xs
xsm
sm
md
lg

"แม้ว"ไปลับ-พเนจรถาวร ไม่ย้อนกลับมาเสี่ยงคุกแน่

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

**เริ่มมีการตั้งคำถามกันว่า หลังจากที่นายทักษิณ ชินวัตร รอดพ้นคุกในคดีซื้อที่ดินบริเวณถนนรัชดาภิเษกโดยมิชอบ โดยคดีดังกล่าวจะหมดอายุความในวันที่ 21 ตุลาคมนี้ หลังจากสามารถหลบหนีคดีไปจนครบเวลา 10 ปี และชัดเจนอีกว่า ฝ่ายรัฐไม่มีปัญญานำตัวเขามาลงโทษจำคุก 2 ปี ตามคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
จากคำพูดสารภาพออกมาจากปากของ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย คือ นายวิษณุ เครืองาม โดยความหมายสั้นๆ ง่ายๆ ก็ต้องปล่อยให้คดีหมดอายุความไปต่อหน้าต่อตา ทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้
อย่างไรก็ดี ก็มีคำถามและการคาดเดาตามมาอีกว่า ในเมื่อเขา (นายทักษิณ ชินวัตร) รอดจากคุกไปแล้ว ในคดีซื้อที่ดินรัชดา แล้วเขาจะกลับมาประเทศไทยหรือ ขณะเดียวกัน ก็เริ่มมีเสียงท้าทายดังอื้ออึงมากขึ้น ทำนองว่าถ้าแน่จริงก็ให้กลับมา แต่กลายเป็นว่าไ ม่มีใครเชื่อเลยว่าเขาจะกลับมา
สาเหตุที่ไม่มีใครเชื่อว่า นายทักษิณ ชินวัตร จะกล้ากลับมา เป็นเพราะเขายังมีอีกหลายคดีทุจริตประพฤติมิชอบรออยู่ในศาลคดีทุจริต และในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง รวมแล้วในเวลานี้ 4 คดี คือ
1. คดีเงินกู้ของธนาคารส่งออกและนำเข้า หรือเอ็กซิมแบงก์ ที่ปล่อยกู้ให้พม่าจำนวน 4 พันล้านบาท
2. คดีทุจริตการออกสลากพิเศษเลขท้ายสองตัวและสามตัว
3. คดีแปลงสัมปทานโทรคมนาคม และโทรศัพท์มือถือ เป็นภาษีสรรพสามิต
4. คดีเงินกู้ธนาคารกรุงไทยที่ปล่อยกู้ให้กับกลุ่มกฤษดามหานคร จำนวนกว่า 9 พันล้านบาท
รวมทั้งยังมีหมายจับในคดีเหล่านี้ รวมกัน 5 หมายจับ โดยเฉพาะในคดีทุจริตเงินกู้ธนาคารกรุงไทยนั้น มีหมายจับซ้ำรวม 2 หมายจับ โดยครั้งแรกเมื่อ 11 ตุลาคม 2555 และครั้งหลังสุด เมื่อ 20 มิถุนายน 2561 เนื่องจากไม่มาศาล หรือหลบหนีนั่นแหละ
**นั่นก็หมายความว่า หากเข้าประเทศไทยมาเมื่อใดก็ตาม อันดับแรกก่อนก็คือจะต้องถูกควบคุมตัวไปศาล และร้องขอประกันตัวระหว่างการพิจารณาคดีในศาล ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะได้รับอนุญาตหรือไม่ นั่นคือ ด่านคุกแรกที่รออยู่จากหมายจับจำนวน 5 หมายจับ ในเวลานี้
ขณะเดียวกัน เมื่อพิจารณาจากคดีดังกล่าวที่เป็นคดีอาญา รวม 4 คดีนั้น หากพิจารณาตามรูปการณ์ที่เห็นแล้ว