ผู้จัดการรายวัน360- รฟท. เปิดเวทีรับฟังความเห็นนักลงทุนนำร่องแปลง A ศูนย์พหลฯ 32 ไร่ มูลค่ากว่า 1 หมื่นล้าน ก่อนเปิดประมูล PPP ในม.ค.62 เซ็นสัญญาปลายปี เปิดให้บริการ64 รองรับเดินรถสีแดง และสถานีกลางบางซื่อ มีผู้โดยสารไม่ต่ำกว่า2 แสนคน/วัน “วรวุฒิ” เผยพื้นที่ไข่แดงของ TOD พหลโยธิน คาดแปลง A สร้างรายได้ 4 พันล้านใน 30 ปี
วานนี้ (17 ต.ค. ) การรถไฟแห่งประเทศไทย จัดงานรับฟังความเห็นภาคเอกชนในการลงทุน (Market Sounding) โครงการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ศูนย์คมนาคมพหลโยธิน แปลง A เพื่อให้ภาคเอกชนและนักลงทุนเห็นถึงศักยภาพของสถานีกลางบางซื่อและแผนการพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานี และเปิดรับฟังความเห็นและมุมมอง ความคิดเห็น ข้อเสนอแนะจาก หน่วยงานจากภาครัฐ ภาคธุรกิจ นักลงทุนกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มธนาคาร กลุ่มนักลงทุน สมาคมการค้า ทั้งในประเทศและต่างประเทศ 68 หน่วยงาน กว่า 200 คน ที่เข้าร่วม
นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า พื้นที่แปลงA ตั้งใกล้กับสถานีกลางบางซื่อจะเปิดให้บริการพร้อมกับรถไฟสายสีแดงช่วงต้นปี 64 ซึ่งการศึกษาประเมินว่าจะมีผู้ใช้บริการรวมกว่า 2 แสนคนต่อวัน และปี 70 เพิ่มเป็น 3.2 แสนคนต่อวัน และปี 75 เพิ่มเป็น 3.96 แสนคนต่อวัน ซึ่งอาจจะประเมินที่น้อยไปด้วยเพราะสถานีกลางบางซื่อจะเป็นศูนย์กลางของระบบขนส่ง รถไฟฟ้า รถไฟทางไกล รถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูง ทำให้เป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพสำหรับการลงทุนพัฒนาเชิงพาณิชย์อย่างยิ่ง
***รฟท.คาดแปลงA สร้างรายได้4 พันล.ใน30ปี
นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า รฟท.จะเปิดประมูลหาเอกชนร่วมลงทุน (PPP) พื้นที่แปลงA นำร่อง เนื้อที่ประมาณ 32 ไร่ มูลค่าลงทุน 11,721 ล้านบาท โดยกำหนดระยะเวลาก่อสร้าง 4 ปี ระยะเวลาสัมปทาน 30ปี ซึ่งจะรับฟังความเห็นจากนักลงทุนเพื่อประกอบการพิจารณาการจัดทำร่างTOR ซึ่งคณะกรรมการมาตรา35 แห่งพ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 56 กำหนดประกาศเชิญชวนเอกชนร่วมลงทุนและเปิดขายเอกสารในเดือนม.ค. 62 ,ยื่นข้อเสนอเดือนก.พ.-ส.ค.62, ลงนามสัญญาในเดือนส.ค.- พ.ย.62
ก่อนจะเข้าสู่การออกแบบรายละเอียดและขออนุมัติสิ่งแวดล้อมตามระเบียบการก่อสร้างอาคาร และก่อสร้าง เพื่อให้สามารถเปิดให้บริการบางส่วนในกลางปี 64 ซึ่งจะเปิดให้บริการเต็มแปลงA ในปี 66 ซึ่งจะสอดคล้องกับการเปิดให้บริการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินและรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เส้นทาง กรุงเทพ-นครราชสีมา โดยคาดว่า รฟท.จะมีผลตอบแทนจากการพัฒนาพื้นที่แปลง A ประมาณ 3,000-4,000 ล้านบาทตลอดอายุสัมปทาน 30 ปี ซึ่งจะเป็นการร่วมทุน ภายใต้กฎหมายไทยสัดส่วนเอกชนต่างชาติไม่เกิน49%
ทั้งนี้ รฟท.ได้ร่วมกับองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JICA) จัดทำ “แผนแม่บทการพัฒนาพื้นที่ศูนย์คมนาคมพหลโยธิน” พื้นที่รวม 2,325 ไร่ โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็น 9 แปลง มีระยะการพัฒนา 3 ระยะ มีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2565, 2570 และ 2575 โดยจะนำร่องพัฒนาแปลง A ซึ่งตั้งอยู่บริเวณทิศใต้ของสถานีกลางบางซื่อ เพื่อให้เป็น “ศูนย์กลางธุรกิจครบวงจร”
