xs
xsm
sm
md
lg

กฎหมายขายฝากใหม่ เป็นจริงในยุคเผด็จการ

เผยแพร่:   โดย: นพ นรนารถ


“จดหมายชาวนาฉบับนี้ เขียนที่บ้านป่าดงดอน
เขียนถึงผู้อยู่ในนคร อันความเดือดร้อนชาวนายิ่งใหญ่ ฯลฯ”


เพลง จดหมายจากชาวนา ของวงดนตรีเพื่อชีวิตคาราวาน ถ่ายทอดความทุกข์ยากของชาวนาชาวไร่ที่ “ทำนาบ่ได้ข้าว ทำไร่บ่พอกิน ยากแค้นไปทั่วแดนดิน ถูกขูดรีดกินเราแทบอดตาย” มาบอกเล่าให้คนในเมืองได้รับรู้

หลังเหตุการณ์ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2516 ชาวนาชาวไร่ลุกขึ้นเคลื่อนไหวต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรมในนาม สหพันธ์ชาวนาชาวไร่แห่งประเทศไทย เป็นที่มาของกฎหมายปฏิรูปที่ดินเมื่อ พ.ศ. 2517 สมัยรัฐบาลสัญญา ธรรมศักดิ์ และพระราชบัญญัติ ควบคุมค่าเช่านา

แต่แอกอันใหญ่ที่จองจำชาวนาให้ติดอยู่ในกับดักแห่งหนี้สิน ยังไม่โดนปลดออกจากหลังไหล่ของชาวนา นั่นคือ สัญญาขายฝาก ที่เจ้าหนี้นายทุนเงินกู้นอกระบบ ใช้เป็นเครื่องมือยึดกรรมสิทธิ์ที่ดินทำกินจากชาวนา และคนยากคนจนที่มีสมบัติเพียงชิ้นเดียว คือ ที่ดินที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษ

ตลอดระยะเวลา 40 กว่าปีที่ผ่านมา มีความพยายามแก้ไขความไม่เป็นธรรม อันเกิดจากกฎหมายขายฝากในหลายๆ รัฐบาล แต่ไม่เป็นผล เพราะเหตุปัจจัยหลายๆ อย่าง

การขายฝากต่างกับการจำนอง ตรงที่การขายฝากทรัพย์สินที่เป็นอสังหาริมทรัพย์ หรือสังหาริมทรัพย์ คือ การขายทรัพย์สินที่กรรมสิทธิ์ตกเป็นของผู้รับฝาก หรือผู้ซื้อทันที ผู้ขายฝากมีสิทธิไถ่ถอนเอาทรัพย์คืนภายในเวลาที่กำหนด ถ้าเลยเวลาไปแม้แต่วันเดียว ผู้รับขายฝากหรือผู้ซื้อฝากยึดทรัพย์สินที่ไปฝากขายได้ทันที โดยไม่ต้องให้ศาลสั่ง

การจำนอง คือ การกู้เงิน โดยเอาที่ดิน บ้านเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน กรรมสิทธิ์ยังเป็นของผู้กู้ ถ้าผู้กู้ชำระหนี้ไม่ครบ หรือไม่ชำระหนี้ภายในระยะเวลาตามสัญญา เจ้าหนี้ยังไม่สามารถยึดที่ดินหรือบ้านได้ ต้องนำคดีไปฟ้องศาลให้ศาลสั่งให้กรรมสิทธิ์ที่ดินตกเป็นของเจ้าหนี้เสียก่อน

การขายฝากเป็นที่นิยมของประชาชน เพราะได้เงินเร็ว สะดวก ไม่ต้องยุ่งยากกับการเตรียมเอกสาร เหมือนเอาที่ดินไปจำนองกับแบงก์ ไม่มีการตรวจสอบจากเครดิตบูโร

การขายฝากซึ่งเป็นบทบัญญัติในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ที่บังคับใช้มากว่า 90 ปี กำหนดเวลาไถ่ถอนสูงสุดไม่เกิน 10 ปี แต่ไม่กำหนดเวลาขั้นต่ำไว้ จึงเป็นช่องให้นายทุนเงินกู้เจ้าหนี้นอกระบบหาประโยชน์ โดยการกำหนดเงื่อนเวลาไถ่ถอนให้สั้นๆ 3 เดือนบ้าง 6 เดือนบ้าง ลูกหนี้ซึ่งกำลังร้อนเงินไม่มีทางเลือก และคิดว่า เมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยวจะหาเงินมาใช้หนี้ได้ทันก่อนหมดเวลาไถ่ถอน แต่บ่อยครั้ง ที่ฝนฟ้าไม่เป็นใจ ถ้าไม่น้ำท่วม ก็ฝนแล้ง หรือฝนตกต้องตามฤดูกาล แต่ราคาข้าวตกต่ำ หาเงินมาไถ่ถอนไม่ทัน ต้องถูกยึดที่นาที่นำไปขายฝาก ตัวเองเปลี่ยนจากเจ้าของที่กลายเป็นผู้เช่านา

นายทุนเงินกู้ เจ้าหนี้นอกระบบที่ตั้งใจอยู่แล้วว่า จะไม่คืนที่ให้ผู้ขายฝาก เมื่อครบกำหนดไถ่ถอน แม้ลูกหนี้พร้อมจะไถ่ถอนก็จะหายตัว ไม่ให้ลูกหนี้เจอตัว เพื่อให้เลยกำหนดไถ่ถอนจะได้ยึดที่ดินเป็นของตัวเองตลอดไป

