xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวปนคน คนปนข่าว

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ข่าวปนคน คนปนข่าว

**คู่ชิงประยุทธ์!! “ลูกโอ๊ค”สั่นสู้คดีฟอกเงินกรุงไทย ลั่น(ยัง)ไม่เผ่นไปไหน พร้อมปูทางลงลุยการเมือง เดินสายหาเสียงทุกจังหวัด หวังบิ๊วส์กระแสเรียกคะแนนสงสาร แต่ระดับ“ลูกนายใหญ่”แค่“สมาชิกพรรค - ทีมหาเสียง”คงไม่สมศักดิ์ศรี เปิดตัวปังๆ ถือธงนำพรรคเป็น “แคนดิเดตนายกฯ”วัดกับ “ลุงฉุน”ไปเลยดีกว่า

เส้นยาแดงผ่าแปด .. ที่สุด“อัยการ”โดยพนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 ก็ส่งฟ้อง “เสี่ยโอ๊ค”พานทองแท้ ชินวัตร ลูกชายหัวแก้ว ทักษิณ ชินวัตร และพวกในคดี “ฟอกเงินกรุงไทย”เสียที .. เป็นคดีที่ลากยาวราวกับ “มหากาพย์”ทำท่าล้มแหล่ มิล้มแหล่ จนเกือบจะ “หมดอายุความ”ช่วงสิ้นปีนี้ .. หลังจากที่ “อัยการ”เลื่อนการสั่งฟ้องคดีมารอบ เมื่อเดือนก่อน โยน“เผือกร้อน”กลับไปที่ต้นเรื่องอย่าง“ดีเอสไอ”เพื่อให้ไต่สวนบางประเด็นให้สิ้นสงสัย .. ก็เคยมีผู้ตั้งข้อสังเกตเหมือนกันว่า สำนวนที่ออกจาก “ดีเอสไอ”เข้าข่าย “หลวมโพรก”จน“อัยการ”ร้องจ๊าก .. ก็เลยต้องโยนกันไปมา ในอารมณ์ว่า ต่าง คนต่างไม่อยากให้มา "น็อกมืด”คามือตัวเอง .. ดีที่เป็นคดีที่กระแสสังคมจับตาต่อเนื่อง ผนวกกับ“สายด่วนตึกไทยฯ”ที่ทุบโต๊ะ “เล่นแ...เลย” ..จนสำนวนคดีไปถึงศาลสถิตย์ ยุติธรรมในที่สุด เรื่องรายละเอียดคดีก็คงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ“ฝ่ายตุลาการ”ว่าไปตามกระบวนการ .. ที่น่าสนใจเป็นท่าทีของ “พานทองแท้”ในฐานะ “ลูกบิ๊กบอส”ที่ถูกหลอนมานาน และรู้ตัวอยู่แล้วว่า จะถูกเอาคอไปพาดเขียง .. เมื่อภัยมาถึงตัว ก็เลย “พลิกวิกฤตเป็นโอกาส” บิ๊วส์กระแส “ลุงฉุน”ยั่วอารมณ์ “ลุงตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช. .. กับการโพสต์ข้อความท้าทาย ผ่านเฟซบุ๊ก อ้างว่ามีเสียงคำราม "เอาคดีปักมันไว้ มันจะได้ไม่อยู่ให้รำคาญใจ ช่วงเลือกตั้ง..!! .. สร้างกระแส “ไม่ได้รับความเป็นธรรม”สุดฤทธิ์ เทียบเคียงกับ“บุคคลอื่น”อีกร้อยกว่าราย ที่ทำธุรกรรมการเงินจาก “เงินกู้กรุงไทย”ก้อนเดียวกัน .. ประมาณว่าถ้าตัวเองผิด คนอื่นก็ผิดด้วย จนอาจลืมนึกไปว่า “บุคคลอื่น”ได้มีการชี้แจงกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ “ดีเอสไอ”จนสิ้นสงสัย .. หากมี “พิรุธ” หรือส่อมีความผิดเหมือน “เช็ค 10 ล้าน” ที่ตัวเองเอาไปเข้าบัญชีจริง ป่านนี้ “ดีเอสไอ” ก็คงมีความเห็น “สั่งฟ้อง”ไปนานแล้ว ..
