xs
xsm
sm
md
lg

4 ปีกว่าสร้างปัญหามากกว่าแก้...?

เผยแพร่:   โดย: โสภณ องค์การณ์


คนอยากรู้ว่าเลือกตั้งจะมีจริงหรือไม่ มีเมื่อไหร่ ใครจะเป็นผู้นำรัฐบาล นี่คือคำถามหลัก แต่ยังไม่มีใครรู้ ไม่มีใครตอบได้ แม้แต่ผู้ใหญ่ผู้โตกุมอำนาจรัฐขณะนี้ เพราะตัวเองก็ไม่รู้ว่าจะได้อยู่ต่อจัดเลือกตั้งหรือไม่ ถ้าออกไปจะได้อยู่เมืองไทยหรือไม่...?

ย้ำอีกครั้ง ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครกำหนดได้เป๊ะ มีปัจจัยแปรผันที่คาดไม่ได้ มีเงื่อนปม กับดัก เล่นเกมซ่อนกล กลุ่มกุมอำนาจไม่อยากให้มีเลือกตั้ง เมื่อจะต้องมี ย่อมหาทางยื้อออกไปให้ได้นานที่สุด มีติ่ง “ความวุ่นวาย คนตีกัน” ไว้เป็นเงื่อนไขสุดท้าย

ก่อนสภาวะเช่นนั้นต้องมีเหตุ “ความขัดแย้ง” แบบจัดฉากได้ สร้างขึ้นได้ เปิดช่องให้เกิดปัญหาความมั่นคงเสียก่อน ซึ่งเป็นภาวะธรรมดาของการแย่งชิงอำนาจการเมืองด้อยพัฒนาไร้จิตสำนึกมโนธรรม เป็นลีลาน้ำเน่าแหกตาชาวบ้านซึ่งๆ หน้า

ช่วงกว่า 4 ปีที่คณะรัฐประหารได้กุมอำนาจรัฐ มีพฤติกรรมและนโยบายต่างๆ ซึ่งเข้าทางสำหรับให้เกิดวิกฤตต่อไป ทั้งไม่ปฏิรูปบ้านเมือง ไม่จัดการปัญหาเรื้อรัง เกาไม่ถูกที่คัน ก็ยังหาทางสืบทอดอำนาจไม่อยากลงจากหลังเสือเพราะอันตราย

ความพิกลที่เห็นกันอยู่คือการร่างกฎหมายต่างๆ เพื่อการเมือง ทำโดยพวกและคณะกลุ่มที่ไม่ใช่นักการเมือง ไม่เคยผ่านการเลือกตั้งพิสูจน์ความนิยมของประชาชน เป็นนักรับผลประโยชน์จากการแต่งตั้งเพื่องานตามที่ผู้กุมอำนาจกำหนด

นักกฎหมายที่เคยรับใช้นักรัฐประหาร นักเผด็จการทหารและเผด็จการรัฐสภามาหลายยุค ก็ยังทำหน้าที่เดิม หมกเม็ดวางเงื่อนปมต่างๆ ชาวบ้านหวังไม่ได้ว่าพวกนี้จะมีเจตนาดีต่อบ้านเมืองและประชาชน มีแต่รับใช้ผู้สั่งการ ไม่คำนึงถึงผลเสียหาย

ถ้ามีปัญหา ก็จะหาทางร่างกฎหมายใหม่มาเพื่อแก้ไข เป็นลิงแก้แห ดังนั้น ประเด็นถกเถียงเรื่องกฎหมายเลือกตั้ง กฎหมายนั่นนี่โน่น เป็นฝีมือของคนที่ไม่ใช่นักการเมือง แต่เป็นพวกอีแอบการเมือง หรือนักฉกฉวยตีกินจากงานร่างกฎกติกา

เขียนกฎให้คนอื่น แต่ตัวเองไม่ได้มีส่วนร่วมภายหลัง อ้างว่าไม่ได้ชงเองกินเอง แต่ชาวบ้านรู้ว่าพวกนี้แหละที่คอยรับผลจากความวุ่นวายของผลงานที่ได้วางยาไว้ ดังนั้นจึงทำตัวเป็น “กูรู ปรมาจารย์” ทางกฎหมาย ทำตัวน่าเชื่อถือมีภูมิความรู้เยอะ

การร่างกฎหมาย แล้วแต่จะเขียนอย่างไรก็ได้ อยู่ที่เจตนาว่าทำเพื่ออะไร เพื่อใคร ที่เห็นชัดคือเงื่อนปมต่างๆ ที่เขียนไว้ใน “บทเฉพาะกาล” หรือ “เฉพาะกลุ่ม” ในรัฐธรรมนูญ กฎหมายลูก ทำให้เกิดปัญหาเรื่องวาระคลายล็อก ปลดล็อกในขณะนี้

นี่ก็เป็นข้อขัดแย้ง โดยคนที่ไม่เกี่ยวข้อง แต่ได้รับมอบหมายให้ทำ เพื่อจัดผลประโยชน์ของผู้กุมอำนาจ ตามมาด้วย “สภาตรายาง สภาฝักถั่ว” ที่ถูกมองว่าเตะถ่วงให้เรื่องเยอะ ยุ่งยาก โดยคนส่วนใหญ่ไม่เคยลงเลือกตั้ง แต่ขออยากมีส่วนร่วม!

