xs
xsm
sm
md
lg

มหกรรม ‘ดูดเพื่อชาติ’ ส่อแววแผ่ว

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


"โสภณ องค์การณ์"

การเมืองน้ำเน่าแบบสยามเมืองยิ้มแห้งๆ ของหมู่เฮานอกจากมีความพิลึกกึกกือ สุดยอดวิชาศรีธนนชัยศาสตร์ ยังมีจำอวด ลิเก ตลกด้าน ลีลาโชว์ชาวบ้านนั้นใครจะอ้างด้วยท่วงท่าโอ่อ่าไม่ได้เลยว่ากำลังจะไปสู่ยุค 4.0 ยกเว้นแต่ความแข็งแรงของผิวหน้า

ช่วงนี้การเมืองยังขึ้นๆ ลงๆ ตามสภาพ กลุ่มพลังดูดที่เคยคึกคัก ประกาศว่าจะหนุนคุณท่านผู้นำเสียงดังมาดเข้ม ปรากฏให้เห็นสัญญาณระส่ำระสาย เหมือนกับว่าได้รับรู้ “ข้อมูลใหม่” หรือกลิ่นไอความไม่แน่นอน ความหวังว่าจะมีเลือกตั้งชักเจือจาง

ความคึกคักในพรรคพลังประชารัฐ หลังจากประกาศตัวอย่างอลังการ เป็นเหมือนคลื่นกระทบฝั่ง แต่มีพลังขับเคลื่อนของเสียงเรียกร้องให้ 4 รัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่งไปสู้แบบแฟร์ๆ ไม่ต้องอาศัยเสื้อคลุมรัฐมนตรีไปตีกินหาเสียงง่ายๆ

ช่วงที่กำลังเขียนบทความนี้ มีข่าวแว่วว่า 1 ใน 4 รัฐมนตรีกำลังสั่งให้เจ้าหน้าที่เก็บของเมื่อผิวหน้าบางใสด้วยวัยเยาว์ทางการเมืองรู้สึกถึงแรงปะทะเสียดสีจากเสียงของนักเลือกตั้งและคนในวงการต่างๆ รวมทั้งนักวิชาการ อ้างถึงความไม่เหมาะสม

ได้เปรียบไม่ก็ไม่ต้องเสียเวลาพูดย้ำ เอาเป็นว่าขณะนี้มีอย่างน้อย 4 รัฐมนตรีอยู่ในคณะรัฐบาลเรียบร้อยแล้ว 3 คนคุมกระทรวงเศรษฐกิจหลักคือ พาณิชย์ อุตสาหกรรมและวิทยาศาสตร์ มีส่วนได้ส่วนเสียกับโครงการต่างๆ ที่ต้องทำให้เสร็จ

คุณท่านหัวหน้ารัฐบาล ที่เชื่อกันว่าจะได้รับการหาบหามจากพรรคพลังประชารัฐให้สืบทอดอำนาจ อ้างว่า “รักชาติ ห่วงประชาชน อยากสานต่องานยุทธศาสตร์ 20 ปีให้สำเร็จ” ก็เป็นตัวแทนพรรคพลังประชารัฐ แม้จะไม่เปิดตัวเต็มทุกบ้องก็ตาม

เสนาบดีคนอื่นๆ ที่นิยมการแต่งตั้ง ไม่อยากลงหาเสียงให้เปลืองตัว ก็จะอยู่ในสังกัดพรรคพลังประชารัฐ ดังนั้น ต้องบอกว่าขณะนี้พรรคพลังประชารัฐได้เป็นรัฐบาล กุมอำนาจรัฐเรียบร้อยแล้ว ก่อนการเลือกตั้ง ที่จะมีหรือไม่มี ก็ยังไม่รู้ชัด

มีเสียงพูดว่า “4 รัฐมนตรีจะลาออกหรือไม่ เป็นเรื่องส่วนตัว” นั้น ชาวบ้านเห็นได้ว่าเป็นคำพูดที่เอาเปรียบพวกเดียวกัน ดัดหลังกันเอง จะให้ทั้ง 4 คนลาออก แต่ “ตัวเองไม่ออก” ดังนั้นอย่าไปหวังว่าจะมีความแฟร์ สปิริตอะไรในการเมืองน้ำเน่า

ย้ำอีกครั้ง มีอย่างน้อย 4 รัฐมนตรี คือหัวหน้าและเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐอยู่ในรัฐบาลนี้แล้ว ใช้ทุกอย่างที่เป็นของหลวง ทั้งพนักงานขับรถ หายใจเข้าออกในห้องทำงานก็มาจากการระบายอากาศด้วยแอร์จากค่าไฟฟ้าด้วยเงินภาษีชาวบ้าน

ถ้า 1 ใน 4 คนทนแรงกดดันไม่ได้ ไขก๊อกก่อน “เวลาอันเหมาะสม” ที่เหลือไม่น่าจะอยู่ทนได้ ถ้าไม่มีเหตุด่วนซึ่งทำให้ต้อง “โละ” ทั้งก๊วน แล้วมีรัฐบาล “เฉพาะกาล เฉพาะกิจ” มาปฏิรูปจัดการเลือกตั้ง แทนรัฐบาล “เฉพาะกลุ่ม เฉพาะพวกกู” ขณะนี้

