บิ๊กตู่บุกโซเชียล เปิดแฟนเพจ-ไอจี-ทวีต-เว็บ

"ประยุทธ์" เปิดแฟนเพจ เว็บประยุทธ์ ดอทคอม พร้อมด้วย ไอจี, ทวิตเตอร์ ใช้เป็นช่องทางสื่อสาร การทำงาน และรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน "จาตุรนต์" ลั่นปลุกม็อบต้าน หากพรรคเพื่อไทยถูกยุบ ด้านพรรค"เพื่อชาติ" เปิดตัวคึกคัก "ยุทธ ตู้เย็น-ตุ๊ดตู่" โผล่ร่วม ออกตัวเป็นแค่กองเชียร์ หนุนให้มีพรรคเกาะกลาง ยื่นมือให้กับทุกคน "จตุพร" แบไต๋ ชวน ปชป.-พรรคเทพเทือก คุยหาทางออกให้บ้านเมือง ด้าน"พลังประชารัฐ" เตรียมเปิดหลักสูตรสร้างผู้นำรุ่นใหม่ ขณะที่ ชพน.เปิดตัว "แม่หลวงกุ้ง" อดีตผู้ใหญ่บ้านสุดสวย ร่วมทำงานการเมือง

วานนี้ (14 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ได้เปิดแนวรุกด้านโซเชียลมีเดีย ด้วยการเปิดแฟนเพจ เฟซบุ๊ก "ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-Cha พร้อมระบุว่า "ผมเปิด Facebook ส่วนตัว เพื่อเป็นช่องทางในการสื่อสาร นโยบาย การทำงานและเป็นช่องทาง ที่ผมและพี่น้องประชาชน จะได้เข้าถึงกันได้ดียิ่งขึ้น หากท่านมีข้อเสนอแนะ ต้องการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น หรือต้องการให้ผมลงไปดูแลแก้ปัญหา เขียนมาเล่าสู่กันฟังได้ครับ"

ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศว่าสนใจการเมือง และลงพื้นที่พบปะประชาชน อย่างสม่ำเสมอแล้ว การเปิดแฟนเพจเฟซบุ๊กครั้งนี้ ถือเป็นการรุกทางโซเชียลฯ อีกทางหนึ่ง

ด้านพล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี ระบุ ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561 - 2580) ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว (13 ต.ค.) ถือเป็นยุทธศาสตร์ชาติฉบับแรกของประเทศไทย ที่ทุกส่วนจะต้องนำไปปฏิบัติ เพื่อก้าวสู่วิสัยทัศน์ มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยนายกฯ อยากให้สื่อและประชาชนทุกคนไปศึกษาทำความเข้าใจยุทธศาสตร์ชาติ และแผนการปฏิรูป ที่มีความเชื่อมโยงกัน โดย 5 ปีแรกจะสำคัญที่สุด รัฐบาลหน้าจะต้องทำตามกรอบนี้ แต่สามารถปรับเปลี่ยนได้ ตามสถานการณ์ โดยยืนยันว่าไม่ได้มุ่งหวังสืบทอดอำนาจแต่อย่างใด

**พปชร.เปิดหลักสูตรสร้างผู้นำรุ่นใหม่

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ว่าที่กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า ในระหว่างที่รอการรับรองการจัดตั้งพรรคอย่างเป็นทางการ จากกกต. พรรคจะมีกิจกรรม เปิดรับรับฟังความเห็นจากประชาชนหลายกลุ่ม เมื่อได้รับการรับรองจาก กกต.แล้ว จะเชิญกลุ่มที่พรรคไปรับฟังความคิดเห็น มาเป็นตัวแทนร่วมร่างนโยบายของพรรคต่อไป

