ผู้จัดการรายวัน360-"เอิร์ก"เปิดปากเคลียร์กรณี "เก๋ เลเดอเรอร์" ยันรับสภาพหนี้แทน 14 ล้าน จ่ายไปแล้ว 3 ล้าน เหลือ 11 ล้านที่ต้องจ่ายเดือนนี้กับเดือนหน้า พร้อมแฉมีคนอยู่เบื้องหลังอีกเยอะ รวมถึงความผิดปกติของจดหมายลาตาย ส่วนที่ไม่ไปงานศพ เหตุถูกขู่ โต้ไม่มีสัมพันธ์ลึกซึ้งแฟนเก๋ ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ด้านตำรวจพร้อมสรุปคดี แนะครอบครัวร้องศาลเป็นผู้จัดการมรดกและฟ้องร้องคนเอาเงินไปได้
จากกรณีการเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำของนางแบบเซ็กซี่ “เก๋ กันยกร ศุภการค้าเจริญ” หรือเก๋ เลเดอเรอร์ หลังตัดสินใจจบชีวิตด้วยการกินยาฆ่าหญ้าก่อนกระโดดตึกฆ่าตัวตาย โดยคนที่ถูกสังคมสงสัยมากที่สุดเห็นจะเป็นอดีตหุ้นส่วนธุรกิจ “เอิร์ก เลเดอเรอร์” เพราะมีเพจอ้างว่ามีจดหมายลาตายเก๋ที่มีการพาดพิงชื่อเอิร์ก รวมไปถึงการที่เก๋ไปออกรายการปากปลาร้าหน้าเป๊ะ พูดถึงอดีตพาร์ทเนอร์ กับโลกปลอมๆ ที่ถูกสมมติมาโดยตลอด รวมถึงปมการทำธุรกิจและเงิน 14 ล้านบาท ตามที่เสนอข่าวมานั้น
วานนี้ (17 ก.ย.) เอิร์ก เลเดอเรอร์ ได้เปิดใจในรายการโหนกระแส ที่มี หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย เป็นผู้ดำเนินรายการ โดยยืนยันว่า เป็นไม่ได้เป็นพี่น้องกัน แต่เก๋ใช้นามสกุลเอิร์กเพื่ออยู่ในวงการ ส่วนประเด็นเงิน 14 ล้านบาท ที่เก๋ถอนมาให้เอิร์ก ซื้อรถ ก็ไม่เป็นความจริง ไม่รู้ว่ามีข่าวหลุดมาได้ยังไง เพราะรถซื้อเงินผ่อน แต่เรื่องเงินเป็นประเด็นที่นำไปใช้เปิดสาขาที่บางนา แต่เป็นความหละหลวมที่ไม่ได้ทำสัญญาไว้ว่าทั้งสองสาขาจะใช้เงินร่วมกัน จนเปิดคลีนิกได้และมันลื่นไหลของมันไปแล้ว และมาวันหนึ่งเก๋ขอแยกกัน เพื่อให้คนสนิทเข้ามาซัปพอร์ต แต่พูดไม่ได้ว่าเป็นใคร
"เงิน 14 ล้าน ทางครอบครัวเป็นคนไปเช็กว่าเงินจากเก๋เข้าบัญชีเอิร์ก 14 ล้าน ครอบครัวที่เก๋เอามาแทนเอิร์ก เขาบอกว่าเงินหายเข้าบัญชีเอิร์ก 14 ล้าน เขาเช็กจากสเตทเมนต์ เราก็โอเค เพราะฉะนั้นคุณต้องรับผิดชอบ เพราะสองคลินิกแยกกันแล้ว เขาให้เรารับผิดชอบ จริงๆ เราต้องรับผิดชอบร่วมกัน ทั้งเอิร์กและเก๋ เพราะเงินเราใช้ด้วยกันทั้งคู่ และเงินเข้าทางเก๋ด้วยซ้ำ แต่ไม่เป็นไร เราจะใช้แทนเก๋ทั้งหมด ไม่ได้พูดให้สวยหรูนะครับ แต่ที่จะใช้แทน เพราะเก๋เขาหาเงินลำบาก เขาหาเงินไม่ได้แล้ว สองปีที่ผ่านมาเขาหาเงินไม่ได้ เพราะเขามีปัญหาเรื่อง กลต. ซึ่งทุกคนรู้ดี คนไม่เชื่อถือ กลายเป็นเอิร์กที่หาเงินได้อยู่คนเดียว นี่คือเหตุผลที่เอิร์กอยากรับผิดชอบช่วยเก๋ เรารักเขาพูดง่ายๆ ไม่ต้องรับผิดชอบร่วมกันกับฉัน เดี๋ยวฉันรับผิดชอบคนเดียวเลย ทั้งๆ ที่เก๋เซ็นเอกสารรับเงิน เงินโอนเข้าบัญชีเก๋ โอนต่อเอิร์กก็จริง เอิร์กไม่ได้โอนต่อก็จริง แต่เก๋เอาเอทีเอ็มเอิร์กไปใช้จ่ายบางนา เพราะเก๋เป็นคนจัดการเรื่องเงินให้เอิร์กทั้งหมด เพื่อนๆ ทุกคนรู้ดี”
