xs
xsm
sm
md
lg

อัยการ-ตำรวจ...ใครค้าคดีเสี่ยอ้วน

เผยแพร่:   โดย: สุนันท์ ศรีจันทรา


ผู้ต้องหาคนสำคัญ นายปัญญา ยิ่งดังหรือเสี่ยอ้วน บางลา ซึ่งก่อคดีสังหารโหดนางสาวปวีณา นาเมืองรักษ์หรือน้องสปายและนายอนันตชัย จริตรัมย์ บริเวณลานจอดรอดฝั่งตรงข้ามวัดเขาชีจรรย์ จังหวัดชลบุรี ถูกส่งตัวจากฝั่งกัมพูชากลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย และจะมีข้อหาหนักเพิ่มเติม เพราะสำนักงานตำรวจแห่งชาติเตรียมฟื้นคดีเก่าที่เคยก่อไว้

การสังหารโหดน้องสปาย ไม่ใช่คดีแรก แต่เสี่ยอ้วน เคยยิงคนตายมาแล้ว โดยปลายปี 2560 ยิงพ่อค้าขายไอศกรีมอายุ 47 เสียชีวิต ในซอยบางลา ตำบลป่าตอง อำเภอกระทู้ จังหวัดภูเก็ต เพราะเหตุทะเลาะกัน และแม้จะยอมรับสารภาพความผิด แต่เสี่ยอ้วนกลับหลุดคดี

สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำลังรอรับตัวเสี่ยอ้วน เพื่อสอบสวนว่า คดียิงพ่อค้าขายไอศกรีมที่รอดคุกมาได้ มีตำรวจค้าคดีหรือไม่ เพราะแม้ตำรวจในพื้นที่จะทำสำนวนส่งฟ้องแล้ว แต่อัยการไม่สั่งฟ้อง และเสนอความเห็นมาที่ตำรวจภูธรภาค 8 แต่ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 กลับเห็นพ้องกับอัยการ และทำให้เสี่ยอ้วนก่อคดีโศกนาฏกรรมซ้ำอีก

การหลุดคดีฆ่าคนตาย ทั้งที่พยานหลักฐานแน่น ทำให้เสี่ยอ้วนเกิดความเหิมเกริม ย่ามใจในการก่อคดีโหด และเคยโทรศัพท์ไปขู่แม่น้องสปาย โดยอ้างว่าเป็นผู้มีอิทธิพล เงินสามารถซื้อได้ในทุกเรื่อง และเคยซื้อตำรวจมาแล้ว ซึ่งก่อนหน้ายิงคนตายก็ไม่ติดคุก

ปัญหาการค้าคดี ทำถูกให้เป็นผิด ทำคนผิดให้ไม่ต้องติดคุก เป็นเรื่องที่พูดกันมานานแล้ว และสังคมเชื่อว่า เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงในวงการตำรวจและอัยการ แต่ไม่เคยมีหน่วยงานใดตรวจสอบและแก้ปัญหา พฤติกรรมฉาวโฉ่ที่น่าขยะแขยงอย่างจริง

การรื้อฟื้นคดีเก่าของเสี่ยอ้วน เป็นอีกครั้งหนึ่งที่จะมีการตรวจสอบการค้าคดี โดยเฉพาะผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ในขณะที่เสี่ยอ้วนก่อคดียิงพ่อค้าขายไอศกรีมเสียชีวิต เพราะไม่แย้งความเห็นของอัยการที่สั่งไม่ฟ้อง ทั้งที่จำเลยรับสารภาพ

ยังไม่มีการพาดพิงว่า จะต้องตรวจสอบอัยการที่ลงความเห็นสั่งไม่ฟ้องเสี่ยอ้วนหรือไม่ ทั้งที่อัยการเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เสี่ยอ้วนลอยนวล และก่อคดีใหม่ พรากผู้บริสุทธิ์อีก 2 ชีวิตที่เป็นเสาหลักของครอบครัว