รัฐบาล “เฉพาะกาล” ฟังแล้วแสลงหูน้อย ไม่สร้างความเสียวยาวเหมือน “รัฐบาลแห่งชาติ” ที่อาจไม่กำหนดเวลาก่อนถึงวาระเลือกตั้ง เพราะรัฐบาลแห่งชาติอาจอยู่ตั้งแต่ 1 ปี หรือนานกว่า ถ้าทำงานได้ผลดีเยี่ยม ใครก็ไม่อยากให้มีเลือกตั้ง

พวกที่ไม่ชอบ “รัฐบาลแห่งชาติ” คือนักเลือกตั้ง ซึ่งจะต้องรออยู่วงนอก อดอยากปากแห้งอีกนาน ทั้งอาจจะไม่สบอารมณ์ฝรั่งตะวันตกที่ต้องการประชาธิปไตยแบบมีเลือกตั้งเท่านั้น ไม่คำนึงว่าจะโกงกินอย่างไร ถ้าตัวเองได้ผลประโยชน์เต็มที่

แล้วจะมีเลือกตั้งหรือไม่? ผู้กุมอำนาจรัฐยังเสียงแข็งว่ามีแน่ บางช่วงก็ย้ำว่า 24 กุมภาพันธ์ 2562 แน่ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ส่ออาการลังเล รอดูว่ากลุ่มพลังดูดทั้งหลายจะได้เสียงพอหาบหามคณะคุณท่านได้สืบทอดอำนาจได้หรือไม่

อ่า! เกิดความไม่แน่นอนเสียแล้ว! กลุ่มพลังดูดรวนเร ระส่ำหนัก ก๊วนใหญ่ เจ้าพ่อ ขาใหญ่ภูธรขอไม่เข้าร่วมพรรคพลังประชารัฐ แรมบ้าแรมบ๊องยังบอกว่า “ต้องประเมินใหม่” ส่อเค้าลางให้เห็นว่าพวกนี้เป็นสุดยอดนกรู้ ได้กลิ่นควันไฟต้องรีบเผ่น

เอาเป็นว่าการเลือกตั้งนั้น “มีแน่” แต่ไม่รู้เมื่อไหร่ และถ้าจะมีก็จะไม่อยู่ภายไต้การกำกับของรัฐบาลคุณท่านปัจจุบัน จะเป็นความพลิกผันอะไรนั้น อีกไม่นานก็รู้ชัด แต่คุณท่านอยากมีเลือกตั้งเพราะเป็น “หนทางเดียว” ที่จะอ้างเหตุให้อยู่ต่อยาวได้

การจะหวังยื้อ ไม่ต้องมีเลือกตั้งแล้วตีขลุมอยู่ยาว อ้างปัญหาความมั่นคงนั่นนี่โน่นนั้น ไม่ง่ายเหมือนเล่านิทาน ยิงมุก ออกลีลาจำอวดให้คนบ้องตื้นได้ชมก่อนวาระตัดสินชะตากรรม การสัญจรหาความนิยม อ้างว่าไม่ได้ไปหาเสียง ไม่มีใครโง่จนเชื่อ

ผลงานอย่างนี้ นอกจากอยู่ต่อก็ยาก ไปต่อก็ยาก ออกก็ลำบาก เป็นผลกรรมของความผยองในอำนาจ ไม่เห็นหัวชาวบ้านคนด้อยโอกาส มีแต่คำครหาว่าเอาใจพวกนายทุน เน้นเศรษฐกิจทุนนิยม ปล่อยให้รากหญ้ารากเลือด ทุกข์ยากดักดาน

เรื่องสารพิษเคมีเกษตรเป็นตัวชี้วัดเจตนาและความหวังดีต่อชีวิต สุขภาพ ความเป็นอยู่ของประชาชนว่ามีหรือไม่ แทนที่จะดูแลอย่างจริงจัง ดันให้ต่ออายุให้นำเข้าอีก เห็นแก่ผลกำไรของพ่อค้าไม่กี่ราย ไม่หวงชีวิตคนไทยหลายสิบล้านคน

ย้ำอีกครั้ง รู้ทั้งรู้ว่าเป็นพิษภัยต่อสุขภาพ เป็นอาชญากรรมและฆาตกรรมผ่อนส่ง ก็ยังไม่ใส่ใจ ถ้าไม่ห่วงชีวิตประชาชน จะมาแหกปากอ้างว่ารักชาวบ้านได้อย่างไร

วาระนี้ชาวบ้านคนรู้ทันได้เห็นลีลา “ใจดีสู้เสือ” ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เท่านั้น! อย่าลืมว่า “ความรักชาติเป็นข้ออ้างสุดท้ายของคนโกง” ล่าสุด มีคำอ้างเชิงแก้ตัว แก้ข่าวลือแปลกๆ ว่า “กลุ่ม 3 มิตร” เข้าพลังประชารัฐแน่ “ไม่มีใครกดดันให้รัฐมนตรีลาออก”

วิกฤตความน่าเชื่อถือ วิกฤตศรัทธาจมบ้องฟื้นไม่ได้ยามนี้ ยังจะมีคนเชื่ออีกหรือ? พรรคการเมืองก็คึกคัก กระดี้กระด้ากันไปตามสภาพ ในใจแล้ว มีความสงสัยอยู่เต็มอกว่าจะมีเลือกตั้งแน่หรือ ว่างๆ นั่งนับถอยหลังแก้เซ็งหน่อยก็จะดีนะ!


กำลังโหลดความคิดเห็น