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้รฟท.ได้ศึกษาการพัฒนาพื้นที่ต่อไป ของพหลโยธิน โดยคาดว่าจะเป็น แปลงA,E,D ภายในปี 65 ระยะ2 ในปี 66-70 พัฒนาแปลงC,F,G ระยะ3 ปี 71-75 แปลงB,D,H,I ซึ่งแปลงต่อไป ที่ได้ศึกษาการพัฒนาและเตรียม เสนอบอร์ดรฟท.พิจารณาคือ แปลง G (กม.11) และแปลงC (สถานีขนส่งหมอชิต2)
วานนี้ (17 ต.ค. ) การรถไฟแห่งประเทศไทย จัดงานรับฟังความเห็นภาคเอกชนในการลงทุน (Market Sounding) โครงการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ศูนย์คมนาคมพหลโยธิน แปลง A เพื่อให้ภาคเอกชนและนักลงทุนเห็นถึงศักยภาพของสถานีกลางบางซื่อและแผนการพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานี และเปิดรับฟังความเห็นและมุมมอง ความคิดเห็น ข้อเสนอแนะจาก หน่วยงานจากภาครัฐ ภาคธุรกิจ นักลงทุนกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มธนาคาร กลุ่มนักลงทุน สมาคมการค้า ทั้งในประเทศและต่างประเทศ 68 หน่วยงาน กว่า 200 คน ที่เข้าร่วม
นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า พื้นที่แปลงA ตั้งใกล้กับสถานีกลางบางซื่อจะเปิดให้บริการพร้อมกับรถไฟสายสีแดงช่วงต้นปี 64 ซึ่งการศึกษาประเมินว่าจะมีผู้ใช้บริการรวมกว่า 2 แสนคนต่อวัน และปี 70 เพิ่มเป็น 3.2 แสนคนต่อวัน และปี 75 เพิ่มเป็น 3.96 แสนคนต่อวัน ซึ่งอาจจะประเมินที่น้อยไปด้วยเพราะสถานีกลางบางซื่อจะเป็นศูนย์กลางของระบบขนส่ง รถไฟฟ้า รถไฟทางไกล รถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูง ทำให้เป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพสำหรับการลงทุนพัฒนาเชิงพาณิชย์อย่างยิ่ง
***รฟท.คาดแปลงA สร้างรายได้4 พันล.ใน30ปี
นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า รฟท.จะเปิดประมูลหาเอกชนร่วมลงทุน (PPP) พื้นที่แปลงA นำร่อง เนื้อที่ประมาณ 32 ไร่ มูลค่าลงทุน 11,721 ล้านบาท โดยกำหนดระยะเวลาก่อสร้าง 4 ปี ระยะเวลาสัมปทาน 30ปี ซึ่งจะรับฟังความเห็นจากนักลงทุนเพื่อประกอบการพิจารณาการจัดทำร่างTOR ซึ่งคณะกรรมการมาตรา35 แห่งพ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 56 กำหนดประกาศเชิญชวนเอกชนร่วมลงทุนและเปิดขายเอกสารในเดือนม.ค. 62 ,ยื่นข้อเสนอเดือนก.พ.-ส.ค.62, ลงนามสัญญาในเดือนส.ค.- พ.ย.62
ก่อนจะเข้าสู่การออกแบบรายละเอียดและขออนุมัติสิ่งแวดล้อมตามระเบียบการก่อสร้างอาคาร และก่อสร้าง เพื่อให้สามารถเปิดให้บริการบางส่วนในกลางปี 64 ซึ่งจะเปิดให้บริการเต็มแปลงA ในปี 66 ซึ่งจะสอดคล้องกับการเปิดให้บริการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินและรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เส้นทาง กรุงเทพ-นครราชสีมา โดยคาดว่า รฟท.จะมีผลตอบแทนจากการพัฒนาพื้นที่แปลง A ประมาณ 3,000-4,000 ล้านบาทตลอดอายุสัมปทาน 30 ปี ซึ่งจะเป็นการร่วมทุน ภายใต้กฎหมายไทยสัดส่วนเอกชนต่างชาติไม่เกิน49%
ทั้งนี้ รฟท.ได้ร่วมกับองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JICA) จัดทำ “แผนแม่บทการพัฒนาพื้นที่ศูนย์คมนาคมพหลโยธิน” พื้นที่รวม 2,325 ไร่ โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็น 9 แปลง มีระยะการพัฒนา 3 ระยะ มีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2565, 2570 และ 2575 โดยจะนำร่องพัฒนาแปลง A ซึ่งตั้งอยู่บริเวณทิศใต้ของสถานีกลางบางซื่อ เพื่อให้เป็น “ศูนย์กลางธุรกิจครบวงจร”
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้รฟท.ได้ศึกษาการพัฒนาพื้นที่ต่อไป ของพหลโยธิน โดยคาดว่าจะเป็น แปลงA,E,D ภายในปี 65 ระยะ2 ในปี 66-70 พัฒนาแปลงC,F,G ระยะ3 ปี 71-75 แปลงB,D,H,I ซึ่งแปลงต่อไป ที่ได้ศึกษาการพัฒนาและเตรียม เสนอบอร์ดรฟท.พิจารณาคือ แปลง G (กม.11) และแปลงC (สถานีขนส่งหมอชิต2)