ผู้จัดการรายวัน 360 - ศาลยุติธรรมแจ้งมติบอร์บริหารศาลยุติธรรม (ก.บ.ศ.) ถึงนายกฯ เตรียมของบสร้างที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค 5 แห่งใหม่ที่เชียงราย ส่วนบ้านพัก “ป่าแหว่ง” ที่ดอยสุเทพจะ ชะลอการใช้หรือไม่ขึ้นอยู่กับรัฐบาลพิจารณา
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ได้มีหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เรื่องการก่อสร้างที่ทำการและอาคารที่พักอาศัยของศาลอุทธรณ์ภาค 5 ระบุว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม (ก.บ.ศ. ) ครั้งที่ 9/2561 เมื่อวันที่ 9 -10 ส.ค.2561 มีมติมอบหมายให้สำนักงานศาลยุติธรรม ทำความตกลงขอใช้ที่ดินจากกรมการวิชาการเกษตร บริเวณศูนย์วิจัยพืชสวนเชียงราย ถนนเด่นห้า-ดงตะมะ ต.รอบเวียง อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย (ที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียน ชร.225 เนื้อที่ตามทะเบียน 2,022-2-40.5 ไร่) เพื่อก่อสร้างอาคารที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค5 พร้อมที่พักอาศัยและดำเนินการขอรับจัดสรรงบประมาณจากรัฐบาลต่อไป
นายสราวุธ กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากที่ได้ทำหนังสือแจ้งไปยังนายกรัฐมนตรีให้รับทราบแล้ว ทางสำนักงานศาลยุติธรรมก็จะจัดทำรูปแบบโครงการก่อสร้างอาคารพร้อมหนังสือขอรับงบประมาณเสนอไป
ส่วนขั้นตอนต่อไปก็ขึ้นอยู่กับนายกฯและรัฐบาลจะพิจารณาเห็นชอบด้วยหรือไม่ ส่วนเรื่องจะใช้ระยะเวลาเท่าใดถึงจะเริ่มก่อสร้างได้นั้น ทางสำนักงานศาลยุติธรรมก็จะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด แต่ก็ขึ้นอยู่กับรัฐบาลว่าจะใช้ระยะเวลาพิจารณาเร็วมากน้อยเช่นกัน
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ได้มีหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เรื่องการก่อสร้างที่ทำการและอาคารที่พักอาศัยของศาลอุทธรณ์ภาค 5 ระบุว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม (ก.บ.ศ. ) ครั้งที่ 9/2561 เมื่อวันที่ 9 -10 ส.ค.2561 มีมติมอบหมายให้สำนักงานศาลยุติธรรม ทำความตกลงขอใช้ที่ดินจากกรมการวิชาการเกษตร บริเวณศูนย์วิจัยพืชสวนเชียงราย ถนนเด่นห้า-ดงตะมะ ต.รอบเวียง อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย (ที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียน ชร.225 เนื้อที่ตามทะเบียน 2,022-2-40.5 ไร่) เพื่อก่อสร้างอาคารที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค5 พร้อมที่พักอาศัยและดำเนินการขอรับจัดสรรงบประมาณจากรัฐบาลต่อไป
นายสราวุธ กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากที่ได้ทำหนังสือแจ้งไปยังนายกรัฐมนตรีให้รับทราบแล้ว ทางสำนักงานศาลยุติธรรมก็จะจัดทำรูปแบบโครงการก่อสร้างอาคารพร้อมหนังสือขอรับงบประมาณเสนอไป
ส่วนขั้นตอนต่อไปก็ขึ้นอยู่กับนายกฯและรัฐบาลจะพิจารณาเห็นชอบด้วยหรือไม่ ส่วนเรื่องจะใช้ระยะเวลาเท่าใดถึงจะเริ่มก่อสร้างได้นั้น ทางสำนักงานศาลยุติธรรมก็จะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด แต่ก็ขึ้นอยู่กับรัฐบาลว่าจะใช้ระยะเวลาพิจารณาเร็วมากน้อยเช่นกัน