กรณีที่เกิดขึ้นประจำ คือ ลูกหนี้เซ็นชื่อในกระดาษเปล่า ให้เจ้าหนี้ไปกรอกจำนวนเงินกู้เอง เพราะร้อนเงิน ประกอบกับความซื่อ ความไม่รู้ เมื่อถึงเวลากำเงินไปไถ่ถอน ปรากฏว่า ยอดหนี้ที่ปรากฏในสัญญาสูงกว่ายอดเงินที่ได้รับจริงหลายเท่า หมดปัญญาใช้หนี้ ต้องปล่อยให้ที่ดินตกเป็นของนายทุน

กระทรวงยุติธรรมได้รับเรื่องร้องทุกข์จากประชาชนจำนวนมากที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากสัญญาขายฝาก ประกอบกับข่าวฆาตกรรมยกครัวที่จังหวัดกระบี่ ซึ่งมีสาเหตุมาจากการรับฝากขายแล้วไม่ยอมคืนที่ดินที่ลูกหนี้ขอไถ่ถอน เมื่อกลางปีที่แล้ว ทำให้ปัญหาความไม่เป็นธรรมจากสัญญาขายฝาก ถูกหยิบขึ้นมาพิจารณาอย่างจริงจัง โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้นโยบายว่า ต้องยกเลิก หรือแก้ไขให้ได้ในรัฐบาลนี้

การขายฝากยังมีความจำเป็นในสภาพที่ประชาชนส่วนใหญ่ยังเข้าไม่ถึงเงินกู้ในระบบ สุดท้ายแล้ว แทนการยกเลิกการขายฝาก จึงเป็นการร่างกฎหมายขายฝากขึ้นใหม่ แยกออกมาจากกฎหมายขายฝากที่อยู่ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

ร่างกฎหมายฉบับนี้มีชื่อว่า พระราชบัญญัติคุ้มครองประชาชน ในการทำสัญญาขายฝากที่ดิน เพื่อการเกษตรกรรม หรือที่อยู่อาศัย

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่จังหวัดเพชรบูรณ์ เมื่อวันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา มีมติเห็นชอบหลักการของร่างกฎหมายนี้

กฎหมายขายฝากฉบับใหม่นี้ กำหนดให้การขายฝากที่ดินเพื่อการเกษตรหรือที่อยู่อาศัยเป็นธุรกิจที่ได้รับการคุ้มครองสัญญาตามกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค จากเดิมอยู่ในกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ โดยการทำสัญญาขายฝากต้องทำเป็นหนังสือที่ได้รับการตรวจสอบสัญญาโดยนิติกร หรือพนักงานที่ดิน ก่อนนำไปจดทะเบียนที่สำนักงานที่ดิน เพื่อให้มีมาตรฐาน ไม่ให้นายทุนกำหนดเงื่อนไขเอาเปรียบ

การทำข้อเพิ่มเติมในสัญญาต้องได้รับการตรวจสอบ หากมีข้อตกลงที่เข้าข่ายเป็นการกดขี่ข่มเหงประชาชน จะถือว่า เป็นโมฆะ

การทำสัญญาขายฝากจะต้องมีเวลาไม่ต่ำกว่า 1 ปีจากปัจจุบัน ที่พบว่า มีการทำสัญญาขายฝากแค่ 4 เดือน เพราะผู้รับขายฝากตั้งใจให้ผู้ขายฝากทำสัญญาใหม่ โดยคิดค่าทำสัญญาครั้งละ 40,000-50,000 บาท หรือต้องการให้ไถ่ถอนไม่ทัน ที่ดินจะได้หลุดเป็นของตัวเอง

ผู้ซื้อฝากต้องมีหนังสือแจ้งผู้ขายฝากให้รับทราบล่วงหน้า 6 เดือนก่อนจะถึงเวลาที่ต้องมาไถ่ถอนที่ดิน ถ้าไม่แจ้งให้ยืดเวลาไปอีก 6 เดือน

กฎหมายนี้ยังกำหนดว่า กรณีที่เจ้าหนี้ไม่อยู่ ผู้ขายฝากสามารถเดินทางไปที่สำนักงานวางทรัพย์ในที่ทำการขององค์การบริหารส่วนท้องถิ่น สำนักงานบังคับคดี และวงเงินไถ่ได้ โดยจะถือว่า การวางเงินดังกล่าว เป็นการไถ่ถอนสินทรัพย์ในวันนั้นทันที

ร่างกฎหมายขายฝากฉบับใหม่นี้ เป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมายเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ ที่คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมายผลักดันเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.หลังจากนี้เป็นหน้าที่ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ พิจารณาออกเป็นกฎหมายที่มีผลบังคับใช้

หวังว่าคงไม่ถูกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ แช่แข็งไม่ให้เกิดเหมือนร่างกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งเป็นกฎหมายที่ต้องการลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจที่ ครม.เห็นชอบเมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2559 และมีกำหนดบังคับใช้วันที่ 1 มกราคม ปีหน้า หลังจากผ่าน สนช.ในวาระแรกเมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว ปัจจุบันยังถูกคณะกรรมาธิการวิสามัญ ดองเอาไว้ ไม่ยอมให้คลอดเป็นกฎหมายเสียที


กำลังโหลดความคิดเห็น