ทั้งนี้ เอิร์กได้โชว์หนังสือรับสภาพหนี้ พร้อมยืนยันว่าไม่ได้เอาเงินไปใช้ส่วนตัว แต่เอาไปทำคลีนิกที่บางนา และที่ผ่านมา ได้จ่ายเงินคืนคืนคนสนิทเก๋ไปแล้ว 3 ล้าน เดือนนี้อีก 8 ล้าน แต่ยังไม่ถึงกำหนด และเดือนหน้าอีก 3 ล้าน และไม่รู้ว่าเป็นปัญหาทำให้เก๋โดดตึกหรือเปล่า เพราะเก๋ไม่ได้รับผิดชอบ เรารับผิดชอบแทนเขาด้วยซ้ำ ส่วนคนที่มาเป็นเจ้าหนี้แทนเก๋ เพราะเขาเป็นกรรมการผู้จัดการ ที่คลินิกสาขารามอินทรา ซึ่งตอนแรกเป็นเอิร์กที่เป็นซีอีโอ แต่เก๋ให้เอิร์กถอนออกมา แล้วให้เขาไปแทนที่
ส่วนประเด็นการเป็นเถ้าแก่ เขาให้เอิร์กไปเป็นเถ้าแก่ให้ เพราะเก๋บอกว่ารักเอิร์ทมาก ถึงขั้นตายแทนได้ แต่ไม่ใช่ว่าเขาไม่รักพ่อแม่เขานะ แต่ด้วยความที่อยู่ในวงการบันเทิง เก๋ไม่อยากให้ใครรู้เลย ส่วนเรื่องสินสอดเป็นล้าน ไม่ได้เอาไป เป็นไปไม่ได้ แต่ยอมรับว่า ใช้เงินกระเป๋าเดียวกัน และบัญชีเดียวกันในช่วงโน้น เราหาเงินร่วมกัน ตั้งแต่ขายครีมกระปุกไม่กี่พัน และยังระบุต่อว่า เคยเจอแฟนเก๋แค่ 2-3 ครั้ง ไม่เคยเจอตัวต่อตัว หรือไม่เคยเจอสองคน เจอก็มีเก๋ด้วย และไม่ได้มีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับแฟนเก๋
เอิร์กกล่าวอีกว่า วันที่เก๋โดดตึก ครอบครัวแฟนเก๋โทรมาบอก ก็ไปทันที และตอบคำถามที่ถูกถามในรายการคุณโก้ว่า เขาเลิกคบกับคุณ ตั้งแต่เม.ย.ปีที่แล้ว เหมือนผีไม่เผา เงาไม่เหยียบ โดยนิ่งและระบุว่า เอิร์กรักเก๋ครับ เท่านั้นเลย และไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงไปพูดในรายการแบบนั้น เอิร์กไม่ได้ทำร้ายเก๋ แค่ออกมาพูดความจริง พร้อมระบุว่า มีเบื้องหลังมากกว่านี้ มีตัวละครอีกเยอะในการเสียชีวิตของเก๋ ส่วนที่ไม่ได้งานศพ เพราะโดนขู่ เรื่องบ้าน ก็เป็นบ้านของเอิร์ก ไม่ได้เกี่ยวกับเก๋ มีโฉนดยืนยันชัดเจน และเรื่องจดหมายสั่งลา ไม่รู้เป็นจดหมายจริงหรือเปล่า เก๋โดนใครบังคับหรือเปล่า หรือจำเป็นต้องทำ มันผิดปกติ มันมีเบื้องหลังที่ซับซ้อน
วันเดียวกันนี้ พ.ต.ท.พสิษฐ์ สายชนม์ศักดิ์ รอง ผกก.(สอบสวน) สน.โชคชัย กล่าวว่า ได้ประสานงานไปยังบิดาและครอบครัว ของผู้เสียชีวิต เพื่อมาให้ปากคำแล้ว แต่ยังไม่สามารถระบุวันเวลาได้ เนื่องจากพึ่งเสร็จงานศพ แต่ในส่วนของพนักงานสอบสวนทำคดีสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสำนวนการชันสูตรพลิกศพ พิสูจน์ทราบว่าผู้เสียชีวิตเป็นใคร ลักษณะการตาย สาเหตุการตาย เกิดจากอะไร และขาดเพียงสอบปากคำของทางญาติ เพื่อนำมาประกอบสำนวนเท่านั้น