ถ้ากระบวนการยุติธรรมเป็นไปอย่างเที่ยงธรรม ไม่มีใครเห็นแก่ได้ ใช้ตำแหน่งหน้าที่แสวงหาผลประโยชน์ใส่ตัว ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเที่ยงธรรม สังคมคงสงบสุขกว่าที่เป็นอยู่ เพราะไม่มีผู้มีอิทธิพล ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย

และเงินที่เสี่ยอ้วนได้มาจากธุรกิจสถานบันเทิง คงไม่สามารถซื้อตำรวจ ซื้ออัยการ หรือทำให้กระบวนการยุติธรรมเบี้ยวบูดได้

แต่เพราะเงินสามารถซื้อได้ทุกอย่าง เหมือนที่เสี่ยอ้วนประกาศไว้ จึงทำให้คนรวยมักอยู่เหนือกฎหมาย กระทำความผิดร้ายแรง ไม่ต้องติดคุกเหมือนคนจน และทำให้เกิดระบบอภิสิทธิชน มีมาเฟีย ผู้กว้างขวางและผู้มีอิทธิพลเต็มประเทศ

ไม่มีใครคาดหมายว่า ผู้มีอำนาจจะปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมอย่างจริงจัง หรือลงมากวาดล้างการค้าคดี ทำผิดให้เป็นถูก หรือทำคนถูกให้ต้องรับผิด ในกระบวนการยุติธรรมต้นน้ำคือ ตำรวจ และอัยการ

ทั้งๆ ที่การรื้อฟื้นคดีเสี่ยอ้วน ควรเป็นจุดเริ่มต้นในการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม และกำจัดตำรวจหรืออัยการที่เห็นแก่ประโยชน์ โดยค้าคดี รับเงินเพื่อช่วยเหลืออาชญากรให้พ้นจากความผิด ไม่ต้องชดใช้กรรมที่ก่อไว้ แม้จะก่อคดีร้ายแรงและโหดเหี้ยมเพียงใดก็ตาม

การสังหารน้องสปาย เป็นคดีใหญ่ ได้รับความสนใจจากประชาชนทั้งประเทศ เพราะอาชญากรมีจิตใจที่โหดเหี้ยม ไม่เกรงกลัวกฎหมาย ไม่ตระหนักในความสูญเสียของคนในครอบครัวผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นผลจากความเหิมเกริม หลังหลุดคดียิงพ่อค้าขายไอศกรีมเสียชีวิตไม่กี่เดือนก่อนหน้า

เงินซื้อตำรวจได้จริงหรือไม่ ประชาชนทุกคนมีคำตอบอยู่แล้ว

เพราะถ้าเงินซื้อตำรวจไม่ได้ ป่านนี้เสี่ยอ้วนคงชดใช้กรรมอยู่ในคุก ไม่มีโอกาสก่อคดีเหี้ยมเกรียมสะเทือนขวัญ สร้างความสูญเสียใหญ่หลวงให้กับครอบครัวน้องสปายและนายอนันตชัย

2 ชีวิตคนบริสุทธิ์ที่เซ่นสังเวย พฤติกรรมอันเข้าข่ายการ “ค้าคดี” ของตำรวจและอาจรวมถึงอัยการ จนนำไปสู่การรื้อคดีเก่าเสี่ยอ้วน จะกระตุ้นให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คิดจะปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะการปฏิรูปตำรวจอย่างจริงจังหรือไม่

เพราะสังคมไม่สงบสุข ประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรมจากกระบวนการยุติธรรมมานาน จนลืมไปแล้วว่า 4 ปีที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์สัญญาอะไรไว้กับประชาชน

กระบวนการยุติธรรมต้นน้ำ ทำให้เสี่ยอ้วนกลายเป็นฆาตกรโหดต่อเนื่อง ทำให้เกิดความสูญเสียกับเด็กสาวและเด็กหนุ่มที่มีอนาคตไกล พล.อ.ประยุทธ์จะไม่รู้สึกรู้สากับการปฏิรูปอัยการและตำรวจบ้างหรือ


กำลังโหลดความคิดเห็น