"พันศักดิ์" สารภาพลั่นไกสังหาร "เสี่ยปั๊มน้ำมัน" พร้อมเมีย หลังถูกตำรวจสอบเครียด นานกว่า 10 ชม. สอดคล้องกับภรรยาผู้ตาย ที่ได้รับบาดเจ็บ ให้ปากคำวินาทีแกล้งตาย ก่อนเห็นหน้าไอ้โม่งมือปืน พร้อมชี้ตัวผู้ต้องหาถูกต้อง ตำรวจเตรียมส่งฝากขังแล้ว เพิ่มกำลังคุมตัวหวั่นทำร้ายตัวเอง
ผู้สึ่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้า คดียิงเสี่ยปั๊มน้ำมัน จ.สระแก้ว ล่าสุด พล.ต.ต.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร รอง ผบช.ภ.2 เปิดเผยภายหลังจากการสอบสวนกว่า 10 ชม.ว่า นายพันศักดิ์ รับสารภาพว่าเป็นคนลงมือยิง นายประชา วรทัด เจ้าของปั๊มน้ำมันศรีสุวรรณรุ่งเรือง และยิงนางปริดา วรทัด ภรรยานายประชา บาดเจ็บสาหัส เมื่อวันที่ 30 ก.ย. ที่ผ่านมา ประกอบกับการให้ปากคำของ นางปาลิดา ว่าเห็นนายพันศักดิ์ ตอนที่ลงมือยิงแล้วได้ถอดหมวกไหมพรม ออกดูว่าเหยื่อกระสุน ตายหรือไม่ โดยนางปาลิดา แกล้งนอนตาย อนึ่งส่วนตัวเคยเห็นนายพันศักดิ์ มาหาเสี่ยท้ง บ้าง แต่ไม่ทราบว่าเป็นคนร้ายหลบหนีคดี
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้นำตัว นางปาลิดา (คนเจ็บ) มาชี้ตัวผู้ต้องหาปะปนกับผู้อื่นอีก 5 คน ซึ่งก็ได้ชี้ตัวถูกต้อง และหลังจากนั้น ชุดร้อยคุมฝูงชุน จำนวนหนึ่ง ได้เดินทางออกไปหาเสื้อผ้าที่ นายพันศักดิ์ ทิ้งไว้หลังลงมือก่อเหตุเมื่อ วันที่ 30 ก.ย. บริเวณ ต.เขาสิงโต อ.เมืองฯ จ.สระแก้ว
อย่างไรก็ตาม วันนี้ (15ต.ค.) เวลา 10.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ จะนำตัวนายพันศักดิ์ และนางธนาพร ไปยื่นฝากขังที่ศาลจังหวัดสระแก้ว ระหว่างการพิจารณาคดี พร้อมกำชับชุดควบคุมฝูงชน ที่คุมตัวไป ให้ระวังผู้ต้องหาแย่งปืน หรือทำร้ายตัวเอง ระหว่างการนำส่งด้วย
ก่อนหน้านี้ นายพันศักดิ์ เคยให้การตอนถูกจับกุมว่า ได้รับการว่าจ้าง ในราคา 1 แสนกว่าบาท จากนายดำรงค์ฤทธิ์ กิตติวราภรณ์ หรือ เฮียท้ง อายุ 66 ปี ชายพิการที่ฆ่าตัวตาย โดยการเข็นรถวีลแชร์ลงหนองน้ำ ในที่นาของอดีตลูกน้องที่ จ.อำนาจเจริญ เมื่อวันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา ให้ไปยิง นายประชา แต่ นายพันศักดิ์ อ้างว่าไม่ได้เป็นคนลงมือยิงเอง แค่เป็นคนจัดหาปืนมาให้มือปืนที่รับช่วงต่ออีก 2 คน ไปยิงแทน ส่วนสาเหตุที่รับงานนี้ เพราะมีความสนิทสนมกับเฮียท้ง มาตั้งแต่ตอนที่รับราชการตำรวจอยู่ หยิบยืมเงินเป็นประจำ รวมทั้งยังได้รับการช่วยเหลือ เรื่องเงินระหว่างที่หลบหนีอีกด้วย เมื่อเฮียท้ง ขอความช่วยเหลือจึงรับงานดังกล่าว
ทั้งนี้ นายพันศักดิ์ เคยก่อนคดีฆาตกรรมมาแล้วหลายคดี และเคยเป็นตำรวจนักสืบ ที่พัวพันการอุ้มฆ่าสองแม่ลูกตระกูลศรีธนะขัณฑ์ ในคดีเพชรซาอุฯ หลังจากพ้นโทษออกมา เมื่อปี 55 ได้ก่อคดีซ้ำหลายคดี โดยมีคดีอุกฉกรรจ์ คือ การอุ้มฆ่า นายชัยชนะ หมายงาน หรือ “เสี่ยอ้วน”เจ้าของบริษัท ส่งเสริมสองแผ่นดิน จำกัด ที่ประกอบธุรกิจนำเข้าและส่งออกสินค้าระหว่างไทย-กัมพูชา และเป็นผู้กว้างขวางในตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่งคดีดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 ก.ค. 56 โดยเสี่ยอ้วน ถูกอุ้มไปฆ่า และเผาทิ้งในพื้นที่ อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ต่อมาเจ้าหน้าที่สามารถจับกุม นายพันศักดิ์ ร่วมกับพวกอีก 4 คนได้ และเข้าสู่กระบวนการในชั้นศาล โดยศาลจังหวัดสระแก้ว พิพากษาประหารชีวิต แต่นายพันศักดิ์ ได้หลบหนีก่อนที่จะมีการอ่านคำพิพากษา ซ้ำยังกลับมาก่อคดีฆ่าเจ้าของปั๊มน้ำมัน ซ้ำอีก
