xs
xsm
sm
md
lg

บี้ป.ป.ช.ตัดสินปมนาฬิกาหรู ใช้มาตรฐานเดียวคดี"สุพจน์"

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

"รสนา" จี้ ป.ป.ช.ชุดนี้ ตัดสินปมนาฬิกาหรูของ"บิ๊กป้อม" ในมาตรฐานเดียวกับป.ป.ช.ชุดก่อนรัฐประหาร ในคดีร่ำรวยผิดปกติของ"สุพจน์" อดีต ปลัดคมนาคม

น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีต ส.ว.กทม. และอดีตสมาชิกสภาปฎิรูปแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก แสดงความเห็นเปรียบเทียบ กรณีนาฬิกาหรู ของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และคดีร่ำรวยผิดปกติของ นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคมโดยมีข้อความดังนี้

ป.ป.ช.ชุดนี้ควรตัดสินกรณีนาฬิกาหรู ในมาตรฐานเดียวกับป.ป.ช ยุคก่อนรัฐประหาร ในคดีร่ำรวยผิดปกติของอดีตปลัดกระทรวงคมนาคม

คดีอดีตปลัดกระทรวงคมนาคม นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ที่ถูกโจรปล้นบ้าน และได้เงินสดไปประมาณ18 ล้านบาท เมื่อเดือนพ.ย.54 กรณีดังกล่าว ตำรวจจับโจรได้ และนำมาสู่การสอบสวนขยายผลของป.ป.ช. จนพบว่า อดีตปลัดกระทรวงคมนาคมคนดังกล่าว ร่ำรวยผิดปกติ

สื่อมวลชนรายงานว่า ในปี 2555 ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดข้อกล่าวหา นายสุพจน์ มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ และจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินเท็จ เกี่ยวกับเงินจำนวน 17,553,000 บาทเศษ และรถตู้ยี่ห้อโฟล์คสวาเกน (Volk Swagen)ราคา 3,000,000 บาท รวมมูลค่าทั้งสิ้น 20,473,000 บาท โดยกรณีสืบเนื่องจาก เหตุคนร้ายบุกปล้นบ้านนายสุพจน์ ในซอยลาดพร้าว 64 เมื่อค่ำวันที่ 12 พ.ย.54 ซึ่งคนร้ายที่ร่วมทำผิดคดีอาญา ได้ให้การเกี่ยวกับทรัพย์สินว่า

พบเงินสดในบ้านนายสุพจน์ นับร้อยล้านบาท โดยนายสุพจน์ ไม่สามารถชี้แจงที่มาของเงิน 17 ล้านบาทเศษ และรถโฟล์คสวาเกนได้

ในการแก้คดี นายสุพจน์ อ้างว่ารถโฟล์คสวาเกน ที่ไม่ได้แจ้งในบัญชีทรัพย์สิน เป็นของที่ยืมคนอื่นมา แต่ ป.ป.ช ไม่เชื่อว่ารถโฟล์คสวาเกนคันดังกล่าวไม่ใช่ของนายสุพจน์ แม้ว่ารถโฟล์คสวาเกน จะอยู่ในชื่อผู้อื่น และยังอ้างว่าได้คืนให้กับผู้ให้ยืมไปแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาฯ ตามคำร้องของ ป.ป.ช ระบุว่า "ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ว่า รถเป็นทรัพย์สินของนายสุพจน์ ในชื่อผู้อื่น โดยมีวัด เป็นผู้ครอบครองชั่วคราว และเป็นทรัพย์สินที่ต้องแสดงบัญชีทรัพย์สิน

เมื่อวันที่18 ต.ค 61 องค์คณะอุทธรณ์ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษายืน จำคุก"สุพจน์ ทรัพย์ล้อม" อดีตปลัดฯคมนาคม เป็นเวลา10 เดือน ฐานร่ำรวยผิดปกติ

นอกจากนี้ ป.ป.ช ในฐานะผู้ร้อง มีมติว่า นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม (ผู้คัดค้าน) ร่ำรวยผิดปกติ และส่งเรื่องให้อัยการสูงสุด ยื่นคำร้องต่อศาลแพ่ง ขอให้มีคำสั่งให้เงินสด และรถยนต์ตู้ดังกล่าว พร้อมทรัพย์สินอื่นของผู้คัดค้าน รวมจำนวน 64,998,587.52 บาท รวมทั้งดอกผลของเงิน หรือทรัพย์สินที่เกิดขึ้นตกเป็นของแผ่นดิน

คดีนายสุพจน์ นั้นเป็นผลงานของ ป.ป.ช ชุดก่อนรัฐประหาร ซึ่งใช้เวลาเพียง1 ปี ก็สามารถสอบเรื่องแจ้งบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จ ของอดีตปลัดจนเสร็จสิ้น และส่งฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ ในปลายปี 2555

กรณีรถโฟล์คสวาเกน ของนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม มีลักษณะคล้ายคลึงกับกรณีนาฬิกาหรู ที่อ้างว่ายืมเพื่อนมาใช้ จนเพื่อนตายแล้ว แต่ผู้ยืมก็ยังครอบครองจนถูกจับได้ จึงอ้างว่าส่งคืนแล้ว ซึ่งไม่ต่างจากกรณีที่ นายสุพจน์ กล่าวอ้างว่ารถที่ครอบครองเป็นของยืมคนอื่นใช้ แต่ ป.ป.ช ไม่เชื่อ และได้สอบสวนจนสามารถฟ้องต่อศาลฎีกาฯ ได้สำเร็จ

แต่ป.ป.ช ชุดหลังรัฐประหาร ที่มีประธานเป็นอดีตหน้าห้องของ พล.อ ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไม่ทำตามมาตราฐานอันเที่ยงตรงของ ป.ป.ช ชุดก่อน ทำให้สังคมเกิดข้อสงสัยว่า กำลังถ่วงเวลาการสอบกรณี นาฬิกาหรู 22 เรือน มูลค่าประมาณ 40 ล้านบาท ที่พล.อ ประวิตร อ้างว่ายืมเพื่อนมาใส่ ใช่หรือไม่ ?

กรณีนาฬิกาหรู ปรากฏเป็นข่าวเมื่อ 5 ธ.ค.60 แต่แทนที่ ป.ป.ช จะสอบตามมาตราฐานเดิมที่เคยทำมาแล้วในคดี สุพจน์ โดยที่กรณีนาฬิกาหรูไม่มีอะไรซับซ้อน แต่ป.ป.ช กลับเลื่อนเวลาแล้ว เลื่อนเวลาอีก จนถูกล้อเลียนจากสื่อว่า กรณีนี้น่าจะลากยาวไปถึงชาติหน้า !!

ยิ่งป.ป.ช ปล่อยเวลาผ่านไปเนิ่นนานเท่าไร ป.ป.ช ก็จะทำให้สังคมเกิดความสงสัย และขาดความเชื่อมั่นศรัทธา ในองค์กรปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ซึ่งอาจจะกระทบไปถึง คสช. และรัฐบาลที่ไม่ใช้อำนาจหน้าที่เชิงบริหาร จัดการกับคนในคณะบริหารของตน เหมือนกับที่เคยพักงานคนอื่นๆ ในกรณีที่เกิดความมัวหมองคล้ายคลึงกัน เข้าตำราลูบหน้าปะจมูก คสช. จึงไม่กล้าตัดจมูกของตนเอง ใช่หรือไม่?
กำลังโหลดความคิดเห็น