ผู้จัดการรายวัน360- "ศิริ" จ่อขยับราคาดีเซลเกิน 30 บาทต่อลิตร หากน้ำมันดิบดูไบแตะ 90-100 เหรียญฯต่อบาร์เรล แม้จะตรึงไม่เกิน 30 บาทจนถึงสิ้นปี ต้องใช้เงินกองทุนฯอุ้ม 60 ส.ต./ลิตร รวมทั้งสิ้น 6 พันล้านบาท ด้าน "กุลิศ" ปลัดพลังงานสั่งทำเกณฑ์คัดเลือกโครงการใช้เงินกองทุนอนุรักษ์พลังงานงบปี 61 -62 ใหม่ ย้ำต้องเกิดประโยชน์กับประชาชน พร้อมตั้งคณะกรรมการประเมินผล
นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า แนวโน้มราคาน้ำมันดิบตลาดโลกโดยเฉพาะดูไบเริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้น หากราคาขยับไปสู่ระดับ 90-100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล อาจมีความจำเป็นต้องขยับราคาดีเซลเกินระดับ 30 บาทต่อลิตร จากปัจจุบันรัฐยังคงตรึงราคาดีเซล(เขตกทม.และปริมณฑล)ไว้ไม่เกิน 30 บ./ลิตร ตามมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.)โดยใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีฐานะสุทธิ 25,142 ล้านบาทดูแลดีเซลอัตราไม่เกิน 1 บาทต่อลิตรบนสมมติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบไม่เกิน 85 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล โดยคาดว่าระดับราคาดังกล่าวอยู่จนถึงสิ้นปีก็จะใช้เงินทั้งสิ้น 6,000 ล้านบาท
"เมื่อถึงเวลาต้องปรับขึ้นราคาขายปลีก ก็ต้องทำความเข้าใจกับประชาชน แต่เราเองก็ย้ำว่าจะดูแลให้ดีที่สุดดังนั้นจึงขึ้นอยู่กับตลาดโลกเป็นสำคัญ ซึ่งขณะนี้ค่าการตลาดดีเซลอยู่ที่ 1.12 บาทต่อลิตรถือว่าต่ำมาก ที่ผ่านมาได้ใช้กองทุนฯดูแลแล้ว 60 สตางค์ต่อลิตร"นายศิริ กล่าว
นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะเป็นประธานคณะทำงานกลั่นกรองกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน(กองทุนอนุรักษ์ฯ) กล่าวว่า กระทรวงพลังงานยังเดินหน้าการพิจารณาคำขอสนับสนุนการใช้เงินกองทุนอนุรักษ์พลังงานโครงการงบปี 2561 (เพิ่มเติม) ภายใต้กลุ่มโครงการ "ไทยนิยมยั่งยืน" วงเงิน 5,200 ล้านบาท และการพิจารณางบปี 2562 วงเงิน 10,448 ล้านบาทแต่จะมีการกำหนดหลักเกณฑ์ใหม่เพื่อพิจารณาโครงการให้สอดรับกับระเบียบของกระทรวงการคลัง
"เกณฑ์การพิจารณาอนุมัติโครงการจะต้องไม่ซ้ำซ้อน สอดรับกับแผนปฏิรูปพลังงาน แผนอนุรักษ์พลังงาน และที่สำคัญเป็นประโยชน์ต่อประชาชนเนื่องจากกองทุนอนุรักษ์ฯเก็บจากผู้ใช้น้ำมันซึ่งเป็นประชาชนดังนั้นจะเสนอโครงการเท่าที่จำเป็น ที่ต้องมาจัดลำดับ เช่น โครงการตามพระราชดำริ ที่จะให้ความสำคัญลำดับแรก เป็นต้น"นายกุลิศ
นอกจากนี้ยังจะมีการตั้งอนุกรรมการขึ้นมาประเมินผลด้วย ดังนั้นเดิมที่จะมีการประชุมคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน (บอร์ดกองทุนอนุรักษ์ฯ) ที่มีพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานวันที่ 9 ตุลาคมนี้ก็คงจะต้องเลื่อนออกไปก่อนเพื่อรอการพิจารณาโครงการภายใต้หลักเกณฑ์ใหม่ให้แล้วเสร็จจึงจะยื่นเสนอขอประชุมเพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไปซึ่งคาดว่าจะเป็นปลายเดือนนี้