อย่าลืมว่า คดีนี้อยู่ในมือ “ดีเอสไอ”มาตั้งแต่ปี 2550 นู่น ผ่านรัฐบาลที่ “พ่อแม้ว”อยู่เบื้องหลังมากี่รัฐบาล .. หนึ่ง ถ้าคนอื่นมีมูล ก็คงไม่รอด สอง ถ้าคดีของ “ลูกบิ๊กบอส”ไร้น้ำหนัก ก็คงเป่าออกจากสารบบ ไม่คาเป็นชนักมาถึงตอนนี้ .. ในโพสต์เดียวกัน “ยอดชายนายโอ๊ค”ก็พยายามเอาเรื่องคดีความตัวเอง ไปโยงกับ“การเมือง”ในจังหวะที่กำลังจะมีการเลือกตั้ง .. บอกว่า“ฝันไปเถอะครับลุงฉุน”พร้อมประกาศด้วยว่า “เราจะไม่เผ่นกัน” .. ก็แหงแซะซิ เผ่นตอนนี้ทำไมให้เสียสุนัข ก็คดีมีเวลาให้สู้เต็ม“สามศาล”อีกกี่ปีจะจบ ก็ไม่รู้ รอเผ่นนาทีสุดท้ายแบบ “อาปู”ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ยังทัน .. ไม่เท่านั้น ยังปูถนนสายการเมืองให้ “ตัวเอง”บอกว่า จะชวนทุกคนในบ้านมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคฯ กันด้วย พรรคไหนไม่ระบุ แต่บอกว่า จะไปช่วยหาเสียงทุกจังหวัด .. หัวข้อหาเสียงก็เดาสคริปต์ไว้ล่วงหน้าเลยว่า คงไม่ต่างจากการเปรียบตัวเองเป็น“พจมาน สว่างวงศ์”แห่งนวนิยายอมตะ บ้านทรายทอง ที่ถูกกลั่นแกล้งสารพัด เรียก “คะแนนสงสาร”ไปเรื่อย .. แต่ระดับ “ลูกนายใหญ่”จะเล่นการเมืองทั้งที เป็นแค่“สมาชิกพรรค - ทีมหาเสียง”ไม่น่าจะสมศักดิ์ศรี .. เปิดตัวถือธงนำพรรค เป็น “หัวหน้าพรรค”หรือเป็น“แคนดิเดตนายกฯ”วัดกับ “ลุงฉุน”ไปเลยดีกว่า.

**แดงแตกเป็นเสี่ยง!! “จตุพร”ไร้ที่ยืนใน “เพื่อไทย”แยกตัวไปตั้ง “เพื่อชาติ”หัก“ณัฐวุฒิ-ธิดา”ที่ออกโรงค้านไม่เลิก ตัดฉับ“เสื้อแดง”ไม่เกี่ยวกับพรรคใหม่ แยกกันเดินด้วยสถานะปัจจุบันต่างกัน“พี่ตู่”โดนแบนยาว “น้องเต้น”ยิ่งทางสะดวก จองปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ต้น พ่วง รมต.โควตาแดง ก็เหมือน “ป้าธิดา”ที่หวังส่ง “คุณสา”เป็นผู้แทนอีกหน

จบแล้วนะ .. ยืนยันอีกเสียงจาก จตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. ที่ระบุว่า การตั้ง “พรรคเพื่อชาติ”ไม่เกี่ยวกับ สนธิ ลิ้มทองกุล หรือ อดีตพระพุทธะอิสระ แต่ประการใด .. หมดประเด็นที่ “จอมเสี้ยม - เซียนเต้าข่าว”จะไปปั้นเรื่อง หวังผลพลอยได้อะไรอีก .. ต่อแต่นี้ไป อะไรเกี่ยวกับ“พรรคเพื่อไทย”ก็ว่ากันไปเพียวๆ ระหว่าง“จตุพร”กับ “ยุทธ ตู้เย็น”ยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานรัฐสภา ที่ออกหน้าเป็นแกนนำ .. ที่เห็นว่ามี“ประชุมนอกรอบ” ฐานทัพใหญ่คนเสื้อแดง