ทั้งนี้ในวันที่ 17 ต.ค.นี้ พรรคจะเปิดตัวสถาบัน ที่มีนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะ ว่าที่รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งรับผิดชอบดูแล โดยจะเน้นที่ หลักสูตรเตรียมสร้างผู้นำรุ่นใหม่ และจะระดมความคิดเห็นจากคนหลายกลุ่ม โดยพรรคจะเชิญให้ผู้นำในด้านต่างๆ เข้ามาร่วมงานต่อไป โดยคนที่จะเข้ามาอบรบกับสถาบัน จะได้รับความรู้ในหลายๆเรื่อง ไม่ใช่การเมืองอย่างเดียว ทั้งนี้สถาบันดังกล่าว จะมีไปตลอด และในอนาคตอาจเป็นส่วนหนึ่งในการทำงานของพรรคต่อไป ไม่ได้ตั้งขึ้นมาเฉพาะช่วงที่จะมีการเลือกตั้ง

**"อ๋อย"ขู่ระดมม็อบหากยุบพท.

วานนี้ ที่คณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ (มธ.) นายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวในการเสวนาเรื่อง "การเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรม กับอนาคตสังคมและการเมืองไทย : มุมมองจากพรรคการเมือง" จัดโดยเครือข่ายประชาชนที่ต้องการการเลือกตั้งที่เสรี เป็นธรรม และมีผลในทางปฏิบัติ (FFFE) ตอนหนึ่ง ว่า เมื่อดูจากข้อเท็จจริงทุกอย่างทำให้เห็นว่า ไม่มีความเป็นไปได้ที่เราจะถูกยุบพรรค

"ถ้าถูกยุบก่อนเลือกตั้ง เราก็มีที่ไป เพราะมีพรรคการเมืองที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยเช่นกัน เราก็ไปอยู่กับเขาได้ แต่สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด คือ ถ้ายุบพรรคในวันที่เราไปสมัคร ส.ส. และเข้าสู่วันเลือกตั้งแล้ว จะทำให้เราหมดสิทธิ์ทันที หากเกิดเช่นนั้นจริง ผมจะเชิญกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย จะออกมาต่อต้าน และขอให้ผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทยทุกคน ไปสนับสนุนทุกพรรคที่ต่อต้านในเรื่องนี้เช่นกัน " นายจาตุรนต์ กล่าว และว่า สิ่งสำคัญ คือการที่ผู้ยึดอำนาจ ไม่ต้องการให้เสียของ เขาจึงไม่ให้พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล และเขาทำให้ทุกพรรคไม่มีความหมายต่อการกำหนดอนาคตของประเทศอีกต่อไป พรรคเพื่อไทยยินดีร่วมกับทุกพรรค ที่ต่อต้านหรือขัดขวางการสืบทอดอำนาจของคสช.

** "ยงยุทธ-ตุ๊ดตู่" ร่วมเปิดตัว"เพื่อชาติ"

วันเดียวกันนี้ ที่ห้างอิมพิเรียลสำโรง พรรคเพื่อชาติ จัดประชุมใหญ่สามัญ ครั้งที่ 2/2561 มี นายเถลิงยศ บุตุคำ หัวหน้าพรรคเป็นประธาน การประชุม เพื่อแก้ไขข้อบังคับพรรค เรื่องโลโก้พรรค และเปิดรับสมัครสมาชิกพรรค

ในงานนี้มี นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานรัฐสภา นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย แกนนำ นปช. นำโดย นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. มาร่วมสังเกตการณ์ การประชุม

นายยงยุทธ กล่าวว่า ตนมาเป็นกองเชียร์เท่านั้น ไม่ต้องกังวลว่าจะเข้ามายุ่งเกี่ยวเรื่องนโยบาย หรือเรื่องใดๆ ของพรรค ส่วนหัวหน้าพรรคนั้น เป็นเรื่องของผู้บริหาร ที่จะมีการประชุมใหญ่อีกครั้งในเดือน พ.ย.นี้ ทั้งนี้ แนวทางของพรรคคือ การเป็นพรรคเกาะกลาง ถ้าไปยืนซ้ายหรือขวาแล้วประกาศว่าเป็นกลาง ประชาชนจะไม่สบายใจ ส่วนจะเป็นพรรคนอมินี หรือเป็นสาขาหนึ่งของพรรคเพื่อไทย หรือไม่นั้น เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์

