วานนี้ (11 ต.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ธนา ชูวงศ์ รรท.ผบช.ภ.7 พร้อมด้วยชุดสืบสวนสอบสวน สภ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ควบคุมตัว นายอนุสรณ์ เรือนงาม หรือ อส.ออย ผู้ต้องหาล่าหมีขอ และ นายตาต้า ชาวกระเหรี่ยง สัญชาติเมียนมาร์ ที่รับสารภาพว่าเป็นคนลั่นไกยิงหมีขอ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าวังใหญ่และป่าแม่น้ำน้อย เขตอุทยานแห่งชาติไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี เข้าพบพล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพรามณกุล รองผบ.ตร. เพื่อให้สอบปากคำเพิ่มเติม หลังเมื่อช่วงค่ำ วันที่ 10 ต.ค ที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.ไทรโยค ได้ควบคุมตัวนายตาต้า และสอบปากคำเบื้องต้น รวมทั้งนำตัวไปชี้จุดยิงหมีขอ
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวภายหลังสอบปากคำว่า เบื้องต้น นายตาต้า รับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือยิงหมีขอ จนตกลงมาจากต้นไม้ จากนั้นนำไปที่จุดชำแหละ โดยมีนายจีระ ไม่ทราบนามสกุล สัญชาติเมียนมาร์ เป็นคนชำแหละ และมีนายอนุสรณ์ หรือ อส.ออย เป็นผู้นำซากสัตว์ไปทิ้งลงน้ำ บริเวณลำห้วย ทั้งนี้ ในวันเกิดเหตุ มีชาย 2 คน ในกลุ่มเดียวกับปลัดอำเภอด่านมะขามเตี้ย อ้างตัวว่าเป็น ตำรวจด้วย ขณะนี้มีผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 14 ราย สามารถจับกุมตัวได้ 13 ราย เหลือผู้ต้องอีก 1 ราย ที่ยังต้องติดตามตัวคือ นายจีระ ชาว อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ส่วนผู้ที่เกี่ยวข้องซึ่งเป็นเด็กที่มากับคณะ ตำรวจไม่ได้ดำเนินคดีกับเด็กที่เป็นผู้นำปืนจากผู้ต้องหากลับมาไว้ที่บ้าน เพราะตามกม. ไม่สามารถดำเนินคดีกับเด็กได้ แต่กระบวนการสอบสวนการสอบปากคำ จะต้องดำเนินต่อไป ฉะนั้นที่มีสื่อมวลชนนำเสนอว่า ตนสั่งให้ดำเนินคดีกับเด็ก จับเด็ก เป็นการเข้าใจผิด เพราะกม.ยกเว้นโทษสำหรับเด็ก
"ตำรวจได้พยานหลักฐานเกือบครบถ้วนแล้ว มีวัตถุพยานทั้งหมด 15 รายการ รวมถึงปลอกกระสุนปืน และซากสัตว์ และได้สั่งให้ไปหาชิ้นส่วนหัวของหมีขอ ที่นายตาต้า อ้างว่านายจีระ นำไปทิ้งในลำห้วย ส่วนบริเวณส่วนกรามของหมีขอ ได้โยนให้สุนัขที่สำนักสงฆ์กิน นอกจากนี้ ให้หาคราบเลือดของหมีขอในจุดเกิดเหตุ แต่ยอมรับว่า ก่อนหน้านี้มีฝนตกลงมา อาจจะทำให้คราบเลือดหายไป ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ไปตรวจสอบเพิ่มเติมแล้ว และขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการตรวจ ดีเอ็นเอ จากซากสัตว์ป่า ที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กำลังดำเนินการอยู่" รองผบ.ตร.กล่าว และว่ากล่าวว่า คดีนี้มั่นใจว่า จากพยานหลักฐาน พนักงานสอบสวน และอัยการ จะสามารถสั่งฟ้องผู้ต้องหาได้ทุกคน ทุกข้อหา ยกเว้น นายจีระ ที่เกี่ยวข้องเพียงชำแหละซากหมีขอ ซึ่งอยู่ระหว่างการหลบหนี
ส่วนการที่ นายตาต้า รับสารภาพว่าเป็นผู้ยิง จะทำให้ผู้ต้องหารายอื่นๆรับโทษน้อยลงหรือไม่นั้น พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ เป็นดุลยพินิจของศาล อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าหมีขอจะไม่ตายฟรี เนื่องจากมีพยานวัตถุ พยานบุคคล ครบถ้วน สามารถทำให้เชื่อได้ว่า ผู้ต้องหามีการกระทำความผิดจริง มั่นใจจะเอาผิดได้ทุกคน ทุกข้อหา ทั้งนี้ ได้สั่งให้ตำรวจเข้าไปสืบสวนขยายผลเพิ่มเติมในประเด็นที่สังคมสังสัยว่ามีเจ้าหน้าที่อุทยานเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการชี้เป้าให้กลุ่มผู้ต้องหายิงหมีขอ หรือไม่ และจะสอบสวนว่ามีเจตนาเข้ามายิงหมีขอ แต่แรกหรือไม่ พร้อมทั้งตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของผู้ต้องหา รวมถึงร้านค้า ที่ผู้ต้องหากล่าวอ้างว่าซื้อวัตถุดิบมาประกอบอาหาร ภายในอุทยาน