ทั้งนี้ ในประเด็นเรื่องเงิน ครอบครัวสามารถขออำนาจศาลให้ตั้งเป็นผู้จัดการมรดก สืบหารวมรวบเอกสาร ไปฟ้องร้องกับผู้ที่นำเงินไปจนกระทั่งทำให้ผู้ตายเครียดและตัดสินใจกระโดดตึกลงมาเสียชีวิตได้
จากกรณีการเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำของนางแบบเซ็กซี่ “เก๋ กันยกร ศุภการค้าเจริญ” หรือเก๋ เลเดอเรอร์ หลังตัดสินใจจบชีวิตด้วยการกินยาฆ่าหญ้าก่อนกระโดดตึกฆ่าตัวตาย โดยคนที่ถูกสังคมสงสัยมากที่สุดเห็นจะเป็นอดีตหุ้นส่วนธุรกิจ “เอิร์ก เลเดอเรอร์” เพราะมีเพจอ้างว่ามีจดหมายลาตายเก๋ที่มีการพาดพิงชื่อเอิร์ก รวมไปถึงการที่เก๋ไปออกรายการปากปลาร้าหน้าเป๊ะ พูดถึงอดีตพาร์ทเนอร์ กับโลกปลอมๆ ที่ถูกสมมติมาโดยตลอด รวมถึงปมการทำธุรกิจและเงิน 14 ล้านบาท ตามที่เสนอข่าวมานั้น
วานนี้ (17 ก.ย.) เอิร์ก เลเดอเรอร์ ได้เปิดใจในรายการโหนกระแส ที่มี หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย เป็นผู้ดำเนินรายการ โดยยืนยันว่า เป็นไม่ได้เป็นพี่น้องกัน แต่เก๋ใช้นามสกุลเอิร์กเพื่ออยู่ในวงการ ส่วนประเด็นเงิน 14 ล้านบาท ที่เก๋ถอนมาให้เอิร์ก ซื้อรถ ก็ไม่เป็นความจริง ไม่รู้ว่ามีข่าวหลุดมาได้ยังไง เพราะรถซื้อเงินผ่อน แต่เรื่องเงินเป็นประเด็นที่นำไปใช้เปิดสาขาที่บางนา แต่เป็นความหละหลวมที่ไม่ได้ทำสัญญาไว้ว่าทั้งสองสาขาจะใช้เงินร่วมกัน จนเปิดคลีนิกได้และมันลื่นไหลของมันไปแล้ว และมาวันหนึ่งเก๋ขอแยกกัน เพื่อให้คนสนิทเข้ามาซัปพอร์ต แต่พูดไม่ได้ว่าเป็นใคร
"เงิน 14 ล้าน ทางครอบครัวเป็นคนไปเช็กว่าเงินจากเก๋เข้าบัญชีเอิร์ก 14 ล้าน ครอบครัวที่เก๋เอามาแทนเอิร์ก เขาบอกว่าเงินหายเข้าบัญชีเอิร์ก 14 ล้าน เขาเช็กจากสเตทเมนต์ เราก็โอเค เพราะฉะนั้นคุณต้องรับผิดชอบ เพราะสองคลินิกแยกกันแล้ว เขาให้เรารับผิดชอบ จริงๆ เราต้องรับผิดชอบร่วมกัน ทั้งเอิร์กและเก๋ เพราะเงินเราใช้ด้วยกันทั้งคู่ และเงินเข้าทางเก๋ด้วยซ้ำ แต่ไม่เป็นไร เราจะใช้แทนเก๋ทั้งหมด ไม่ได้พูดให้สวยหรูนะครับ แต่ที่จะใช้แทน เพราะเก๋เขาหาเงินลำบาก เขาหาเงินไม่ได้แล้ว สองปีที่ผ่านมาเขาหาเงินไม่ได้ เพราะเขามีปัญหาเรื่อง กลต. ซึ่งทุกคนรู้ดี คนไม่เชื่อถือ กลายเป็นเอิร์กที่หาเงินได้อยู่คนเดียว นี่คือเหตุผลที่เอิร์กอยากรับผิดชอบช่วยเก๋ เรารักเขาพูดง่ายๆ ไม่ต้องรับผิดชอบร่วมกันกับฉัน เดี๋ยวฉันรับผิดชอบคนเดียวเลย ทั้งๆ ที่เก๋เซ็นเอกสารรับเงิน เงินโอนเข้าบัญชีเก๋ โอนต่อเอิร์กก็จริง เอิร์กไม่ได้โอนต่อก็จริง แต่เก๋เอาเอทีเอ็มเอิร์กไปใช้จ่ายบางนา เพราะเก๋เป็นคนจัดการเรื่องเงินให้เอิร์กทั้งหมด เพื่อนๆ ทุกคนรู้ดี”