ด้านนายจตุพร กล่าวว่า ตนมาในฐานะกองเชียร์ เพื่อให้กำลังใจ พรรคเพื่อชาติ เพราะมองว่าพรรคเพื่อชาติ เปิดกว้างให้กับทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใด ภายใต้หลักการต้องมีความศรัทธา เชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตย มาร่วมกันหาทางออกให้กับชาติบ้านเมือง

"ถ้าไม่คุยกัน ไม่ร่วมกันหาทางออกหลังจากเลือกตั้งปัญหาก็ยังไม่จบ ชนะเลือกตั้ง ก็ปกครองไม่ได้ แพ้ก็มีปัญหา ดังนั้นเมื่อพรรคเพื่อชาติ เปิดประตู ยื่นไมตรีให้ทุกฝ่าย และศรัทธาเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตย ก็เห็นทางแก้ปัญหาชาติ และพร้อมคุยกับทุกฝ่าย" นายจตุพร กล่าว

เมื่อถามว่า พรรคเพื่อชาติ พร้อมจะคุยกับพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ด้วยหรือไม่ นายจตุพร กล่าวว่า เคยเสนอมาแล้วว่า ถ้าพรรคการเมืองไม่ได้คุยกัน จะเกิดวิกฤตในวันข้างหน้า โดยต้องมีผู้มีอำนาจมาร่วมพูดคุยด้วย เพื่อตกลงสัญญาประชาคม หาทางออกให้บ้านเมือง เพราะปัญหาของชาติ คือการไม่คุยกัน ดังนั้นเมื่อเราอาสา และประชาชนเป็นผู้กำหนด ประเทศจึงเดินไปได้

"วันนี้ใครจะเป็นอย่างไร มีประวัติความเป็นมาอย่างไร ไม่สำคัญ ขอให้ศรัทธาเชื่อมั่นในประชาธิปไตย เราก็พร้อมที่จะคุย และพรรคเพื่อชาติเปิดกว้าง" นายจตุพร กล่าว


**ชพน.เปิดตัว"แม่หลวงกุ้ง" ร่วมทีม

น.ส.เยาวภา บุรพลชัย รองโฆษกพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ น.ส.สุพัตรวี อยู่แพทย์ หรือ แม่หลวงกุ้ง อดีตผู้ใหญ่บ้านที่สวยที่สุดในประเทศไทย ได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคชพน.แล้ว ถือว่าเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ ที่มีความคิดและแนวทางการทำงานสอดคล้องการอุดมการณ์ของพรรคที่ทำงานไม่ขัดแย้ง และต้องการทำงานเพื่อประชาชน

ด้าน น.ส.สุพัตรวี กล่าวถึงการตัดสินใจสมัครเข้าร่วมสมาชิกพรรคชพน. ว่า เป็นการสานฝันตนเองที่ต้องการทำงานเพื่อประชาชน เพราะตนชอบทำงานด้านจิตอาสาเพื่อสังคม

"ในอดีตเคยเป็นผู้ใหญ่บ้าน บ้านหนองหอย อ.เมืองฯ จ.เชียงใหม่ มา 3 ปี ซึ่งในหมู่บ้านมี 600 ครัวเรือน ดูแลประชาชนประมาณ 1,500 คน แต่เนื่องจากการเป็นผู้ใหญ่บ้าน จึงยังไม่สามารถทำงานด้านอาสาได้อย่างเต็ม ที่ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ เพราะด้วยกรอบของพื้นที่ที่รับผิดชอบ และขาดการสนับสนุนจากกลุ่มองค์กรที่เกี่ยวข้อง จึงได้ลาออก โดยยังคงทำงานเกี่ยวกับชุมชนจิตอาสาเพื่อสังคมเสมอมา ต่อมาเมื่อการเมืองคลายล็อก ให้พรรคการเมืองเปิดรับสมัครสมาชิกได้ จึงขอเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคชาติพัฒนา เพราะชอบพรรคชาติพัฒนา ที่มีความเป็นกลาง ไม่มีความขัดแย้ง เน้นการทำงานสร้างสรรค์ประเทศชาติ ทำเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง" แม่หลวงกุ้ง กล่าว

