นายศุภชัย สมเจริญ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึง กรณี กลุ่มสามมิตร เดินสายพบปะประชาชน และผู้นำท้องถิ่น และมีการให้สัญญากับประชาชน ซึ่งอาจเข้าข่าย ขัดคำสั่งคสช. และมีความผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ว่า เรื่องนี้ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน เพราะกลุ่มสามมิตร ยังไม่ได้จดทะเบียนเป็นพรรคการเมือง การเคลื่อนไหวต่างๆ จะขัดคำสั่ง คสช. หรือไม่ ต้องดูอีกครั้ง รวมถึงต้องพิจารณาเรื่องเจตนา และปัจจัยหลายอย่างประกอบกัน ซึ่งต้องไต่สวนข้อเท็จจริงด้วย
ด้านนายภิรมย์ พลวิเศษ ในฐานะเลขาธิการกลุ่มสามมิตร กล่าวภายหลังการลงพื้นที่ พบประชาชน ร่วมกับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มสามมิตร ที่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น และอ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม ว่า การเดินสายครั้งนี้ได้ประโยชน์มาก โดยเฉพาะกับ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ นายกเทศมนตรีตำบลบ้านไผ่ นำประชาชนมาร่วมฟัง และเสนอปัญหา และความต้องการต่างๆ มากมายกว่า 300 คน ซึ่งชาวบ้านฝากขอบคุณรัฐบาล ที่ใส่ใจชาวนาทั่วประเทศ โดยเฉพาะเรื่องข้าว ที่มีราคาสูงขึ้น
ส่วนกรณีที่ กกต. จะตรวจสอบกลุ่มสามมิตร ว่าเข้าข่ายทำผิดกฎหมายหรือไม่นั้น นายภิรมย์ กล่าวว่า กลุ่มสามมิตร ไม่ใช่พรรคการเมือง เราเป็นการตั้งชื่อสามมิตร เฉยๆ เพื่อแสวงหาความการปัญหาหรือแนวคิดที่จะทำให้กับประชาชน ถ้า กกต. ยุบกลุ่มสามมิตร ตนคิดว่ามันไม่มีกฎหมาย ยุบความคิดคน วันนี้ถ้ายุบกลุ่มสามมิตร พรุ่งนี้ ตนก็ตั้งกลุ่ม หรือ พรรคมหามิตร ฉะนั้นไม่มีปัญหา ไม่ได้ซีเรียส เพราะพวกตนยิ่งจะเดินหน้าต่อไปข้างหน้าอีก
ทั้งนี้ ยืนยันจะไม่ย่อท้อ และจะไม่หยุดในการพบปะแลกเปลี่ยนความคิดกับประชาชน หรือ คำสั่ง คสช. บอกว่าห้ามคนมารวมกันเกิน 5 คน แล้วพูดเรื่องการเมือง ที่เขาห้าม เพราะกลัวคนมาขัดแย้งกัน หรือมาตีกัน มาแตกแยกกัน ฉะนั้นไม่มีกฎหมายไหนในโลกว่า ถ้าคนมารวมกันสักร้อย สองร้อยคน สามร้อยคน แล้วมารักกัน ชอบกัน แล้วสร้างสรรค์ในสิ่งที่เป็นประโยชน์เดินไปข้างหน้า เขาไม่จับหรอก
"ถ้าผมเอาเสื้อแดง เสื้อเหลือง หรือหลายสี มาหาผม แล้วชอบกัน รักกัน แล้วเสนอความต้องการของประชาชน ก็ให้เขามาจับผมได้เลย ผมจะไปติดคุก ผมจะได้ผอมเหมือนกับเขาที่เขาติดคุก เผื่ออาจจะได้หุ่นดี เหมือนคนติดคุกสัก 3 เดือน ฉะนั้น มาจับเลย ถ้าผมพูดแล้วมันผิด เพราะคุยกันแล้วได้ประโยชน์ ฉะนั้น กลุ่มสามมิตรยังเดินหน้าต่อไป" นายภิรมย์ กล่าว
ด้านนายภิรมย์ พลวิเศษ ในฐานะเลขาธิการกลุ่มสามมิตร กล่าวภายหลังการลงพื้นที่ พบประชาชน ร่วมกับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มสามมิตร ที่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น และอ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม ว่า การเดินสายครั้งนี้ได้ประโยชน์มาก โดยเฉพาะกับ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ นายกเทศมนตรีตำบลบ้านไผ่ นำประชาชนมาร่วมฟัง และเสนอปัญหา และความต้องการต่างๆ มากมายกว่า 300 คน ซึ่งชาวบ้านฝากขอบคุณรัฐบาล ที่ใส่ใจชาวนาทั่วประเทศ โดยเฉพาะเรื่องข้าว ที่มีราคาสูงขึ้น
ส่วนกรณีที่ กกต. จะตรวจสอบกลุ่มสามมิตร ว่าเข้าข่ายทำผิดกฎหมายหรือไม่นั้น นายภิรมย์ กล่าวว่า กลุ่มสามมิตร ไม่ใช่พรรคการเมือง เราเป็นการตั้งชื่อสามมิตร เฉยๆ เพื่อแสวงหาความการปัญหาหรือแนวคิดที่จะทำให้กับประชาชน ถ้า กกต. ยุบกลุ่มสามมิตร ตนคิดว่ามันไม่มีกฎหมาย ยุบความคิดคน วันนี้ถ้ายุบกลุ่มสามมิตร พรุ่งนี้ ตนก็ตั้งกลุ่ม หรือ พรรคมหามิตร ฉะนั้นไม่มีปัญหา ไม่ได้ซีเรียส เพราะพวกตนยิ่งจะเดินหน้าต่อไปข้างหน้าอีก
ทั้งนี้ ยืนยันจะไม่ย่อท้อ และจะไม่หยุดในการพบปะแลกเปลี่ยนความคิดกับประชาชน หรือ คำสั่ง คสช. บอกว่าห้ามคนมารวมกันเกิน 5 คน แล้วพูดเรื่องการเมือง ที่เขาห้าม เพราะกลัวคนมาขัดแย้งกัน หรือมาตีกัน มาแตกแยกกัน ฉะนั้นไม่มีกฎหมายไหนในโลกว่า ถ้าคนมารวมกันสักร้อย สองร้อยคน สามร้อยคน แล้วมารักกัน ชอบกัน แล้วสร้างสรรค์ในสิ่งที่เป็นประโยชน์เดินไปข้างหน้า เขาไม่จับหรอก
"ถ้าผมเอาเสื้อแดง เสื้อเหลือง หรือหลายสี มาหาผม แล้วชอบกัน รักกัน แล้วเสนอความต้องการของประชาชน ก็ให้เขามาจับผมได้เลย ผมจะไปติดคุก ผมจะได้ผอมเหมือนกับเขาที่เขาติดคุก เผื่ออาจจะได้หุ่นดี เหมือนคนติดคุกสัก 3 เดือน ฉะนั้น มาจับเลย ถ้าผมพูดแล้วมันผิด เพราะคุยกันแล้วได้ประโยชน์ ฉะนั้น กลุ่มสามมิตรยังเดินหน้าต่อไป" นายภิรมย์ กล่าว