xs
xsm
sm
md
lg

"บิ๊กแป๊ะ"สั่งสอบปมข่มขืนสาวอังกฤษที่เกาะเต่า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึง กรณีสำนักข่าวต่างประเทศ ได้ตีข่าวว่า มีนักท่องเที่ยวสาวชาวอังกฤษ ถูกมอมยาข่มขืน ที่เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี และมีการแชร์ในโซเซียลว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่รับแจ้งความ ว่า ได้รับรายงานจาก ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ว่า เหตุดังกล่าว เกิดเมื่อวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่เกาะเต่า แต่ผู้เสียหายได้มาแจ้งความที่ สภ.เกาะพะงัน เป็นกรณีผู้เสียหายแจ้งความโทรศัพท์มือถือ และเงินหาย
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นพนักงานสอบสวนไม่ได้รับแจ้งว่า ถูกข่มขืน ขณะนี้ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ได้สั่งการให้ สภ.เกาะพะงัน และ สภ.เกาะเต่า เร่งตรวจสอบกล้อง CCTV หรือพยานหลักฐานอื่นๆ ย้อนหลังในบริเวณที่เกิดเหตุ และพื้นที่ใกล้เคียง โดยจะเรียกพยานและผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้เสียหายเข้ามาสอบปากคำและพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริงต่อไป
ในส่วนของกรณีเหตุลักทรัพย์ ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง และการรักษาความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวในพื้นที่เกาะพะงัน เกาะเต่า และเกาะสมุย นั้น เมื่อเวลา 10.00 น.วานนี้ (26ส.ค.) พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด , ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง , ตำรวจท่องเที่ยว ร่วมประชุมเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และกำหนดมาตรการแนวทางการป้องกัน เกี่ยวกับลักทรัพย์นักท่องเที่ยวบนรถโดยสารแล้ว
รองโฆษก ตร.กล่าวต่ออีกว่า ในกรณีนักท่องเที่ยวร้องเรียนผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย ว่าถูกข่มขืนนั้น กำลังรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งชุดสืบสวนได้ร่วมกันบูรณาการกับตำรวจท่องเที่ยว , ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทำการสืบสวนสอบสวน เร่งรัดติดตามคดีต่อไป
ทั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกหน่วย บูรณาการการปฏิบัติร่วมกัน และกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องเร่งคลี่คลายคดีดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เดลี่เมล์ และเดอะซัน ออกมาอ้างว่า นักท่องเที่ยวสาววัย 19 ปี เดินทางมาท่องเที่ยว ที่เกาะเต่า เมื่อเดือนมิ.ย.ในคืนเกิดเหตุ หญิงสาวดื่มกับเพื่อนชาวอังกฤษ ก่อนจะรู้สึกตัวอีกทีในตอนเช้า ก็ปรากฏว่า ตัวเองนอนเปลือยเปล่าอยู่บนหาดทรายรี ข้างๆ มีชายคนหนึ่งนอนอยู่ด้วย ก่อนจะหลบหนีไปในเวลาต่อมา
โดยผู้เสียหาย อ้างว่ารุดแจ้งความกับตำรวจ อ.เกาะพะงัน ว่าถูกกระทำชำเรา แต่เจ้าหน้าที่กับเพิกเฉย และลงบันทึกเพียงว่า เป็นเหตุลักทรัพย์ มีโทรศัพท์มือถือไอโฟน 7 และ เงินสดราว 3,000 บาท ถูกขโมยไป กระทั่งในวันที่ 2 ก.ค. หญิงสาวเดินทางกลับบ้านไปประเทศอังกฤษ จากนั้นเข้าแจ้งความกับตำรวจ พร้อมหลักฐานเสื้อยืดที่ใส่ในวันเกิดเหตุ และคาดว่าจะมีดีเอ็นเอ ของคนร้าย


กำลังโหลดความคิดเห็น