บางคดีถือว่าน่าหวาดเสียว โดยเฉพาะคดีเงินกู้ธนาคารกรุงไทย ที่ นายทักษิณ ชินวัตร ถูกฟ้องเป็นจำเลยที่ 1 จากทั้งหมดที่ถูกฟ้องรวม 27 คน และที่น่าสนใจก็คือ ก่อนหน้านี้ คือระหว่างที่เขาหลบหนีไปนั้น จำเลยในคดีเดียวกันหลายคนที่เป็นอดีตผู้บริหารธนาคารกรุงไทย และ อดีตผู้บริหารกลุ่มทุนกฤษดามหานคร ถูกพิพากษาจำคุกคนละ 18 ปี และมีคำสั่งให้ชดใช้ค่าเสียหายอีกด้วย
ซึ่งจะว่าไปแล้วคดีดังกล่าวนี่แหละถือว่าหนักหนาสาหัส สำหรับ นายทักษิณ ชินวัตร เพราะเมื่อศึกษาจากคำพิพากษาจากจำเลยรายอื่นแล้ว เป็นใครก็ต้องหวั่นไหวเป็นธรรมดา อีกทั้งคดีนี้ยังลามไปถึงคนในครอบครัว ใกล้ชิด เช่น นายพานทองแท้ ชินวัตร ลูกชายคนโต ก็ติดร่างแหไปด้วย แม้ว่าคดีจะยังอยู่ในชั้นสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แต่ก็ถือว่าคืบหน้าไปมากแล้ว
นั่นเป็นเรื่องของคดีที่มีบัญชียาวเป็นหางว่าวรออยู่ และที่สำคัญเมื่อ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ปี 2561 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ปี 2560 มีผลบังคับใช้แล้ว ทำให้สามารถนำคดีขึ้นมาพิจารณาในศาลได้อย่างต่อเนื่องโดยที่เรียกว่า พิจารณาลับหลังจำเลย ซึ่งหลายคดีกำลังดำเนินการอยู่ในเวลานี้ และทำให้ถูกออกหมายจับเพิ่มขึ้นด้วย
** อีกทั้งตามกฎหมายใหม่ดังกล่าว ทำให้คดีทุจริตไม่มีขอบเขตอายุความอีกด้วย นั่นคือ หากคิดจะหนีก็ต้องหนีไปจนตายนั่นแหละ
นอกเหนือจากนี้ ยังมีปัจจัยสำคัญที่น่าจะเป็นสาเหตุทำให้ นายทักษิณ ชินวัตร ไม่กล้ากลับมาสู้คดี หรือกลับเข้ามาประเทศไทยในช่วงนี้ หรือก่อนหน้านี้เป็นเพราะเขาไม่อาจควบคุมกลไกรัฐ ผ่านทางรัฐบาลหุ่นเชิดเหมือนในอดีต เนื่องจากเป็นยุคของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ยังไม่อาจรอมชอมกันได้ ในทางตรงกันข้าม นับวันยิ่งเดินไปคนละทาง กลายเป็นฝ่ายตรงข้ามกันอย่างชัดเจน
ดังนั้นเมื่อพิจารณาจากคดี ที่มีบัญชียาวเป็นหางว่าวแบบนี้ อีกทั้งมีหลายคดีที่มีอัตราโทษจำคุกสูงนับสิบปี มากกว่าคดีที่ดินรัชดาหลายเท่า ที่สำคัญเวลานี้และแนวโน้มวันหน้า นายทักษิณ ชินวัตร คงไม่อาจควบคุม หรือต่อรองอะไรได้มากนัก และเมื่อคดีเข้าสู่ชั้นศาลแล้ว ทุกอย่างก็ถือว่าอยู่เหนือการควบคุมแล้ว
**ตามรูปการณ์ที่เห็น ทำให้มั่นใจว่า เขาไม่มีทางกลับมา คงต้องหนีพเนจรไปจนตาย เพราะกฎหมายใหม่ไม่มีอายุความบังคับใช้แล้ว !!
กำลังโหลดความคิดเห็น