ผู้จัดการรายวัน 360 - “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ตกรอบแรก “เอเชียน เกมส์ 2018” หลังผลการแข่งขันกลุ่มอื่นๆ ไม่เป็นใจ โดยถือเป็นครั้งแรกรอบ 24 ปี ด้าน "สมยศ" ยืนยันจะไม่ปลด “โค้ชโย่ง” ตามกระแสที่เกิดขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (20 ส.ค.) ทีมฟุตบอลชายไทย แข่งครบโปรแกรมมีเพียงแค่ 2 แต้ม ต้องลุ้นผลของกลุ่ม เอฟ ปรากฎว่า เมียนมา ชนะ อิหร่าน 2-0 กับ เกาหลีเหนือ ชนะ ซาอุดิอาระเบีย 3-0 ทำให้ตารางอันดับ 3 ที่ดีที่สุดเอา 4 ทีมเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย “ช้างศึก” ตกมาอยู่ที่ 5 จึงตกรอบแน่นอนแล้ว
ทำให้ทีมชาติไทยภายใต้การคุมทัพของ "โค้ชโย่ง" วรวุธ ศรีมะฆะ ตกรอบแรก เอเชียน เกมส์ ครั้งแรกรอบ 24 ปี โดยหนสุดท้ายต้องย้อนไปปี 1994 ที่ ฮิโรชิมา ตามมาพร้อมกระแสกดดันให้ตะเพิดกุนซือตกเก้าอี้รับผิดชอบผลงานในครั้งนี้ แม้จะพาทีมเป็นแชมป์ ซีเกมส์ ที่มาเลเซียมาก่อนหน้านี้ก็ตาม
ล่าสุด พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย กล่าวถึงกระแสปลดโค้ชว่า การทำงานจะไปฟังกระแสวิจารณ์เพียงอย่างเดียวไม่ได้ ซึ่งภายหลังการเดินทางกลับมาก็ต้องมีการชี้แจงถึงรายละเอียดการทำงาน ตามแบบที่ทีมทุกชุดต้องทำเสมอมาอยู่แล้ว ซึ่งเราก็ต้องดูเหตุผลที่เขาชี้แจงด้วย เราไม่สามารถจะปลดโค้ชทุกครั้งที่ผลงานออกมาไม่เป็นอย่างที่ต้องการได้ ไม่มีใครอยากแพ้ โค้ชเอง รวมถึงนักฟุตบอลเองก็เช่นกัน ผมเชื่อว่าแฟนฟุตบอลชาวไทยส่วนใหญ่ก็น่าจะมีเหตุผลเช่นกัน
นอกจากนี้ พล.ต.อ.สมยศ ยอมรับว่ารู้สึกผิดหวังกับผลงาน "ช้างศึก" ที่มีเพียง 2 แต้มจาก 3 นัดไม่ชนะทีมใดเลยว่า "ฟุตบอลเป็นกีฬาความหวังแฟนๆ แต่กีฬาก็เป็นแบบนี้ มันมีข้อผิดพลาดกันได้ เราก็ต้องพิจารณากันต่อไปว่าเขามีปัญหาอะไร เพื่อจะได้แก้ปัญหากันต่อไป"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (20 ส.ค.) ทีมฟุตบอลชายไทย แข่งครบโปรแกรมมีเพียงแค่ 2 แต้ม ต้องลุ้นผลของกลุ่ม เอฟ ปรากฎว่า เมียนมา ชนะ อิหร่าน 2-0 กับ เกาหลีเหนือ ชนะ ซาอุดิอาระเบีย 3-0 ทำให้ตารางอันดับ 3 ที่ดีที่สุดเอา 4 ทีมเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย “ช้างศึก” ตกมาอยู่ที่ 5 จึงตกรอบแน่นอนแล้ว
ทำให้ทีมชาติไทยภายใต้การคุมทัพของ "โค้ชโย่ง" วรวุธ ศรีมะฆะ ตกรอบแรก เอเชียน เกมส์ ครั้งแรกรอบ 24 ปี โดยหนสุดท้ายต้องย้อนไปปี 1994 ที่ ฮิโรชิมา ตามมาพร้อมกระแสกดดันให้ตะเพิดกุนซือตกเก้าอี้รับผิดชอบผลงานในครั้งนี้ แม้จะพาทีมเป็นแชมป์ ซีเกมส์ ที่มาเลเซียมาก่อนหน้านี้ก็ตาม
ล่าสุด พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย กล่าวถึงกระแสปลดโค้ชว่า การทำงานจะไปฟังกระแสวิจารณ์เพียงอย่างเดียวไม่ได้ ซึ่งภายหลังการเดินทางกลับมาก็ต้องมีการชี้แจงถึงรายละเอียดการทำงาน ตามแบบที่ทีมทุกชุดต้องทำเสมอมาอยู่แล้ว ซึ่งเราก็ต้องดูเหตุผลที่เขาชี้แจงด้วย เราไม่สามารถจะปลดโค้ชทุกครั้งที่ผลงานออกมาไม่เป็นอย่างที่ต้องการได้ ไม่มีใครอยากแพ้ โค้ชเอง รวมถึงนักฟุตบอลเองก็เช่นกัน ผมเชื่อว่าแฟนฟุตบอลชาวไทยส่วนใหญ่ก็น่าจะมีเหตุผลเช่นกัน
นอกจากนี้ พล.ต.อ.สมยศ ยอมรับว่ารู้สึกผิดหวังกับผลงาน "ช้างศึก" ที่มีเพียง 2 แต้มจาก 3 นัดไม่ชนะทีมใดเลยว่า "ฟุตบอลเป็นกีฬาความหวังแฟนๆ แต่กีฬาก็เป็นแบบนี้ มันมีข้อผิดพลาดกันได้ เราก็ต้องพิจารณากันต่อไปว่าเขามีปัญหาอะไร เพื่อจะได้แก้ปัญหากันต่อไป"