ผู้สึ่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้า คดียิงเสี่ยปั๊มน้ำมัน จ.สระแก้ว ล่าสุด พล.ต.ต.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร รอง ผบช.ภ.2 เปิดเผยภายหลังจากการสอบสวนกว่า 10 ชม.ว่า นายพันศักดิ์ รับสารภาพว่าเป็นคนลงมือยิง นายประชา วรทัด เจ้าของปั๊มน้ำมันศรีสุวรรณรุ่งเรือง และยิงนางปริดา วรทัด ภรรยานายประชา บาดเจ็บสาหัส เมื่อวันที่ 30 ก.ย. ที่ผ่านมา ประกอบกับการให้ปากคำของ นางปาลิดา ว่าเห็นนายพันศักดิ์ ตอนที่ลงมือยิงแล้วได้ถอดหมวกไหมพรม ออกดูว่าเหยื่อกระสุน ตายหรือไม่ โดยนางปาลิดา แกล้งนอนตาย อนึ่งส่วนตัวเคยเห็นนายพันศักดิ์ มาหาเสี่ยท้ง บ้าง แต่ไม่ทราบว่าเป็นคนร้ายหลบหนีคดี
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้นำตัว นางปาลิดา (คนเจ็บ) มาชี้ตัวผู้ต้องหาปะปนกับผู้อื่นอีก 5 คน ซึ่งก็ได้ชี้ตัวถูกต้อง และหลังจากนั้น ชุดร้อยคุมฝูงชุน จำนวนหนึ่ง ได้เดินทางออกไปหาเสื้อผ้าที่ นายพันศักดิ์ ทิ้งไว้หลังลงมือก่อเหตุเมื่อ วันที่ 30 ก.ย. บริเวณ ต.เขาสิงโต อ.เมืองฯ จ.สระแก้ว
อย่างไรก็ตาม วันนี้ (15ต.ค.) เวลา 10.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ จะนำตัวนายพันศักดิ์ และนางธนาพร ไปยื่นฝากขังที่ศาลจังหวัดสระแก้ว ระหว่างการพิจารณาคดี พร้อมกำชับชุดควบคุมฝูงชน ที่คุมตัวไป ให้ระวังผู้ต้องหาแย่งปืน หรือทำร้ายตัวเอง ระหว่างการนำส่งด้วย
ก่อนหน้านี้ นายพันศักดิ์ เคยให้การตอนถูกจับกุมว่า ได้รับการว่าจ้าง ในราคา 1 แสนกว่าบาท จากนายดำรงค์ฤทธิ์ กิตติวราภรณ์ หรือ เฮียท้ง อายุ 66 ปี ชายพิการที่ฆ่าตัวตาย โดยการเข็นรถวีลแชร์ลงหนองน้ำ ในที่นาของอดีตลูกน้องที่ จ.อำนาจเจริญ เมื่อวันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา ให้ไปยิง นายประชา แต่ นายพันศักดิ์ อ้างว่าไม่ได้เป็นคนลงมือยิงเอง แค่เป็นคนจัดหาปืนมาให้มือปืนที่รับช่วงต่ออีก 2 คน ไปยิงแทน ส่วนสาเหตุที่รับงานนี้ เพราะมีความสนิทสนมกับเฮียท้ง มาตั้งแต่ตอนที่รับราชการตำรวจอยู่ หยิบยืมเงินเป็นประจำ รวมทั้งยังได้รับการช่วยเหลือ เรื่องเงินระหว่างที่หลบหนีอีกด้วย เมื่อเฮียท้ง ขอความช่วยเหลือจึงรับงานดังกล่าว
ทั้งนี้ นายพันศักดิ์ เคยก่อนคดีฆาตกรรมมาแล้วหลายคดี และเคยเป็นตำรวจนักสืบ ที่พัวพันการอุ้มฆ่าสองแม่ลูกตระกูลศรีธนะขัณฑ์ ในคดีเพชรซาอุฯ หลังจากพ้นโทษออกมา เมื่อปี 55 ได้ก่อคดีซ้ำหลายคดี โดยมีคดีอุกฉกรรจ์ คือ การอุ้มฆ่า นายชัยชนะ หมายงาน หรือ “เสี่ยอ้วน”เจ้าของบริษัท ส่งเสริมสองแผ่นดิน จำกัด ที่ประกอบธุรกิจนำเข้าและส่งออกสินค้าระหว่างไทย-กัมพูชา และเป็นผู้กว้างขวางในตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่งคดีดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 ก.ค. 56 โดยเสี่ยอ้วน ถูกอุ้มไปฆ่า และเผาทิ้งในพื้นที่ อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ต่อมาเจ้าหน้าที่สามารถจับกุม นายพันศักดิ์ ร่วมกับพวกอีก 4 คนได้ และเข้าสู่กระบวนการในชั้นศาล โดยศาลจังหวัดสระแก้ว พิพากษาประหารชีวิต แต่นายพันศักดิ์ ได้หลบหนีก่อนที่จะมีการอ่านคำพิพากษา ซ้ำยังกลับมาก่อคดีฆ่าเจ้าของปั๊มน้ำมัน ซ้ำอีก