ที่อิมพิเรียล ลาดพร้าว ไปเมื่อวันก่อน .. วางตัวคนกันเรียบร้อย ทั้ง นพดล ปัทมะ อดีตทนายความส่วนตัวของ“นายใหญ่ดูไบ”ใน ตำแหน่งหัวหน้าพรรค .. หรือบัญชีผู้เสนอเป็นนายกฯ ก็ได้หมดแล้ว ทั้ง "ชัชชาติ สิทธิพันธุ์-ทนง พิทยะ" รวมทั้ง "ว่าที่หัวหน้านพดล" ที่อยู่ในลำดับที่ 3 .. เรียกว่าแต่ละชื่อ “ตัวท๊อปๆ”ทั้งนั้น แต่ไม่รู้ว่าแต่ละคนรู้ตัว และยินยอมพร้อมใจด้วยไหม .. แต่อย่างน้อยๆ ก็สร้างราคา-เพิ่มเสน่ห์ให้ “พรรคเพื่อชาติ”ไม่มากก็น้อย ทั้งในแง่ตัวบุคคลที่จะมาร่วม .. ทั้งในแง่ “นายทุน”ที่ดูจะอุ่นใจได้ เมื่อมีร่างเงาของ สงคราม กิจเลิศไพโรจน์ เจ้าของห้างอิมพิเรียล นายทุนใหญ่เสื้อแดง เป็นแบ็กให้อยู่แล้ว ..
ดูเหมือนการกำเนิดเกิดขึ้นของ “พรรคเพื่อชาติ”หาได้สร้างความหนักใจ หรือไปทิ่มตาคู่แข่งในสนามเลือกตั้ง .. กลับกลายเป็นสร้างความไม่สบายใจให้กับ “คนกันเอง”มากกว่า ทั้งในส่วนของ “พรรคเพื่อไทย”ที่แว่วๆ ว่า ไม่ค่อยเห็นด้วยกับยุทธศาสตร์ “รวมกันแพ้ แยกกันชนะ”ของ “ตู่-จตุพร”..หนักไปกว่านั้น คงเป็นปีกของ “คนเสื้อแดง”เอง ทั้ง "เสี่ยเต้น" ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ หัวขบวนสู้แล้วรวย ที่เคยแย้ง “พี่ตู่”ไปหลายหน .. กระทั่งยังเคยออกมาสวนกันหนักๆ เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน ในประเด็น “รัฐบาลเฉพาะกาล” .. หลัง "จตุพร" โผล่ไปร่วมโต๊ะแถลงข่าว "ทางออกประเทศไทย" ของ "พ่อใหญ่จิ๋ว" พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯ คลอดไอเดีย "รัฐบาลเฉพาะกาล-เซตซีโรการเมืองไทย" ออกมา .. จน "เสี่ยเต้น" ออกมาสวนแบบไม่ไว้หน้าทันทีว่า "รัฐบาลเฉพาะกาล" ไม่เป็นไปตามหลักประชาธิปไตย ส่อเจตนา "ล้มเลือกตั้ง".. พลันที่มีข่าว “พรรคเพื่อชาติ”ที่มีชื่อ “พี่ตู่”เป็นแกนนำหลัก ก็เป็น “น้องเต้น”อีกที่ออกมา “ตีกัน”ตลอด บอกว่าได้ยินไอเดียนี้มาตั้งแต่ที่ “พี่ตู่”ออกมาจากเรือนจำ .. แต่ก็ได้ระบุชัดไม่ใช่ “พรรคเสื้อแดง” และ นปช. ไม่เคยร่วมหารือด้วยเหมือนลืมไปว่า “พี่ตู่”ยังสวมหมวกประธาน นปช.อยู่ .. ตามมาด้วย ธิดา ถาวรเศรษฐ อดีตประธาน นปช. ที่ต้องรีบออกแถลงการณ์ ชี้แจงว่า นปช.ไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อชาติ .. ส่วนใครจะไปประชุมองค์กร เพื่อจัดตั้งพรรคการเมืองใดๆ ถือเป็น “สิทธิส่วนตัว” ..
