ผู้จัดการรายวัน360- อดีต ส.ว.ร้อง "บิ๊กตู่" เอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐ และคนจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิด จีที 200 เรียกเงินแผ่นดินคืน หลังศาลฎีกายกคำร้อง บ.เอวีเอแซทคอมฯ ต้องชดใช้เงินแก่กรมราชองครักษ์ 9 ล้านบาท เนื่องจากการพิสูจน์พบเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด จีที 200 มีปัญหา ไม่สามารถใช้งานได้จริง
จากกรณี ศาลฎีกาฯ ยกคำร้อง บ.เอวีเอแซทคอมฯ ยื่นฎีกาสู้คดี ขายเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด จีที 200 หลังศาลแพ่งสั่งชดใช้เงิน กรมราชองครักษ์ 9 ล้านบาท พร้อมค่าทนายความ 2 หมื่นบาท หลังมีการพิสูจน์ว่า เครื่องมีปัญหา ไม่สามารถใช้งานได้จริง
วานนี้ (19 ก.ย.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว. ได้ไปยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้ดำเนินการ เรียกชดใช้เงินแผ่นดินคืน จากผู้ที่เกี่ยวข้อง กรณีหน่วยงานของรัฐ จัดซื้อเครื่องตรวจหาวัตถุระเบิด จีที 200 ตามแนวคำพิพากษาศาลอุทรณ์แผนกคดีผู้บริโภค
นายเรืองไร กล่าวว่ากรณีนี้เกี่ยวกับเครื่องตรวจวัตถุระเบิด (จีที200) ในสมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้มีหนังสือเรื่อง การทดสอบประสิทธิภาพเครื่อง จีที 200 เสนอให้ครม. รับทราบ ซึ่งครม.ได้ประชุมกันเมื่อวันที่ 23 ก.พ. 53 และมีมติว่า รับทราบผลการทดสอบประสิทธิภาพ รวมถึงให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ดำเนินการประสานงานกับกระทรวงกลาโหม และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ชี้แจงทำความเข้าใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ และประชาชนในพื้นที่ ที่ได้นำเครื่อง จีที 200 ไปใช้ เกี่ยวกับประสิทธิภาพของเครื่องดังกล่าว รวมถึงให้ร่วมกันพิจารณาดำเนินการที่เหมาะสม ให้การตรวจสอบวัตถุระเบิดของเจ้าหน้าที่ และให้ใช้เครื่องมืออื่นทดแทน เมื่อมีการยุติการใช้งานของเครื่อง จีที 200
นอกจากนี้ ยังให้ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการระงับการจัดซื้อเครื่อง จีที 200 และเครื่องมืออื่นที่มีลักษณะเดียวกัน เช่น เครื่องอัลฟา 6 พร้อมทั้งให้ทำรายงานสรุปข้อมูลเกี่ยวกับเครื่อง จีที 200 และเครื่องมืออื่นที่มีลักษณะเดียวกัน เพื่อเสนอแก่ครม. และได้มอบหมายให้ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในสมัยนั้น รับไปพิจารณาความผิดทางกฎหมาย ของบริษัทผู้จำหน่ายเครื่อง จีที 200
ด้วยเหตุนี้ กรณีที่เกิดขึ้นตามมติครม. เมื่อวันที่ 23 ก.พ.53 ย่อมเป็นเหตุหนึ่ง ที่อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อแผ่นดิน เพราะมีการรับทราบผลการทดสอบประสิทธิภาพเครื่อง จีที 200 และให้ดำเนินการต่อไป โดยไม่ให้กระทบต่อเงื่อนไข หรือข้อผูกพันตามสัญญาที่หน่วยงานผู้ซื้อมีต่อ บริษัทผู้จัดจำหน่าย และไม่พบข้อมูลว่า มีการรับไปพิจารณาตามความคิดทางกฎหมายของบริษัทผู้จำหน่ายเครื่อง จีที 200 ตามมติครม. อย่างไร หรือไม่ เรื่องดังกล่าวจึงเงียบหายไป
ดังนั้น เมื่อผลการฟ้องคดีของกรมราชองครักษ์ ปรากฏออกมา พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรี จึงต้องตรวจสอบว่า มีการปล่อยปละละเลย เรื่องนี้หรือไม่ ตั้งแต่เมื่อใด หมดแล้วมูลค่าความเสียหายต่อเงินแผ่นดิน มีจำนวนทั้งสิ้นเท่าใด และจะต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ทั้งในทางแพ่ง และทางอาญา ว่ามี รมต. หรือเจ้าหน้าที่รัฐใด ต้องรับผิดชอบกับเรื่องนี้ บ้างหรือไม่
นอกจากนี้ คดีดังกล่าวมีผลเกี่ยวเนื่องไปถึง เครื่องจีที 200 จำนวน 862 ชุด ที่กระทรวงกลาโหม จะต้องดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ ยังต้องรวมไปถึงเครื่องตรวจหาวัตถุระเบิดของหน่วยงานรัฐอื่น และเครื่องมืออื่น ที่มีลักษณะเดียวกัน เช่น เครื่องอัลฟา 6 เป็นต้น ตนจึงขอให้นายกฯ ดำเนินการเรียกชดใช้เงินแผ่นดินคืนจากผู้ที่เกี่ยวข้อง กรณีหน่วยงานของรัฐจัดซื้อเครื่อง จีที 200 หรือเครื่องมืออื่นที่มีลักษณะเดียวกัน เช่น เครื่องอัลฟา 6 ตามแนวคำพิพากษาศาล คดีหมายเลขแดง ที่ 18204/2559 ลงวันที่ 2 ธ.ค.59 ต่อไป โดยเร็ว และขอให้พิจารณาต่อไปด้วยว่า จะต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายทั้งในทางแพ่ง และทางอาญา กับบุคคลที่เกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ อย่างไร