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวภายหลังสอบปากคำว่า เบื้องต้น นายตาต้า รับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือยิงหมีขอ จนตกลงมาจากต้นไม้ จากนั้นนำไปที่จุดชำแหละ โดยมีนายจีระ ไม่ทราบนามสกุล สัญชาติเมียนมาร์ เป็นคนชำแหละ และมีนายอนุสรณ์ หรือ อส.ออย เป็นผู้นำซากสัตว์ไปทิ้งลงน้ำ บริเวณลำห้วย ทั้งนี้ ในวันเกิดเหตุ มีชาย 2 คน ในกลุ่มเดียวกับปลัดอำเภอด่านมะขามเตี้ย อ้างตัวว่าเป็น ตำรวจด้วย ขณะนี้มีผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 14 ราย สามารถจับกุมตัวได้ 13 ราย เหลือผู้ต้องอีก 1 ราย ที่ยังต้องติดตามตัวคือ นายจีระ ชาว อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ส่วนผู้ที่เกี่ยวข้องซึ่งเป็นเด็กที่มากับคณะ ตำรวจไม่ได้ดำเนินคดีกับเด็กที่เป็นผู้นำปืนจากผู้ต้องหากลับมาไว้ที่บ้าน เพราะตามกม. ไม่สามารถดำเนินคดีกับเด็กได้ แต่กระบวนการสอบสวนการสอบปากคำ จะต้องดำเนินต่อไป ฉะนั้นที่มีสื่อมวลชนนำเสนอว่า ตนสั่งให้ดำเนินคดีกับเด็ก จับเด็ก เป็นการเข้าใจผิด เพราะกม.ยกเว้นโทษสำหรับเด็ก
"ตำรวจได้พยานหลักฐานเกือบครบถ้วนแล้ว มีวัตถุพยานทั้งหมด 15 รายการ รวมถึงปลอกกระสุนปืน และซากสัตว์ และได้สั่งให้ไปหาชิ้นส่วนหัวของหมีขอ ที่นายตาต้า อ้างว่านายจีระ นำไปทิ้งในลำห้วย ส่วนบริเวณส่วนกรามของหมีขอ ได้โยนให้สุนัขที่สำนักสงฆ์กิน นอกจากนี้ ให้หาคราบเลือดของหมีขอในจุดเกิดเหตุ แต่ยอมรับว่า ก่อนหน้านี้มีฝนตกลงมา อาจจะทำให้คราบเลือดหายไป ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ไปตรวจสอบเพิ่มเติมแล้ว และขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการตรวจ ดีเอ็นเอ จากซากสัตว์ป่า ที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กำลังดำเนินการอยู่" รองผบ.ตร.กล่าว และว่ากล่าวว่า คดีนี้มั่นใจว่า จากพยานหลักฐาน พนักงานสอบสวน และอัยการ จะสามารถสั่งฟ้องผู้ต้องหาได้ทุกคน ทุกข้อหา ยกเว้น นายจีระ ที่เกี่ยวข้องเพียงชำแหละซากหมีขอ ซึ่งอยู่ระหว่างการหลบหนี
ส่วนการที่ นายตาต้า รับสารภาพว่าเป็นผู้ยิง จะทำให้ผู้ต้องหารายอื่นๆรับโทษน้อยลงหรือไม่นั้น พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ เป็นดุลยพินิจของศาล อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าหมีขอจะไม่ตายฟรี เนื่องจากมีพยานวัตถุ พยานบุคคล ครบถ้วน สามารถทำให้เชื่อได้ว่า ผู้ต้องหามีการกระทำความผิดจริง มั่นใจจะเอาผิดได้ทุกคน ทุกข้อหา ทั้งนี้ ได้สั่งให้ตำรวจเข้าไปสืบสวนขยายผลเพิ่มเติมในประเด็นที่สังคมสังสัยว่ามีเจ้าหน้าที่อุทยานเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการชี้เป้าให้กลุ่มผู้ต้องหายิงหมีขอ หรือไม่ และจะสอบสวนว่ามีเจตนาเข้ามายิงหมีขอ แต่แรกหรือไม่ พร้อมทั้งตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของผู้ต้องหา รวมถึงร้านค้า ที่ผู้ต้องหากล่าวอ้างว่าซื้อวัตถุดิบมาประกอบอาหาร ภายในอุทยาน