ทั้งนี้ เอิร์กได้โชว์หนังสือรับสภาพหนี้ พร้อมยืนยันว่าไม่ได้เอาเงินไปใช้ส่วนตัว แต่เอาไปทำคลีนิกที่บางนา และที่ผ่านมา ได้จ่ายเงินคืนคืนคนสนิทเก๋ไปแล้ว 3 ล้าน เดือนนี้อีก 8 ล้าน แต่ยังไม่ถึงกำหนด และเดือนหน้าอีก 3 ล้าน และไม่รู้ว่าเป็นปัญหาทำให้เก๋โดดตึกหรือเปล่า เพราะเก๋ไม่ได้รับผิดชอบ เรารับผิดชอบแทนเขาด้วยซ้ำ ส่วนคนที่มาเป็นเจ้าหนี้แทนเก๋ เพราะเขาเป็นกรรมการผู้จัดการ ที่คลินิกสาขารามอินทรา ซึ่งตอนแรกเป็นเอิร์กที่เป็นซีอีโอ แต่เก๋ให้เอิร์กถอนออกมา แล้วให้เขาไปแทนที่
ส่วนประเด็นการเป็นเถ้าแก่ เขาให้เอิร์กไปเป็นเถ้าแก่ให้ เพราะเก๋บอกว่ารักเอิร์ทมาก ถึงขั้นตายแทนได้ แต่ไม่ใช่ว่าเขาไม่รักพ่อแม่เขานะ แต่ด้วยความที่อยู่ในวงการบันเทิง เก๋ไม่อยากให้ใครรู้เลย ส่วนเรื่องสินสอดเป็นล้าน ไม่ได้เอาไป เป็นไปไม่ได้ แต่ยอมรับว่า ใช้เงินกระเป๋าเดียวกัน และบัญชีเดียวกันในช่วงโน้น เราหาเงินร่วมกัน ตั้งแต่ขายครีมกระปุกไม่กี่พัน และยังระบุต่อว่า เคยเจอแฟนเก๋แค่ 2-3 ครั้ง ไม่เคยเจอตัวต่อตัว หรือไม่เคยเจอสองคน เจอก็มีเก๋ด้วย และไม่ได้มีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับแฟนเก๋
เอิร์กกล่าวอีกว่า วันที่เก๋โดดตึก ครอบครัวแฟนเก๋โทรมาบอก ก็ไปทันที และตอบคำถามที่ถูกถามในรายการคุณโก้ว่า เขาเลิกคบกับคุณ ตั้งแต่เม.ย.ปีที่แล้ว เหมือนผีไม่เผา เงาไม่เหยียบ โดยนิ่งและระบุว่า เอิร์กรักเก๋ครับ เท่านั้นเลย และไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงไปพูดในรายการแบบนั้น เอิร์กไม่ได้ทำร้ายเก๋ แค่ออกมาพูดความจริง พร้อมระบุว่า มีเบื้องหลังมากกว่านี้ มีตัวละครอีกเยอะในการเสียชีวิตของเก๋ ส่วนที่ไม่ได้งานศพ เพราะโดนขู่ เรื่องบ้าน ก็เป็นบ้านของเอิร์ก ไม่ได้เกี่ยวกับเก๋ มีโฉนดยืนยันชัดเจน และเรื่องจดหมายสั่งลา ไม่รู้เป็นจดหมายจริงหรือเปล่า เก๋โดนใครบังคับหรือเปล่า หรือจำเป็นต้องทำ มันผิดปกติ มันมีเบื้องหลังที่ซับซ้อน
วันเดียวกันนี้ พ.ต.ท.พสิษฐ์ สายชนม์ศักดิ์ รอง ผกก.(สอบสวน) สน.โชคชัย กล่าวว่า ได้ประสานงานไปยังบิดาและครอบครัว ของผู้เสียชีวิต เพื่อมาให้ปากคำแล้ว แต่ยังไม่สามารถระบุวันเวลาได้ เนื่องจากพึ่งเสร็จงานศพ แต่ในส่วนของพนักงานสอบสวนทำคดีสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสำนวนการชันสูตรพลิกศพ พิสูจน์ทราบว่าผู้เสียชีวิตเป็นใคร ลักษณะการตาย สาเหตุการตาย เกิดจากอะไร และขาดเพียงสอบปากคำของทางญาติ เพื่อนำมาประกอบสำนวนเท่านั้น
ทั้งนี้ ในประเด็นเรื่องเงิน ครอบครัวสามารถขออำนาจศาลให้ตั้งเป็นผู้จัดการมรดก สืบหารวมรวบเอกสาร ไปฟ้องร้องกับผู้ที่นำเงินไปจนกระทั่งทำให้ผู้ตายเครียดและตัดสินใจกระโดดตึกลงมาเสียชีวิตได้