ส่วนการตรวจสอบข้อร้องเรียนกรณีความไม่โปร่งใสการดำเนินงานของกองทุนฯในปี 61 และปี 62 นั้น คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่มีนางเปรมฤทัย วินัยแพทย์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เป็นประธานยังอยู่ระหว่างพิจารณาข้อมูลต่างๆ
นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า แนวโน้มราคาน้ำมันดิบตลาดโลกโดยเฉพาะดูไบเริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้น หากราคาขยับไปสู่ระดับ 90-100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล อาจมีความจำเป็นต้องขยับราคาดีเซลเกินระดับ 30 บาทต่อลิตร จากปัจจุบันรัฐยังคงตรึงราคาดีเซล(เขตกทม.และปริมณฑล)ไว้ไม่เกิน 30 บ./ลิตร ตามมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.)โดยใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีฐานะสุทธิ 25,142 ล้านบาทดูแลดีเซลอัตราไม่เกิน 1 บาทต่อลิตรบนสมมติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบไม่เกิน 85 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล โดยคาดว่าระดับราคาดังกล่าวอยู่จนถึงสิ้นปีก็จะใช้เงินทั้งสิ้น 6,000 ล้านบาท
"เมื่อถึงเวลาต้องปรับขึ้นราคาขายปลีก ก็ต้องทำความเข้าใจกับประชาชน แต่เราเองก็ย้ำว่าจะดูแลให้ดีที่สุดดังนั้นจึงขึ้นอยู่กับตลาดโลกเป็นสำคัญ ซึ่งขณะนี้ค่าการตลาดดีเซลอยู่ที่ 1.12 บาทต่อลิตรถือว่าต่ำมาก ที่ผ่านมาได้ใช้กองทุนฯดูแลแล้ว 60 สตางค์ต่อลิตร"นายศิริ กล่าว
นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะเป็นประธานคณะทำงานกลั่นกรองกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน(กองทุนอนุรักษ์ฯ) กล่าวว่า กระทรวงพลังงานยังเดินหน้าการพิจารณาคำขอสนับสนุนการใช้เงินกองทุนอนุรักษ์พลังงานโครงการงบปี 2561 (เพิ่มเติม) ภายใต้กลุ่มโครงการ "ไทยนิยมยั่งยืน" วงเงิน 5,200 ล้านบาท และการพิจารณางบปี 2562 วงเงิน 10,448 ล้านบาทแต่จะมีการกำหนดหลักเกณฑ์ใหม่เพื่อพิจารณาโครงการให้สอดรับกับระเบียบของกระทรวงการคลัง
"เกณฑ์การพิจารณาอนุมัติโครงการจะต้องไม่ซ้ำซ้อน สอดรับกับแผนปฏิรูปพลังงาน แผนอนุรักษ์พลังงาน และที่สำคัญเป็นประโยชน์ต่อประชาชนเนื่องจากกองทุนอนุรักษ์ฯเก็บจากผู้ใช้น้ำมันซึ่งเป็นประชาชนดังนั้นจะเสนอโครงการเท่าที่จำเป็น ที่ต้องมาจัดลำดับ เช่น โครงการตามพระราชดำริ ที่จะให้ความสำคัญลำดับแรก เป็นต้น"นายกุลิศ
นอกจากนี้ยังจะมีการตั้งอนุกรรมการขึ้นมาประเมินผลด้วย ดังนั้นเดิมที่จะมีการประชุมคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน (บอร์ดกองทุนอนุรักษ์ฯ) ที่มีพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานวันที่ 9 ตุลาคมนี้ก็คงจะต้องเลื่อนออกไปก่อนเพื่อรอการพิจารณาโครงการภายใต้หลักเกณฑ์ใหม่ให้แล้วเสร็จจึงจะยื่นเสนอขอประชุมเพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไปซึ่งคาดว่าจะเป็นปลายเดือนนี้
ส่วนการตรวจสอบข้อร้องเรียนกรณีความไม่โปร่งใสการดำเนินงานของกองทุนฯในปี 61 และปี 62 นั้น คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่มีนางเปรมฤทัย วินัยแพทย์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เป็นประธานยังอยู่ระหว่างพิจารณาข้อมูลต่างๆ