“ประจิน” นัดประชุมบอร์ดอนุรักษ์พลังงาน 26 ต.ค.นี้ เคาะอนุมัติการใช้งบประมาณปี 61-62 รวมกว่า 1.5 หมื่นล้าน ระบุกลั่นกรองแล้ว เน้นใช้เงินให้เกิดประโยชน์สูงสุด จ่อคลอดแผนพลังงานระยะสั้น 5 ปี (ปี 62-66) เพื่อจัดลำดับการทำงาน คาด “โซลาร์ภาคประชาชน” มาแน่ ส่วนโครงการช่วยวินมอเตอร์โซค์ใช้น้ำมันถูกเปิดตัวก่อนสิ้นปี
วานนี้ (18 ต.ค.) นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานที่มีพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานวันที่ 26 ต.ค.นี้จะพิจารณาอนุมัติโครงการที่ยื่นขอสนับสนุนเงินจากกองทุนอนุรักษ์พลังงานภายใต้งบประมาณปี 2561 (เพิ่มเติม) ภายใต้กลุ่มโครงการไทยนิยมยั่งยืนวงเงิน 5,200 ล้านบาทและงบประมาณปี 2562 วงเงิน 10,488 ล้านบาท
สำหรับโครงการที่จะเข้าสู่การอนุมัตินั้นเบื้องต้นได้มีการพิจารณากลั่นกรองที่มีการปรับเกณฑ์การพิจารณาใหม่ที่จะให้ความสำคัญเช่น ต้องไม่เป็นโครงการที่ซ้ำซ้อนกัน โครงการใดที่มีการติดตั้งพลังงานทดแทนแล้วไม่มีงบในการบำรุงรักษาก็จะถูกตัดออกไป รวมถึงโครงการที่จะติดตั้งการประหยัดพลังงานแต่การลงทุนเมื่อเทียบกับมูลค่าของการประหยัดแล้วต่ำมากก็จะต้องถูกตัดเช่นกัน เป็นต้น
“ก่อนหน้านี้ได้มีการหารือกับกรมบัญชีกลางว่าจำเป็นต้องเกลี่ยงบปีง61เพิ่มเติมหรือไม่เพราะไม่ใช่งบผูกพันข้ามปีอาจต้องจบไปแต่ล่าสุดทางกรมบัญชีกลางระบุว่าสามารถดำเนินการได้ตามปกติ ซึ่งการกลั่นกรองนั้นเราก็พิจารณาให้สอดคล้องกับนโยบายของรมว.พลังงานและรองนายกรัฐมตรีที่เน้นความโปร่งใสและให้เกิดประโยชน์สูงสุดเพราะเงินกองทุนอนุรักษ์ฯเก็บจากผู้ใช้น้ำมัน” นายกุลิศกล่าว
อย่างไรก็ตามขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมทำงบประมาณปี 2563 ดังนั้นจึงใช้โอกาสดังกล่าวจัดลำดับความสำคัญของแผนงานที่จะให้สอดรับกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีและแผนปฏิรูปประเทศด้านพลังงานโดยจะนำมาจัดทำเป็นแผนเพื่อดำเนินงานด้านพลังงานระยะสั้น 5 ปีแรกก่อน(ปี 62-66 ) ซึ่งคาดว่าจะกำหนดแล้วเสร็จในสิ้นปีนี้โดยลำดับความสำคัญที่เกี่ยวกับพลังงานทดแทนแรกๆที่จะมุ่งเน้นคือการส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ติดตั้งบนหลังคาที่อยู่อาศัยภาคประชาชน(โซลาร์ภาคประชาชน)
“เราขอเวลา 2-3 เดือนเราจะเห็นภาพชัดเจนว่าจะทำอะไรบ้างในปีหน้า และปีต่อๆไป ดังนั้นก็จะเห็นแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้า(พีดีพีฉบับใหม่) แผนก๊าซ แผนน้ำมัน และแผนพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน และจะเกี่ยวไปถึงโครงการที่จะขออนุมัติงบกองทุนอนุรักษ์ฯในปี 2563 ด้วย ดังนั้นเราก็จะมีแผนงาน แผนเงิน แผนคน ชัดเจน" นายกุลิศกล่าว
สำหรับความคืบหน้าโครงการจำหน่ายแก๊สโซฮอล์ 95 ราคาต่ำกว่าปกติ 3 บาทต่อลิตรเพื่อช่วยเหลือผู้ขับขี่จักรยานยนต์รับจ้าง (วินมอเตอร์ไซค์) โดยขณะนี้จะต้องประสานขอจำนวนผู้ขับขี่ที่ขึ้นทะเบียนกับกรมขนส่งฯและผู้ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐกับกรมบัญชีกลางเพื่อนำมาจับคู่กันดังนั้นหลักการจะต้องมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไม่ใช่เป็นผู้ขับขี่ทั่วไป คาดว่าจะสามารถดำเนินการเสร็จในเดือนพ.ย.นี้จากนั้นจะเปิดตัวโครงการภายในเดือน ธ.ค.นี้
“เบื้องต้นเราก็ให้ บมจ.ปตท.นำร่องดำเนินการก่อนจากนั้นก็จะชักชวนผู้ค้าอื่นๆเข้าร่วมโครงการได้ ส่วนราคาที่จะจำหน่ายให้วินมอเตอร์ไซค์ต่ำลง 3 บาทต่อลิตรก็กำลังดูว่าจะนำเงินจากส่วนใดมาอุดหนุนโดยกลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นส่วนหนึ่งที่อาจนำมาใช้ และก็กำลังพิจารณาจากส่วนอื่นๆประกอบด้วย" นายกุลิศ กล่าว.
