xs
xsm
sm
md
lg

คุกยาว "สมีคำ" 16 ปีคดีข่มขืนเด็ก – นับโทษรวมคดีฉ้อโกงเป็น 36 ปี

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ผู้จัดการรายวัน360- ศาลจำคุก"อดีตพระเณรคำ" 16 ปี ไม่รอลงอาญา คดีพราก-ข่มขืนเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี และให้นับโทษรวมคดีฉ้อโกงอีก 20 ปี รวมโทษจำคุก 36 ปี ทั้งนี้ ศาลได้เบิกตัวจำเลยออกมาจากเรือนจำ เพื่อฟังคำพิพากษา

วานนี้ (17 ต.ค.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษา คดี "สมีคำชำเราผู้เยาว์" ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 4 ยื่นฟ้อง นายวิรพล สุขผล อดีตพระ ฉายาวิรพล ฉัตติโก หรือ เณรคำ อายุ 39 ปี อดีตประธานสงฆ์สำนักสงฆ์วัดป่าขันติธรรม อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ที่ทางการสหรัฐฯ ส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนมาเมื่อปี 60 เป็นจำเลย ในคดีหมายเลขดำ อ. 2340/2560 ความผิดฐานพรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปจากบิดามารดา เพื่อการอนาจาร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 317 วรรคสาม และกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งไม่ใช่ภริยาตนฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 วรรคแรก

กรณีกล่าวหาว่า เมื่อเดือน ม.ค.43-กลางปี 44 จำเลยได้พรากเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี จากผู้ปกครอง ไปข่มขืนกระทำชำเรา เป็นเวลา 2 ปี จนมีบุตร 1 คน อันเป็นความผิดตาม กม. ทั้งนี้ การพิจารณาคดีชั้นศาล “นายวิรพล” จำเลย ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา อ้างว่าไม่ได้กระทำผิด และเด็กที่เกิดมา ก็ไม่ใช่บุตรของตนเอง

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์ และ จำเลยแล้ว เห็นว่า คดีนี้ โจทก์มีผู้ปกครองและเด็กผู้เสียหาย ช่วงเกิดเหตุปี 43 อายุ 14 ปีเศษ เบิกความสอดคล้องบันทึกคำให้การถึงรายละเอียด ช่วงเวลาตั้งแต่จำเลยขับรถยนต์มารับผู้เสียหาย ที่ 2 ไปอนาจาร กอด จูบ และข่มขืนกระทำชำเรา หลายครั้ง หลายหน จนกระทั่งผู้เสียหายย้ายไปจังหวัดอื่น เพราะกลัวผู้อื่นจะรู้เรื่องโดยยังมีพนักงานสอบสวนร่วมเบิกความด้วย ซึ่งพยานไม่เคยมีเหตุโกรธเคืองจำเลยมาก่อน จึงเชื่อว่ายากที่จะปั้นแต่งให้เรื่องตัวเอง-ครอบครัวอับอาย และขณะเกิดเหตุ จำเลยใช้ความเป็นพนะภิกษุที่ประชาชนให้ความเคารพศรัทธากระทำผิดกับเด็กนักเรียนเพียงชั้น ม.2 ทำให้พระพุทธศาสนามัวหมอง จึงเห็นควรให้ลงโทษสถานหนัก ให้จำคุกจำเลยเป็นเวลา 16 ปี และให้นับโทษจำเลยในคดีฉ้อโกงประชาชนมารวมด้วยอีก 20 ปี จึงจำคุก 36 ปี

ด้านทนายความของ นายวิรพล หรือ เณรคำ กล่าวว่า จะขอคัดคำพิพากษาไปดูรายละเอียดและปรึกษากับนายวิรพล ก่อนตัดสินใจว่าจะอุทธรณ์สู้คดี หรือไม่

ขณะที่ นางหญิง (นามสมมุติ) อายุ 32 ปี ผู้เสียหายซึ่งเคยมีความสัมพันธ์กับ นายวิรพล กล่าวว่ารู้สึกพอใจผลคำพิพากษาเป็นอย่างมาก หลังจากนี้ก็จะดำเนินการต่อในคดีแพ่ง ที่ได้ยื่นฟ้องไว้กับศาลเยาวชนและครอบครัว จ.ศรีสะเกษ เมื่อปี 56 โดยต้องการเรียกร้องความเป็นธรรม เพราะช่วงขณะเกิดเหตุ นายวิรพล สัญญาว่า จะจ่ายเงินค่าเลี้ยงดูเดือนละ 10,000 บาท แต่ก็จ่ายให้ระยะหนึ่ง จากนั้นก็ไม่จ่ายให้อีกเลย ซึ่งจะเรียค่าเลี้ยงดูบุตร จากนายวิรพล จำนวน 40 ล้านบาท ซึ่งศาลเยาวชนฯได้จำหน่ายคดีออกจากสารบบไว้ชั่วคราว โดยให้รอผลคำพิพากษาในคดีอาญานี้ก่อน


กำลังโหลดความคิดเห็น