“รอยร้าว”ที่เกิดขึ้น ก็คงมาจาก “สถานะ”ของแกนนำแดง ที่ต่างกันในตอนนี้ .. ตัว “จตุพร”เอง พ้นโทษคดีหมิ่นประมาทออกมา ก็โดนตัดสิทธิ์ทางการเมืองยาวๆ อีก 10 ปี อีกทั้งทายาททางการเมืองอะไรในพรรคเพื่อไทย ก็ไม่มี เรียกว่าไร้ที่ยืนในพรรค คงไม่ผิด .. กลับกัน “ณัฐวุฒิ”แม้ยังมีคดีเผาบ้านเผาเมืองค้างคาอยู่ แต่ปัจจุบันยังโลดแล่นทางการเมืองได้ยาวๆ .. หลังได้ “ไม้แรก”เป็นรัฐมนตรีโควตา “คนเสื้อแดง”แทน “พี่ตู่”มางวดแล้ว คราวนี้ “พี่ตู่”โดนแบน ก็ยิ่งทางสะดวก .. เบื้องต้น “น้องเต้น”จับจองปาร์ตี้ลิสต์ เบอร์ต้นๆ เอาไว้ใช้สกิลด้านฝีปากในสภา ดีไม่ดีเกมพลิกได้เป็นรัฐบาล ก็มีโอกาสเบิ้ลเก้าอี้รัฐมนตรีอีก .. เฉกเช่นเดียวกับ “ป้าธิดา”ที่แม้ตัวเองจะไม่ลงเล่นเอง แต่หวานใจอย่าง เหวง โตจิราการ ก็ยังโผล่ไปร่วมประชุมพรรคเพื่อไทยตลอด เห็นว่าตะล่อมๆ จะขอปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ต้นๆ เคียงคู่กับ “เสี่ยเต้น”นั่นเอง .. ก็เลยเป็นบทเฉลยว่า ทำไม “คนคุ้นเคย”ที่เป็นคอหอย-ลูกกระเดือก กันมาก่อน ถึงมาแตกกันเป็นเสี่ยงๆ ในวันนี้.

**เกาไม่ถูกที่คัน!! “ที่ปรึกษาอาจารย์ยักษ์”แย้มทางออก “3สารเคมีพิษร้ายแรง” ให้เก็บภาษี-ควบคุมการใช้ อ้าง “รมว.เกษตรฯ”ยังไม่ได้ “ข้อมูลใหม่”ก็เลย “แบน”ไม่ได้ ทั้งที่ “ข้อมูลเก่า”อันตรายถึงชีวิต จน 53 ประเทศทั่วโลก แบนไปนานแล้วก็น่าจะเพียงพอ ไม่รู้ว่า“อาจารย์ยักษ์” ที่เคยประกาศ “แบนเท่านั้น”คิดเห็นเช่นไร

ฟังแล้วก็ใจหาย .. หลังคิวที่ “กลุ่มเกษตรกร 6 สมาคม”เข้าพบ “รมต.ปุ้ย”กฤษฏา บุญราช รมว.เกษตรฯ หารือเกี่ยวกับแนวทางการใช้สารเคมีอันตราย 3 ตัว“พาราควอต-ไกลโฟร์เซต-คอร์ไพริฟอส” ..โดย “กลุ่มเกษตรกร 6 สมาคม”ระบุชัดว่า เป็นกลุ่มสนับสนุนการใช้ “พาราควอต-ไกลโฟร์เซต-คอร์ไพริฟอส” ..อันเป็นหนึ่งในกระบวนการรับฟังข้อคิดเห็นจากทุกกลุ่มเกษตรกร เพื่อนำไปพิจารณากันต่อไป และเสนอเข้า“คณะกรรมการวัตถุอันตราย”และ“คณะกรรมการศึกษาแก้ไขปัญหาการใช้สารเคมี”..แล้ว ธีระ วงษ์เจริญ ที่ปรึกษา รมช.เกษตรฯ ออกมาสรุปว่า กระทรวงเกษตรฯพร้อม “แบน”สารเคมีดังกล่าว .. แต่จนถึงตอนนี้ “รมว.