เมื่อได้ออกกฎหมายมาก ”เพื่อความมั่นคง” และสร้างความมั่งคั่งเฉพาะกลุ่มเฉพาะกาลเวลายามกุมอำนาจ ทำให้เกิดความคึกเหิมเกริม ผยองยโสโอหัง นำไปสู่ความพลาดพลั้งเปิดช่องให้ฝ่ายไม่เอาด้วยรอจังหวะคิดบัญชีย้อนหลังในวันขาหลุด

เป็นสภาวะที่ผู้มองเหตุการณ์บ้านเมืองชี้ว่า “ขว้างงูไม่พ้นคอ” หรือ “หมองูตายเพราะงู” เพราะนักกฎหมาย หรือพวกสั่งนักกฎหมาย ย่อมก้าวพลาดได้เช่นกัน ด้วยเหตุนี้จึงมีเสียงร่ำลือว่ายังอาจมีภารกิจสุดท้ายของนักร่างกฎหมายระดับปรมาจารย์

นั่นคือ “เตรียมร่างกฎหมายพิเศษเพื่อนิรโทษกรรมทั้งมวล” ให้ผู้ที่ได้กุมอำนาจบริหารจัดการรัฐในช่วงกว่า 4 ปีที่ผ่านมา จะได้ไม่มีปัญหากฎหมายเมื่อต้องหลุดจากอำนาจไม่ว่าจะเป็นเพราะเหตุใด หรือพ่ายแพ้การเลือกตั้งที่อาจจะมีก็ตาม

ถ้าทำได้ตามนี้ บรรดาโจทย์ทั้งหลายที่จ้องจะเอาคืน ไม่มีหนทางทำอะไรได้ ไม่มีใครต้องเผ่นหนีคดีความไปอยู่ต่างประเทศ อย่างที่ 2 อดีตนายกฯ ประสบชะตากรรมในขณะนี้ แต่ก็ใช่ว่าจะราบรื่น เมื่อเขียนกฎหมายได้ ก็เขียนลบล้างได้เช่นกัน

หวังว่าเสียงร่ำลือซุบซิบกันวงในเรื่อง “นิรโทษกรรม” จะไม่เป็นความจริงนะ! แต่จะเป็นอย่างที่ว่าหรือไม่ ต้องรอถึงวันที่มีการเปลี่ยนแปลงในบ้านเมืองนั่นแหละ

โอกาสที่ผู้ใหญ่ผู้โตจะได้สืบทอดอำนาจต่อนั้น ดูแล้วมืดมน ไปหาบันไดไต่ขึ้นสวรรค์ยังง่ายกว่า ความหวังที่จะให้กลุ่มพลังดูดเพื่อชาติเป็นฐานด้วยการชนะการเลือกตั้ง อุ้มโดยวุฒิสมาชิกแต่งตั้งนั้นคงเป็นความฝันกลางแดดยามบ่ายมากกว่า

รอดูคลายล็อก ปลดล็อก พรรคการเมืองหาเสียงได้ จะเห็น “น้ำลดตอผุด” มีทั้งตอเก่า ตอใหม่ ทุกขนาด แข็งแรงใช้ปูทางสู่ประตูคุกได้สำหรับนักเขมือบคำโตและผู้ใช้อำนาจมิชอบ มาตรา 157 น่าจะทำงานหนัก เข้าตำรา “หนามยอก หนามบ่ง”

“ความขัดแย้ง” ที่จะมีนั้น มีเหตุจากหลายเรื่อง เป็นผลจากนโยบายและความล้มเหลวในการบริหารจัดการรัฐโดยไม่ปฏิรูปโครงสร้างบ้านเมือง เห็นขณะนี้คือความขัดแย้งในชุมชนว่าจะ “เอาหรือไม่เอา” โรงไฟฟ้าใช้ถ่านหิน ขยะเป็นวัตถุดิบ

พื้นที่ใดที่เอาคงไม่มีปัญหาขณะนี้จนกว่าจะเปิดทำการ พื้นที่ใดไม่ยอมรับ มีการประท้วงต่อต้านนั่นแหละจะเป็นเรื่อง จะขัดลาภและผลประโยชน์ของ “คนที่เรารู้ว่าเป็นใคร” ในคณะผู้กุมอำนาจ การผลักดันจะเอาให้ได้ ต้องเกิดความขัดแย้งรุนแรง

มีเรื่องการใช้กฎหมายพิเศษย่ำยีกฎหมายสิ่งแวดล้อมเพื่ออุตสาหกรรม ปล่อยให้ขยะพิษนำเข้าสร้างปัญหาชุมชน การอวยกลุ่มทุนใหญ่ ชาวบ้านอยู่ในสภาพตายซาก “รวยกระจุก จนกระจาย” หนี้ครัวเรือน การไร้อาชีพยั่งยืน ไร้โอกาสทำมาหากิน

วันเวลาไม่คอยใคร กงล้อเวรกรรมยังทำงานเต็มที่ คนทำชั่วพึงระวังตัวให้มาก


กำลังโหลดความคิดเห็น