วานนี้ (18 ต.ค.) นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานที่มีพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานวันที่ 26 ต.ค.นี้จะพิจารณาอนุมัติโครงการที่ยื่นขอสนับสนุนเงินจากกองทุนอนุรักษ์พลังงานภายใต้งบประมาณปี 2561 (เพิ่มเติม) ภายใต้กลุ่มโครงการไทยนิยมยั่งยืนวงเงิน 5,200 ล้านบาทและงบประมาณปี 2562 วงเงิน 10,488 ล้านบาท
สำหรับโครงการที่จะเข้าสู่การอนุมัตินั้นเบื้องต้นได้มีการพิจารณากลั่นกรองที่มีการปรับเกณฑ์การพิจารณาใหม่ที่จะให้ความสำคัญเช่น ต้องไม่เป็นโครงการที่ซ้ำซ้อนกัน โครงการใดที่มีการติดตั้งพลังงานทดแทนแล้วไม่มีงบในการบำรุงรักษาก็จะถูกตัดออกไป รวมถึงโครงการที่จะติดตั้งการประหยัดพลังงานแต่การลงทุนเมื่อเทียบกับมูลค่าของการประหยัดแล้วต่ำมากก็จะต้องถูกตัดเช่นกัน เป็นต้น
“ก่อนหน้านี้ได้มีการหารือกับกรมบัญชีกลางว่าจำเป็นต้องเกลี่ยงบปีง61เพิ่มเติมหรือไม่เพราะไม่ใช่งบผูกพันข้ามปีอาจต้องจบไปแต่ล่าสุดทางกรมบัญชีกลางระบุว่าสามารถดำเนินการได้ตามปกติ ซึ่งการกลั่นกรองนั้นเราก็พิจารณาให้สอดคล้องกับนโยบายของรมว.พลังงานและรองนายกรัฐมตรีที่เน้นความโปร่งใสและให้เกิดประโยชน์สูงสุดเพราะเงินกองทุนอนุรักษ์ฯเก็บจากผู้ใช้น้ำมัน” นายกุลิศกล่าว
อย่างไรก็ตามขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมทำงบประมาณปี 2563 ดังนั้นจึงใช้โอกาสดังกล่าวจัดลำดับความสำคัญของแผนงานที่จะให้สอดรับกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีและแผนปฏิรูปประเทศด้านพลังงานโดยจะนำมาจัดทำเป็นแผนเพื่อดำเนินงานด้านพลังงานระยะสั้น 5 ปีแรกก่อน(ปี 62-66 ) ซึ่งคาดว่าจะกำหนดแล้วเสร็จในสิ้นปีนี้โดยลำดับความสำคัญที่เกี่ยวกับพลังงานทดแทนแรกๆที่จะมุ่งเน้นคือการส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ติดตั้งบนหลังคาที่อยู่อาศัยภาคประชาชน(โซลาร์ภาคประชาชน)
“เราขอเวลา 2-3 เดือนเราจะเห็นภาพชัดเจนว่าจะทำอะไรบ้างในปีหน้า และปีต่อๆไป ดังนั้นก็จะเห็นแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้า(พีดีพีฉบับใหม่) แผนก๊าซ แผนน้ำมัน และแผนพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน และจะเกี่ยวไปถึงโครงการที่จะขออนุมัติงบกองทุนอนุรักษ์ฯในปี 2563 ด้วย ดังนั้นเราก็จะมีแผนงาน แผนเงิน แผนคน ชัดเจน" นายกุลิศกล่าว
สำหรับความคืบหน้าโครงการจำหน่ายแก๊สโซฮอล์ 95 ราคาต่ำกว่าปกติ 3 บาทต่อลิตรเพื่อช่วยเหลือผู้ขับขี่จักรยานยนต์รับจ้าง (วินมอเตอร์ไซค์) โดยขณะนี้จะต้องประสานขอจำนวนผู้ขับขี่ที่ขึ้นทะเบียนกับกรมขนส่งฯและผู้ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐกับกรมบัญชีกลางเพื่อนำมาจับคู่กันดังนั้นหลักการจะต้องมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไม่ใช่เป็นผู้ขับขี่ทั่วไป คาดว่าจะสามารถดำเนินการเสร็จในเดือนพ.ย.นี้จากนั้นจะเปิดตัวโครงการภายในเดือน ธ.ค.นี้
“เบื้องต้นเราก็ให้ บมจ.ปตท.นำร่องดำเนินการก่อนจากนั้นก็จะชักชวนผู้ค้าอื่นๆเข้าร่วมโครงการได้ ส่วนราคาที่จะจำหน่ายให้วินมอเตอร์ไซค์ต่ำลง 3 บาทต่อลิตรก็กำลังดูว่าจะนำเงินจากส่วนใดมาอุดหนุนโดยกลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นส่วนหนึ่งที่อาจนำมาใช้ และก็กำลังพิจารณาจากส่วนอื่นๆประกอบด้วย" นายกุลิศ กล่าว.