เกษตรฯ”ยังไม่มี “ข้อมูลหลักฐานใหม่”เกี่ยวกับความอันตรายของ 3 สารดังกล่าว จึงยังไม่ดำเนินการอะไร .. “ธีระ”แย้มๆ ด้วยว่า แนวทางแก้ปัญหา อาจจะกำหนดมาตรการควบคุมการใช้สารพิษทั้ง 3 ชนิด โดย “เก็บภาษี”..เพราะที่ผ่านมา ยังไม่เคยเก็บภาษีเลยในการนำเข้าสารเคมี ปุ๋ยเคมี ไม่มีการสำแดงต้นทุน ไม่มีการควบคุมราคา ต่างคนสามารถขายได้อย่างอิสระ .. เทียบเคียงกับ “ภาษีบาป” เข้ากองทุนเหมือน สสส.ที่ได้จาก “เหล้า-บุหรี่” เพื่อมีกองทุนมารักษาเยียวยา-พัฒนาสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ที่ได้รับผลกระทบถูกทำลายจากสารเคมี
เหล่านี้ .. ที่ว่า “ใจหาย”ด้วยไม่คิดว่า จะออกมารูปการณ์นี้ ที่เท่ากับ “เปิดช่อง”ให้มีการใช้ 3 สารเคมีในทางการเกษตร .. อีกทั้งการเทียบเคียง “ภาษีเหล้า-บุหรี่”ที่ส่งผลแบบ “ตายผ่อนส่ง” ก็ห่างกันลิบลับกับ 3 สารเคมี ที่เข้าขั้น “ยาพิษร้ายแรง”..
การอ้างว่า “ไม่มีข้อมูลใหม่”ก็ดูจะฟังไม่ขึ้นอีกเช่นกัน เมื่อ “ข้อมูลเก่า”ก็เพียงพอที่จะยืนยันความอันตรายของ 3 สารเคมีที่ว่า .. โดยเฉพาะ “พาราควอต”ที่ได้ชื่อว่าเป็นยากำจัดวัชพืชอันดับหนึ่งของโลก ในขณะเดียวกัน ก็รับรู้ว่า มีอันตราย “ถึงแก่ชีวิต”..เฉพาะแค่ “สารตกค้าง”ก็ส่งผลให้เกิด “โรคพาร์กินสัน”ตามรายงานระบุว่า ปัจจุบันมีอย่างน้อย 53 ประเทศทั่วโลก สั่งแบน “พาราควอต”ไปนานแล้ว .. ผนวกกับข้อมูลของ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ รพ.จุฬาลงกรณ์ ที่ตอบโต้แถลงของ “ก.สาธารณสุข-ก.เกษตรฯ”ที่ระบุว่า การล้างผัก ผลไม้ ก่อนกิน ไม่ได้ทำให้ปลอดภัยจากสารเคมี-ยาฆ่าแมลง อย่างแท้จริง .. สำคัญที่ “ที่ปรึกษาธีระ”ก็เป็นที่ปรึกษาของ "อาจารย์ยักษ์" วิวัฒน์ ศัลยกำธร รมช.เกษตร และสหกรณ์ ผู้มีจุดยืนชัดเจนเกี่ยวกับ 3 สารพิษว่า “ต้องแบนเท่านั้น”ด้วยนี่สิ.

ช.ชฎา
++++++++++++++
รูป
- พานทองแท้ ชินวัตร - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
-จตุพร พรหมพันธุ์- ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ -ธิดา ถาวรเศรษฐ- นพดล ปัทมะ
-กฤษฎา บุญราช - วิวัฒน์ ศัลยกำธร- ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
กำลังโหลดความคิดเห็น