเป็นวิธีการที่รวดเร็วที่สุด โดยอนุญาตเฉพาะเพียงสารสกัดจากกัญชา ซึ่งอาจกระทบกับทางการแพทย์แผนไทยที่มักใช้ ดอก ใบ ในการทำตำรับยา
นพ.มารุต จิรเศรษฐสิริ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ปัจจุบันยังไม่มีการปลดทางกฎหมายตำรับยาที่มีกัญชาเป็นส่วนผสม จึงมีการตัดออกไป แต่รัฐบาลกำลังมองว่าจะดำเนินการกัญชาทางการแพทย์อย่างไรและมีการควบคุมอย่างไร เบื้องต้นกรมฯ จะเสนอให้คลายล็อกยา 4 ตำรับ ที่มีกัญชาเป็นส่วนผสม คือ ตำรับศุขไสยาศน์ ตำรับทำลายพระสุเมรุ ตำรับน้ำมันสนั่นไตรภพ และตำรับทัพยาธิคุณ เพื่อทำการศึกษาและดูผลว่าการรักษาเป็นอย่างไร และควบคุมกัญชาให้ทำอยู่ในวงจำกัดอย่างไร ซึ่งการแพทย์แผนไทยจะได้รับการปลดล็อกมากน้อยอย่างไรก็ต้องรอการพิจารณา
นพ.ขวัญชัย วิศิษฐานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันการแพทย์แผนไทย กล่าวว่า สำหรับการปลดล็อกกัญชาที่อาจกระทบกับแพทย์แผนไทยนั้น ตรงนี้กำลังหารือร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เนื่องจากแม้ตำรับยาจะใช้ใบ ดอก แต่ทางการแพทย์แผนไทย ก็มีวิธีสกัด คือ สกัดน้ำก็จะเป็นยาต้มหรือยาน้ำนำมาบรรจุขวด ไม่ได้เป็นใบหรือดอกแล้ว ก็นำมาใช้ผิดประเภทไม่ได้ หรือการสกัดแอลกอฮอล์ ก็จะเป็นรูปแบบผงนำมาบรรจุเป็นแคปซูล หรือทำเป็นสเปรย์ดราย ซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 2 นำมาทำอย่างไรก็ได้ไม่ให้คงสภาพเดิมเป็นดอกหรือใบ แต่ไม่ว่าจะออกมาในรูปแบบไหน ก็จะถูกควบคุมหมดโดย อย. ส่วนที่กังวล คือ หากมีการเข้มงวดมาก จะกลายเป็นว่าสารสกัดยาเสพติดประเภท 2 จะเป็นสารสกัดที่นำเข้าหรือผลิตโดยต่างประเทศทั้งหมด เพราะประเทศไทยยังไม่มีอุตสาหกรรมหรือโรงงานที่ทำได้ ซึ่งจะทำให้เราเสียเปรียบ
สำหรับตำรับยาทั้ง 4 ตำรับนั้น มีสรรพคุณ คือ ตำรับศุขไสยาศน์ ช่วยให้นอนหลับสบาย แก้ปวด เจริญอาหาร นำมาใช้ทดแทนหรือเสริมกับยานอนหลับในแผนปัจจุบันได้ ตำรับทำลายพระสุเมรุ ช่วยแก้อาการแข็งเกร็งจากอัมพฤกษ์อัมพาต ตำรับน้ำมันสนั่นไตรภพ ช่วยเรื่องท้องบวม คลายลมในท้อง ท้องอืดจากโรคมะเร็งตับ หรือที่เรียกว่า ท้องมาน และตำรับทัพยาธิคุณ ช่วยเรื่องโรคเบาหวาน ลดน้ำตาล เนื่องจากทางแพทย์แผนไทยจะมองว่า โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เป็นกลุ่มที่เรียกว่ากษัย โดยตำรับสนั่นไตรภพจะเป็นลักษณะของน้ำมันใช้ทาภายนอก ที่เหลืออีก 3 ตำรับจะเป็นรูปแบบยารับประทาน แคปซูลหรือลูกกลอน
"ระหว่างรอการปลดล็อก ก็จะมีการเตรียมตัว คือ จะทำโครงการขอศึกษาในมนุษย์ ในตำรับยาทั้ง 4 ตำรับ ตำรับละ 100 ราย ซึ่งหากมีผลดี มีสรรพคุณที่ดี ปลอดภัย ไม่ทำให้เสพติด ก็จะขยายโดยการเก็บข้อมูลเพิ่มเป็นตำรับละ 1,000 ราย หากผลดีก็จะต่อยอดไปขึ้นในทะเบียนบัญชียาหลักแห่งชาติของแพทย์แผนไทย เพื่อให้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างกว้างขวาง ซึ่งต้องรอปลดล็อกก่อน และกำลังทำเรื่องขอ อย.ในการหาแหล่งที่ปลูก ซึ่งตามตำราระบุว่า กัญชาสายพันธุ์ไทยมาจากเชิงเขาภูพาน ลุ่มน้ำสงคราม อยู่ใน จ.นครพนม สกลนคร และมุกดาหาร เบื้องต้นจึงได้ประสานมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) อีสาน วิทยาเขตสกลนคร ในการขอใช้พื้นที่ 2 ไร่ เพื่อปลูกในระบบควบคุม" นพ.ขวัญชัย กล่าว
เมื่อถามว่าตำรับยาเมื่อไม่มีกัญชาผสม ทำให้ประสิทธิภาพลดลงหรือไม่ ภญ.คลิชา ชั่งสิริพร เภสัชกรประจำโรงพยาบาลอู่ทอง จ.สุพรรณบุรี กล่าวว่า มีหลายตำรับที่มีกัญชาเป็นสูตรผสมหลายชนิด น้ำมันสนั่นไตรภพก็เช่นกัน แต่จากที่กฎหมายยังไม่เปิดให้ใช้ แต่ละสูตรจึงต้องตัดกัญชาออกไป ซึ่งเราไม่ได้ใช้ยาที่มีกัญชามานานมากแล้ว จึงไม่มีการเปรียบเทียบว่า ระหว่างสูตรยาที่มีกัญชาหรือไม่มี แบบไหนมีประสิทธิภาพมากกว่ากัน มีความต่างกันหรือไม่ ซึ่งต้องรอลุ้นว่าจะปลดล็อกได้หรือไม่