** หนุน"หญิงหน่อย"ชูธงนำ"เพื่อไทย"

นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า สนับสนุนแนวทางของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่ได้แสดงจุดยืนอย่างชัดเจน ในการปฏิเสธการมีส่วนร่วมต่อท่ออำนาจเผด็จการทุกรูปแบบ ล่าสุดคือ การประกาศว่าไม่พร้อมจะร่วมงานกับพล.อ.ประยุทธ์ ไม่ว่ากรณีใดๆ คำพูดนี้คือสัญญาประชาคม ที่พรรคเพื่อไทย และคนของพรรค ได้สื่อสารกับพี่น้องประชาชนอย่างคงเส้นคงวา โดยไม่เคยบิดพลิ้ว

ก่อนหน้าจะปฏิเสธการร่วมงานกับเผด็จการ คุณหญิงสุดารัตน์ เคยแสดงท่าทีต่อการร่วมงานกับพรรคการเมือง ว่า "ผู้ที่จะมาทำงานร่วมกัน จะต้องศรัทธาในระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ไม่ใช่ศรัทธาเป็นบางช่วง เช่น แพ้เลือกตั้ง ก็กวักมือเรียกทหารมาปฏิวัติ หรือไปตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร" ในที่สุด ก็มีหัวหน้าพรรคการเมืองบางพรรค แสดงท่าทีว่า สามารถร่วมงานกับ พล.อ.ประยุทธ์ได้

ไม่ว่า ใครจะมีความเห็นต่อ คุณหญิงสุดารัตน์ อย่างไร แต่เกือบยี่สิบปีที่ผมได้ทำงานใกล้ชิดกับ “คุณหญิงหน่อย”ทำให้เห็นแนวคิด และจุดยืนของเธอ ที่ผมต้องเคารพ เพราะเธอปฏิเสธเผด็จการ รวมถึงครรลองที่มิได้เป็นไปตามแนวทางประชาธิปไตยมาโดยตลอด อันเป็นจุดยืนเดียวกันกับที่ผมได้ต่อสู้ ดังนั้น หากคุณหญิงจะถือธงนำพรรคเพื่อไทย เพื่อทวงคืนอำนาจกลับคืนสู่ประชาชน ผมก็ว่า สมศักดิ์ศรี ครับ

**"อนาคตใหม่"งัดเคมเปญปั่นจักรยาน

วานนี้ (14 ต.ค.) ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรค พร้อมสมาชิกพรรค ร่วมปั่นจักรยานในแคมเปญ “Bike for the Future”หาเพื่อนร่วมทาง สร้างอนาคตใหม่ทั่วไทย โดยมีจุดเริ่มต้นที่ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ไปยังภาคตะวันออก และ จะมีโครงการปั่นจักรยานไปยังทุกภาคของประเทศไทย รวมระยะทางกว่า 7,300 กม. เพื่อรับสมัครสมาชิก โดยเตรียมใบสมัครไปกับคาราวานจักรยานด้วย

นายธนาธร กล่าวว่า การปั่นจักรยานเพื่อรับสมัครสมาชิก ถือเป็นการทำการเมืองแบบใหม่ ที่สร้างสรรค์ เพื่อพิสูจน์ว่าการมีส่วนร่วมทางการเมือง การทำกิจกรรมทางการเมือง ทำได้หลากหลาย และเข้าถึงง่ายกว่าที่เคยมี เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนเปลี่ยนมุมมอง ทัศนคติที่มีต่อพรรคการเมือง และนักการเมือง รวมถึงกลับมาเชื่อมั่นในประชาธิปไตยอีกครั้ง

ทั้งนี้นายธนาธร และ น.ส.พรรณิการ์ ได้ร่วมปั่นจักรยานในระยะแรก จากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ไปถึงจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เนื่องจากมีภารกิจเข้าร่วมกิจกรรมรำลึก 14 ตุลาฯ ที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ แต่คณะนักปั่นจักรยานจะปั่นต่อไปถึงบางแสน โดยจะถึงบางแสน ในช่วงเย็น และขบวนคาราวานจักรยาน จะปั่นไปในภูมิภาคต่างๆ จนถึงวันที่ 5 ธ.ค.นี้